ตอนที่ 195

Black Tech Internet Cafe System

วันนี้นาหลันฮงวูค่อนข้างเดินทางมาถึงคาเฟ่เป็นเวลาช้ากว่าปกติ แม้ว่าละครเรื่องกระบี่เทพสังหารจะทำการเพิ่มตอนที่เจ็ดและแปดแล้วก็ตาม

 

เขาไม่ได้พูดถึงละครเรื่องใหม่เลย เมื่อชมละครกระบี่เทพสังหารจบแล้วก็เล่นเกมไซเลนต์ฮิลล์ต่อโดยทันที

 

เซียวหยูเองผู้ไม่มีอะไรทำก็มานั่งรอบนโซฟาเพื่อตั้งหน้าตั้งตาดูละครบนจอยักษ์ “นี่เจ้า! วันนี้ไม่ถ่ายทอดสดละครกระบี่เทพสังหารตอนที่ห้าและหกหรือ?”

 

“วันนี้ข้าจะถ่ายทอดสดละครเรื่องใหม่เป็นครั้งแรก!” ฟางฉีเหลือบตามองเขา “จากนั้นค่อยถ่ายทอดสดละครเรื่องกระบี่เทพสังหารต่อ”

 

“อ้าาา” เซียวหยูร้องออกมาด้วยเสียงเล็กด้วยความดีใจ เขาต้องรออีกประมาณสองชั่วโมงเพื่อที่จะได้รู้สักทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นในกระบี่เทพสังหาร

 

ฟางฉีทำหน้าเพลีย “คนขอทานไม่สามารถเป็นผู้เลือกได้ ท้ายที่สุดเจ้าก็มาชมโดยไม่เสียอะไร”

 

“อืม ..” เซียวหยูเกาหัวแล้วพบว่าเขาน่าจะแอบมีประเด็น

 

“ข้าอยากดู! ข้าจะดู!” เจียงเสี่ยวหยูตะโกนขึ้น เธอรู้สึกเบื่อที่จะนั่งหลังเคาน์เตอร์ทุกวัน ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันจันทร์สักทีทุกวันจันทร์เวลาสองทุ่มเธอจะสามารถดูละครได้!

 

“เจ้าจะถ่ายทอดสดละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้าหรือไม่?” อันหูเว้ยและซูเทียนจิยืนขึ้นถาม เมื่อได้เห็นคนอื่นๆ กำลังตะโกนและฝึกซ้อมการต่อสู้อยู่ข้างนอก

 

หลังจากไถ่ถาม พวกเขาเข้าใจว่าเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดในละคนหากเทียบกับนักรบระดับสวรรค์แล้วพวกเขาไม่ค่อยสนใจมันสักเท่าไร

 

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็จะดูการถ่ายทอดสด เพราะในตอนนี้พวกเขาต้องบริหารเวลาหกชั่วโมงให้มีค่า จึงเลือกใช้โอกาสนี้เพื่อดูการถ่ายทอดสดเพื่อวัดว่ามันเป็นสิ่งที่พวกเขาควรให้ความคาดหวังมากแค่ไหน

 

แน่นอน .. บางคนอยากดูซ้ำเช่นนายกจาง หรือจะเป็นแฟนคลับละครอย่างตงชิงลี่เธอก็ยังตั้งใจเพื่อจะดูอีกครั้ง สำหรับเธอแล้วสามารถดูได้สามถึงสี่รอบหรืออาจมากกว่านั้น

 

“ละครเรื่องใหม่?” นาหลันฮงวูที่กำลังจะออกไปเดินเล่นหันมอง เมื่อได้ยินบางคนกำลังพูดคุยถึงละครเรื่องใหม่ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักรบ เขานั่งลงข้างๆ ผู้เฒ่าฟูทันที

 

นอกจากนาหลันฮงวูแล้วซูเทียนจิพร้อมผู้ปลูกฝังคนอื่นๆ ก็นั่งอยู่บนโซฟาเดียวกับที่ฟางฉีนั่งอยู่ เขาเป็นเจ้าของร้านที่ตั้งใจดูรายการพิเศษช่วงเวลาสองทุ่มของทุกวันจันทร์เช่นกัน

 

เมื่อมองดูสหภาพโลกอันสูงสุดประชาชนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่ออาจารย์ปรากฏตัวขึ้นพวกเขารู้สึกว่า ..

 

“ท่าน!” เจียงเสี่ยวหยูบ่นพึมพำพร้อมทำหน้ามุ่ย “พวกเขาดูอ่อนแอ ข้าอยากดูกระบี่เทพสังหารแล้ว!”

 

“ข้าละสงสัยว่ารูปปั้นของพระพุทธเจ้าจะสามารถช่วยนักรบได้ยังไงกัน” ซูเทียนจิขมวดคิ้ว “แต่ชั่งเถอะข้าสามารถล้มนักรบกลุ่มใหญ่เหล่านี้ด้วยเทคนิคทางจิตวิญญาณ!”

 

ฟางฉียักไหล่อย่างเฉยเมย

 

อันหูเว้ยเองส่ายหัวและพูดว่า “ท่าอาจารย์ซงผู้นี้เป็นถึงสุดยอดแห่งอาณาจักรนักรบ ..”

 

“ท่าน! เรื่องนี้ตอนหนึ่งราคาสามคริสตัลหรือ?” ลูกค้าบางคนทักถามเพื่อที่จะชั่งน้ำหนักดูว่าพวกเขาควรจะดูละครเรื่องนี้ดีหรือไม่ “ข้าขอดูเรื่องละครกระบี่เทพสังหารละกัน”

 

“เดี๋ยวก่อนสิ ..” ซูเทียนจิชักชวน “ลองดูก่อน มันไม่ได้เสียอะไรสักหน่อย”

 

เหลียงเหอหูที่นั่งถัดจากนาหลันฮงวูเอ่ยถาม “ศิษย์พี่มีความเห็นยังไง?”

 

“ข้าไม่ชอบสักเท่าไร” นาหลันฮงวูส่ายหัว “ละครทั้งหมดที่เกี่ยวกับนักรบระดับนี้เหมาะกับคนหนุ่มสาวมากกว่า ข้าไม่ค่อยอยากดูนัก”

 

เหลียงเหอหูพยักหน้ารับพลางมองไปที่เหล่าสาวกจากเฉิงจิ้ง “เทคนิคการต่อสู้ในละครนั้นดีสำหรับสาวก แต่สำหรับพวกเรามันค่อนข้างน่าดึงดูดน้อยกว่าการเล่นเกม”

 

“หืม? เจ้าคิดว่าขี่พายุทะลุฟ้านั้นง่อยหรอ?” เซียวหยูกล่าว “ข้าว่ามันก็ดีนะ .. เป็นการต่อสู้ที่สนุกดีี พระเจ้า! ถ้าข้าถูกโจมตีโดยนักรบเช่นนี้ ข้าต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่!”

 

ในขณะเดียวกันคนรับใช้ของเขาเดินเข้ามาพร้อมกล่องอาหาร “ท่านเซียวนี่คืออาหารว่างของท่าน!”

 

“ดีมาก” เซียวหยูวางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะน้ำชา เขาเปิดมัน พบว่ามีหม้อสุราสีเงินพร้อมแกะสลักลวดลาย

 

“ดี .. มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่จะได้ลิ้มรสไวน์ขณะดูละคร!”

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาเห็นป้าของเขากำลังหันมาจ้องมอง “ท่านป้า! ข้าสั่งมันมากจากร้านศาลาลมและพระจันทร์โดยเฉพาะ ท่านอยากลองมั้ย?”

 

“อะไร? ท่านไม่ต้องการหรอ?” เซียวหยูหยิบอาหารขึ้นมา “ลืมซะเถอะ! ข้ากินเอง”

 

ด้านข้างคือตงชิงลี่เจ้าของร้านศาลาลมและพระจันทร์ เธอควรจะทำท่ามีความสุขที่ได้เห็นผู้คนเพลิดเพลินกับอาหารจากร้านของเธอ แต่กลับกันเธอกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก!

 

“ว้าว! ผลไม้นี่ช่างยอดเยี่ยม” เซียวหยูตักผลไม้คำโตเข้าปากในขณะดูละคร

 

“ว้าว! ลูกพีชนี้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน” เซียวหยูหยิบลูกพีชขึ้นมาแล้วยัดใส่ปาก “ข้าเตรียมของขบเคี้ยวมามากมายสำหรับคืนนี้

 

ทุกคนรอบตัวเขาเงียบกริบ

 

“น้องสาวทั้งสอง” เซียวหยูเรียกตงชิงลี่และจางวันยู “เจ้าต้องการผลไม้สักชิ้นมั้ย?”

 

ตงชิงลี่มองหน้าเขาสลับกับผลไม้ด้วยสายตาเอียน

 

“ไม่ละ!” ตงชิงลี่ตอบกลับ

 

“ข้าก็ไม่” จางวันยูตอบ

 

“มีใครอยากลองมั้ย?”

 

“ข้า ข้า ข้า!” เจียงเสี่ยวหยูนักชิมตัวน้อย เธอไม่สามารถควบคุมความอยากตัวเองได้ เธอจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยกินของจากร้านศาลาลมและพระจันทร์ จำได้ว่ามันอร่อยมาก แต่ทุกวันนี้ .. ไม่มีเงิน

 

ฟางฉีเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงตอบรับของเจียงเสี่ยวหยูทีี่กำลังเพลิดเพลินกับของว่างเหล่านั้น

 

อาจจะถึงเวลาที่เพิ่มโบนัสพนักงาน ..​ หลังจากที่ทักษะการทำอาหารของเธอมีปีะสิทธิภาพมาขึ้น การทำงานของเธอค่อนข้างพัฒนาขึ้นและเขาเองก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีเธอคอยจัดการทุกอย่างในคาเฟ่ .. ฟางฉีลูบคางพลางไตร่ตรอง

 

ตอนนี้กลุ่มคนส่วนมากนั่งบนโซฟาตาจับจ้องไปที่หน้าจอยักษ์ ในขณะที่เซียวหยูกำลังเพลิดเพลินกับของกินข้างหน้า

 

เจียงเสี่ยวหยูที่นั่งข้างฟางฉีก็ไม่แพ้กันเธอนั่งดูพลางจกขนมไปด้วย

 

สำหรับตงชิงลี่ .. เธอให้ความสำคัญกับละครเสมอ เธอมองเซียวหยูที่กำลังกินของว่าง เธอและจางวันยูพบว่าผู้ชายคนนี้ค่อนข้างเป็นพิษ .. ควรจะรักษานะยะห่างจากเขาจะดีกว่า!

 

พวกเขาทำท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตร ..​ พร้อมย้ายตัวเองออกห่างโดยไม่รู้ตัว

 

“ท่าน! ตอนใหม่ของละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้าจะเพิ่มวันพรุ่งนี้หรือไม่?” หลังจากที่ดูไปสองตอนแล้วเซียวหยูเริ่มติดใจ

 

“อืม ..” ฟางฉีเอ่ย

 

“เยี่ยมที่สุด” เซียวหยูกล่าวอย่างตื่นเต้น “วันนี้ยังมีละครเรื่องกระบี่เทพสังหารให้ดูด้วยใช่มั้ย!?”