หลังจากนั้นหนึ่งวัน ณ ร้านอาหารเมฆขาวที่อยู่ในเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น

ในช่วงเวลานี้ นักข่าวจำนวนนับไม่ถ้วนรวมถึงเหยื่อจำนวนมากก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ร้านอาหารแห่งนี้ถูกห้อมล้อมจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่สามารถที่จะผ่านไปได้  เป็นกลุ่มผู้คนที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่นมาก

“ช่างครึกครื้นกันจริงๆ ไม่คาดคิดว่าเจ้าเด็กนี่จะมีอิทธิพลกับผู้คนจำนวนมากเช่นนี้”

“ครึกครื้นตูดข้าสิ ทุกคนต่างก็มาเพื่อที่จะสั่งสอนเจ้าบัดซบนั่น”

“ไม่ได้เห็นมาหลายเดือน ในที่สุดตอนนี้ก็โผล่หัวออกมา ครั้งนี้เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเราจะปล่อยให้เขาลอยนวล”

ผู้คนต่างก็กัดฟันอย่างแน่น จ้องมองไปที่เวทีซึ่งเป็นงานแถลงข่าวของหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกวางขาย

แตกต่างจากผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น นักข่าวจำนวนมากที่อยู่รอบๆนั้นต่างก็คาดหวังกันอย่างมาก ดูเหมือนว่าวันนี้จะได้ทำข่าวใหญ่อย่างแน่นอน พวกเขานั้นเป็นเหมือนกับปลาฉลามที่ได้กลิ่นเลือดซึ่งรีบว่ายกันมาเป็นฝูงก็ว่าได้  ไม่มีใครที่จะชื่นชอบเรื่องที่เสียงดังวุ่นวายไปมากกว่าพวกเขาอีกแล้ว

“อู๋ตี่ออกมาแล้ว”

บางคนที่ตะโกนออกมา

ทันใดนั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นอู๋ตี่ที่เดินขึ้นมาบนเวที ข้างกายของเขานั้นมีบอดี้การ์ดที่สวมใส่ชุดสีดำเป็นจำนวนมาก เหมือนกับเป็นผู้มีอิทธิพลระดับสูงก็ว่าได้ เดินเหมือนมังกรก้าวเหมือนเสือ มีออร่าที่ยิ่งใหญ่แผ่ออกมา

แชะ แชะ แชะ!!!

นักข่าวจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็ถ่ายรูปกันทันที เก็บภาพของอู๋ตี่ไว้

ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นก็โมโหอย่างมาก เจ้านี่เป็นนักต้มตุ๋น ทว่าทำไมถึงได้วางมาดใหญ่โตเช่นนี้ ไม่มีสีหน้าของความละอายใจแม้แต่น้อย ใบหน้าของชายคนนี้ช่างด้านหนายิ่งนัก คาดการณ์ได้ว่าแม้แต่ปืนใหญ่ทำลายดวงดาวก็ไม่สามารถที่จะเจาะทะลวงใบหน้าของเขาได้

“สวัสดีทุกๆคน ขอบคุณที่เดินทางเข้ามาร่วมงานแถลงข่าวหนังสือเล่มใหม่ของข้าในวันนี้”

เซี่ยปิงกวักมือเผยให้เห็นถึงท่าทางของดาราดังก็ว่าได้

ขอบคุณบ้านเจ้าสิ พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อมาจ้องจับผิดเจ้า!

ผู้คนจำนวนมากต่างก็จ้องมองเซี่ยปิงเหมือนกับเสือที่จ้องมองเหยื่อ ทว่าที่นี่นั้นก็คือเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น เป็นโลกเสมือนจริง พวกเขาไม่กล้าที่จะทำอะไรสิ้นคิดออกไป

“คุณอู๋ หนังลือเล่มใหม่ที่จะวางจำหน่ายนั้นมีชื่อว่าอะไรหรือ?” นักข่าวบางคนที่ถามขึ้นมาทันที

เซี่ยปิงตอบกลับไป “มีชื่อว่าเคล็ดลับการหลอกลวง36วิธี นี่คือหนังสือที่จะอธิบายเกี่ยวกับเคล็ดลับการหลอกลวงทุกประเภทของโลกนี้ เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดที่ข้าได้เรียนรู้มา เชื่อว่าทุกๆคนที่ซื้อไปอ่านจะต้องคิดว่ามันคุ้มค่าอย่างแน่นอน”

เคล็ดลับการหลอกลวง36วิธี?!

กลุ่มของผู้คนที่มีสีหน้าซีดเผือด เจ้าบัดซบนี่เป็นนักต้มตุ๋นไม่พอ ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะต้องการตีพิมพ์หนังสือออกมา เขาต้องการที่จะสอนผู้อื่นให้เป็นนักต้มตุ๋นเช่นกันอย่างนั้นหรือ?! อันที่จริงในหัวของเจ้านี่กำลังคิดอะไรอยู่ แท้ที่จริงแล้วเจ้าบัดซบนี่ต้องการที่จะทำลายสังคมไปถึงขั้นไหนกัน เกรงกลัวว่าในโลกใบนี้จะไม่มีนักต้มตุ๋นที่มากพอหรือ ต้องการที่จะให้กำเนิดนักต้มตุ๋นใหม่ๆขึ้นมาอีกอย่างนั้นหรือ?!

“แน่นอนว่าการที่ข้าเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมานั้นไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อที่จะให้ทุกคนนำความรู้ที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ไปหลอกลวงผู้อื่น แต่เป็นการเปิดเผยวิธีการหลอกวงของบรรดานักต้มตุ๋น ทำให้ทุกๆคนระมัดระวังตนเองและรู้ทันมากขึ้น”

เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างต่อเนื่อง “เรียกได้ว่าจากในอีกมุมมองหนึ่ง นี่ก็เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ในการขัดขวางและรู้ทันการหลอกลวง ทำให้ทุกๆคนล่วงรู้ถึงความอันตรายของโลกนี้”

“บอกตามตรง ข้ารู้สึกหนักอกหนักใจกับผู้คนในเวลานี้มาก ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างผู้คนได้หายไป ไม่มีความไว้ใจซึ่งกันและกันแม้แต่น้อย ทุกๆที่ต่างก็มีการฉ้อโกง มีการหลอกลวงเกิดขึ้นตลอด ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินของคนอื่นมา”

“หลังจากนี้ ข้าหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันในสังคมของพวกเราได้ ทำให้ทุกๆคนเผชิญกับความสูญเสียที่น้อยลง รู้เท่าทันคนอื่น นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ข้าได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา”

เขาได้เผยท่าทางของการเกิดความเศร้าอาดูรและเกิดความเจ็บแค้นกับสภาพของสังคมในปัจจุบัน บ่งบอกว่าตนเองไม่ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อเงิน แต่เป็นเพื่อทำคุณงามความดีกับสังคม เป็นการทำให้ผู้คนรู้เท่าทันบรรดาคนหลอกลวง ช่วยเหลือสังคมให้พ้นภัยหลอกลวง

ผายลม!

ผู้คนต่างก็ปรารถนาที่จะกัดเจ้าบัดซบนี่จนตาย ไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย ผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติในการพูดคำเหล่านี้มากที่สุดนั้นก็คือเจ้าบัดซบนี่ ก่อนหน้านี้เจ้านี่ได้ฉ้อโกงเงินไปจากผู้คนนับล้านของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น ซึ่งได้รับเงินไปกว่าพันล้านเหรียญจักรวาล

ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะพูดออกมาโดยที่ไม่รู้สึกไม่สา บอกว่าความไว้เนื้อเชื่อใจในสังคมได้หายไป หากไม่มีผู้คนที่บัดซบอย่างเจ้าในสังคม เป็นไปได้อย่างไรที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น?!

สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พึงพอใจที่สุดนั้นก็คือเรื่องก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทว่าตอนนี้เจ้าอู๋ตี่กลับผันตัวมาใช้ชีวิตใหม่ ต้องการที่จะเปลี่ยนจากการเป็นนักต้มตุ๋นกลายเป็นอาจารย์ที่สอนคนอื่นไม่ให้ถูกหลอกลวง นี่มันเป็นการเดินออกมาจากความมืดและเข้าสู่แสงสว่างโดยตรง ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นนักการทูตก็ว่าได้ ช่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย ล่วงรู้หรือไม่ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าความอัปยศอดสู ล่วงรู้หรือไม่ว่าอะไรความละอายใจ?

“ไม่ทราบว่าหนังสือเล่มนี้มีราคาเท่าไหร่?” นักข่าวบางคนที่ถามขึ้นมา

เซี่ยปิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “เป็นคำถามที่ดี ราคานั้นไม่ได้ถือว่าแพงอะไรมากมาย เพียงแค่หนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลก็สามารถที่จะซื้อได้ หากซื้อไปในจำนวนมาก ก็สามารถที่จะรับส่วนลดไปสิบเปอร์เซ็นต์เช่นกัน”

เขาได้มอบส่วนลดให้กับผู้คน

บัดซบ หนึ่งร้อยเหรียญจักรวาล นี่มันเป็นการปล้นกันชัดๆ อ๊าก!

กลุ่มของผู้คนมองไปที่เซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่รังเกียจมากว่าเดิม ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าตนเองไม่ได้เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อเงิน ตอนนี้ผลลัพธ์ที่ออกมานี้คืออะไรกัน เงินหนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลสำหรับหนังสือหนึ่งเล่ม นี่มันไม่ใช่การปล้นกันหรือ?

แม้แต่คัมภีร์วิทยายุทธที่หาได้ทั่วไปภายในจักรวาลนั้น อย่างมากก็มีราคาเพียงแค่ไม่กี่สิบเหรียญจักรวาล ทว่าหนังสือเกี่ยวกับเคล็ดลับการหลอกลวงกลับมีราคาถึงหนึ่งร้อยเหรียญจักรวาล หากนี่ไม่ใช่การปล้น อย่างไหนถึงเรียกว่าการปล้น

ยิ่งไปกว่านั้นยังพูดเสริมว่ามีส่วนลด หากซื้อในจำนวนมากจะได้รับส่วนลดไป10% นี่มันเป็นการมอบส่วนลดตูดข้าสิ ไม่ได้แตกต่างกันแม้แต่น้อย จะมีใครกันที่ต้องการซื้อหนังสือไปในจำนวนมาก เจ้านี่ช่างตระหนี่ขี้เหนียวอย่างถึงที่สุด

ทว่าในอีกมุมมองหนึ่ง ต่อให้จะมีส่วนลด ให้ตายพวกเขาก็จะไม่ซื้อหนังสือของเจ้านักต้มตุ๋นนี่ ไม่มีวันมอบผลกำไรให้กับชายคนนี้ แม้แต่เงินแดงเดียวก็จะไม่ให้เขาได้ไป

ในตอนนี้ จู่ๆก็มีเสียงของใครบางคนที่ดังขึ้นมาทันที “ขอบคุณคุณอู๋มาก ไม่คาดคิดว่าในสังคมยุคนี้ที่ผู้คนต่างก็แก่งแย่งชิงเด่นกันนั้น จะยังมีคนดีแบบคุณอู๋ที่ปรากฏตัวขึ้นมา นี่มันเป็นการช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง ช่างเป็นเรื่องที่น่าซาบซึ้ง ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะซื้อหนังสือนี้เป็นจำนวนหนึ่งร้อยเล่ม ถือว่าเป็นการสนับสนุนคนดีอย่างคุณอู๋”

น้ำตาของเขาไหลอาบแก้ม ดูเหมือนว่าจะซาบซึ้งอย่างมาก

“ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่ได้อ่าน ทว่าข้าก็รู้ว่าหนังสือที่คุณอู๋เขียนออกมานั้นจะต้องเป็นหนังสือที่ดีอย่างแน่นอน เนื้อหาข้างในจะต้องแฝงไปด้วยคุณค่า ราคาเพียงแค่หนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลนั้นไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง มันเป็นเพียงแค่เงินสำหรับมื้ออาหารเท่านั้น”

“ใช่ ถึงแม้ว่าทุกเดือนข้าจะมีรายได้เพียงแค่2,000เหรียญจักรวาล ทว่าข้าตัดสินใจที่จะใช้เงิน1,500เหรียญในการซื้อหนังสือสิบห้าเล่มเพื่อสนับสนุนคุณอู๋ เงินที่เหลืออีก500เหรียญจักรวาลนั้นจะเก็บไว้เป็นค่าเช่าบ้าน ข้าจะใช้ชีวิตอยู่ประหยัดอดออม เดือนนี้ข้าจะกินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต่อให้ชีวิตของข้าจะย่ำแย่ลง แต่เพื่อสนับสนุนคุณอู๋นั้น มันก็ถือว่าคุ้มค่า”

“ทุกๆคนอย่าหยุดข้า ข้าจะต้องซื้อหนังสือหนึ่งร้อยเล่มให้ได้ หากขัดขวางข้าอีก ข้าจะไม่ไว้หน้าปราณีใครทั้งนั้น”

ทันใดนั้นก็มีบางคนที่ตะโกนออกมา โห่ร้องสนับสนุนออกมา บ่งบอกว่าต่อให้จะไม่มีอาหารกิน ก็จะต้องซื้อหนังสือเพื่อสนับสนุนอู๋ตี่ให้ได้ เป็นการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม

บัดซบ หน้าม้า คนเหล่านี้จะต้องเป็นหน้าม้าอย่างแน่นอน!

ผู้คนจำนวนมากต่างก็มีสีหน้าที่ซีดเผือด ก่อนหน้านี้ชายคนนี้ยังคงพูดจาดูดี บอกว่าตนเองจะเริ่มกลับเนื้อกลับตัว จะไม่หลอกลวงใครอีก จะกลายเป็นอาจารย์ที่สอนผู้อื่นไม่ให้ถูกหลอกลวง ทว่าตอนนี้มันคืออะไรกัน?

ไม่คาดคิดว่าจะจ้างวานหน้าม้ามาเพื่อโห่ร้องสนับสนุนตนเองเช่นนี้ เป็นการปลุกระดมผู้คนที่อยู่รอบๆให้คล้อยตาม นี่มันจะไร้ยางอายไปถึงไหนกัน?!

“ไม่คาดคิดว่าทุกๆคนจะแสดงความอบอุ่นออกมาเช่นนี้ ทุกๆคนไม่ต้องเป็นกังวลไป ข้าได้เตรียมหนังสือไว้มากมาย ไม่จำเป็นต้องต่อแถว ทุกๆคนสามารถที่จะล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์และทำการสั่งซื้อได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือของจริงหรือว่าหนังสืออีเล็กทรอนิกซ์ก็ตาม”

เซี่ยปิงใช้โอกาสนี้ในการโฆษณาช่องทางสั่งซื้อของตนเอง มีท่าทางที่เหมือนกับตนเองเป็นนักเขียนเจ้าของหนังสือขายดีก็ว่าได้ มีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก