64 คุกเข่าให้ท่านอาจารย์เย่

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 64 คุกเข่าให้ท่านอาจารย์เย่

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างคิดว่าเย่เฉินพูดความจริง แต่ละคนพากันอดกลั้นเอาไว้ อยากจะรีบกลับบ้านไปดูอู่เหลินเฟิง

ฉินเอ้าตงที่ยืนนิ่งค้างอยู่ด้านข้าง ในที่สุดเวลานี้ก็ดึงสติกลับมา สีหน้าของเขาหน้าเกลียดมาก

นี่มันขายหน้าขายไปจนถึงวงศ์ตระกูลแล้ว!

ตนเองจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อจ้างบอดี้การ์ด ซึ่งล้วนเป็นอาจารย์ศิลปะการต่อสู้อาวุโสในสถาบันศิลปะการต่อสู้ คิดไม่ถึง…..

คิดไม่ถึงว่าจะถูกเจ้าเด็กที่เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากทีวี จับทุ่มเพียงชั่วพริบตา?

ฉินเอ้าตงไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ เขามองไม่ออกว่าความสามารถของเย่เฉินอยู่ในระดับไหน แต่บอดี้การ์ดของเขาไม่ใช่คนโง่

ผู้เชี่ยวชาญลงมือ ก็รู้ว่ามีหรือไม่มี!

พวกเขาเพียงแค่มองก็รู้ทันที เย่เฉินไม่ได้พูดโอ้อวด เขาไม่ได้ออกแรงทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ

เป็นคนที่พวกเขาไม่มีปัญญาหาเรื่อง!

ด้วยเหตุนี้ เหล่าบอดี้การ์ดจึงไม่กล้าขึ้นหน้า มองดูเย่เฉินด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เซียวฉางควนมองดูอยู่ด้านข้าง เขาไม่มีความรู้ด้านการต่อสู้แม้แต่น้อย คิดว่าเย่เฉินเพียงแค่ต่อสู้ธรรมดาๆเท่านั้น เพียงแค่จับข้อมือ แล้วจับทุ่มอะไรทำนองนี้ เพียงแต่แรงเยอะไปหน่อยเท่านั้น ไม่รู้ว่านี่เป็นวรยุทธ์ที่แท้จริง

เวลานี้เย่เฉินส่งยิ้มอ่อนๆให้กับฉินเอ้าตง:“นายจะมาเอง หรือจะให้ฉันไปหา?”

“แก แกอย่าเข้ามา”

ฉินเอ้าตงตกใจจนเหงื่อเย็นเต็มหน้าผาก ก้าวถอยหลังหลายติดต่อกันหลายก้าว

มองดูท่าทีหวาดกลัวของเขา เย่เฉินหัวเราะในลำคอ เดินไปหาเขา

ฉินเอ้าตงมองดูเขาด้วยความหวาดกลัว รีบก้าวถอยหลัง

ถ้าตนถูกเขาจับทุ่ม ต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลนานครึ่งเดือนอย่างแน่นอน!

ในเวลานี้เอง รถบีเอ็มดับเบิลยูสีดำขับมาช้าๆ จอดอยู่ไม่ไกล

คนขับรถรีบเปิดประตูรถ แล้วเชิญคนลงจากรถ

ฉินเอ้าตงเห็นภาพนี้ ดีใจขึ้นมาทันที หันไปด้านนั้นพร้อมกับร้องเรียก :“พี่สาว! ผมถูกคนทำร้าย! พี่รีบมาช่วยผมเร็ว!”

เย่เฉินเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงกลุ่มคนหลีกทางให้อัตโนมัติ หญิงสาวสวมชุดออกกำลังกายรัดรูปสีดำทั้งตัว เดินมาทางนี้

ชุดออกกำลังรัดรูป ทำให้เห็นหุ่นที่สมบูรณ์แบบของหญิงสาว ใบหน้าที่มีความโกรธเคืองของเธอ มีความแข็งแกร่งแผ่ออกมา

“นั่นคือพี่สาวของคุณชายฉิน ฉินเอ้าเสวี่ยน!”

ในกลุ่มคนมีคนร้องตะโกนขึ้นมา จากนั้นฝูงชนก็เกิดเสียงดังระงมทันที

ฉินเอ้าตงร้องเรียก:“พี่ เจ้าเด็กนี่มันทำร้ายผม พี่ช่วยผมจัดการมันให้เข็ดหลาบ!”

หลังจากฉินเอ้าเสวี่ยนเดินเข้ามาใกล้ กวาดตามองเหล่าบอดี้การ์ดที่นอนอยู่บนพื้น จากนั้นมองเย่เฉินด้วยแววตาเย็นยะเยือก:“นายเป็นคนทำร้ายคนพวกนี้?”

เย่เฉินพูดเสียงเรียบ:“ใช่ ผมเป็นคนทำเอง มีอะไรรึเปล่า?”

ฉินเอ้าเสวี่ยนหัวเราะลำคอ พูดขึ้น:“ไม่มีอะไร รีบขอโทษน้องชายฉันเดี๋ยวนี้!”

“ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ?”

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะตีนายจนกว่านายจะขอโทษ!”

ยังไม่ทันพูดจบ เท้าแส้ของฉินเอ้าเสวี่ยน พุ่งไปตรงหน้าเย่เฉินทันที

ภายในใจเย่เฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ฝีมือไม่ธรรมดา เก่งกว่าบอดี้การ์ดก่อนหน้านี้มาก!

ฉินเอ้าตงเห็นภาพนี้ จึงลอบพูดในใจ:“ให้ตายสิ ดูสิว่าพี่สาวของฉันจะตีแกจนตายไหม!”

พี่สาวของเขาฝึกการต่อสู้มานานหลายปี เชี่ยวชาญการต่อสู้โบราณ และมีทักษะการต่อสู้ แม้แต่อาจารย์ศิลปะการต่อสู้บางคน ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ

ทว่าวินาทีต่อมา ฉินเอ้าตงดวงตาเบิกกว้าง

“อ่อนเกินไป!”

ตามด้วยเสียงสบถของเย่เฉิน ตัวของเขาหลบเลี่ยงไปอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว จากนั้นยกเท้าขึ้น เตะไปที่บั้นท้ายงอนของฉินเอ้าเสวี่ยน จนเธอตัวปลิวไปไกล

ฉินเอ้าตงตกใจจนคางเกือบหลุดลงมา มองดูภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง เอ่ยพูดเสียงเบา:“นี่มัน……เป็นไปได้ยังไง!”

ทางด้านฉินเอ้าเสวี่ยนทั้งอับอายและโมโห ตั้งแต่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ เธอไม่เคยถูกใครทำให้อับอายแบบนี้มาก่อน อีกทั้งที่ที่ฝ่ายนั้นเตะเธอ ก็น่าอับอายมาก!

สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ คลานขึ้นมาแล้วพุ่งตัวไปาเย่เฉิน เธอตัดสินใจแล้ว วันนี้จะต้องให้ไอ้สารเลวนี่ชดใช้!

“เอ้าเสวี่ยน หยุดเดี๋ยวนี้! ห้ามเสียมารยาทกับท่านอาจารย์เย่!”

ในเวลานี้เอง จู่ๆก็มีชายวัยกลางคนวิ่งมา คว้าตัวฉินเอ้าเสวี่ยนเอาไว้

ใบหน้าฉินเอ้าเสวี่ยนเต็มไปด้วยความอับอายและโมโห ร้องตะโกนเสียงดัง:“พ่อคะ พ่อถอยออกไป หนูจะตีมันให้ตาย!”

บั้นท้ายของฉันเป็นที่ที่นายสามารถเตะได้หรอ? นายไม่รู้จักการถนอมผู้หญิงเหมือนหยกหรือไง? ตอนนี้บั้นท้ายของฉันยังเจ็บแปล๊บๆอยู่เลย!

“หุบปาก!”

ชายวัยกลางคนถลึงตามองฉินเอ้าเสวี่ยน แล้วพูดตำหนิ

จากนั้น เดินไปทางเย่เฉินด้วยความนอบน้อม สูดลมหายใจเข้า พูดด้วยความเคารพ:“ท่านอาจารย์เย่ เจอกันอีกแล้วนะครับ……ผมขอโทษแทนลูกสาวและหลานชายที่ไม่เอาไหน เดี๋ยวกลับไป ผมจะให้พวกเขาคิดทบทวนเรื่องนี้”

เฉินเอ้าเสวี่ยนและฉินเอ้าตงตะลึงงัน ไม่อยากจะเชื่อกับภาพตรงหน้า

พ่อเป็นถึงคนที่มีอำนาจสูงศักดิ์ในเมืองจินหลิง ทำไมถึงเกรงใจเจ้าเด็กคนนี้มากขนาดนี้ด้วย

เย่เฉินจำชายวัยกลางคนคนนี้ได้

ก่อนหน้านี้ ตอนที่ตนกับซ่งหวั่นถิงไปตรวจสมบัติ เคยเห็นเขามาก่อน ชื่อของเขาคือฉินกาง

ด้วยเหตุนี้ เย่เฉินจึงพยักหน้า แล้วเอ่ยพูด:“ประธานฉิน หลานชายคนนี้ของคุณ ควรที่จะสอนให้เข้มงวด”

ฉินกางพยักหน้า มองฉินเอ้าเสวี่ยทั้งสองด้วยความโมโห จากนั้นเอ่ยพูด:“รีบขอโทษท่านอาจารย์เย่เดี๋ยวนี้!”

“หนูไม่ขอโทษคนสารเลวที่มันเตะบั้นท้ายหนูหรอกค่ะ!”ฉินเอ้าเสวี่ยนเบ้ปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

ฉินกางตวาดด้วยสีหน้าโมโห:“ขอโทษ!เดี๋ยวนี้!ตอนนี้!”

ฉินเอ้าเสวี่ยนโมโหขึ้นมาทันที กัดฟันพูดด้วยความน้อยใจ เอ่ยพูดเสียงเบา:“ขอโทษ……”

ทว่าสีหน้าของฉินเอ้าตงกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ พูดขึ้น:“ลุงรอง เจ้าเด็กคนนี้มันทำให้ผมอับอาย ทั้งยังเตะพี่สาวด้วย ลุงไม่จัดการเขาก็ไม่เป็นไร แต่ยังจะให้ผมขอโทษ? ถ้าลุงไม่สามารถจัดการเขาได้ เดี๋ยวผมเรียกคนมา เอามันให้ตาย!”

เพี๊ยะ!

ฉินกางตบหน้าเขาอย่างแรง พูดด้วยความโมโห:“สารเลว!รีบคุกเข่าขอโทษท่านอาจารย์เย่เดี๋ยวนี้!”

ฉินเอ้าตงถูกตบจนหน้ามืดตาลายเห็นดาวเต็มหัว มุมปากมีเลือดไหลออกมา กุมหน้าเอาไว้ด้วยความตกใจกลัว ถูกตบจนเขาตะลึงงันไปแล้ว ไม่รู้ว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้

แต่ให้เขาคุกเข่าต่อหน้าสาธารณะ……

นี่เป็นการทำให้ตระกูลฉินอับอายขายหน้า นับตั้งแต่วันนี้จะพูดถึงความน่าเกรงขามในเมืองจินหลิงได้ยังไง?

ฉินกางกัดฟันกรอด พูดเสียงเหี้ยม:“เจ้าเด็กสารเลวนี่ แกรู้หรือไม่ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านอาจารย์เย่รู้ที่มาที่ไปจี้หยกชิ้นนั้นของแก ไม่เพียงแค่แก่เท่านั้นที่จะตาย ทั่วทั้งตระกูลฉินก็จะตายเพราะนาย!”

พูดจบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่นด่า:“ฉันก็ว่าทำไมพักนี้ตระกูลฉินมีแต่เรื่องซวยๆ เกิดเรื่องแล้วเกิดเรื่องเล่า ที่แท้ก็เป็นเพราะคนชั่วๆอย่างแกหาเรื่องมาให้ตนเอง ถ้าปู่ของแกรู้ ต้องตีแกจนขาหักอย่างแน่นอน!”

เมื่อเห็นลุงรองพูดร้ายแรงขนาดนี้ ภายใต้ความตกตะลึงและหวาดกลัวของฉินเอ้าตง เท้าทั้งสองข้างอ่อนลง “ตึก” คุกเข่าลงกับพื้น

ฉินกางพูดเสียงเหี้ยม:“ยังไม่รีบขอโทษท่านอาจารย์เย่อีก!”

“ขอ ขอโทษ……” ฉินเอ้าตงตกใจจนขวัญอ่อนหมดแล้ว พูดขอโทษเย่เฉินติดๆขัดๆ แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ฉินกางจึงพูดกับเย่เฉินด้วยความเคารพ:“ท่านอาจารย์เย่ ไม่รู้ว่าจัดการแบบนี้ ท่านอาจารย์พอใจหรือไม่?”

เย่เฉินพูดเสียงเรียบ:“ช่างเถอะ ในเมื่อคุกเข่าลงแล้ว ผมก็ไม่ถือสาเขา”

ฉินกางโล่งใจเป็นอย่างมาก จากนั้นรีบเอ่ยถาม:“ท่านอาจารย์เย่ ผมมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามท่านอาจารย์ หลังจากทิ้งหยกชิ้นนั้นไปแล้ว โชคชะตาของตระกูลฉินจะกลับมาปกติเหมือนเดิมหรือไม่?”

เย่เฉินยิ้มเยือกเย็น:“คุณคิดได้เพ้อฝันจริงๆ!หยกชิ้นนี้มีชี่พิฆาตรุนแรงมาก ไม่ได้เกิดขึ้นบนตัวของฉินเอ้าตงเพียงคนเดียวแล้ว จากที่ผมดู เวลาไม่ถึงหนึ่งปี ตระกูลฉินของพวกคุณต้องเกิดหายนะครั้งใหญ่ครอบครัวแตกสาแหรกขาดมีคนตายอย่างแน่นอน!”