ตอนที่ 209 เรื่องที่ไม่คาดคิด

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เหตุใดเจิ้นซิวซิวและซูต้าเฉียงถึงมาอยู่ที่นี่ได้!

ซูหวานหว่านตกตะลึงอย่างมาก!

นางไม่ต้องการให้เงินพวกเขา แต่หญิงสาวก็รู้สึกสงสารเขาทั้งสองคน ทว่าถ้าให้เงินพวกเขานางจะรู้สึกว่าตัวเองเจ็บแล้วไม่จำ ลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าพวกเขาปฏิบัติต่อนางอย่างไร?

ซูหวานหว่านไตร่ตรองความคิดนี้อย่างละเอียด จากนั้นก็หยิบเหรียญออกมาสองสามเหรียญวางลงไปก่อนจะพูดว่า “พวกท่านทั้งสองกำลังตามหาลูกสาวอยู่งั้นรึ ข้าพอจะรู้จักคนในเมืองโจวแห่งนี้อยู่บ้าง เหตุใดถึงไม่บอกว่าลูกสาวของท่านคือใครเล่า ข้าจะได้ขอให้คนของข้าช่วยตามหา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้เจิ้นซิวซิวก็รู้สึกขอบคุณและพูดออกมาทั้งน้ำตา “ขอบคุณคุณหนูมากจริง ๆ! ลูกสาวของข้าชื่อว่าซูเสี่ยวเหยียน! นางบอกว่านางมาที่เมืองโจวเพื่อทำงานใหญ่ และไม่ให้พวกเราตามหานาง แต่ว่าตอนนี้ครอบครัวของเรากำลังประสบปัญหาจริง ๆ!”

ซูหวานหว่านและซุนฉางอานสบตากันแล้วก็ต้องตกตะลึง

ซูหวานหว่านจำได้ว่านางทิ้งเงินเอาไว้ที่บ้านมากกว่าสองร้อยตำลึง หากพวกเขากินใช้กันอย่างประหยัดก็ย่อมเพียงพอต่อการใช้ชีวิตยันบั้นปลาย! ไม่ต้องพูดถึงการมีบ้านหลังใหญ่มูลค่าสองร้อยตำลึงเงินเลย!

แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสภาพตกอับจนน่าแปลกใจ ซูหวานหว่านพยายามขบคิดเรื่องนี้ก่อนจะพูดออกมาว่า “ที่บ้านของพวกท่านตกอับถึงเพียงไหนหรือ?”

“หลังจากลูกสาวของข้าออกจากบ้านไปไม่กี่วัน ก็มีโจรกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาในบ้านของพวกเราในตอนกลางคืน ขโมยไก่และเป็ดของเราไปจนหมด อีกทั้งยังพังบ้านและจับลูกชายของพวกเราไปขาย! จับพวกเราสองคนโยนลงไปในแม่น้ำ พวกเราดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดมาจากความตาย และเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าพวกเราไม่มีที่อยู่อาศัยแล้ว เหล่าชาวบ้านช่วยกันระดมเงินเพื่อให้พวกเรานำเงินมาใช้เดินทางตามหาซูเสี่ยวเหยียน แต่ใครจะคิดว่า…พวกเราจะถูกปล้นระหว่างทางมา มันไม่ง่ายเลยกว่าพวกเราจะมาถึงที่นี่ จนตอนนี้เราไม่เงินเหลือติดตัวเลย!” เจิ้นซิวซิวก็เล่าออกมา

พวกเขามีชีวิตที่น่าอนาถมาก!

ซูหวานหว่านถอนหายใจออกมา ทันใดนั้นก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าซูเสี่ยวเหยียนทำขึ้นมาหรอกหรือ?

หากเป็นเรื่องจริง ตระกูลซูก็จะตายกันหมด มันจะกลายเป็นหายนะจริง ๆ!

จิตสำนึกของซูเสี่ยวเหยียนนั้นไม่มีหลงเหลืออยู่เลยหรืออย่างไร? ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว นางใส่เงินเพิ่มลงไปในชามแล้วชี้ไปที่ร้านหงเหมิน “ท่านลองไปที่ร้านหงเหมินสิ ลักษณะของคนที่ท่านพูดถึงเหมือนกับผู้ดูแลร้านนั้น ลองไปหานางที่นั่นดู”

“นี่…” เจิ้นซิวซิวรู้สึกดีใจหากแต่ก็ยังรู้สึกลังเล นางเดินไปสองสามก้าวแล้วหันหลังกลับไปหาซูหวานหว่าน หญิงสาวคิดว่าทั้งสองอยากจะขอบคุณพวกเขา แต่กลับได้ยินเจิ้นซิวซิวตะโกนออกมาว่า “คุณหนู! ดูท่าแล้วท่านจะรวยไม่น้อยเลย! ข้าขอเงินเพิ่มอีกสักหน่อยจะได้หรือไม่! ข้าต้องการไม่มาก ขอแค่ยี่สิบหรือสามสิบตำลึงก็เพียงพอสำหรับข้าแล้ว!”

กล้ามาก! เสพติดการขอทานงั้นรึ? นางเห็นอกเห็นใจพวกเขาลงไปได้อย่างไรกัน! ซูหวานหว่านแอบตำหนิตัวเอง หญิงสาวกำลังจะเอ่ยขึ้น แต่ซุนฉางอานชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “พวกเจ้าควรไปหาลูกสาวเจ้าซะ! แม่นางคนนี้ยอมช่วยเจ้าก็ถือเป็นบุญของเจ้าแล้ว! พวกเจ้ายังจะมาขอเงินเพิ่มอีกมันจะมากเกินไปแล้ว!”

“เฮอะ!” เจิ้นซิวซิวส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ ซูต้าเฉียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เผยสีหน้าเย็นชา “แค่ให้เรามันจะเป็นอะไรไป ครอบครัวของพวกเราเคยร่ำรวย อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่มีคนมาคอยรับใช้ เงินที่พวกเจ้าให้เรามาจะจ่ายคืนมันอย่างแน่นอน!”

เหลวไหล! สิ่งของเหล่านั้นเป็นสิ่งของที่นางหามา พวกเขาพูดเช่นนี้มันจะไม่ไร้ยางอายไปหน่อยเหรอ หลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ๆ ยังกล้าจะพูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก! ซูหวานหว่านโกรธมาก “ข้ามีธุระ เชิญพวกเจ้าตามสบาย”

เจิ้นซิวซิวและซูต้าเฉียงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก “เจ้าไม่ได้บอกเองหรอกหรือว่าจะช่วย แล้วตอนนี้มาทำแบบนี้กับพวกเรา ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนเช่นนี้!”

ซูหวานหว่านชะงักฝีเท้า นางทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงหมุนกายกลับไปเผชิญหน้าพวกเขาทั้งสอง จากนั้นก็ขยิบตาให้เด็กในร้านเจวียเซ่อ เด็กในร้านก็สาดน้ำเย็นออกมา ทำให้เจิ้นซิวซิวกับซูต้าเฉียงเปียกปอนไปทั้งตัว!

ตอนนี้ยังคงเป็นฤดูใบไม้ผลิ! ร่างกายของพวกเขาสองคนสั่นเทาด้วยความหนาวเย็น ผู้ชายคนนั้นเดินออกไปทันที ส่วนพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้ทันตำหนิ ด้วยซูหวานหว่านชิงเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า “ร้านหงเหมินอยู่ตรงโน้น เจ้าควรรีบไปหาลูกสาวของเจ้าซะ!”

“ร้านหงเหมิน?” ดวงตาของเจิ้นซิวซิวเปล่งประกาย และรีบเดินไปที่ด้านหน้าร้านหงเหมินพร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง “ซูเสี่ยวเหยียนเจ้ารีบออกมาเร็ว ๆ แม่เจ้าได้มาหาเจ้าแล้ว ที่ผ่านมาแม่มีชีวิตที่ลำบากมาก เจ้าควรชดเชยให้แม่บ้าง!”

หลังจากยืนอยู่นานก็ยังไม่เห็นผู้ใดออกมา ซูต้าเฉียงจึงช่วยตะโกน “ซูเสี่ยวเหยียน! เจ้าไม่รู้จักพ่อแม่เจ้าแล้วใช่ไหม นังเด็กสารเลว! พอเจ้าได้เป็นผู้ดูแลร้านแล้วก็ไม่รู้จักเราเลยใช่หรือไม่ เจ้าจะต้องไม่ตายดีแน่!”

“ไสหัวออกไป อย่ามาตะโกนเอะอะโวยวายตรงนี้!” คนจากร้านหงเหมินเดินออกมาขับไล่พวกเขาสองคน “ผู้ดูแลร้านของเราชื่อจูเหยียน ไม่ได้ชื่อว่าซูเสี่ยวเหยียน!”

“ข้าบอกว่านางชื่อซูเสี่ยวเหยียน ไม่ใช่จูเหยียน!” เจิ้นซิวซิวพูดออกมา แต่พวกเขาทั้งสองก็ยังคงถูกขับไล่ มีชายร่างกำยำสองสามคนออกมายืนกั้นอยู่ที่หน้าประตู โดยมีซุนฉางอานและซูหวานหว่านยืนดูสถานการณ์อยู่ เมื่อเห็นพวกเขาสองคนก็รีบวิ่งเข้ามา “แม่นาง เจ้าช่วยพวกเราตามหาลูกสาวของเราได้หรือไม่!”

ช่วยสิ! เหตุใดถึงจะไม่ช่วย! นางยังอยากดูเรื่องสนุก ๆ ของพวกเขาอยู่ ซูหวานหว่านยิ้มออกมาเล็กน้อย “ยินดี ข้าอยากจะช่วยอยู่แล้ว”

“เจ้า…” ซุนฉางอานรู้สึกกังวล ชายหนุ่มกำลังจะเกลี้ยมกล่อมบอกห้ามนางว่าอย่าใจดี แต่สายตาที่ซูหวานหว่านใช้จ้องมองมาทำให้เขาหยุดพูดทันที

ซูหวานหว่านขอให้ทั้งสองคนยืนรอที่หน้าร้านเจวียเซ่อพร้อมกับร่างภาพของซูเสี่ยวเหยียนแล้วถามออกมาว่า “ฟังจากที่เจ้าบอกลักษณะของลูกสาวพวกเจ้า ข้าจึงลองร่างภาพออกมา พวกเจ้ามาช่วยดูทีว่านี่เป็นของลูกสาวของพวกเจ้าหรือเปล่า?”

“ใช่! ใช่! ใช่!” เจิ้นซิวซิวก็พูดออกมาทันที “คุณหนูรู้จักนางอย่างงั้นหรือ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว!” ซูหวานหว่านยิ้มออกมา “นางเป็นลูกบุญธรรมของฮูหยินเจีย! เป็นคุณหนูของครอบครัวที่ร่ำรวย ไปกันเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าสองคนไปหานาง”

หากซูหวานหว่านเดาไม่ผิด ในตอนนี้ตระกูลเจียคงจะหาหมอมาตรวจชีพจรของซูเสี่ยวเหยียนเพื่อดูว่าท้องอยู่หรือเปล่า!

เมื่อพวกเขาทั้งหมดเดินมาถึงหน้าบ้านของตระกูลเจีย พอเห็นซุนฉางอานมาด้วย คนเฝ้าหน้าประตูก็ได้ปล่อยให้พวกเขาเข้าไปในบ้าน และเชิญพวกเขาไปที่ห้องโถงอย่างกระตือรือร้น ซูหวานหว่านกำลังจะขอให้คนใช้ช่วยพาเจิ้นซิวซิวและซูต้าเฉียงไปหาซูเสี่ยวเหยียน แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นในห้องโถงโดยมีม่านกั้นเอาไว้

เพี้ยะ!

“จูเหยียน! เจ้ากำลังหมายถึงอะไร? เจ้ามันหญิงมีมลทิน! ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ไหนเจ้าช่วยบอกวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องนี้กับข้าหน่อยสิ!”

หัวใจของซูเสี่ยวเหยียนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง! ใครจะไปรู้ว่าในสมัยก่อนเด็กผู้หญิงที่มีอายุเพียงสิบเอ็ดปีจะตั้งครรภ์ได้! นางจะไปรู้ได้ไงว่าข้ามอดีตมานางจะท้องอยู่แล้ว! นางกลอกตาไปมาและรู้สึกท้อกับความทุกข์ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ “ท่านแม่ ข้า…”

เจิ้นซิวซิวและซูต้าเฉียงตกตะลึงเมื่อได้ยินเสียงของซูเสี่ยวเหยียน และพูดออกมาทันทีว่า “นั่นคือเสียงลูกสาวของพวกเรา!”

ทันใดนั้นทั้งสองคนก็รีบเดินเข้าไปหา แต่ว่าก็ถูกคนใช้เข้ามาห้ามเอาไว้เสียก่อน “พวกเจ้าเป็นใคร? พวกเจ้าไม่ควรมาที่นี่!”

“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! ให้พวกเราเข้าไป พวกเราเป็นพ่อแม่ของลูกบุญธรรมฮูหยินเจีย!” เจิ้นซิวซิวเอ่ย

ซุนฉางอานก็พูดออกมาว่า “พวกเราไปกันเถอะ”

“ไม่ พวกเรามารอดูเรื่องสนุก ๆ กันดีกว่า” ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มและพูดว่า “หลังจากนี้จะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับซูเสี่ยวเหยียนอย่างแน่นอน ฮึ!”