โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.273 – ซงหยวน

 

ฉินเฟิงก้าวขึ้นไปบนรถบัส หน้าจอบนรถกำลังฉายแผนที่ตำแหน่งของกองทัพสัตว์ร้าย ซึ่งถูกสังเกตการณ์โดยโดรนให้ผู้คนในรถรับชม

 

กองทัพสัตว์ร้ายนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอะไร ส่วนมากเป็นเลเวล G

 

เรื่องนี้พอเข้าใจได้ เพราะยังไงซะ อาณาเขตบริเวณนี้ก็เป็นสถานชุมชนที่ค่อนข้างปลอดภัย ดังนั้นเลเวลของสัตว์ร้ายเลยไม่สูงมากนัก

 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกองทัพสัตว์ร้าย กลับปรากฏตัวตนของระดับราชันย์ขึ้นอย่างกระทันหัน

 

นี่เองคือเหตุผลที่ขอกำลังสนับสนุนเร่งด่วนจากผู้ใช้พลังในสถานชุมชน พอเลเวล F ได้ยินข่าวนี้ ก็เลยพากันเข้าร่วม

 

เพราะระดับราชันย์ เป็นอะไรที่ยากนักจะพบเจอ!

 

รถบัสยังไม่ทันเต็มคัน นั่งกันได้แค่ 10 กว่าคนเท่านั้น แต่คนขับเหมือนจะรอไม่ไหวอีกต่อไป สตาร์ทเครื่องทันที

 

รถบัสซิ่งไปตลอดทาง มีกระทั่งหน่วยลาดตระเวนช่วยปิดถนน มันจึงสามารถขับเคลื่อนไปได้โดยไร้อุปสรรค

 

ไม่ถึง 15 นาที ก็ออกจากสถานชุมชนฮั่นจวนโกว ขับตะลุยอย่างบ้าคลั่งในทุ่งล่า

 

10 นาทีต่อมา บนรถบัสก็ได้ยินถึงเสียงปืน และเสียงขอผู้ใช้พลังมากมายที่กำลังต่อสู้และล่าถอย

 

ปัจจุบัน กองทัพสัตว์ร้ายได้เข้าใกล้พื้นที่เพาะปลูก แต่ก็ยังเหลือตำแหน่งป้องกันเล็กๆคอยขัดขวางเอาไว้

 

ฉินเฟิงและคนอื่นๆลงจากรถอย่างรวดเร็ว มองไปยังกองทัพสัตว์ร้ายบนทุ่งล่า

 

“เป็นฝูงหมาป่าเทา!”

 

“หมาป่าเทาตัวใหญ่นั่นน่าจะเป็นนายพลสัตว์ร้าย ส่วนตัวขนสีขาวเด่นน่าจะเป็นระดับราชันย์”

 

“โอ้สวรรค์ มีศัตรูแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ เลเวล F อย่างพวกเราจะเอาอยู่ไหมนะ”

 

แม้หลายคนจะเริ่มโวยวาย แต่ก็กระโจนเข้าสู่สมรภูมิอย่างรวดเร็ว เพียงแต่กองทัพสัตว์ร้ายหนาแน่นเกินไป พวกเขาเองก็หวาดกลัวเหมือนกัน ทำได้แต่ฉวยโอกาสโจมตีแล้วถอยกลับมา

 

ไม่นาน ผู้ใช้พลังเลเวล F คนอื่นๆก็ทยอยกันเข้ามาสมทบ

 

คราวนี้มี 2 คน

 

สองคนลงจากรถสายตรวจ สวมใส่ชุดลาดตระเวนที่ต่างออกไปของสถานชุมชนฮั่นจวนโกว เห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นระดับหัวหน้าสาขา

 

“ราชันย์สัตว์ร้ายให้พวกเรารับมือเอง พวกคุณไปจัดการทางอื่นเถอะ”

 

ขณะกล่าว หนึ่งในหัวหน้าสาขาพลันวาดมือ ปลดปล่อยรังสีแสงออกไป

 

และรังสีแสงที่ว่า เป็นสีม่วง!

 

–ที่แท้เขาก็เป็นผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้า!

 

กระแสสายฟ้ากระพริบไหว พุ่งตกลงบนร่างของราชันย์หมาป่า

 

วู้มมม

 

ร่างราชันย์หมาป่าวูบไหว หลบเลี่ยงอบิลิตี้สายฟ้า ทว่าสัตว์ร้ายตัวอื่นๆที่อยู่เบื้องหลังมัน ไม่ได้มีทักษะการหลบหลีกที่ดีเท่า ทั้งหมดถูกสายฟ้าช็อตเข้าใส่ สิ้นใจร่วงลงกับพื้น

 

“เร็วเข้า ช่วยฉันตรึงเจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นเอาไว้ที!” ผู้ใช้อบิลิตี้สายฟ้าร้องตะโกน

 

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”

 

หัวหน้าสาขาอีกคนกล่าว พุ่งเข้าชาร์จฝ่าดงหมาป่าเทาเลเวล G อย่างรวดเร็ว พวกมันไม่ใช่คู่มือเขา แตกกระเจิงไปคนละทิศทาง

 

เพราะเขาคือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล F6 แค่การกำจัดพวกสัตว์ร้ายเลเวล G น่ะไม่คณามือเลย

 

อย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายก็สามารถบุกถึงตัวราชันย์สัตว์ร้ายได้ ขัดขวางพัวพัน สร้างโอกาสให้ผู้ใช้สายฟ้าโจมตีได้บ่อยครั้ง

 

การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด

 

ส่วนฉินเฟิง เขามิได้โจมตีมั่วซั่ว เนื่องจากหากตนลงมือ สถานะผู้ใช้พลังเลเวล E จะถูกเปิดโปงทันที

 

โชคยังดี ที่ฉินเฟิงไม่ต้องรอนานเกินไป รถอีกคันก็มาถึง และส่งผู้ใช้พลังลง

 

ปรากฏวัยรุ่นที่ย้อมผมเป็นสีแดงเพลิงกระโดดลงจากรถ

 

ดูจากใบหน้า คาดว่าน่าจะอายุราวๆ17 – 18 ปี บนหน้าอกติดตราผู้ใช้พลังเลเวล F5

 

—เป็นซงหยวน!

 

ฉินเฟิงกับซงหยวนอยู่ใกล้กันมาก พออีกฝ่ายลงจากรถและได้เห็นราชันย์หมาป่า ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายสดใสทันที

 

“ถือว่าเป็นกำไรเล็กๆน้อยๆระหว่างทางก็แล้วกัน!” เขาเอ่ยในสิ่งที่คิด โฉบกายไปข้างหน้า

 

แม้บนอกจะติดตราเลเวล F5 แต่พลังของซงหยวนที่แสดงออกมาอยู่ในเลเวล F7 อย่างเห็นได้ชัด

 

“ละลายโลหิต!” ซงหยวนง้างแขน เผชิญหน้ากับราชันย์หมาป่าและฟาดมันด้วยฝ่ามือ ตบเข้าใส่กระดูกสันหลังศัตรู อย่างไรก็ตาม ด้านหลังของราชันย์หมาป่ากลับไม่ส่งเสียง ‘กริก’ แต่อย่างใด ทว่าปรากฏรอยประทับฝ่ามือเปื้อนเลือดขึ้นแทน

 

พริบตานั้นเอวของราชันย์หมาป่ากลายเป็นอ่อนยวบ ราวกับไม่มีกระดูก

 

นี่คืออำนาจอันแข็งแกร่งของเทคนิคฝ่ามือละลายโลหิต

 

“โบร๊ว—”

 

ราชันย์หมาป่าเทาส่งเสียงโหยหวนน่าเวทนา

 

ซงหยวนฟาดฝ่ามืออีกครั้ง คราวนี้ตบลงบนศีรษะของราชันย์หมาป่า

 

เผี๊ยะ!

 

รอยฝ่ามือเปื้อนเลือดประทับลงไป วินาทีต่อมา ตามหู ตา จมูก ปาก ของราชันย์หมาป่าก็ทะลักไปด้วยเลือด มันหมดลมหายใจไปโดยสิ้นเชิง

 

ราชันย์หมาป่าเทา จบชีวิตลงอย่างไม่ยุติธรรม

 

หัวหน้าสาขาหน่วยลวดตระเวน ผู้ใช้อบิลิตี้และผู้ใช้วรยุทธโบราณเมื่อเห็นภาพนี้ก็ตกตะลึง หันไปมองซงหยวน ในแววตาฉายชัดถึงร่องรอยของความยำเกรง

 

“น้องชายคนนี้ ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือ” ผู้ใช้วรยุทธโบราณของหน่วยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

แต่ซงหยวนกลับไม่เหลียวมองเขาเลย เพียงยื่นมือข้างหนึ่ง ไปทางตำแหน่งหัวใจของราชันย์หมาป่า และ–

 

–ฉัวะ! แทงเข้าไป เลือดไหลทะลัก หยิบแก่นพลังงานของราชันย์หมาป่าออกมา เก็บใส่พื้นที่มิติของตนอย่างรวดเร็ว

 

หัวหน้าสาขาหน่วยลาดตระเวนยิ้มแห้ง เอ่ยขัดทันที

 

“เฮ้สหาย ก่อนที่คุณจะมา พวกเราต่อสู้กับราชันย์หมาป่าตั้งนาน ถึงแม้ว่าตอนท้ายคุณจะเป็นคนฆ่ามัน แต่รางวัลอย่างไรก็สมควรจะแบ่งเท่าๆกัน … สิ่งที่คุณทำ มันจะไม่เกินไปหน่อยหรอ”

 

ปรากฏกริชขึ้นในมือของซ่งหยวน ดูคล้ายกับมีดที่มีไว้ใช้ชำแหละวัตถุดิบโดยเฉพาะ

 

ระหว่างนั้นเอง ซงหยวนก็เงยหน้าขึ้นมองผู้ใช้วรยุทธโบราณ เอ่ยเย้ยหยันว่า “กระจอกถึงขนาดนี้ ยังมีหน้ามาขอแบ่งสินสงครามจากฉันอีกอย่างงั้นหรือ?”

 

แววตาของผู้ใช้วรยุทธโบราณสะท้อนถึงความโกรธ ถลึงตาใส่ซงหยวน

 

“ไอ้หนู แกว่าไงนะ?” อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีเลเวลสูงกว่าซงหยวนขั้นหนึ่ง แม้ใบหน้าของซงหยวนจะดูเด็กมาก แต่มันก็ไม่สามารถหยุดความต้องการที่คิดจะมอบบทเรียนให้ไม่ได้

 

“รู้รึเปล่าว่าที่นี่คืออาณาเขตของใคร? ไอ้หนู แกกล้าลามปามได้อย่างไร? เป็นเด็กดีแล้วเอาของออกมาดีกว่า ไม่อย่างนั้นคงรู้นะว่าจะเป็นยังไง?”

 

“คิดจะสั่งสอนฉัน มั่นใจแล้วหรอ?” ซงหยวนยิ้มหยัน ไม่รั้งรอใดๆ กระแทกฝ่ามือของไปเบื้องหน้าทันที แต่ฝ่ามือนี้มิได้เร็วอะไรมากมายนัก

 

ผู้ใช้วรยุทธโบราณเห็นฝ่ามือของอีกฝ่าย ก็บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นในจิตใจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฝีมือที่ซงหยวนแสดงออกมาเมื่อครู่มันร้ายกาจจริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเขาเองก็ไม่ต้องการยอมพ่ายแพ้ ใครเล่าจะยอมให้ถูกเด็กข่ม!

 

กำลังภายในถูกควบรวม สีหน้าของผู้ใช้วรยุทธโบราณฉายแววดุร้าย ตะปบฝ่ามือสวนกลับไป

 

เผี๊ยะ!

 

สองฝ่ามือปะทะกัน

 

รอยยิ้มเย็นผุดขึ้นบนมุมปากของซงหยวน ยิ้มค้างไว้อยู่อย่างนั้น และที่แปลกยิ่งกว่า คือดวงตาของเขาเวลานี้แปรเปลี่ยนเป็นสีเลือด

 

หัวหน้วลาดตระเวนส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมา ภายในฝ่ามือ ลามไปถึงแขนของเขา กระดูกถูกละลายจนหมดสิ้น เส้นลมปราณถูกสลาย มัดกล้ามกลายเป็นเนื้อเหลว

 

ในชั่วพริบตาเดียว มือของเขาก็เหี่ยวกลายเป็นลูกบอลกลมๆ

 

ขณะเดียวกัน แม้ฝ่ามือของอีกฝ่ายจะถูกหยุดเอาไว้ได้แล้ว แต่ซงหยวนกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยคนที่กล้าหาเรื่องเขาไปง่ายๆ

 

“จริงสิ วันนี้ฉันยังไม่ได้ฝึกซ้อมดูดเลือดเลย ที่นี่เองก็มีคนอยู่มากพอดี งั้นใช้พวกเขาทั้งหมดเป็นกระสอบทรายไว้ฝึกฝนเลยก็แล้วกัน!”

 

ซูหยวนวาดมือออกไปอีกครั้ง คราวนี้เล็งตรงหัวของผู้ใช้วรยุทธโบราณ

 

ในเวลาเดียวกัน เงาของบุคคลคนหนึ่งปรากฏขึ้นทันใด

 

ชุดคลุมสีดำ ภายในเป็นชุดต่อสู้เปล่งประกายสีเงิน มองเพียงแวบเดียวก็สามารถบอกได้ว่ามันทำมาจากวัตถุดิบระดับราชันย์สัตว์ร้าย

 

สองมีดสั้นสีดำโฉบออกจากใต้ชุดคลุม กวาดไขว้กันในท่วงท่ากรรไกร ตรงเข้าหาลำคอของซงหยวน

 

คนผู้นี้มิใช่ใครอื่น เป็นฉินเฟิง!

 

“เฮ้ย!” ซงหยวนอุทานตกใจ ท่วงท่าโจมตีแปรผันอย่างรวดเร็ว โฉบกายเบี่ยงวิถีโจมตีศัตรู รังสีแสงสีเลือดผุดจากฝ่ามือเขา พ่นเข้าใส่ฉินเฟิง

 

วินาทีต่อมา แสงสีเลือดพลันเปลี่ยนแปลง ควบรวมเป็นโล่หมอกกำลังภายใน เพื่อหยุดยั้งกำลังภายในของศัตรูทันที

 

ทว่ากำลังภายในของฉินเฟิงน่ะมหาศาลมาก กำลังภายในโลหิตที่อีกฝ่ายพ่นออกมาจะไปสู้ได้อย่างไร?

 

ไม่มีเวลาให้ศัตรูได้ทันตอบโต้ ฉินเฟิงอาศัยพละกำลังกาย และความเร็วของเขา แทงมีดสั้น ทะลวงโล่กำลังภายใน ปักลงบนอกของซงหยวนทันที

 

ปุ

 

ได้ยินเพียงเสียงเบาๆ แต่การเคลื่อนไหวของซงหยวนหยุดชะงักไปทันใด เจ้าตัวก้มลงมองมีดสั้นบนหน้าอกตนด้วยความเหลือเชื่อ

 

เพราะจุดที่แทงเข้ามา หากโดนจังๆ ย่อมตายอย่างไม่ต้องสงสัย