ตอนที่ 762

Elixir Supplier

762 รสนิยมพิเศษ

 

อยู่ๆโฮ่วชื่อต๋าก็กรีดร้องออกมา “อ้าก!” ร่างกายของเขาแข็งเกร็งและเหยียดตรงราวกับคันศร

 

เมื่อเห็นสภาพของเขาคุณหลี่ก็รู้สึกตื่นตระหนก ราชายารีบสกัดจุดไปตามจุดต่างๆบนร่างกายของเขา เมื่อฟังดูจากเสียง ทําให้รู้ว่าเขาได้ใช้กําลังไปมาก แล้วโฮ่วชื่อต๋าก็กลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม ราวกับว่า เขาได้ตกอยู่ในสภาพโคม่า

 

“แปลก” ราชายาพูดกับลูกศิษย์เสียงเบา ในคําพูดของเขานั้นเป็นสําเนียงแปลกเปล่งที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ “อาเฉิงไปเอายาฮวาฉีมาสองเม็ด”

 

“ครับ อาจารย์” ชายในวัยสามสิบรีบเดินไปหยิบยาเม็ดสีแดงที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็ดถั่วมาสองเม็ด จากนั้นเขาก็ป้อนมันให้กับโฮวชื่อต่ำ

 

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ราชายาก็จับชีพจรของชายหนุ่มดูอีกครั้ง “เป็นพลังฉีที่ร้ายกาจมาก!”

 

แม้จะใช้วิธีของเขา ก็ยังถือเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ การที่สามารถฝึกฝนพลังฉีมาถึงขั้นนี้ได้ ต้องเป็นคนแบบไหนกัน?

 

อยู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมาและเอ่ยว่า “เพิ่มเงินอีก 200,000 หยวน!”

 

“ไม่มีปัญหา” คุณหลี่พูดโดยไม่ลังเล

 

หลังจากให้กินยาสีแดงไปหลายเม็ด พร้อมทั้งฝังเข็มและการสกัดตามจุดต่างๆ ด้วยวิธีการพิเศษ ร่างกายของโฮ่วชื่อต๋าก็สั่นสะท้านไม่หยุด ในบางครั้งก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา

 

ภายหลังสถานการณ์ขึ้นๆลงๆผ่านไป ราชายาก็พูดขึ้นมาว่า “อืม เรียบร้อย อีกสามวันให้กลับมาอีกรอบ!”

 

“โอ้ ขอบคุณค่ะ” คุณหลี่พูด

 

หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็พากันแบกโฮ่วชื่อต๋าออกไป และเตรียมที่จะจากไป

 

“ลองกลับไปคิดดูให้ดี” ราชายาพูด “ว่าใครที่เป็นคนทําให้เขาเป็นแบบนี้? แล้วครั้งหน้าค่อยบอกฉัน”

 

คุณหลี่จดจําคําพูดนั้นจนขึ้นใจ หลังออกมาแล้ว พวกเขาก็เดินทางออกจากหมู่บ้าน และทิ้งคนสองคนไว้ที่หมู่บ้าน ถึงแม้ราชายาจะบอกให้พวกเขากลับมาในอีกสามวันก็ตาม แต่ถ้าเกิดในวันนั้นเขาอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องรอไปอีกหลายวันหรอกเหรอ?

 

หลังกลับมาถึงโรงแรมแล้ว หมอประจําตระกูลก็จัดการตรวจร่างกายของโฮ่วชื่อต๋าอย่างละเอียด

 

“เป็นยังไงบ้าง?” คุณหลี่ถาม

 

“อืมมม สัญญาณจากร่างกายของคุณชายแสดงให้เห็นว่าดีขึ้นกว่าตอนที่พวกเรามาถึงในวันแรกมากครับ” หมอพูด

 

“ดี คอยดูเขาไว้ให้ดี” คุณหลี่พูด “คุณมีหน้าที่ดูแลเขาตลอดสามวันนี้

 

“ครับ คุณผู้หญิง” หมอพูด

 

เธอเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วจึงกดโทรออก “สืบเรื่องนี้มาให้ได้ภายในสามวัน ฉันต้องการรู้เรื่องสิ่งที่เรียกว่าพลังฉี กับใครที่เป็นคนทําร้ายชื่อต๋า”

 

“ผมจะทําให้ดีที่สุดครับ คุณผู้หญิง” ชายที่อยู่ปลายสายพูดก่อนวางสายไป

 

หลังจากวางสายแล้ว เขาก็ถอนหายใจออกมา

 

“มีอะไรเหรอ?” เพื่อนของเขาถาม

 

“คุณผู้หญิงให้ฉันสืบหาว่าใครเป็นคนทําร้ายคุณชายสาม แล้วก็ให้หาคนที่รู้เรื่องพลังฉีด้วย” เขาพูด

 

“พลังฉี ชักงน่ะเหรอ?” เพื่อนของเขาถาม

 

“น่าจะใช่ แล้วก็ต้องหาให้ได้ในสามวันด้วย” เขาพูด

 

“จะเป็นไปได้ยังไงกัน?” เพื่อนของเขาถาม “ใช่ว่าพวกเขาจะไม่สืบเรื่องนี้สักหน่อย แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้อะไรเลยต่างหาก นี่คือเมืองเตนะ ซึ่งมันหมายถึงอาณาเขตของตระกูลซุน ถ้าพวกเขาคิดจะซ่อนบางอย่าง พวกเราที่เป็นคนนอกกไม่มีทางหาเจอหรอก!”

 

“ยังไงพวกเราก็ต้องหาทางให้ได้ ถึงเราจะไม่รู้อะไรเลยก็ตาม” เขาพูด “นายก็รู้นิสัยของเธอดี

 

“ หรือเราจะกลับไปใช้วิธีเดิม แล้วถามพวกเขาดูดีไหม?” เพื่อนของเขาถาม

 

“ลองถามอีกรอบ” เขาตอบ “ถ้าพวกเขาไม่พูด เราก็จ่ายเพิ่ม”

 

“ก็ได้ ฉันจะไปถามอีกรอบ” เพื่อนของเขาพูด

 

ในช่วงเวลาของฤดูร้อน กิจกรรมต่างๆก็ดูเหมือนจะผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า หลังผ่านช่วงฤดูไป อากาศก็ยังคงร้อน แต่ก็ค่อยๆเย็นลงในเวลากลางคืน โดยเฉพาะวันที่ฝนตกลงมา

 

ภายในโรงแรมที่ตัวเมืองเหลียนชาน ชายวัยกลางคนกําลังนั่งดื่มชาอยู่ข้างหน้าต่าง เขากําลังมองดูภาพยามค่ำคืนของเมืองเล็กๆแห่งนี้

 

ยาต้องกินติดต่อกันเป็นเวลาสามวันด้วยกัน และวันนี้คือวันที่สาม เขารู้สึกได้ว่า ร่างกายของเขาดีขึ้นและมั่นคงขึ้น เขาไม่ปวดท้องอีกต่อไป ความรู้สึกอย่างอาเจียนและอาการท้องอืดท้องบวมก็หายไปจนหมด ตอนนี้เขามีความอยากอาหารมากขึ้น ในตอนเย็น เขาสั่งอาหารมาหลายจานและทานอย่างเอร็ดอร่อย

 

ยาได้ผล หมอคนนั้นมีความสามารถจริงๆ ตอนนี้เขากําลังเฝ้ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้

 

เช้าวันต่อมา เขามาถึงที่ด้านหน้าคลินิกของหวังเย้า มันยังเช้ามากอยู่ ดังนั้น คลินิกจึงยังไม่เปิด เขารอที่ด้านนอกอยู่นาน ก่อนที่เขาจะมองเห็นชายคนหนึ่งกําลังเดินมาตามทางลงเขาอย่างสบายอารมณ์ เขาก็คือหมอหนุ่มคนนั้น

 

“โอ้ มาเช้าเลยนะครับ” หวังเย้าทัก

 

“อ้อ สวัสดีหมอหวัง” เขาพูด

 

“พอเห็นสีหน้าของคุณแล้ว ดูเหมือนว่ายาจะได้ผลดีนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ใช่ๆๆ ผมก็ว่าดีเหมือนกัน” เขาพูด

 

“เอาล่ะ เข้ามาข้างในก่อนดีกว่านะครับ” หวังเย้าพูดในขณะที่เขากําลังเปิดประตูคลินิก “เข้ามาสิครับ ผมจะได้ตรวจให้”

 

หลังจากตรวจดูแล้ว เขาก็มั่นใจว่า แมลงพิษในร่างกายของชายคนนี้ถูกกําจัดไปจนหมดแล้ว “ตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ แมลงพิษส่วนใหญ่ในร่างกายถูกกําจัดออกไปแล้ว ผมจะจ่ายยาอีกตัวหนึ่งไว้สําหรับบํารุงร่างกายของคุณนะครับ”

 

“โอ้ ได้ๆๆ” เขาพยักหน้า

 

หวังเย้าเขียนใบสั่งยาซุปเสี่ยวเปยหยวนให้เขา เขามีตัวยาที่จัดเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว แต่ในอนาคตคนไข้คงจะไม่กลับมาอีกก็เป็นได้ เขาสามารถไปหาซื้อสมุนไพรจากร้านขายสมุนไพรทั่วไป

 

“นี่เป็นยากับใบสั่งยานะครับ รวมถึงรายละเอียดที่ต้องใส่ใจด้วย” หวังเย้าพูด “แทนที่จะมาซื้อสมุนไพรที่นี่ คุณสามารถไปซื้อที่อื่นได้เลยนะครับ”

 

“ครับๆ ขอบคุณมาก” เขาพูด

 

“เอาล่ะครับ กลับไปแล้วก็อย่าลืมทานยาให้ตรงเวลาด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

เขาบอกขอบคุณหวังเย้าก่อนจะกลับออกไป

 

หวังเย้าคิด เอาล่ะ ในเมื่อคนไข้รักษาหายแล้ว ฉันก็ได้เวลาไปปักกิ่งสักที

 

ในตอนเช้า เขาจัดการโพสท์ลงในเวยป้อของเขา เขากลับไปทานอาหารกลางกับพ่อแม่ของเขาและให้คําแนะนําบางอย่างกับจงหลิวชวน จากนั้น เขาก็ไปหาเจี้ยจื้อจาย

 

คาดไม่ถึงว่า เจี้ยจื้อจายจะทักทายเขาด้วยคําพูดว่า “อาจารย์”

 

“ผมไม่มีความตั้งใจที่จะรับลูกศิษย์” หวังเย้าพูด “คุณรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”

 

“อืมม ดีขึ้นมากแล้วล่ะ” เจี้ยจื้อจายพูด

 

ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงหายไป แล้วเขาก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 

“ดีครับ ผมคงไม่อยู่ที่หมู่บ้านสักหลายวันนะครับ” หวังเย้าพูด “ผมออกจะกังวลเรื่องของคุณอยู่นิดหน่อย”

 

“หา?!” เจี้ยจื้อจายประหลาดใจ

 

หวังเย้าโบกมือไปในอากาศ

 

“อีกแล้วเหรอ!” ความอ่อนแอกลับมาสู่ร่างกายของเจี้ยจื้อจายอีกครั้ง

 

“เมื่อไหร่ที่ผมกลับมา คุณก็จากไปได้เมื่อนั้น” หวังเย้าพูด

 

“ฉันอยากให้หมอเป็นอาจารย์ของฉัน แล้วฉันก็อยากเรียนกับหมอด้วย” เจี้ยจื้อจายพูด

 

“แต่ผมไม่อยากสอนคุณครับ” หวังเย้าหัวเราะ จากนั้นก็หันไปหาจงหลิวชวนและพูดว่า “ผมจะไปปักกิ่ง ช่วยดูแลหมู่บ้านตอนที่ผมไม่อยู่ด้วยนะครับ”

 

“ครับ เชียนเชิง” จงหลิวชวนพูด

 

บ่ายวันนั้น หวังเย้าเดินทางออกจากหมู่บ้าน และไปขึ้นเครื่องที่เมืองเต๋าเพื่อเดินทางไปปักกิ่งเย็นวันนั้น เขาก็มาถึงปักกิ่งและหาที่พัก ในคืนนั้น ท้องฟ้าของปักกิ่งดูมืดมน

 

“พรุ่งนี้ฝนจะตก” หวังเย้าพึมพำ

 

เช้าวันต่อมา ฝนโปรยลงมาจากท้องฟ้า เขาโทรหาซูเสียวชวีและเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยของเธอ ที่แห่งนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่านักเรียนมากมายในประเทศจีนเฝ้าฝันถึง

 

“เชียนเชิง” ซูเสี่ยวซวีแทบจะวิ่งไปหาหวังเย้าด้วยความยินดี

 

“นั่นใครน่ะ?”

 

“เทพธิดาของฉัน!”

 

ซูเสี่ยวซวีคือเทพธิดาในฝันของหนุ่มๆหลายคนในมหาวิทยาลัย การปรากฏตัวของหวังเย้าทําให้เขาได้รับสายตาแผดเผาจากนักศึกษาชายหลายคน หากการมองสามารถฆ่าคนได้ หวังเย้าคงตายไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

 

“คนพวกนี้มีรสนิยมพิเศษจริงๆ”