งานแถลงข่าวหนังสือใหม่ได้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่นั้นก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอาณาเขตดวงดาวทั้งห้าที่อยู่ภายใต้การปกครองของนิกายเมฆาทะยานอย่างรวดเร็ว นักข่าวแต่ละคนต่างก็รายงานข่าวเรื่องนี้ออกไป

“คนเสเพลกลับใจ? เส้นทางการไถ่ถอนของยอดนักต้มตุ๋นอู่ตี่?!”

“เคล็ดลับการหลอกลวง36วิธี อันที่จริงหนังสือเล่มนี้เป็นการสนับสนุนการหลอกลวงหรือว่าต่อต้านการหลอกลวงกัน เจ้ามีความเห็นอย่างไร?!”

“ได้ยินมาว่าทำยอดขายได้ดีมาก มีบางคนที่ตัดสินใจซื้อหนังสือนี้จำนวนหนึ่งร้อยเล่มทันทีที่งานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ”

“บางคนถึงขั้นอดอาหารเพื่อซื้อหนังสือเล่มนี้เช่นกัน อันที่จริงหนังสือเล่มนี้มีเสน่ห์อะไรดึงดูดกัน?!”

ผู้คนแต่ละคนต่างก็อ่านหัวข้อพาดข่าว ข่าวนี้ได้กระจายไปสู่ทุกครอบครัว อีกทั้งยังเป็นข่าวเด่นข่าวดัง ทำให้ผู้คนทั่วทั้งอาณาเขตดวงดาวทั้งห้ารับรู้ ทำให้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม

อีกทั้งด้วยการราดน้ำมันลงกองไฟของบริษัทหนังสือจักรวาลนั้น พวกเขาก็ได้ทำการโปรโมทและโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ใช้สื่อและการตลาดทุกช่องทาง รวมถึงร่วมมือกับบริษัทสื่อส่วนใหญ่ด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ข่าวเรื่องนี้จึงได้กระจายออกไปอย่างกะทันหัน กลายเป็นหัวข้อข่าวที่โด่งดังที่สุดในทันที

“บรรทัดฐานในสังคมเริ่มที่จะตกต่ำลงเรื่อยๆ ผู้คนในยุคนี้เริ่มที่จะถดถอยอย่างรวดเร็ว แม้แต่ตอนนี้นักต้มตุ๋นก็สามารถที่จะเขียนหนังสือของตนเองออกมาได้ นี่มันยังมีความยุติธรรมในสังคมอีกหรือ?”

“ทำไมถึงไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับตัวเจ้าบัดซบนั่น ไม่ใช่ว่าเขาได้ฉ้อโกงเงินของผู้คนไปกว่าพันล้านเหรียญจักรวาลหรือ?!”

“บัดซบ ชายคนนี้คือนักต้มตุ๋น ไม่คาดคิดว่าจะวางมาดดูดีเช่นนี้ อีกทั้งยังกลายเป็นอาจารย์ที่ต่อต้านการทุจริตหลอกลวง ผายลมจริงๆ เขาจะต้องมีแผนการชั่วร้ายอยู่อย่างแน่นอน ทุกคนๆไม่ว่าอย่างไรก็อย่าหลงเชื่อเขาเป็นอันขาด”

“หนังสือไร้สาระอะไรกัน ให้ตายข้าก็จะไม่ซื้ออย่างแน่นอน”

“พูดถูก ทุกๆคนอย่าซื้อหนังสือของเจ้านักต้มตุ๋นนี่ ทำให้เขาขาดทุนไป ให้เขาได้รับบทเรียนที่แสนสาหัส”

“ส่งต่อข้อความนี้ไป หากใครซื้อหนังสือของเจ้านักต้มตุ่นนั่นล่ะก็ จะถือว่าไม่มีความเป็นมนุษย์อีกต่อไป”

ผู้คนจำนวนมากที่ได้ยินข่าวนี้ต่างก็รู้สึกไม่พึงพอใจและโมโหอย่างมาก ไม่สามารถที่จะจับเจ้าบัดซบนี่มาขังคุกไม่พอ ไม่คาดคิดว่าจะออกมาสร้างความฮือฮาเช่นนี้ กลายเป็นนักเขียน อีกทั้งยังพิมพ์หนังสืออกมาเพื่อที่ต้องการจะแสวงหาผลกำไรให้กับตนเองอีก

ถามว่าพวกเขาจะสามารถยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้หรือ โดยเฉพาะเหล่าผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นนั้น แต่ละคนต่างก็ปรารถนาที่จะอัดเจ้าเซี่ยปิงอย่างป่าเถื่อน การที่คิดจะให้พวกเขาซื้อหนังสือนั้น ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันจริงๆ

…………..

“ตอนนี้เหมือนว่าจะเกิดปัญหาเล็กน้อย”

ในตอนนี้เจียเอ่อหม่าค้นพบว่าสถานการณ์ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก กลุ่มผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นนั้นได้ทำการขัดขวางการขายหนังสือของเซี่ยปิง เข้ามาขัดขวางและปิดกั้นทุกช่องทาง

บางคนนั้นก็ยังคงกระจายข่าวออกไปทั่วทุกหนแห่ง ต่อต้านการซื้อหนังสือของเซี่ยปิง บอกว่าห้ามซื้อหนังสือของนักต้มตุ๋นนี่เป็นอันขาด เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่จะรับอิทธิพลที่ไม่ดีจากเจ้าอู่ตี่นี้

ในช่วงเวลานี้ ก็มีกลุ่มของผู้คนได้จัดตั้งองค์กรต่อต้านอู๋ตี่ขึ้นมาเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลกว้างใหญ่

บางทีหากเป็นเช่นนี้ต่อไป การที่ต้องการจะผลักดันยอดขายของหนังสือให้ไปถึงสิบล้านเล่มนั้น มันจะเป็นเพียงแค่ความคิดเพ้อฝัน

“ไม่ต้องกังวลไป ปล่อยให้กลุ่มคนเหล่านั้นโวยวายต่อไป ยิ่งพวกเขาโวยวายมากเท่าไหร่ ข่าวก็จะยิ่งกระจายออกไปมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ข้าหวังไว้เช่นกัน” เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง เขาคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี

วิกฤตมักที่จะพลิกกลายเป็นโอกาสเสมอ

“ท่านต้องการที่จะทำอย่างไรหรือ?” เจียเอ่อหม่าถามขึ้นมาอย่างสงสัย

เซี่ยปิงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม “แน่นอนว่านี่เป็นการที่พวกเขาช่วยโปรโมทให้พวกเราเช่นกัน พวกเราก็จะทำการเพิ่มกระแสความฮือฮาของเรื่องนี้ขึ้นไปอีก”

สำหรับเรื่องการสร้างกระแสความฮือฮานั้น มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากสำหรับเขา คาดการณ์ได้ว่าคงจะมีผู้คนเพียงไม่กี่คนที่สามารถเทียบกับเขาในเรื่องนี้ได้

คิดได้แบบนี้ เขาก็ได้สั่งการให้ลูกน้องของเจียเอ่อหม่าสมัครไอดีปลอมขึ้นมาเป็นจำนวนมากทันทีและกระจายข่าวไปในโลกออนไลน์

“ถึงแม้ทุกๆจะต่อต้านยอดนักต้มตุ๋นอู๋ตี่นี่ ทว่าข้านั้นมีความคิดที่แตกต่างออกไป”

ไอดีปลอมเริ่มที่จะโพสข้อความลงไป “ใช่ อู๋ตี่อาจจะเคยทำความผิดพลาดมาและบางทีอาจจะสร้างความเสียหายให้กับผู้คนจำนวนมาก ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็เป็นมนุษย์เช่นกัน ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าตนเองจะไม่เคยทำเรื่องผิดพลาด”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้ก็คือหลังจากที่ทำผิดพลาดนั้น เขาก็มีความมุ่งมั่นในการที่จะแก้ไขให้มันถูกต้อง ซึ่งนี่คือการกลับตัวกลับใจเป็นคนดีของเขานั่นเอง”

“พวกเจ้าจะบอกว่าคนเราไม่สามารถทำผิดพลาดได้ เมื่อผิดแล้วต้องถูกประหาร ทั้งชีวิตนี้ไม่สามารถที่จะกลับตัวได้อีกอย่างนั้นหรือ?!”

“ตอนนี้เจ้าอู๋ตี่นี่ก็ล่วงรู้ถึงความผิดของตนเอง ล่วงรู้ว่าการหลอกลวงผู้คนนั้นเป็นเรื่องที่ผิด ดังนั้นจึงได้นำประสบการณ์มากมายของตนเองเพื่อเขียนเคล็ดลับการหลอกลวงออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนถูกหลอกลวงอีก นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างคุณงามความดีต่อสังคม”

“ทว่าทุกๆคนนั้นกลับต่อว่าผู้ที่กำลังจะกลับตัวกลับใจ ไม่คาดคิดว่าแต่ละคนจะต้องการเหยียบย้ำซ้ำเติม ข้าคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล”

ไอดีปลอมของเซี่ยปิงได้เขียนข้อความออกมายืดยาว เป็นการลบล้างความผิดของตนเองอย่างต่อเนื่อง

“ใช่ ผู้โพสข้อความนี้ได้แสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ข้ากำลังคิดอยู่เช่นกัน”

“ในที่สุดก็มีผู้ที่มีเหตุผลออกมาเรียกร้องความยุติธรรม ในความเป็นจริงข้าก็คิดว่ากลุ่มผู้คนเหล่านี้ทำเกินกว่าเหตุ เอาแต่ซ้ำเติมผู้อื่น”

“นี่มันเป็นเพียงแค่หนังสือเท่านั้น ต้องการที่จะซื้อก็ซื้อ ไม่ต้องการที่จะซื้อก็ไม่ต้องการซื้อ นี่คืออิสรภาพของทุกๆคน ทำไมจะต้องขัดขวางคนอื่นๆไม่ให้ซื้อ ข้ารู้สึกว่ากลุ่มคนเหล่านั้นมีปัญหากับสมองพอสมควร”

“ใช่ กลุ่มคนเหล่านี้คิดว่าตนเองเป็นใครกัน เป็นพระเจ้าอย่างนั้นหรือ? มีคุณสมบัติที่จะบีบบังคับผู้อื่นไม่ให้ซื้อหนังสืออย่างนั้นหรือ?!”

ไอดีปลอมจำนวนมากต่างก็ออกมาแสดงความเห็นด้วยและโจมตีให้คนอื่นๆเสื่อมเสียอย่างต่อเนื่อง

ผู้คนจำนวนมากที่ได้เห็นข้อความเหล่านี้ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะว่าถึงอย่างไร หากมองในภาพรวมของอาณาเขตดวงดาวทั้งห้านั้น ผู้คนที่ถูกเซี่ยปิงฉ้อโกงไปนั้นถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก อย่างมากก็เพียงหนึ่งล้านคน ซึ่งเป็นเหมือนกับหยดน้ำในมหาสมุทรก็ว่าได้

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มีประสบการณ์อันข่มขื่นอย่างเช่นกลุ่มผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น แน่นอนว่าไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับตนเอง หนำซ้ำยังคิดว่ากลุ่มคนเหล่านี้ทำการใส่ร้ายและพูดจาต่างๆนาๆทำให้เจ้าอู่ตี่นี่เสื่อมเสีย ซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุอันควร

หากไม่มีใครพูดคำเหล่านี้ออกมา พวกเขาก็คงจะไม่รู้สึกอะไร ทว่าเมื่อมีบางคนที่เริ่มต้นแสดงความเห็นที่แตกต่างออกมานั้น พวกเขาก็เหมือนกับได้พบเสาหลักก็ว่าได้ เกาะตามเสานี้ไปอย่างกะทันหัน

ทว่าเมื่อเห็นข้อความเหล่านี้ ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นก็โมโหอย่างมาก

“กองทัพน้ำลาย เจ้าพวกคนเหล่านี้จะต้องเป็นกองทัพน้ำลายของเจ้าอู๋ตี่อย่างแน่นอน ทุกๆคนไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามหลงเชื่อคำพูดของพวกเขาเด็ดขาด อย่าหลงกลพวกเขา”

“สิ่งที่เรียกว่ารกลับตัวกลับใจนั้นเป็นเรื่องที่โกหก เป็นการพูดให้หลงเชื่อ แม้แต่สุนัขก็ไม่ได้เปลี่ยนไปกินอุจจาระ? การที่เขาได้ตีพิมพ์หนังสือขึ้นมานั้น ไม่ใช่เพื่อที่จะกลับตัวกลับใจและไม่ได้คิดที่จะทำคุณงามความดีต่อสังคม ทว่าเป็นเพื่อการแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

“ใช่ หากไม่ได้ลงโทษเจ้านักต้มตุ๋นนี่ ทว่าปล่อยให้เขากลายเป็นคนดัง ผันตัวกลายเป็นอาจารย์นั้น เมื่อระยะเวลาที่ผ่านไปนั้น ความยุติธรรมในสังคมนี้ก็คงจะไม่มีเหลืออยู่!”

“หากเขาต้องการที่จะกลับตัวกลับใจจริงๆ ก็คืนเงินที่ได้ฉ้อโกงพวกเรากลับมา บอกให้เจ้าบัดซบนั่นคืนเงินที่ได้ฉ้อโกงพวกเรากลับมา หากเป็นเช่นนี้ พวกเราก็จะเชื่อเขา จะไม่ต่อต้านเขาอีกอย่างแน่นอน”

ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นต่างก็ทำการโต้แย้งกับไอดีปลอมอย่างต่อเนื่อง พวกเขาคิดว่านี่จะต้องเป็นกองทัพน้ำลายของอู๋ตี่อย่างแน่นอน พยายามที่จะเปลี่ยนความคิดของสาธารณะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการใช้วิธีการที่ชาญฉลาด

“การคืนเงินนั้นเป็นไปไม่ได้ นี่เป็นเงินที่พวกเจ้าได้มอบให้เขาเอง ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็เกิดจากความโง่เขลาของพวกเจ้า”

“พูดถูก นี่คือสิ่งที่เรียกว่าผิดเป็นครู ใครใช้ให้พวกเจ้าโง่เขลากัน ไม่อย่างนั้นจะถูกหลอกลวงเช่นนี้ได้อย่างไร”

“นี่ นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าภาษีไอคิว ตอนนี้จ่ายไป หลังจากนี้จะได้ไม่ถูกหลอกลวงอีก”

“จากบางมุมมอง ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะต้องรู้สึกขอบคุณอู๋ตี่ด้วยซ้ำ หากไม่ได้เขาที่ให้บทเรียนกับพวกเจ้า หลังจากนี้ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะเผชิญกับความสูญเสียที่มากแค่ไหน”

“ทำได้แค่กล่าวโทษตนเองที่โง่เขลาเท่านั้น ไม่สามารถที่จะใช้สมองคิดได้ อย่าทำเหมือนว่าต้องการโทษดาวเคราะห์เพราะว่ามีแรงโน้มถ่วงเช่นนี้”

ไอดีปลอมต่างก็พูดจาดูถูกถากถางออกมาอย่างโหดร้าย

อะไรนะ?!

ผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นที่เห็นคำเหล่านี้ พวกเขาก็โมโหอย่างมาก ปอดเกือบที่จะระเบิดออกมา ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจกันยิ่งนัก

หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำสงครามน้ำลายกันอย่างต่อเนื่อง ตอบโต้กันนับแสนข้อความ บรรพบุรุษต่างๆก็ถูกเอ่ยออกมา คำหยาบคายปรากฏให้เห็นมากมาย ซึ่งท้ายที่สุดนั้นไอดีจำนวนมากก็ถูกแบนไปและถูกห้ามไม่ให้ล็อกอินเข้ามาเป็นระยะเวลาสามเดือน