“นี่เจ้าของ! มีอะไรให้ทำอีกมั้ย?” ซงฉิงเฟิงถามด้วยเสียงโหยหวน
“นี่เจ้าใช้เวลามาเกือบจะ 6 ชั่วโมงแล้วนะ!” ฟางฉีกลอกตา “แม้ว่าจะมีมากกว่านี้แต่เจ้าคิดว่าจะสามารถทำให้เสร็จได้เพียงวันเดียวหรอ”
“เอ่ออ .. เจ้าพูดถูก!”
“รูปแบบการต่อสู้ในละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้านั้นช่างแตกต่าง ..” นาหลันหมิงสื่อบ่น “เทคนิคต่อสู้ไม่เพียงแต่จะทรงพลัง ..”
“ใช่ ช่างซับซ้อนกว่ารูปแบบการต่อสู้ที่เราได้เรียนรู้” หลันยันเสริม
“ข้ามองว่ารูปแบบพวกนี้มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน” ทุกคนเคยเห็นนาหลันหมิงสื่อผสมผสานทักษะการต่อสู้ระยะประชิดเช้ากับเทคนิคการควบคุมดาบในการสอบระดับชาติครั้งที่ผ่านมา “ข้ารู้สึกประหลาดใจที่ผู้คนส่วนมากในละครขี่พายุทะลุฟ้าใช้รูปแบบการต่อสู้ที่มีการพัฒนาไปอย่างมาก”
อันที่จริงหากผู้ใดที่ถูกจัดอยู่ในระดับนักรบธรรมดา พวกเขาส่วนมากมักไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดการต่อสู้มากนัก เพราะใช้กำลังมากกว่าเทคนิค มีเพียงนักรบระดับสูงอย่างเหลียงเหอหูและนาหลันฮงวูที่ให้ความสนใจกับรายละเอียดของเทคนิคพวกนี้
อย่างไรก็ตามนักรบส่วนมากมักเข้าใจในเทคนิคหรือทักษะต่างๆ จากประสบการณ์การต่อสู้จำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวความรู้เล็กๆ น้อยๆ เพราะส่วนมากพวกเขาเน้นการใช้แรงมากกว่าทักษะ
ผู้ฝึกฝนหรือผู้ปลูกฝังส่วนมากมักมีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคมากกว่าการใช้กำลัง พวกเขาใช้เพียงกำลังภายในในการฝึกฝนและต่อสู้ ยิ่งฝึกกำลังภายในมากมันก็จะค่อยๆ เพิ่มอายุการใช้งานนั้นทำให้อายุของตัวบุคคลเพิ่มขึ้นตามลำดับ
หากมีเทคนิคที่เชี่ยวชาญพร้อมกำลังภายในที่แข็งแกร่งก็จะเพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ การใช้เทคนิคจะช่วยประหยัดเวลาในการต่อสู้ ซึ่งหากเมื่อนำมาผสานรวมกับพลังของนักรบแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ลงตัวอย่างมาก
นักรบและผู้ฝึกฝนในโลกนี้จะมีเทคนิคหรือทฤษฏีตามที่ตัวเองถนัด นอกจากนี้พวกเขายังมีการฝึกฝนและพัฒนาจนทำให้มันเกิดประโยชน์แก่ตนเอง
หลังจากที่ได้ดูสี่ตอนแรกของละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้าไปแล้วนักรบในคาเฟ่ก็ต่างเริ่มพูดคุยกัน
“เทคนิคฝ่าเท้าลมของพระเจ้าช่างเป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิคการต่อสู้บวกกับการเคลื่อนไหว” เหลียงชีวิเคราะห์ “ถ้าเราเรียนรู้เทคนิคนี้ได้มันจะต้องนำไปใช้ประโยชน์ได้มากแน่”
(ผู้แปล : ขอเปลี่ยนเป็นลูกเตะพระเจ้าเพื่อความเท่ละกันเนอะ)
“เมื่อนำเทคนิคมารวมกันมันจะต้องได้ผลเกินคาดแน่” วูฉานหลับตาพร้อมจินตนาการ “ข้าจะต้องตั้งใจดูมัน หากเราเรียนรู้อย่างเชี่ยวชาญเราจะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเราได้แน่!”
“น่าเสียดายที่หนี่เฟงตัวน้อยแสดงเทคนิคออกมาเพียงไม่กี่อย่าง ข้าเองยังจับท่าทางการเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้เท่าไร”
…
อีกด้านหนึ่งเหล่าสาวกชั้นยอดของสำนักเฉิงจิ้งและซียี่กำลังเดินออกจากคาเฟ่
“น่าเสียดายจริงๆ เวลาของเราทุกวันหมดลงไวมาก ข้ายังดูลูกเตะพระเจ้าไม่เข้าใจเลย” เยเฟงหัวกล่าวขณะเดินกลับ “ศิษย์พี่ยิ่งท่านพอจะเข้าใจบ้างมั้ย?”
“ไม่เท่าไร” ยิ่งซงซวนตอบด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “ท่านอาจารย์ซงสอนเร็วเกินไปเทคนนิคนั้นลึกซึ้งมาก แม้เราจะสามารถเข้าใจมัน แต่ในตอนนี้เข้าถึงแค่เพียงเบื้องต้นเท่านั้น”
อีกด้านหนึ่งของผู้ชมที่เริ่มทยอยออกจากคาเฟ่
“โอ้! นี่มันเทคนิคหญ้าพลิ้วนี่ การเคลื่อนไหวขั้นสองของลูกเตะพระเจ้า!”
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเย็นชาเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วราวกับพายุ เขาคือหลีซัวยี่ศิษย์อันดับหนึ่งของบ้านสวรรค์จากเฉิงจิ้ง
เหลียงชีและคนอื่นๆ วิ่งกรูออกจากร้านเพื่อมาดูเขา “เขาเรียนรู้ได้เร็วมาก”
“ชายคนนี้ดูเหมือนเขาคือสาวกผู้อัจฉริยะของสำนักซียี่ ..” วูฉานถอนหายใจ “เราไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้”
“สุดยอด!” จากนั้นเสียงอุทานดังขึ้น องค์ชายห้าจี้หยางป้องกันเทคนิคลูกเตะพระเจ้าด้วยฝ่ามือ
“นี่เป็นการรเคลื่อนไหวครั้งแรกของเทคนนิคฝ่ามือลม”
“ดูนั่น!” ผู้คนอ้าปากค้าง ฟางฉีก็เดินตามออกมาเช่นกัน
เพื่อให้เกิดความเข้าใจของทักษะ เมื่อพวกเขาดูเสร็จจึงรีบออกมาฝึกซ้อมให้เข้าถึงมากขึ้น
“ท่าน!” ซงฉิงเฟิงเรียก “ท่านว่าการผสมผสานของทักษะทั้งสองของข้ามันจะดีมั้ย?”
จากนั้นเขาเริ่มฝึกซ้อมการผสมเทคนนิคหน้าคาเฟ่
“ลม!”
เขาเริ่มตะโกนดังขึ้น
“ซงฉิงเฟิงเจ้านี่ยอดเยี่ยมมาก!” หลินเซียวส่งเสียงเชียร์เขา
“อย่าเพิ่ง! ดูลูกเตะพระเจ้าของข้าก่อน!” ซูเหลียวลองบ้าง
“ลูกเตะพระเจ้า อืม..” ซงฉิงเฟิงเริ่มตั้งสมาธิ
ซูเหลียวหันไปมองด้วยสายตาเกรงกลัว “หืม นั่นเขากำลังตั้งใจอย่างจดจ่อ”
พวกเขาเริ่มฝึกฝนกันอย่างสนุกสนาน
“นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่ห้า!”
“พระเจ้า! นี่ครั้งที่หก”
“ขบวนการครั้งที่เจ็ด! ท่านซงสอนเพียงครั้งเดีียวเอง!”
“พลังคลื่น! นี่คือการฝึกฝนครั้งที่แปด!”
“นั่น ..”
“นาหลันหมิงสื่อ ผู้อัจฉรินะจากสำนักหลิงหยวน!”
“พระเจ้า! เธอเปลี่ยนเป็นเทคนิคดาบ!”
“เราควรสังเกตเทคนิคจากหนี่เฟง!”
“น่าตื่นเต้นมาก เธอเรียนรู้ทันด้วยหรอ? มันไวมากนะ”
ผู้คนต่างอ้าปากค้าง
เธอมีความสามารถมากเธอสามารถจับสังเกตแม้จะเป็นเพียงการดูโดยใช้เวลาไม่กี่วิ
“ศิษย์น้องนาหลันหมิงสื่อเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก” ตงชิงลี่เอ่ยชมพลางวิ่งออกไปดูพวกเขาฝึกซ้อม
“แน่นอน” ในขณะเดียวกันนาหลันหมิงสื่อชักกระบี่ออกมาด้วยความภูมิใต เธอมองไปที่ฟางฉี “นี่เจ้าของท่านจะคิดแสดงให้พวกเราเห็นกันบ้างมั้ย?”
ฟางฉียักไหล่ .. นิ่ง
“บางทีถ้าเขาอาจจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยก็เป็นได้” หลันยันจ้องมองด้วยความดูถูก
“อืม ..” จางวันยูดูเหมือนจะได้ข้อสรุป “ข้าเริ่มแน่ใจว่าพรสวรรค์ของเจ้าของร้านอาจไม่ได้ดีเท่านาหลันหมิงสื่อ”
“ไม่เป็นไร” ตงชิงลี่ปลอบโดยน “ทุกคนมีความสามารถที่ต่างกันออกไป”
คำพูดดูเหมือนจะปลอบใจ ..
“หืม? ทำไมเขายังคงนิ่ง ..” เหล่าสาวกจากสองสำนักต่างมองฟางฉีที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
ในที่สุดเขาก็หนีจากการตรวจสอบในขณะการสอบระดับชาติครั้งนั้นด้วยดาบ .. ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจมาก
แต่ตอนนี้ .. เขาไม่ได้เรียนรู้ทักษะใดบ้างเลยหรอ?
เมื่อนาหลันหมิงสื่อรู้สึกว่าเธอสามารถเอาชนะฟางฉีได้ในครั้งนี้ เธอรู้สึกพอใจในตัวเองมากแม้จะไม่ได้แสดงออกมาก็ตาม
“อืม ..” ด้วยเสียงอึกทึกในคาเฟ่ เธอจึงหันกลับไปมอง
ด้วยท่าทางที่สบายๆ ฟางฉีโบกมือของเขาพร้อมพลังดาบ “ข้าไม่สามารถพึ่งพาพรสวรรค์ของตัวเองได้ ข้าแค่ได้รับการสนับสนุนจากการเพาะปลูกส่วนตัวจาก ‘รุ่นพี่’ ของข้า”
“บ้าไปแล้ว กระบี่ระยะสี่สิบเมตร!”
“เจ้าของสุดยอดมาก”
“เขาทำสิ่งนี้ได้เช่นไร!?”
“ท่าน! เรียนรู้ได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร”
นาหลันยืนนิ่ง เธอจุกรู้สึกพูดไม่ออก
ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึงเช่นกัน
ฟางฉีบอกพวกเขาว่านี่เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง จากนั้นเขาโบกมือแล้วเดินกลับเขาไปในคาเฟ่ เพื่อดูละคนเรื่องขี่พายุทะลุฟ้าต่อ ท้านยที่สุดเขาก็ยังคงหมดเวลาไปกับการเล่นเกมและยังคงดูไม่จบทั้งสี่ตอนสักที!