65 ท่านอาจารย์เย่ลงมือ

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 65 ท่านอาจารย์เย่ลงมือ

ฉินกางตกใจกับคำพูดของเย่เฉิน

ครอบครัวแตกสาแหรกขาดมีคนต้องตาย?

ราคาที่ต้องชดใช้มันเจ็บปวดเกินไปรึเปล่า?

สีหน้าฉินกางซีดขาวทันที นานครู่หนึ่งกว่าจะถอนหายใจแล้วเอ่ยพูด:“ชีวิตนี้ผมไม่เคยทำเรื่องละอายต่อใจมาก่อน ทำความดีสั่งสมคุณธรรมทุกวัน ทำไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย”

เย่เฉินยิ้ม พูดขึ้น:“ดูท่าหยกที่คุณอยากจะซื้อเมื่อคราวก่อน ก็เพื่อเรื่องนี้?”

ฉินกางพยักหน้า หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เขาลองมาทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งได้เจอกับเย่เฉิน

เมื่อคราวก่อน เขาคิดว่าเย่เฉินเป็นแค่คนที่ตรวจสอบของล้ำค่าเป็นเท่านั้น จึงไม่ได้สนใจมากนัก

ทว่าวันนี้ เย่เฉินพูดเกี่ยวกับชี่พิฆาตในคำพูดเดียว จึงทำให้เขาเข้าใจ เย่เฉินไม่ใช่คนธรรมดา บางทีความหวังในการช่วยเหลือตระกูลฉิน อาจจะอยู่ที่เย่เฉิน

จากนั้น เขารีบประสานมือหันไปทางเย่เฉิน พูดอ้อนวอน:“ท่านอาจารย์เย่ ท่านอาจารย์ได้โปรดยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยเถอะครับ!”

พูดจบ เขารีบพูดกระซิบบอกกับผู้ช่วยที่อยู่ข้างกาย จากนั้นผู้ช่วยก็รีบเดินจากไปทันที

เย่เฉินยิ้มบางเบา พูด:“ประธานฉิน เรื่องของครอบครัวคุณ พวกคุณจัดการกันเองเถอะครับ”

เขากับตระกูลฉินไม่ได้คบค้าเกี่ยวข้องกัน กับฉินกางก็แค่เคยเจอกันครั้งเดียวเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นฉินเอ้าตงที่อยู่ตรงหน้ายังหาเรื่องตน

ฉินเอ้าเสวี่ยนที่อยู่ด้านข้างสีหน้าตกตะลึงนั้น มีหน้าตาที่สวยงาม ทั้งหุ่นของเธอยังดีมากด้วย ด้านหน้านูนโตด้านหลังงอนเด้ง อีกทั้งนิสัยยังเผ็ดร้อน มีความแซ่บซ่านของพริกขี้หนูเล็กน้อย

แต่ว่า สวยหรือไม่สวย เกี่ยวอะไรกับตน? หนึ่งไม่ได้เป็นภรรยาของตน สองไม่ได้นอนกับตน

ดังนั้น เย่เฉินจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องช่วยตระกูลฉิน

แต่ว่า ฉินกางจะปล่อยโอกาสช่วยตระกูลที่ดีแบบนี้ไปได้ยังไง เขารีบโค้งลำตัวลงแล้วพูดขึ้น:“ท่านอาจารย์ได้โปรดชี้แนะด้วยครับ!”

ฉินกางมองดูเย่เฉินด้วยความจริงใจ โค้งลำตัวเก้าสิบองศา แสดงความถ่อมตนอย่างเต็มเปี่ยมของตน

แต่เย่เฉินยังคงไม่มีท่าทีใดๆ

เมื่อเห็นเย่เฉินนิ่งเฉย ฉินกางตัดสินใจ คุกเข่าลงกับพื้น

ในเวลานี้เอง ฉินเอ้าเสวี่ยนที่อยู่ด้านข้างเห็นภาพนี้ จึงคุกเข่าลงกับพื้นอย่างไม่ลังเล

เธอคุกเข่าตรงหน้าเย่เฉิน ขอร้องอ้อนวอน:“ท่านอาจารย์เย่ เมื่อกี้ฉันเสียมารยาท ทำให้ท่านอาจารย์ต้องโมโห ท่านอาจารย์ได้โปรดอย่าเก็บไปใส่ใจ โชคชะตาของตระกูลฉินอยู่ในมือของท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ได้โปรดยื่นมือมาช่วยด้วยเถอะค่ะ!”

พูดจบ เธอก็หันไปมองฉินเอ้าตงที่ยังยืนโง่เขลา ตบไปที่เขาอย่างแรง ด่าทอ:“ฉินเอ้าตง! เรื่องนี้นายเป็นคนก่อ! ของแปลกๆนั่นนายเป็นคนเอากลับมาบ้าน ครอบครัวต้องเดือดร้อนเพราะนยา แม้แต่ท่านอาจารย์เย่นายก็เป็นคนทำให้ขุ่นเคือง รีบหมอบกราบท่านอาจารย์เย่เดี๋ยวนี้! ขอร้องให้ท่านอาจารย์เย่ช่วย!”

ฉินเอ้าตงตกใจจนโง่ไปแล้วจริงๆ!

เขาคาดไม่ถึงจริงๆ พักหลังตระกูลฉินทำอะไรก็ไม่ราบรื่น ส่วนตนยังประสบอุบัติเหตุจนเลือดตกยางออก สาเหตุมาจากหยกชิ้นนั้น ตอนนี้ตนเองไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดได้ ทั้งยังทำให้ท่านอาจารย์เย่ที่เป็นคนเดียวที่สามารถช่วยตระกูลฉินขุ่นเคือง เขากลัวจริงๆหลังจากกลับบ้านไป ต้องถูกคนในครอบครัวทำร้ายจนตายแน่

ด้วยเหตุนี้เขาจึงคุกเข่าลงกับพื้นแล้วหมอบกราบเย่เฉิน พร้อมกับพูดอ้อนวอนขอร้อง:“ท่านอาจารย์ ผมผิดไปแล้วครับท่านอาจารย์! ผมมีตาแต่ไม่มีแวว ผมไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้จักเจียมตัว ท่านอาจารย์ได้โปรดให้อภัยผมด้วยครับ ช่วยตระกูลฉินของผมด้วย ผมก้มกราบเท่านอาจารย์ครับ……”

ผมจบ หน้าผากของฉินเอ้าตงก็กระทบลงบนพื้นดินโคลน ก้มกราบจนเกิดเสียงดัง

ในเวลานี้เอง ผู้ช่วยของฉินกางวิ่งกลับมา พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญให้เขา

ฉินกางรีบรับเอาไว้ จากนั้นยื่นไปตรงหน้าเย่เฉินด้วยความเคารพ พูดด้วยความนอบน้อม :“ท่านอาจารย์เย่ นี่คือกำไลหยกที่แพงที่สุดในชุ่ยเก๋อซวน มูลค่าหกล้าน ท่านอาจารย์เย่ได้โปรดรับเอาไว้ด้วยครับ!”

เย่เฉินปรายตามองของขวัญในมือฉินกางด้วยแววตาเย็นยะเยือก นั่นคือกำไลหยกน้ำแข็งเก่าแก่อย่างดี น้ำงามมาก มีความโปร่งใสราวกับแก้ว

ถึงแม้จะไม่สามารถเทียบกับสร้อยหยกที่ตนให้ภรรยาเซียวชูหรันเมื่อก่อนหน้านี้ได้ แต่ในฐานะกำไล ถือเป็นกำไลเกือบจะดีที่สุดแล้ว!

คนที่อยู่รอบๆมองดูจนตาลุกวาว กำไลนี้ทุกคนล้วนรู้จัก เป็นกำไลที่แพงที่สุดในชุ่ยเก๋อซวยน มูลค่าประมาณหกล้าน

เห็นได้ว่าเขาต้องการเอาใจเย่เฉินมากขนาดไหนกัน!

เย่เฉินคนนี้เป็นใครกันแน่?

พ่อตาของเย่เฉินถึงกับตะลึงงัน ชีวิตนี้ไม่เคยพบเจอเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้มาก่อน……

เย่เฉินมองดูกำไลหยก ทว่าไม่ได้รับมา เพียงแค่เหมือนจะยิ้มเหมือนไม่ยิ้มแล้วมองดูฉินกาง พร้อมเอ่ยพูด:“ประธานฉิน คุณรู้ได้ยังไงครับว่าผมมีวิธีสลายชี่พิฆาต?”

ฉินกางพูดด้วยความจริงใจ:“ถ้าหากท่านอาจารย์เย่ทำไม่ได้ เช่นนั้นบนโลกใบนี้คงไม่มีใครทำได้แล้ว!”

เย่เฉินยิ้มบางเบา ฉินกางพูดถูก ตนเองมีวิธีสลายชี่พิฆาต

ใน《ตำราเก้าเสวียนเทียน》มีบันทึกเกี่ยวกับชี่พิฆาตนี้ วิธีการกำจัดก็เขียนอย่างละเอียด

เย่เฉินปรายตามองกำไลหยก แล้วรับมือ

มองดูความโปร่งแสงของกำไลหยก ถ้าสวมบนข้อมือของภรรยาเซียวชูหรัน ต้องสวยมากแน่ๆ

สำหรับฉินกางคนนี้

พูดตามจริง ไม่ใช่คนเลวอะไร

เพียงแต่สั่งสนคนรุ่นหลังของตระกูลได้ไม่ดีเท่าไหร่ ทว่าโทษไม่ถึงตาย

ในเมื่อเขาขอร้องตนด้วยความจริงใจขนาดนี้แล้ว การช่วยเหลือเขาก็ไม่เป็นอะไร

ด้วยเหตุนี้ เย่เฉินจึงพูด:“ได้ ในเมื่อคุณขอร้องผม ผมก็จะเห็นแก่หน้าคุณ”

พูดจบ เก็บกำไลเข้าไป

เมื่อเห็นเย่เฉินรับกำไลไปแล้ว ฉินกางดีใจมาก รีบโค้งตัวคำนับเขา:“ท่านอาจารย์เย่ ตระกูลฉินอยู่ในเมืองจินหลิง ถือว่าคำพูดพอจะมีน้ำหนักอยู่บ้าง หลังจากกำจัดชี่พิฆาตแล้ว ท่านอาจารย์เย่มีอะไรต้องการให้ตระกูลฉินช่วย ตระกูลฉินจะช่วยสุดความสามารถ เป็นกำลังเสริมให้ท่านอาจารย์”

ผู้คนที่อยู่รอบๆพากันโกลาหล เมื่อได้ฟังล้วนตกใจอย่างมาก

ตระกูลฉินทุ่มสุดตัวแล้ว!

เย่เฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยพูด:“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมจะช่วยคุณครั้งหนึ่ง ถือว่ายังไม่ถึงคราวเคราะห์ร้ายของตระกูลฉิน”

ฉินกางรีบก้มกราบคำนับ พูดด้วยความดีใจ:“เชิญท่านอาจารย์เย่ลงมือ!”

เย่เฉินขอกระดาษเหลืองและชาดแดงจากนั้นวัตถุโบราณข้างๆ เขียนตัวอักษรตวัดไปมาบนกระดาษเหลือง แล้วยื่นให้กับฉินกาง

“เอายันต์นี้ติดตรงฝ้าหยก กลับไปบ้านแล้วจุดธูปกราบไหว้บูชาทุกวัน หลังจากเจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้าวัน ชี่พิฆาตก็จะสลายหายไป”

“ในเจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้าวันนี้ ในตระกูลห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามให้มีการนองเลือด สมาชิกในครอบครัวอาบน้ำและจุดธูปทุกวัน จำเอาไว้”

“คำพูดมงคลของท่านอาจารย์ ผมจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด!”

ฉินกางยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับยันต์ ซาบซึ้งในบุญคุณของเย่เฉิน เอายันต์ติดบนฝ้าหยกด้วยความระมัดระวัง ห่อด้วยกระดาษสีเหลือง

เสี้ยววินาทีตอนที่ฝ้าหยกถูกห่อหุ้ม ภายในร่างกายของฉินเอ้าตงรู้สึกว่ามีพลังบางอย่าง ความหงุดหงิดที่อยู่ในร่างกายมลายหายไปทันที ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา

ฉินกางเองก็รู้สึกว่าร่างกายของเขามีบางอย่างเปลี่ยนแปลง ดูสดชื่นและสบายกว่าเมื่อก่อน!

เขารู้ วิธีการของเย่เฉินได้ผล!

สิ่งนี้ทำให้เขาดีใจขึ้นมาทันที!

โชคดีที่ตนตามหาเย่เฉินพบ ไม่อย่างนั้นหลังจากวันนี้ ตระกูลฉินคงจบสิ้นแล้วแน่ๆ!

จางเอ้อเหมาที่อยู่ด้านข้างมองดูด้วยความตะลึงงัน เมื่อเห็นฉินกางหมดธุระแล้ว จึงรีบแบกหน้าไป ยิ้มแห้งๆให้กับเย่เฉินพร้อมกับโค้งคำนับให้เขา

“พี่ใหญ่ ช่วยดูโหงวเฮ้งให้ผมหน่อยได้ไหม? พี่ดูให้หน่อยสิว่าเมื่อไหร่ผมถึงจะเจอภรรยาสวยๆ?”

เย่เฉินขมวดคิ้วเป็นปม ส่ายหน้าแล้วเอ่ยพูด :“อยากแต่งงานกับผู้หญิงสวยๆ ไปทำศัลยกรรมก่อน”

ฉินเอ้าเสวี่ยนที่ยืนอยู่ด้านข้าง พ่นหัวเราะออกมา

เป็นจริงตามนั้น จางเอ้อเหมาคนนี้หน้าตาอัปลักษณ์เกินไปแล้ว เป็นไปได้ยังไงที่ผู้หญิงจะมองเขา!

ในทางตรงกันข้ามเย่เฉินคนนี้ หน้าตาถือว่าหล่อดี…..