ตอนที่ 228 ความโง่ถือเป็นอาชญากรรม (2) / ตอนที่ 229 ตั้งแต่นี้ไป เธอเป็นแฟนฉันแล้ว (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 228 ความโง่ถือเป็นอาชญากรรม (2)  

 

 

“ความโง่ถือเป็นอาชญากรรม! ฉันไม่ต้องการให้เธอมาตัดสินให้ฉันว่าสิ่งไหนดีสำหรับฉันและมาตัดสินแทนฉันแบบนี้!” น้ำเสียงเซิ่งอี่เจ๋อนั้นเด็ดขาดจนแทบจะตัดกระดาษได้ “ฉันรู้จักร่างกายตัวเองดีกว่าใคร ยิ่งเรื่องการแข่งบาสเกตบอลแล้ว ฉันต้องเป็นคนตัดสินใจเองว่าฉันจะลงแข่งหรือไม่ ไม่ใช่เธอ!” 

 

 

น้ำตาหน่วงคลอในดวงตาของอันซย่าซย่าทันที 

 

 

เธอรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดในห้องและเธอก็พยายามสุดความสามารถที่จะทำให้สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเขา แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาดันกลายเป็นคำปฏิเสธ 

 

 

เธอผิดอย่างนั้นหรือที่ต้องการดูแลเขาบ้าง 

 

 

หญิงสาวไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกแล้ว หากได้ยินเซิ่งอี่เจ๋อพูดมาอีกคำ เธอจะต้องร้องไห้แน่ๆ 

 

 

เธอเดินไปยังจุดรอรถและขึ้นรถบัสกลับบ้านโดยไม่พูดไม่จา 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยืนค้างอยู่ที่เดิม กำและคลายหมัดของเขาซ้ำๆ ก่อนจะเดินขึ้นรถไป 

 

 

สารถีวัยกลางคนลังเลที่จะพูด เขาต้องการจะโน้มน้าวเซิ่งอี่เจ๋อแต่ก็กลัวว่าเขาจะต้องตกงาน สุดท้ายเลยเลือกที่จะไม่พูดอะไร 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อดูจะอ่านเขาได้ขณะที่เขาเอ่ยอย่างไม่แยแส “ตามรถบัสไป” 

 

 

สารถีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก็ไม่ได้แย่นี่นา ถึงแม้จะทะเลาะกันแต่คุณชายน้อยก็ยังห่วงคุณหนูอันอยู่ดี! 

 

 

– 

 

 

บนรถบัส 

 

 

วันนี้คนขึ้นรถบัสเยอะมาก แทบจะไม่มีที่ให้ยืนฉะนั้นก็อย่าหวังว่าจะมีที่นั่งเลย 

 

 

ในที่สุดอันซย่าซย่าก็ได้ที่ยืน เธอเอื้อมมือไปจับที่จับด้านบนก่อนจะนึกถึงเรื่องที่เธอทะเลาะกับเซิ่งอี่เจ๋อในหัว 

 

 

ทำไมเขาถึงโกรธนักนะ… หรือว่าเธอไปหยามศักดิ์ศรีเขา 

 

 

อันซย่าซย่าเชื่อว่าเธอมีเจตนาดีแต่แค่เลือกใช้ผิดวิธีเท่านั้น 

 

 

อืมมม… หรือว่าเธอควรลองอธิบายเมื่อไปถึงบ้านแล้วดีนะ 

 

 

ระหว่างที่รถบัสขับไปเรื่อยๆ ผู้ชายสวมแว่นตาคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ อันซย่าซย่าเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อไม่มีใครมอง เขาก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้อันซย่าซย่า 

 

 

ตอนแรกอันซย่าซย่าคิดว่าในรถนั้นคนแน่นเลยเธอเลยขยับไปด้านข้างเล็กน้อย แต่ผู้ชายสวมแว่นคนนี้กลับตามเธอมาและเอื้อมมือจับต้นขาของเธอ 

 

 

อะไรเนี่ย เธอกำลังถูกลวนลามงั้นหรือ 

 

 

อันซย่าซย่าตะโกนขึ้น “ขอโทษนะคะลุง ใช่มือลุงหรือเปล่าที่จับต้นขาหนูอยู่” 

 

 

ผู้โดยสารคนอื่นหันมามองพวกเขาหลังจากที่เธอพูดจบ 

 

 

ผู้ชายสวมแว่นตกใจแต่ก็โต้กลับทันที “รถบัสคนเยอะจะตายแล้วฉันก็เบียดเธอเพราะว่าคนดันฉันมาเท่านั้น เธอพูดว่าฉันทำอะไรนะ ฉันดูเหมือนคนที่สนใจเด็กมัธยมต้นที่ไม่มีทรวดทรงงั้นเหรอ” 

 

 

อันซย่าซย่ามั่นใจว่าเขาต้องเป็นพวกช่ำชองแน่ๆ หลังจากได้ยินคำพูดไร้ยางอายนี้ 

 

 

“ก่อนอื่นเลยนะ คนต้องเยอะขนาดไหนกันที่ลุงจะมาบีบต้นขาหนูได้ อย่างที่สอง หนูอยู่มัธยมปลายไม่ใช่มัธยมต้น! อย่างสุดท้ายนะไอ้โรคจิต! ไปลงนรกไป!” 

 

 

ผู้ชายใส่แว่นคนนั้นโมโหเพราะความอับอายและด้วยคำกล่าวหาซึ่งๆ หน้าของหญิงสาว เขาสวนกลับด้วยคำด่า “ยัยสำส่อน! ยัยร่าน!” 

 

 

อันซย่าซย่าจะไม่ยอมเด็ดขาด เมื่อก่อนเธอเคยเป็นแชมป์นักเลงคีย์บอร์ด หญิงสาวเตะผู้ชายคนนั้นทันทีและไปโดนที่นั่งใกล้ๆ เข้าให้ 

 

 

ผู้โดยสารคนอื่นตะโกนด้วยความรังเกียจ “ไปหาเรื่องกันที่อื่นไป! ฉันได้ยินมาพอแล้ว! ฉันจะไม่ฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้หลังจากที่ทำงานมาทั้งวันหรอกนะ” 

 

 

อันซย่าซย่าโกรธมากจนหน้าแดง ทันใดนั้นคนขับก็จอดรถบัสและพูดผ่านลำโพง “คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงด้านหลังกรุณาเคารพกฎการขนส่งสาธารณะแล้วช่วยลงจากรถด้วย!” 

 

 

อันซย่าซย่าจำใจต้องลงรถมากับผู้ชายใส่แว่น 

 

 

พอลงรถมาแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็แยกเขี้ยวใส่และผลักอันซย่าซย่า 

 

 

ด้านในรถพอร์ชที่จอดไม่ไกลมากนัก เซิ่งอี่เจ๋อสั่งคนขับรถด้วยน้ำเสียงข่ม “ลุงหวัง ขับรถชนผู้ชายคนนั้นเลย!” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 229 ตั้งแต่นี้ไป เธอเป็นแฟนฉันแล้ว (1)  

 

 

คนขับรถวัยกลางคนตกใจเล็กน้อยกับคำสั่งที่ได้รับแต่ก็ปฏิบัติตามอยู่ดี เขาเหยียบคันเร่งและพุ่งตรงไปยังผู้ชายสวมแว่นตาคนนั้น! 

 

 

ไอ้หนุ่มเพิ่งผลักคุณอันต่อหน้านายน้อยไป เขาสมควรโดนแล้ว! 

 

 

เมื่อเห็นอันซย่าซย่าล้มลงบนพื้น ผู้ชายคนนั้นก็เหยียดยิ้มน่าขนลุกให้เธอพร้อมเอ่ย “ครั้งหน้าก็แค่เพลิดเพลินขณะที่ฉันมอบ’ ความรัก’ ให้เธอก็พอ” 

 

 

อันซย่าซย่ามุ่ยหน้าด้วยความเจ็บและความโมโห 

 

 

ผู้ชายสวมแว่นเยาะเย้ยเธอและตั้งใจจะทิ้งเธอไว้อย่างนั้น ขณะนั้นเองก็มีรถหรูราวกับค้างคาวจากนรกขับพรวดมาชนเขา แม้ว่าคนขับรถจะเบรกทันแต่รถก็กระแทกร่างเขาอยู่ดี 

 

 

ใบหน้าเขาบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดทันทีที่ร่างกายปะทะกับพื้น ถึงแม้ไม่ได้บาดเจ็บมากแต่ก็เจ็บอยู่ดี! 

 

 

“เฮ้ย! แกขับรถชนฉันนะ! แกจะต้องชดใช้! ฉันต้องการค่าสินไหมทดแทนโว้ย!” ผู้ชายคนนั้นร้องตะโกน พยายามใช้โอกาสนี้เรียกเอาเงิน คนขัยรถวัยกลางคนในชุดสูทสุภาพลงจากรถมาพร้อมพูดจาห้วนๆ “อยากตายหรือไง ถึงกล้ามาขวางทางนายน้อยแบบนี้” 

 

 

ชายคนนั้นหดคอกลับทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงของคนขับ เขาหันไปมองป้ายทะเบียนรถ “หกหกหกแปดแปดแปด” 

 

 

เขาสูดหายใจเข้า ให้ตายสิ เขาหาเรื่องผิดคนเสียแล้ว! 

 

 

“ข- ขอโทษครับ ผมไม่มองรถเอง โฮะๆ …” เขาขอโทษอย่างประจบประแจง ลืมเรื่องค่าสินไหมไปได้เลย ตอนนี้เขาห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองมากกว่าเสียอีก! 

 

 

“ฮึ่ม เมื่อครู่ผมเหมือนได้ยินคุณพูดถึงค่าสินไหมนี่นา เอาแบบนี้ไหม เราลองโทรหาตำรวจจราจรดูจะได้รู้ว่าคุณต้องจ่ายค่าเสียหายให้รถเราเท่าไรแทน!” คนขับรถยืนตัวตรงพร้อมขู่คนตรงหน้า 

 

 

ชายสวมแว่นร้องออกมา “ไม่เอาครับ ไม่จำเป็นหรอก! ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ!” 

 

 

“แล้วทำไมคุณยังอยู่ตรงนี้อยู่อีก” 

 

 

“ไปแล้วครับ!” ชายสวมแว่นรีบลุกขึ้นและลนลานออกไปทันที 

 

 

สารถีช่วยพยุงอันซย่าซย่าขึ้นมา “คุณหนูอันเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” 

 

 

อันซย่าซย่าฝืนยิ้มออกมาแม้จะยังเจ็บอยู่ก็ตาม “ไม่เป็นไรค่ะ… เออ ทำไมลุงหวังถึงมาอยู่ที่นี่ได้คะ” 

 

 

“อ๋อ… ผมมารับนายน้อยน่ะครับ! เออ คุณหนูอันบาดเจ็บอยู่ ขึ้นรถเถอะครับเดี๋ยวผมพาไปโรงพยาบาลเอง!” คุณลุงรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะพาอันซย่าซย่าไปที่รถ 

 

 

แอร์ในรถยังเปิดอยู่จึงทำให้อุณหภูมิเย็นสบาย 

 

 

อันซย่าซย่านั่งลงข้างเซิ่งอี่เจ๋อและกระแอมออกมาอย่างอึดอัด 

 

 

“เซิ่งอี่เจ๋อ ทำไมวันนี้นายขับมาไกลจัง ฉันไม่เห็นว่ามีรถติดที่ไหนเลย” อันซย่าซย่าถามอย่างงุนงง 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อตอบกลับอย่างเฉยเมยหลังจากเงียบไปสักพัก “วันนี้เราขับช้าๆ เพราะฉันจะชมวิวด้านนอก มีปัญหาหรือไง” 

 

 

“ไม่มีหรอก!” จะมีได้ยังไงกันล่ะ! 

 

 

คนขับรถเกือบเหงื่อตกเพราะความลำบากใจ นายน้อย คุณสั่งให้ผมขับรถพอร์ชช้าๆ ก็เพื่อจะตามรถบัสคุณหนูอันนะครับ คุณชายลืมไปแล้วหรือ มันยากมากเลยนะครับ!  

 

 

“แล้วทำไมเธอถึงลงตรงนี้ แล้วบาดเจ็บมากไหม” เซิ่งอี่เจ๋อมองเธอ 

 

 

อันซย่าซย่าเขินขึ้นมา “ฉันไม่เป็นไร พอดีฉันแค่ล้ม ฉันไม่ได้อ่อนแอหรอกนะ… ที่ฉันลงตรงนี้ก็เพราะว่าผู้ชายคนนั้นเป็นโรคจิตชอบลวนลามน่ะสิ! แต่เขาไม่ทันได้ทำอะไรหรอก ฉันด่าเขาแล้วคนขับรถบัสก็ไล่พวกเราลงมา…” 

 

 

ม่านตาเซิ่งอี่เจ๋อหดลงทันทีในขณะที่เขากัดฟันตัวเอง 

 

 

ให้ตายสิ ไอ้ผู้ชายคนนั้นรอดง่ายไป แค่โดนรถชนล้มมันยังไม่สาหัสพอ! 

 

 

พอเห็นรังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากเซิ่งอี่เจ๋อ อันซย่าซย่าก็ตัวสั่นขึ้นมาเพราะคิดว่าเขากำลังโกรธเธอ 

 

 

อันซย่าซย่าโตมากับการยอมรับผิดโดยไม่ลังเล เธอกุมหัวเล็กๆ ของตัวเองเอาไว้ “เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันผิดเองแหละ อย่าโกรธเลยนะ…” 

 

 

“อ้อเหรอ” เซิ่งอี่เจ๋อประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจพูดจาถากถาง “งั้นบอกมาหน่อยว่าเธอทำอะไรผิดบ้าง”