บทที่ 407 เชื่อมต่อ

บทที่ 407 เชื่อมต่อ

[ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์! เนื่องจากจำนวนของผู้เล่นที่เปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ได้นั้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 90% ของผู้เล่นทั้งหมดแล้ว! ดังนั้นตอนนี้จึงขอประกาศถึงอีเวนต์ทั่วเซิร์ฟเวอร์มิธครั้งที่ 2! การต่อสู้ระหว่างเขต มาแล้ว! อีก 3 วันถัดจากวันนี้ แต่ละเขตจะต้องเลือกผู้ที่อยู่ใน 5 อันดับความสามารถและสนามประลอง รวมสิบคนเพื่อเข้าร่วมการประลองกับผู้เล่นเขตอื่น ๆ! ในท้ายสุด ยึดตามผลอันดับในอีเวนต์ รางวัลใหญ่กำลังรอพวกท่านอยู่!]

[ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์! เนื่องจากจำนวนของผู้ล่นที่เปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ได้นั้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 90% ของผู้เล่นทั้งหมดแล้ว! ดังนั้นตอนนี้จึงขอประกาศถึงอีเวนต์ทั่วเซิร์ฟเวอร์มิธครั้งที่ 2! การต่อสู้ระหว่างเขต มาแล้ว!…]

[ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์! เนื่องจากจำนวนของผู้ล่นที่เปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ได้นั้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 90% ของผู้เล่นทั้งหมดแล้ว! ดังนั้นตอนนี้จึงขอประกาศถึงอีเวนต์ทั่วเซิร์ฟเวอร์มิธครั้งที่ 2! การต่อสู้ระหว่างเขต มาแล้ว!…]

[ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์! เนื่องจากจำนวนของผู้ล่นที่เปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ได้นั้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 90% ของผู้เล่นทั้งหมดแล้ว! ดังนั้นตอนนี้จึงขอประกาศถึงอีเวนต์ทั่วเซิร์ฟเวอร์มิธครั้งที่ 2! การต่อสู้ระหว่างเขต มาแล้ว!…]

[ประกาศทั่วเซิร์ฟเวอร์! เนื่องจากจำนวนของผู้ล่นที่เปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ได้นั้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 90% ของผู้เล่นทั้งหมดแล้ว! ดังนั้นตอนนี้จึงขอประกาศถึงอีเวนต์ทั่วเซิร์ฟเวอร์มิธครั้งที่ 2! การต่อสู้ระหว่างเขต มาแล้ว!…]

การประกาศแบบเดิม ๆ ซ้ำกันถึงห้าครั้งดังไปทั่วฟากฟ้า เซียวเฟิงแหงนมองและอ่านตามประกาศด้วยความตื่นเต้น ในที่สุดการต่อสู้ระหว่างเขตที่เฝ้ารอมานานก็มาถึงเสียที แต่ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะมาในรูปแบบของอีเวนต์ในเกมแบบนี้!

สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงขมวดคิ้วและลูบคางขณะครุ่นคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการต่อสู้ที่ดูจะเป็นอีเวนต์ง่าย ๆ ในเกม หรือจะเป็นเรื่องการแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อห้าปีก่อน สิ่งเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในชีวิตจริงของทุกประเทศรวมไปถึงการจัดสรรทรัพยากรด้วยหรือเปล่านะ?

มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหยั่งรู้ได้ เพราะงั้นชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องถามใครสักคน ดังนั้นแล้วเฉียนโตวโตวจึงเป็นคนแรกที่เขานึกถึง แต่ไม่ใช่เพราะจะถามข้อมูลเรื่องนี้จากเธอหรอก

“โตวโตว เธอมีคราวน์ปรินซ์เป็นเพื่อนในเกมสินะ? ช่วยขอเบอร์โทรศัพท์ของเขาให้ฉันหน่อย”

เพราะเฉียนโตวโตวยังไม่ได้ออนไลน์ในตอนนี้ เพราะงั้นเซียวเฟิงจึงกดโทรเข้าห้องหลิวเฉียงเหว่ยไปโดยตรงและพูดสายกับเด็กสาวแทน

“โอ้ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันจะรีบล็อกอินเดี๋ยวนี้เลย”

ขณะนั้นเฉียนโตวโตวกำลังนอนกินขนมปังอยู่บนเตียงของหลิวเฉียงเหว่ย เมื่อเธอได้ยินว่าเซียวเฟิงขอความช่วยเหลือ สาวน้อยก็รีบยัดขนมปังที่เหลืออีกครึ่งชิ้นเข้าปากไปในทันทีพร้อมกับตอบกลับไปด้วย

หลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งที่กำลังนอนอยู่บนเตียงต่างก็มองไปยังท่าทีแปลก ๆ ของเฉียนโตวโตวด้วยความสงสัย แต่เพราะเสียงพูดของเฉียนโตวโตวนั้นฟังไม่รู้เรื่องเลย แถมเจ้าตัวยังไม่ยอมอธิบายให้เคลียร์ด้วย บางทีอาจจะเป็นเพราะขนมปังที่อยู่เต็มปากเจ้าตัวที่ยังเคี้ยวไม่หมดเสียทีด้วย

“รีบกินอาหารเช้าเถอะ คงต้องเข้าไปดูในเกมเองซะแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”

ท่าทีรีบร้อนของเฉียนโตวโตวทำให้หลิวเฉียงเหว่ยสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเรื่องที่แปลก ๆ นี้ต้องเกี่ยวข้องกับเซียวเฟิงแน่ ๆ มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในโลกเกม เพราะปกติแล้วเซียวเฟิงจะไม่เป็นฝ่ายติดต่อพวกเธอก่อน เว้นเสียแต่ว่าธุระของเขานั้นเกี่ยวข้องกับโลกของเกม

ทันทีที่หลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งล็อกอินเข้าเกมตามไป พวกเธอก็ได้ยินประกาศของอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งที่ 2 ด้วยเช่นกัน ส่วนเฉียนโตวโตวก็มุ่งหน้าไปขอเบอร์ของคราวน์ปรินซ์และได้มันมาเรียบร้อยแล้ว

เซียวเฟิงยังคงอยู่ในป่ารัตติกาล ขณะที่เขากำลังเดินออกจากหลุมใต้ดินที่เขาใช้หลบภัยมาทั้งคืน เขาก็ได้เบอร์ของคราวน์ปรินซ์มาจากเฉียนโตวโตว เขาจึงไม่รอช้าที่จะกดเบอร์และโทรออกทันที

“นั่น…เจ้าแห่งฮีลเลอร์เหรอ? ” ไม่คาดคิดเลยว่า ทันทีที่สัญญาณโทรศัพท์ต่อติด คนที่ทักทายขึ้นมาก่อนกลับเป็นปลายสายเสียอย่างนั้น มันชัดเจนเลยว่านั่นเป็นเสียงคราวน์ปรินซ์อย่างแน่นอน

“หือ? นายรู้ได้ยังไงน่ะ? นี่รู้ตั้งแต่เฉียนโตวโตวถามเบอร์โทรแล้วเหรอ?” เซียวเฟิงประหลาดใจ

“โฮะ ๆ ผมเดาเอาน่ะครับ ทั่วทั้งฮัวเซีย ไม่สิ ทั่วทั้งโลกของเกม มันจะมีสักกี่คนกันเชียวที่สามารถขอให้เจ้าของร้านค้ามหาสมบัติทำอะไรแบบนี้ได้นอกจากนาย? เจ้าแห่งฮีลเลอร์” คราวน์ปรินซ์ยิ้มด้วยความเจียมตัว

“ฉันมีเรื่องจะถาม” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวให้มากความแล้ว เขาเข้าประเด็นเรื่องที่อยากถามอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าคราวน์ปรินซ์นั้นจะไม่ได้มีตัวตนที่โดดเด่น แต่เขาคงจะต้องมีเส้นมีสายหรือมีกลยุทธ์อะไรซ่อนอยู่แน่ ๆ ไม่งั้นแล้วมันคงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนอย่างเขาจะสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดจุดหนึ่งในโลกของเกมได้

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ด้วยความยินดี ผมจะบอกทุกอย่างที่รู้” ปลายสายตอบ

“นายรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในงานแข่งระดับโลกรอบสุดท้ายเมื่อห้าปีที่แล้วใช่หรือเปล่า? ที่ทุกประเทศบนโลกต่างก็เลือกที่จะนำปัญหาความขัดแย้งเรื่องทรัพยากรไปแก้กันด้วยการแข่งขันภายในเกมแทน และมันได้ผลที่ค่อนข้างดีเลย” เซียวเฟิงเปรย

“อ่าฮะ ผมพอรู้เรื่องนี้อยู่” คราวน์ปรินซ์พยักหหน้า

“โอเค งั้นฉันจะถามเลย อีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งที่ 2 นี้ ที่เป็นการแข่งขันกันเองระหว่างผู้เล่น มีจุดประสงค์เหมือนกับงานแข่งระดับโลกครั้งนั้นหรือเปล่า?” ที่เซียวเฟิงเลือกที่จะถามจากคราวน์ปรินซ์นั้น เพราะเขารู้สึกว่าตัวตนของคนคนนี้ไม่ใช่ระดับล่าง ๆ เขาน่าจะเป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่งเลย เพราะเขาคนนี้รู้ความลับมากมายที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มีทางรู้ได้ เรื่องนี้เองอีกฝ่ายก็น่าจะรู้ด้วย

“ไม่ครับ อันที่จริง หลายประเทศต่างก็เห็นชอบกับข้อตกลงต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนที่มิธจะเปิดให้บริการแล้ว ในอนาคตข้างหน้านี้ ปัญหาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรจะถูกนำมาตัดสินกันในโลกแห่งเกมอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอนครับ เพราะมิธยังอยู่ในช่วงแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจอยู่ อีเวนต์ในครั้งนี้ก็แค่ต้องการจะเปรียบเทียบพลังในการต่อสู้ของผู้เล่นระดับท็อปของแต่ละเขตเฉย ๆ แต่ยังไงผู้เล่นคนไหนที่แสดงศักยภาพจนกลายเป็นที่โดดเด่นในการแข่งขันได้ ก็จะถูกจับตามองโดยหลาย ๆ ประเทศ แล้วก็อาจจะถูกทาบทามให้มาร่วมกับการแก้ปัญหาทรัพยากรตามข้อตกลงในอนาคตอีกที”

คราวน์ปรินซ์อธิบายออกมาในทันทีที่ฟังคำถามจบ และทุกอย่างที่พูดนั้นถือเป็นความลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผยมาก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวตนของคนคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ

“อืม…เข้าใจแล้ว” เซียวเฟิงพยักหน้า มิธยังคงอยู่ในขั้นแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจอยู่จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่อะไรที่เข้าใจยากนัก มันคือช่วงที่ทรัพย์สินของทั้งโลกแห่งความจริงและโลกแห่งเกมกำลังแลกเปลี่ยนกันไปมา

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็อย่างเช่น ผู้เล่นยอมจ่ายเงินให้เกมเพื่อซื้ออุปกรณ์ดี ๆ สัตว์เลี้ยง หรือของอำนวยความสะดวกในเกมต่าง ๆ ตามแต่ต้องการ เพื่อทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในการสู้กับบอสหรือพิชิตดันเจี้ยน จากนั้นพวกเขาก็จะสามารถเปลี่ยนเหรียญทองที่ได้รับในเกมไม่ว่าจะจากภารกิจ หรือกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเงินในโลกความจริงได้ พวกเราเรียกช่วงนี้กันว่า ‘ช่วงแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจ’

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คราวน์ปรินซ์พูดก็ช่วยย้ำเตือนเซียวเฟิงได้ดี ถึงการแข่งขันในอนาคตที่จะมีปัญหาเรื่องการจัดสรรทรัพยากรมาเกี่ยวอย่างแน่นอน โดยมีรากฐานมาจากอีเวนต์ในครั้งนี้ เพราะผู้ที่แสดงศักยภาพได้โดดเด่นในการแข่งขัน จะถูกจับตามองและฝึกฝนโดยแต่ละประเทศ เพื่อที่จะให้ผู้เล่นคนนั้นไปเป็นตัวแทนของประเทศในการใช้วิธีในเกมเพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้ง

พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าหากเซียวเฟิงอยากจะมีส่วนร่วมอีเวนต์ในอนาคต เพื่อที่จะหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลัง เขาไม่ควรจะพลาดในอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ทุกประการ ไม่ว่าอีเวนต์นั้นจะมีรางวัลเป็นอะไรก็ตาม

“ขอบใจ” เซียวเฟิงกล่าวขอบคุณคราวน์ปรินซ์และเตรียมจะวางโทรศัพท์แล้ว เรื่องที่ได้รับรู้มาจากอีกฝ่ายทุกอย่างเป็นความลับมาก ๆ ไม่มีทางที่ผู้เล่นคนอื่นจะได้รู้ก่อนแน่นอน บางทีที่คราวน์ปรินซ์ยอมที่จะบอกเซียวเฟิง อาจจะเป็นเพราะตัวตนของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ก็ได้

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ผมขอเวลานิดนึง ผมเอง…ก็มีคำถามที่อยากจะถามเหมือนกัน” ตอนนั้นเอง จู่ ๆ คราวน์ปรินซ์ก็พูดขึ้นมา

“มีอะไรหรือเปล่า?” โดนรั้งเช่นนี้ เซียวเฟิงก็อดสงสัยไม่ได้ว่า หรืออีกฝ่ายจะรู้ถึงตัวตนจริง ๆ ของเขาแล้ว?

“ผมได้ยินมาว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่ได้อยู่ในเขตฮัวเซียตอนนี้ แต่ไปอยู่ในเขตฮันกึลใช่ไหมครับ?”

“อ้อ นั่นก็ใช่ แต่ถ้านายจะถามถึงวิธีข้ามเขตแดนล่ะก็ ฉันคงต้องเสียใจกับนายด้วย เพราะฉันเองก็ไม่รู้วิธีที่ว่านั่นเหมือนกัน ขนาดตัวฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ฉันยังไม่รู้เลย” เซียวเฟิงตอบกลับอย่างไม่คิดมาก เพราะพอจะคาดเดาได้ว่า บางทีคราวน์ปรินซ์อาจจะได้เห็นเรื่องของเขาในฟอรั่มของเขตฮันกึลไปแล้วก็ได้ ถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ในเขตฮันกึลตอนนี้

จริง ๆ ฟอรั่มของเขตฮันกึลช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นที่พูดถึงมากในระดับหนึ่งเลย เพราะข่าวคราวเรื่อมีผู้เล่นข้ามเขตแดนไปและบุกรุกในเขตนั้น ๆ แท้ ๆ มันเลยเรียกความสนใจจากคนอื่น ๆ ได้อีกมาก แม้จะไม่ใช่ผู้เล่นเขตฮันกึลก็ตาม

“ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้นหรอกครับ ผมแค่อยากจะรู้ว่านายจะสามารถกลับมาเขตฮัวเซียได้ก่อนที่อีเวนต์จะเริ่มหรือเปล่า?” คราวน์ปรินซ์ถามต่อ

“ถ้าเรื่องนั้นฉันก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้ก็พยายามลองทุกวิถีทางที่คิดว่าจะพาตัวเองกลับไปได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับได้เลย” เซียวเฟิงตอบอย่างช่วยไม่ได้

“ถ้างั้น หากเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่สามารถกลับมาได้ก่อนอีเวนต์ คุณจะเข้าร่วมอีเวนต์ในฐานะผู้เล่นของฮันกึล หรือผู้เล่นของฮัวเซียกันครับ?” เขาคลายเรื่องที่อยากจะถามออกมาแล้ว

“แน่นอนว่าต้องเป็นผู้เล่นจากฮัวเซียอยู่แล้ว” และเซียวเฟิงเองก็ยังคงตอบได้โดยไม่ต้องคิดเช่นเดิม

“เช่นนั้นผมก็สบายใจ ถ้ายังไง ผมคงไม่รบกวนการเก็บเลเวลของนายแล้วละกันครับ” น้ำเสียงของคราวน์ปรินซ์ดูจะโล่งใจขึ้นมาจริง ๆ จากนั้นเขาก็วางสายไปด้วยความสุภาพ

เซียวเฟิงผู้ที่กลับมาอยู่ในป่ารัตติกาลอีกครั้ง อ่านกฎของอีเวนต์การประลองในครั้งนี้อย่างถี่ถ้วนขณะที่มือก็ลูบคางของตนเองไปด้วย

กฎที่ระบบระบุไว้นั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย แต่ละเขตสามารถมีผู้เข้าแข่งขันได้สูงสุดสิบคน ที่ประกอบด้วยห้าคนจากอันดับคุณสมบัติ และอีกห้าคนจากอันดับในลานประลอง หากว่ามีผู้เล่นคนไหนที่ปรากฏชื่ออยู่ในอันดับทั้งสองก็จะถือว่าเขาคนนั้นเป็นตัวแทนของทั้งสองอันดับ จะไม่มีการรันผู้เล่นที่อยู่อันดับถัดไปขึ้นมาแทน

ถ้าจะอธิบายง่าย ๆ ก็คงจะได้ประมาณว่า แม้กฎจะระบุและแสดงให้เห็นว่าแต่ละเขตจะมีผู้เข้าแข่งขันสิบคน แต่แท้จริงแล้ว บางเขตสามารถมีขั้นต่ำที่ห้าคนได้ แต่ทุกเขตจะมีผู้เล่นไม่เกินสิบคนอย่างแน่นอน ผู้เล่นที่ควบสองตำแหน่ง ก็จะต้องลงแข่งในนามทั้งสองตำแหน่งนั้นไปเลย

สถานการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เนื่องจากผู้ที่สามารถเป็นระดับท็อปในอันดับคุณสมบัติได้นั้น พวกเขาก็จะสามารถเป็นระดับท็อปในลานประลองได้ไม่ยากนัก

มันเลยทำให้หลังจากที่ได้อ่านกฎต่าง ๆ กันแล้ว หลายเขตรวมถึงฮัวเซีย ต่างก็เริ่มจัดสรรวิธีที่จะทำให้มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันในอีเวนต์ครั้งนี้มากที่สุดกันแล้ว พวกเขาเริ่มจากตรวจสอบว่ามีใครอยู่ในอันดับทั้งสองบ้างเพื่อที่จะได้ทำการโยกย้ายให้เหลืออยู่เพียงอันดับเดียวแทน

ยกตัวอย่างจากเขตฮัวเซียที่ต้องหาทางจัดการเหล่าสวี ซีเหมินฉุยเสวีย และซือเยี่ยจิ๋งที่อยู่ควบอันดับทั้งสองประเภท คนเหล่านี้จำเป็นต้องไปแพ้ในลานประลองบ่อย ๆ เพื่อให้อันดับตนเองลดลงมาจนกระทั่งหลุดท็อป 5 อันดับแรกไปได้

สิ่งนี้มีผลกระทบต่อเซียวเฟิงเล็กน้อย เพราะเขาต้องการจะรู้ถึงวิธีที่จะทำให้เขาเป็น 1 ในอันดับเหล่านั้น เพื่อที่ตนเองจะได้เข้าร่วมอีเวนต์ครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม หลังมาคิดทบทวนแล้ว เซียวเฟิงก็ไม่ได้มองว่านี่เป็นปัญหานัก เพราะต่อให้เขาไม่ได้ล็อกอินมาเป็นเวลานาน แต่ตราบใดที่เขายังมีเสี่ยวไป๋อยู่ เขาก็ไม่น่าจะหลุดออกจากอันดับคุณสมบัติแน่ ๆ

เพราะงั้นเซียวเฟิงจึงรีบเปิดอันดับคุณสมบัติในเขตฮัวเซียขึ้นมาดูทันที นี่เป็นครั้งแรกในรอบเดือนเลยที่เขาเปิดตารางผู้นำขึ้นมาดูอีกครั้งหลังอันดับคุณสมบัติได้รับการอัปเดต

อันดับคุณสมบัติเขตฮัวเซีย

อันดับ 1 : ไนท์คูนเนอร์ – พลังต่อสู้ : 13,061 หน่วย

อันดับ 2 : คิงด้อม – พลังต่อสู้ : 12,844 หน่วย

อันดับ 3 : ซีเหมินชุยเสวีย – พลังต่อสู้ : 11,323 หน่วย

ภาพที่ปรากฏนั้นทำเอาเซียวเฟิงตกใจมาก ๆ เพราะภายในอันดับคุณสมบัตินี้ นอกจากเขาจะไม่ได้อยู่ในท็อป 5 อันดับแรกแล้ว แม้แต่ท็อป 100 เขาก็ไม่ติด!

เขาพยายามตรวจสอบอันดับเหล่านี้ดูอยู่หลายครั้ง จนมั่นใจแล้วว่าไม่มีชื่อของเขาอยู่จริง ๆ เซียวเฟิงก็ชะงักไปเลย เขาไม่รู้เลยว่าระบบพลังต่อสู้นี้มันคำนวณอย่างไร ต่อให้มันจะเป็นเรื่องจริงที่เขาไม่ได้ล็อกอินเกมเป็นเวลานาน แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาไม่ติดท็อป 10 ของเขตเช่นนี้

ไม่มีทาง! หรือบางทีชื่อของฉันอาจจะมาอยู่ในเขตฮันกึลนี้แทน?

ด้วยความสงสัย เซียวเฟิงจึงเปิดอันดับคุณสมบัติในเขตฮันกึลขึ้นมาอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นแบบเดิม แม้แต่อันดับในที่แห่งนี้เองก็ไม่มีชื่อเขาอยู่ด้วยเช่นกัน!