แดนนิรมิตเทพ บทที่ 387
สีหน้าของเจิ้งหยวนฮ่าวและคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เรื่องที่ฟางหยู่ฉิงอ่อนน้อมถ่อมตนต่อหน้าเฉินโม่นั้นช่างเถอะ แต่ลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจของตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง กลับแสดงความเคารพเฉินโม่มากขนาดนี้!

มันเป็นเพราะอะไรกันแน่!

อานเข่อเยว่มองเฉินโม่ด้วยสายตาซับซ้อน “เฉินโม่ ที่แท้นี่คือสิ่งที่ทำให้นายจองหอง เป็นแขกผู้มีเกียรติของลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจของตระกูลจินแห่งฮ่านหยาง อย่างไรมันก็นี่ไม่ใช่ความสามารถของนายเอง ถ้านายถูกตระกูลจินทอดทิ้ง นายก็จะไร้ค่า”

จินเพ่ยอวิ๋นมองเฉินโม่ และกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณเฉิน เชิญไปนั่งตรงที่นั่งวีไอพีโซนด้านหน้าเถอะ!”

ฟางหยู่ฉิงโบกมือเป็นสัญญาลักษณ์เชิญ “คุณเฉิน เชิญค่ะ!”

เฉินโม่เหลือบมองผู้หญิงสองคนด้วยสีหน้าราบเรียบ และกล่าวเสียงน้ำเสียงเย็นชา “ต่อไปอย่าเล่นกลอุบายต่อหน้าฉัน ถ้ามีครั้งต่อไป ก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่รักษาน้ำใจ”

จินเพ่ยอวิ๋นและฟางหยู่ฉิงตกตะลึงพร้อมกัน ดวงตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความตกใจ

“คุณเฉิน โปรดให้อภัยด้วย!”

จินเพ่ยอวิ๋นและฟางหยู่ฉิงก้มหน้าด้วยความละอาย สีหน้าเต็มไปด้วยความกลัว

มองแล้วเหมือนพวกเธอสองคนจะแตกหักกับเย่เทียนหนิงแต่ความจริงแล้ว เพราะพวกเธอรู้ถึงความพลังความแข็งแกร่งของเฉินโม่ หากเย่เทียนหนิงยั่วยุจนเฉินโม่โกรธ เขาอาจจะตายทันที

การที่พวกเธอสองคนทำเช่นนั้น ความจริงแล้วพวกเธอกำลังปกป้องเย่เทียนหนิงอยู่

พวกเธอคิดว่าเฉินโม่มองไม่ออก แต่นึกไม่ถึงว่าเฉินโม่จะรู้ทุกอย่าง

ท่ามกลางฝูงชน คนดังบางคนเหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แสดงออกมาทางสีหน้าอย่างกะทันหัน

“ตระกูลจินกับตระกูลฟางแห่งชิ่งหยาง และตระกูลเย่มีความสัมพันธ์ที่ดีเสมอมา ว่าแล้วเชียวทำไมวันนี้ถึงแตกหักอย่างไร้ความปรานี ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”

“เพียงแต่ ชายหนุ่มคนนี้มีภูมิหลังอย่างไร? ลูกสาวที่น่าภูมิใจของตระกูลจินและตระกูลฟางถึงกับใช้กลอุบายเช่นนี้เพื่อปกป้องเย่เทียนหนิง!”

มู่หรงยานเอ๋อร์ยังคงมึนงง ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของเฉินโม่ เธอรู้สึกว่าจินเพ่ยอวิ๋นกับฟางหยู่ฉิงช่วยเฉินโม่ เฉินโม่ไม่ควรปฏิบัติต่อพวกเธอเช่นนั้น

ด้วยความเห็นอกเห็นใจระหว่างผู้หญิง มู่หรงยานเอ๋อร์กระซิบว่า “เฉินโม่ เมื่อสักครู่พวกหล่อนช่วยนาย แล้วนายจะปฏิบัติต่อพวกหล่อนเช่นนั้นได้อย่างไร?”

เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อยและไม่ได้อธิบาย มู่หรงยานเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับแผนอุบายเหล่านี้ ให้เธอเป็นคนไร้เดียงสาต่อไปเถอะ!

“ไปกันเถอะ พวกเราไปนั่งด้านหน้ากัน” เฉินโม่กล่าว

“โอเค!” มู่หรงยานเอ๋อร์พยักหน้าอย่างมีความสุข

ขณะนี้ ชายวัยกลางคนที่สง่างามเดินออกมาจากด้านหลังฝูงชน และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ยานเอ๋อร์ กลับมา!”

เกิดความโกลาหลกลางฝูงชนอย่างกะทันหัน มีคนจำสถานะตัวตนของผู้ชายคนนี้ได้

“มู่หรงเค่อแห่งเจียงหนาน!”

“เขามาจริงๆ ด้วย!”

“หญิงสาวคนนี้เป็นลูกสาวมู่หรงเค่อจริง ๆ!”

ดินแดนทางใต้มีคำกล่าวไว้ว่า เจียงเป่ยกู้เฟิง เจียงหนานมู่หรง

มู่หรงในที่นี้หมายถึงมู่หรงเค่อ

มู่หรงเค่อ พ่อของมู่หรงยานเอ๋อร์ วีรบุรุษรุ่นหนึ่งของตระกูลมู่หรงแห่งเจียงหนาน ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ของนายท่านมู่หรงแล้ว ทำให้มู่หรงเค่อได้รับผลกระทบด้วย ชื่อเสียงของมู่หรงเค่อจะโด่งดังยิ่งขึ้นไปอีก

“ขอคารวะ คุณมู่หรง!”

กลุ่มคนดังต่างกล่าวทักทาย ซึ่งการทักทายนี้แตกต่างจากการทักทายฟางหยู่ฉิง เพราะเมื่อสักครู่พวกเขาทักทาย ฟางหยู่ฉิงอย่างเท่าเทียมกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมู่หรงเค่อ พวกเขาทั้งหมดให้ความเคารพมาก

จินเพ่ยอวิ๋นและฟางหยู่ฉิงโค้งคำนับเช่นกัน “ขอคารวะ คุณมู่หรง!”

“ไม่ต้องเกรงใจ” มู่หรงเค่อพยักหน้าเบา ๆ เดินไปอยู่ตรงหน้ามู่หรงยานเอ๋อร์ ซึ่งทำให้ผู้คนไม่รู้สึกถึงความเย่อหยิ่ง

“คุณพ่อ!” มู่หรงยานเอ๋อร์เรียกพ่อตนเอง จากนั้นเหลือบมองเฉินโม่ด้วยท่าทางเขินอาย “เฉินโม่ คนนี้คือคุณพ่อของฉัน”

เฉินโม่มองมู่หรงเค่อด้วยท่าทางราบเรียบ ไม่ถ่อมตัวและไม่หยิ่ง “สวัสดีครับ!”