บทที่ 587 ปกป้องเธอทั้งชีวิต / บทที่ 588 อารมณ์ที่มองไม่ออก

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 587 ปกป้องเธอทั้งชีวิต

“ส่วนเรื่องที่พวกเรารู้จักกัน…”

เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจลึก พูดอธิบายต่อ “เขาเป็นคนมาจีบหนูก่อนค่ะ ตอนแรกหนูไม่ชอบเขาเลย ความสัมพันธ์กับเขาแย่มาก เพราะตอนนั้นใจหนูยังมีแต่กู้เยว่เจ๋อ หวังว่าจะได้คืนดีกับกู้เยว่เจ๋อ ทำเรื่องโง่ๆ มากมาย ขนาดพ่อแม่กับพี่ชายยังทะเลาะด้วยเลย

ตอนนั้นเป็นช่วงที่หนูทุกข์ทรมานที่สุด ยากลำบากที่สุด แต่เขาคอยอยู่ข้างหนูเงียบๆ ไม่ทอดทิ้งหนูเลย เอาใจใส่ดูแลหนู ยอมให้ด่าว่าทุบตี หนูเลยค่อยๆ ประทับใจเขา แล้วยอมรับความรักเขาค่ะ…”

ซือเยี่ยหานรับฟังพลางมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นที่เล่าเรื่องเสริมแต่งเสียสวยงาม สีหน้าดู…อธิบายได้ยาก…

เยี่ยหวันหวั่นจ้องเขา มองทำไม เธอพูดผิดหรือไง?

หรือว่าเขาไม่ได้ทำงานที่ซือกรุ๊ป

หรือว่าเขาไม่ได้เป็นฝ่ายจีบเธอก่อน ต้อนเธอจนไปไหนไม่ได้…

หรือว่าเขาทอดทิ้งไม่สนใจเธอ ไม่ว่าเธอจะงัดกลอุบายรูปแบบไหนออกมาก็ไม่สามารถเลิกกันได้…

ส่วนเรื่องยอมให้ด่าว่าทุบตี…ก่อนหน้านี้เราทะเลาะกันน้อยหรือไง ทั้งร้องไห้โวยวายทั้งด่าทุบตีเขา สีหน้าเขาก็ยังเป็นภูเขาน้ำแข็งไม่สะทกสะท้านอะไร ถ้าไม่ใช่ยอมให้ด่าว่าทุบตีแล้วคืออะไร…

ถ้าพูดแบบเขา พวกเขาสองคนคงจบเห่ไปนานแล้วโอเคไหม?

“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง…”

ฟังมาถึงตรงนี้ สีหน้าเยี่ยเส่าถิงและเหลียงหวั่นจวินผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดเจน สีหน้าที่มองซือเยี่ยหานก็ดีขึ้นเยอะ

ถึงแม้พ่อจะเสียแล้ว แม่อยู่ต่างประเทศ แต่ที่สำคัญคือดูแลลูกสาวดี การงานก็มั่นคง

“เพราะงั้น พ่อคะ แม่คะ อย่ามีอคติแค่เพราะเรื่องหน้าตาของเขาเลย เขาไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อหนูแน่นอน อีกอย่างลูกสาวของพ่อแม่ก็หน้าตาเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ ก็ถือว่าเท่าเทียมกัน!” เยี่ยหวันหวั่นพูด

“ลูกนี่นะ…” เหลียงหวั่นจวินทำสีหน้าจนปัญญา มองไปทางซือเยี่ยหานแล้วพูดว่า “เรื่องก่อนหน้านี้ของหวันหวั่น คิดว่าคุณคงจะรู้มาบ้าง เด็กคนนี้ลำบากมามาก พวกเราเลยเป็นห่วงมากเป็นพิเศษ กลัวว่าเธอจะได้รับสะเทือนอารมณ์อะไร อยากให้เธอได้เจอคนที่จริงใจ หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะ”

ซือเยี่ยหานตอบ “ไม่ครับ”

เหลียงหวั่นจวินเห็นเขาพูดไม่เก่ง แต่แววตากระจ่างชัดเจน ไม่เหมือนคนมีเล่ห์เหลี่ยม เทียบกับพวกผู้ชายที่พูดจาลื่นไหลแล้วดีกว่ามาก จึงอดรู้สึกดีขึ้นมามากไม่ได้

เยี่ยเส่าถิงกำชับเสียงขรึม “เรื่องความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถึงอนาคตจะเป็นยังไงไม่มีใครรู้ ก็หวังว่าพวกเธอสองคนจะมองเป็นเรื่องจริงจัง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยกันดีๆ”

ซือเยี่ยหานมองไปทางหญิงสาวข้างๆ ดวงตาล้ำลึกราวกับท้องทะเลที่ไม่มีจุดสิ้นสุด พูดเสียงเรียบว่า “ผมจะปกป้องเธอทั้งชีวิตเองครับ”

เยี่นหวันหวั่นสบสายตาที่ลึกซึ้งของชายหนุ่ม อดอึ้งไปไม่ได้ ค่อนข้างคิดไม่ถึง ว่านิสัยอย่างซือเยี่ยหานจะพูดคำแบบนี้ออกมา…

สุดท้าย เยี่ยหวันหวั่นและซือเยี่ยหานกินข้าวกับพ่อแม่ บรรยากาศถือว่าสงบปรองดอง เพราะเป็นครั้งแรกที่เจอหน้ากัน พ่อแม่จึงไม่ได้ทำให้ลำบากใจเท่าไร คำถามที่เจาะลึกก็ยังถือว่าพอรับมือผ่านไปได้

จนเมื่อกลับมาที่จิ่นหยวน เยี่ยหวันหวั่นยังรู้สึกหวั่นใจอยู่บ้าง

ระหว่างที่เยี่ยหวันหวั่นเดินขึ้นบันได ก็ยังหันไปบ่นพึมพำกับซือเยี่ยหาน ซือเยี่ยหานได้แต่เงียบเดินตามหลังเธอไป

ตลอดทาง เขาไม่ได้พูดอะไรเลย และไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“จะมีใครที่ไหนตอบคำถามพ่อตาแม่ยายแบบคุณบ้าง คนไม่รู้จะคิดว่าคุณไม่ได้ชอบฉันเลย อยากจะเลิกกับฉันด้วย! เฮ้อ ช่างเถอะ ยังดีที่อีคิวฉันสูงพอ ถึงคุณจะทำติดลบ แต่พวกเราก็ทำให้คะแนนกลางๆ ได้…”

เยี่ยหวันหวั่นหันหน้าไปพลางพูด ปรากฏว่าไม่ทันระวังเท้าเหยียบไปกลางอากาศ ร่างกายเซไปข้างหลังทันที “ว้าย…”

ยังดีที่ซือเยี่ยหานอยู่ด้านหลัง จึงรับเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างมั่นคง

“เอ่อ…”

ยังไม่ทันยืนได้มั่นคง…

เยี่ยหวันหวั่นแลบลิ้นกำลังจะพูด วินาทีต่อมามีเงาดำพาดเหนือศีรษะ ซือเยี่ยหานพลันโน้มตัวลงมา และจูบไปที่ริมฝีปากเธอ…

………………………………………………………………

บทที่ 588 อารมณ์ที่มองไม่ออก

ร่างกายเยี่ยหวันหวั่นเซไปข้างหลังทันที “ว้าย…”

ยังดีที่ซือเยี่ยหานอยู่ด้านหลัง จึงรับเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างมั่นคง

“เอ่อ…”

ยังไม่ทันยืนได้มั่นคง…

เยี่ยหวันหวั่นแลบลิ้นกำลังจะพูด วินาทีต่อมามีเงาดำพาดเหนือศีรษะ ซือเยี่ยหานพลันโน้มตัวลงมา และจูบไปที่ริมฝีปากเธอ…

ริมฝีปากเย็นๆ ทาบทับลงมาเบาๆ…

ทันใดนั้น ลมหายใจเย็นของซือเยี่ยหานปกคลุมไปทั่ว โอบกอดเธอไว้ตรงนี้ ราวกับว่าทั้งโลกใบเหลือแค่พวกเขา…

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดจูบนี้ก็สิ้นสุดลง…

นิ้วมือของซือเยี่ยหานลูบผ่านผมเธอเบาๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เธอไม่เข้าใจ

เยี่ยหวันหวั่นจ้องชายหนุ่มข้างหน้า อึ้งไปเล็กน้อย “เอ่อ… เป็น… เป็นอะไรคะ?”

อยู่ดีๆ ทำไมนึกอยากจะจูบก็จูบ ไม่ให้สัญญาณกันก่อนเลย…

“แล้ว…เธอล่ะ?” ซือเยี่ยหานจับจ้องเธอ จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาสามคำ

เดิมทีในหัวเยี่ยหวันหวั่นก็มึนงงอยู่แล้ว คำพูดนี้ฟังแล้วยิ่งทำให้หน้าเธอมึนงงเข้าไปใหญ่ “ฉันทำไมคะ”

สายตาซือเยี่ยหานจับจ้องที่เธอแวบหนึ่ง “เธอ ชอบฉันหรือเปล่า?”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยิน สีหน้าพลันตกตะลึง

อันที่จริง ตอนแรกที่เธอตื่นเต้นเรื่องพาเขาไปเจอพ่อแม่ขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะกลัวว่าหากทำพลาดขึ้นมา พ่อเธอจะคัดค้านอย่างรุนแรง แล้วเขาจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จนทำร้ายพ่อแม่

จากสภาวะทางอารมณ์ของเขาเมื่อก่อน สถานการณ์แบบนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น

แต่ว่าตอนนี้…

เธอกลับรู้สึกโดยไม่รู้ตัวว่า คนตรงหน้าจะไม่มีทางทำร้ายตัวเอง รวมถึงคนรอบข้างของเธอด้วย

แต่วันนี้ เธอยังพยายามจะพลิกสถานการณ์ อยากให้พ่อแม่ยอมรับเขา

ตัวเองในตอนนี้ กับซือเยี่ยหาน…

เยี่ยหวันหวั่นกำลังเหม่อลอย จู่ๆ ซือเยี่ยหานก็ก้าวเท้า เดินไปข้างหน้าเสียดื้อๆ “มากับฉัน”

“คะ? ไปไหน”

เยี่ยหวันหวั่นมองเขาอย่างงุนงงพลางเดินตามขึ้นไป

ผ่านไปครู่หนึ่ง ซือเยี่ยหานพาเธอมายังห้องใต้หลังคาชั้นบนสุด

เห็นซือเยี่ยหานพาเธอมาที่นี่ เยี่ยหวันหวั่นพลันอึ้งไป

นี่มันเขตต้องห้ามของจิ่นหยวนไม่ใช่เหรอ?

ชาติที่แล้วแม้แต่เธอยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่เลย…

ซือเยี่ยหานพาเธอมาทำอะไรที่นี่

เสียง ‘เอี๊ยด’ ดังขึ้น ประตูห้องใต้หลังคาถูกผลักเปิด

เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่หน้าประตู มองไปรอบๆ อย่างประหลาดใจ

ในห้องใต้หลังคามีพวกเฟอร์นิเจอร์เก่าวางอยู่ ชั้นวางหนังสือวางเต็มสองแถว ตรงกลางมีโต๊ะหนังสือทำจากไม้จันทน์วางอยู่หนึ่งตัว

ซือเยี่ยหานเดินไปหน้าโต๊ะหนังสือแล้วนั่งลง เปิดลิ้นชักหนึ่ง จากนั้นหยิบหยกแขวนประดับชิ้นหนึ่งออกมา

หากพูดอย่างละเอียด มันคือหยกประดับครึ่งซีก

เพราะหยกชิ้นนั้นมีแค่ครึ่งเดียว

นิ้วเรียวยาวของซือเยี่ยหานยื่นหยกครึ่งซีกส่งมาตรงหน้าเธอ

เยี่ยหวันหวั่นรับมาด้วยสีหน้าสงสัย ไม่รู้เลยว่าซือเยี่ยหานคิดจะทำอะไร เอาหยกประดับนี้ให้เธอหมายความว่าอะไร “นี่อะไรคะ”

ท่ามกลางแสงสลัว เสียงชัดเจนและเย็นชาของซือเยี่ยหานดังขึ้นในห้องใต้หลังคาที่ว่างเปล่า “นี่คือหยกครึ่งซีก สามารถระดมกำลังคนส่วนหนึ่งได้ ใช้ในเวลามีอันตราย แต่ว่าพวกเขาจะเชื่อฟังฉันเท่านั้น หยกครึ่งซีกนี้เลยให้เธอใช้ได้แค่สามครั้ง นอกจากยามคับขันแล้ว อย่าเอาไปใช้เล่น”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแล้ว เธอมองที่หยกประดับโบราณสีเขียวเทอร์ควอยซ์ทั้งชิ้นที่ดูธรรมดาด้วยแววตาซับซ้อน

ซือเยี่ยหานยังมีอำนาจลับซ่อนอยู่จริงด้วย อีกทั้งคนพวกนี้จงรักภักดีต่อซือเยี่ยหานคนเดียว คิดว่าแม้แต่สวี่อี้ก็ยังไม่รู้ว่ามีคนเหล่านี้อยู่ แต่ตอนนี้เขากลับบอกเธอ อีกทั้งยังให้อำนาจเธอเรียกกำลังพลด้วย…

………………………………………………………………