“ขี่พายุทะลุฟ้า!?”
ทุกคนที่ตั้งใจมาดูละครกระบี่เทพสังหารทำหน้าฉงนใจเมื่อได้ยินว่ากำลังจะมีละครเรื่องใหม่ “ละครเรื่องใหม่!?”
“สี่ตอน!”
พวกเขากำลังประหลาดใจปนตื่นเต้น
“มันเกี่ยวกับอะไร” นาหลันหมิงสื่อถาม “เนื้อเรื่องเกี่ยวกับคนกลุ่มใหญ่พร้อมเทคนิคอันทรงพลังคล้ายกับกลุ่มเมฆเขียวในเรื่องกระบี่เทพสังหารหรือไม่?”
“มีเทคนิคการควบคุมดาบมั้ย?” ตั้งแต่เล่นเกมจนรามมาถึงละครบาง ส่วนมากมักเกี่ยวข้องกับเทคนิคการควบคุมดาบ ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาคิดว่าเทคนิคนี้เป็นส่วนสำคัญของคาเฟ่แน่ๆ
ฟางฉีส่ายหัว “ละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้านั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักรบไม่มีเทคนิคการควบคุมดาบ”
“เกี่ยวกับนักรบ? ไม่มีเทคนิคใดๆ?” อันหูเว้ยมองด้วยสายตาทำธรรมไม่มีท่าทีตื่นเต้น
ซูเทียนจิก็ทำหน้าผิดหวังเช่นกัน “เนื่องจากกรระบี่เทพสังหารเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพาะปลูกเป็นหลัก มันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีละครเกี่ยวกับนักรบ”
อย่างไรก็ตามนาหลันหมิงสื่อกลับดูสนใจ “ตัวละครหลักเป็นนักรบหรือไม่? เปิดใช้งานให้ฉันด้วย!”
“ตัวละครหลักของละครเรื่องนี้เป็นนักรบหรือ?” ตอนนี้หลายคนรวมถึงสาวกจากสามสำนักที่เพิ่งดูกระบี่เทพสังหารได้ยิน พวกเขามองด้วยสายตาคาดหวังว่าอาจจะมีอะไรดีๆ ให้พวกเขาดูพวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าทุกครั้งเมื่อได้ยินชื่ออะไรใหม่ๆ ที่นี่
ในฐานะนักรบอิสระเหลียงชีชอบเล่น Resident Evil และเมื่อร้านได้ทำการเพิ่มเกมเซียนกระบี่เทพสังหาร เขาจึงเก็บตังเพื่อศึกษาเทคนิคการควบคุมดาบไว้ใช้ประโยชน์รวมถึงหารายได้เสริม เขารู้ว่านักรบสามารถเรียนรู้เทคนิคเสริมจากละครเรื่องกระบี่เทพสังหารได้เช่นกัน แต่เมื่อได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับละครเรื่องใหม่ที่เกี่ยวกับแนวทางของนักรบเป็นหลักเขาตัดสินใจเปิดใช้งานโดยทันที!
“ท่าน! เปิดใช้งานละครขี่พายุทะลุฟ้าให้ข้าด้วย!”
“พวกข้าด้วย!” วูฉานและแบล็กกี้พร้อมอีกสองสามคนตะโกนขึ้น พวกเขาไม่ได้มาที่คาเฟ่หลายวันเพราะมัวแต่ออกไปทำภารกิจเพื่อหารายได้เสริม
“สามคริสตัลใช่มั้ย?” พวกเขาจ้องมองราคาบนกระดานดำ “มันถูกกว่าละครกระบี่เทพสังหารอีก!”
พวกเขาเป็นลูกค้ากลุ่มแรกๆ ของร้าน แต่พวกเขาระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายอย่างมากเนื่องด้วยตอนนี้ งานของพวกเขาเริ่มขาดทุน ซึ่งการที่เจอเกมหรือละครราคาถูกนั่นถือเป็นเรื่องประหยัดลงแม้จะแค่หนึ่งคริสตัลก็ตาม
อาจารย์จากสำนักหลิงหยวนเช่น เฉินจิงและยูเหลียงก็เปิดเลือกที่จะชมละครเช่นกัน “ท่านเปิดละครเรื่องใหม่ให้พวกข้าด้วย!”
“ตัวละครหลักเป็นนักรบหรือ?” องค์หญิงและสาวกคนอื่นๆ มองหน้ากันพลางคิดว่ามันควรจะดูค่าแก่การรับชมหรือไม่
เซียวเล้งหยู, ยิ่งซงซวนและเพื่อนร่วมกลุ่มของพวกเขาอ้างว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องดูละครเรื่องนี้!
ตงชิงลี่กล่าวด้วยความตื่นเต้น “ละครในร้านนี้ยอดเยี่ยมมาก! ฉันไม่สนใจว่าจะเกี่ยวกับอะไรหรอก ฉันจะดูมัน!”
“ท่าน! ตงชิงลี่เรียกด้วยน้ำเสียงร่าเริง “มีของว่างใหม่ๆ บ้างมั้ย”
เธอชีี้นิ้วไปที่ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ว่างเปล่าพร้อมกับขวดโค้กบนโต๊ะ “มันไม่พอ”
“ตอนนี้ยังไม่มี” ฟางฉีกลอกตา
“ทราบ ..” ตงชิงลี่ทำหน้าหงอยแล้วเดินกลับที่นั่ง
…
[การรวมตัวกันในโลกภายใต้อำนาจของซงปานั้นขยายไปอย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่อย่างมาก]
ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นการรวมตัวของสหภาพที่ยิ่งใหญ่ในโลก
นั่น.. คือกำลังสำคัญ พวกเขาสงสัยว่ามันมีประสิทธิภาพเท่ากับกลุ่มเมฆเขียวหรือไม่!?
“เฮ้ ท่าน!” ผู้ที่นักถัดจากฟางฉีเอ่ยเรียก ฟางฉีนั้นมีค่าเสมอเมื่อพวดเขาต้องการให้ฟางฉีบอกเล่าสปอยเกี่ยวกับหนังหรือเกมล่วงหน้าและแม้กระทั่งเรียนรู้เคล็ดลับจากเขา
วันนี้นาหลันหมิงสื่อได้ที่นั่งใกล้ฟางฉี เธอกินฮาเก้นดาสและกระแทกศอกใส่ฟางฉีเพื่อทักถาม “ท่านว่าสหภาพโลกหรือกลุ่มเมฆเขีียวใครมีีพลังมากกว่ากัน”
ฟางฉีทำหน้าสับสน .. เขาจะเปรีียบสองสิ่งที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงได้อย่างไร
แต่เมื่อคิดพิจารณาแล้วกลุ่มเมฆเขยวดูจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
“ข้าคิดว่าเมฆเขียว” ฟางฉีตอบ ”เจ้าดูด้วยตัวเองไม่ได้หรอ”
เมื่อดูไปสักพักก็ค้นพบว่าเนื้อเรื่องมีความตื่นเต้นไม่แพ้กระบี่เทพสังหาร แต่มีีความแตกต่างกันในความแปลกใหม่ที่ต่างจากการเพาะปลูก
“หืม .. นั่นพระพุทธเจ้าสามารถทำนายอนาคตของซงปาได้ด้วยหรอ? สุดยอด!”
…
วันนี้ซงฉิงเฟิงช่างโชคดีที่ได้ที่นั่งข้างขวาของฟางฉี “ชิบแล้ว! น้ำท่วมหัวเข่ารูปปั้นพระพุทธรูปยักษ์ แถมไฟยังมาใหม่ห้องหลิงหยุนอีกหมายความว่าพวกเขาจะทำการต่อสู้ที่ด้านบนสุดของรูปปั้นงั้นหรอ?”
“พระเจ้า! ดาบยาวมาก!”
ฟางฉีดูละครด้วยความตกใจ “เนอเลียนหวังสร้างดาบพลังงานยาวถึง สี่สิบเมตร!?”
ระบบได้ทำอะไรแผลงๆ แบบนี้หรือเปล่านะ ..
ฟางฉีจำได้ว่าดาบพลังงานในเวอร์ชั่นการ์ตูนไม่ได้ยาวขนาดนี้ เขาสงสัยว่าละครเรื่องนี้อยู่ในเวอร์ชั่นไหนกันแน่
“อืม .. มันคงไม่ถึงสี่สิบเมตรใช่มั้ย” ซงฉิงเฟิงวัดความยาวของดาบพลังงานด้วยสายตา
“ช่างไร้เดียงสานัก” นาหลันหมิงสื่อกล่าว “ดูก็รู้ว่าเจ้าของร้านพูดเกินจริง”
“หรอ” ซงฉิงเฟิงทำหน้ารับ “ความแข็งแกร่งของเนอเลียนหวังต่ำกว่าตัวละครหลังเรื่องกระบี่เทพสังหารอีก แม้จะถูกกว่าแค่คริสตัลเดียวก็เถอะ”
“เจ้านี่ไม่เข้าใจเทคนิคเอาซะเลย” นาหลันหมิงซื่อเอ่ย “แม้ว่าความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของเนอเลียนหวังจะต่ำกว่ากลุ่มเมฆเขียวแต่เทคนิคดาบของเขานั้นดีจริงๆ มันเพียงพอสำหรับพวกเราแน่นอนหากฝึกฝนให้เชียวชาญ”
“ใช่!” ซงฉิงเฟิงพยักหน้า “ที่เจ้าพูดมามีเหตุผล เราสามารถควบคุมดาบเพื่อต่อสู้จากระยะไกลได้ แถมเรายังมีทักษะการต่อสู้ระยะประชิดอีก ทีนี่ละใครก็ตามที่กล้าท้าทายข้ามันจะต้องตาย!”
“ถูกต้อง!” ฟางฉีกล่าว
เมื่อผ่านไปครึ่งตอน จู่ๆ พวกเขาก็ตะโกนขึ้น “อะไรน่ะ!? ทำไมถึงมีไฟท่วมร่างกาย”
“นั่นมันกิเลนนี่”
“ไม่มีทาง!? สัตว์ร้ายในตำนานจะมีอยู่ในโลกแห่งความจริงได้อย่างไร?”
ในขณะเดียวกันเหลียงชีและคนอื่นๆ ตะโกน “นั่นท่านอาจารย์ซงปากำลังสอนฝ่ามือลมและฝ่าเท้าพระเจ้า!”
“แถมยังมีลูกเตะน้ำแข็งอีก”
“ไม่นะ เราไม่สามารถที่จะเรียนรู้เทคนิคพวกนี้ได้แค่เวลาอันสั้น”
องค์หญิงและองค์ชายทั้งสองมีท่าทางตื่นเต้นเช่นเดียวกับคนอื่น
“ท่านเฟิงกำลังจะต่อสู้กับกองกำลังของเมืองวูชง!”
“ซงปาเป็นคนดีมาก เขามีพลังและความทะเยอทะยานมาก!” จี๊หยางกล่าว “ข้าละสงสัยว่าท่านปู่ของข้าจะมีพลังแบบนี้บ้างมั้ย”
“ไร้สาระ!” จียูกล่าว “ท่านปู่เรามีพลังมากกว่าซงปาอีก!”
“เอ่อ .. สี่ตอนจบแล้วหรอ!?”
“ข้ายังไม่ได้รเียนรู้ฝ่ามือลมและฝ่าเท้าเทพเจ้าเลย!”
“เมื่อไรข้าจะเชียวชาญเทคนิคดาบพลังงานที่ยาวถึงสี่สิบเมตร!?”
“นี่เราดูสี่ตอนครบแล้วหรอ?”
ทั้งคาเฟ่ทำหน้าเหลอหลา