บทที่ 238 มองพอหรือยัง

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

“มองพอหรือยัง”
“เอ๋ อาา!!” ในที่สุดเส้นหมี่ก็รู้ตัว ใบหน้าเล็กๆที่ซีดเซียวของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เธอหันหนีทันที และฝังตัวเองอยู่บนเตียงอีกครั้ง
น่าขายหน้าชะมัด!
ขณะที่คนข้างหลังยิ้มออกมา
เขากระตุกริมฝีปาก ดวงตาที่สวยงามจ้องมองเธอ ริมฝีปากเผยยิ้มอันสวยงามหลังจากเห็นท่าทางเขินอายของเธอ “ด้วยการแสดงออกที่ดีของคุณ ผมยอมให้คุณออกจากโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้”
“จริงหรอ”
ผู้หญิงที่เหมือนคนโง่กลับมาอีกครั้ง
แสนรักเลิกคิ้วและพูดว่า “จริง ผมจะมาทำเรื่องพรุ่งนี้ วันมะรืนเป็นวันขึ้นปีใหม่พอดี คุณจัดเตรียมที่บ้านหน่อยนะ ผมไม่มีเวลา”
สองสามประโยคนี้ผลักเรื่องนั้นใส่เส้นหมี่อีกครั้ง
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเส้นหมี่จะมีความสุขมาก
กว่าชายคนนี้จะเป็นมิตรกับเธอมันหายากมาก นับประสาการมอบหน้าที่ให้เธอ เมื่อก่อนเขามอบงานบ้านให้เธอ และเธอก็มีความสุขมาก
แต่ตอนนี้….
เส้นหมี่มองไปที่ชายที่ดูอ่อนโยนคนนี้ และในที่สุดเธอก็พลิกตัวและลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง
“ฉันหิว”
“หิวหรอ คุณไม่ได้บอกว่าคุณกินแล้วเหรอ”
แสนรักที่กำลังดูเวชระเบียนในมือ เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาคู่สวยสีดำราวกับหยกก็เหลือบขึ้นด้วยแววตาเหลือเชื่อมาก
เส้นหมี่มองไปทางอื่นด้วยความลำบากใจ
“ฉันกำลังพูดถึง…อาหารกลางวัน”
เสียงของเธอนุ่มนวลขึ้น เหมือนกับแมวตัวเล็กๆ และคำพูดเหล่านั้นก็แสดงความอ่อนแอเหมือนยังไม่หายดี ทำให้หัวใจของแสนรักสั่นไหวโดยทันที
ท่าทางออดอ้อนน่าสงสารแบบนี้หายาก
ในที่สุดเขาก็ไม่พูดอะไร และหยิบมือถือขึ้นมาโทรสั่งอาหาร
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เส้นหมี่ก็เห็นคนส่งอาหารยืนอยู่หน้าประตู โดยในมือมีอาหารเต็มสองกล่องใหญ่
นี่คืออะไร
เธอกินคนเดียว ต้องสั่งมากขนาดนี้เลยหรอ
เธอมองไปยังชายที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความประหลาดใจ “คุณสั่งมาเยอะมาก ฉันจะกินหมดได้ยังไง”
“ใครบอกว่าคุณกินข้าวคนเดียว ผมไม่ใช่คนหรอ”
แสนรักนั่งขัดสมาธิบนโซฟา นิ้วยาวพิมพ์บนโน๊ตบุ๊คอย่างรวดเร็ว พลางตอบอย่างไม่ใส่ใจ
เส้นหมี่ยิ่งประหลาดใจ!
เขากินด้วยเหรอ
ไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องกินไม่กิน แต่ประเด็นคือเขาจะกินในที่แบบนี้ได้ยังไง!!
แถมยังกินกับเธอ!
เส้นหมี่เบิกตากว้าง คิดว่าเธอได้ยินผิด
แสนรักไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน และในที่สุด ดวงตาของเขาที่จ้องหน้าจอโน๊ตบุ๊คจึงมองมา “ทำไมหรอ”
เส้นหมี่ “…”
สักพักเธอก็ฝืนส่งเสียงออกมา และเดินไปหยิบกล่องอาหารกลางวัน “เปล่า ถ้างั้น มากินข้าวด้วยกันเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”
“เข้าใจแล้ว ขอตอบอีเมลนี้ให้เสร็จ”
แสนรักก้มศีรษะลงอีกครั้ง และทำงานต่อไป
เส้นหมี่กลืนน้ำลายลงเมื่อเห็นแบบนั้น และในที่สุดเธอก็ยอมรับมัน
สิ่งนี้ทำให้เธอประหลาดใจจริงๆ
เธอบอกว่าเธอหิวแล้ว ก็เพื่อจะให้เขาอยู่นานอีกหน่อย ไม่คิดว่าเขาจะกินข้าวเป็นเพื่อน ไม่คิดว่าตัวเองจะมีเกียรติขนาดนั้น
เส้นหมี่ หยิบกล่องอาหารกลางวันออกมา
จากนั้นเส้นหมี่ก็พบว่าชายคนนี้รวย มีกันแค่สองคน แต่เขาสั่งมาเยอะมาก นอกจากจานเนื้อสี่จานแล้ว ยังมีเครื่องเคียงอีกสองจาน อาหารหลักคือ ข้าวต้ม บะหมี่ ซุป และข้าว…
เขาทำอะไรอยู่
เส้นหมี่ มองไปที่ชายคนนั้นอีกครั้ง “คุณสั่งมาเยอะเกินไป เราสองคนกินไม่หมดหรอก”
“ถ้ากินไม่หมดก็ทิ้งไป จะกินข้าวยังต้องมาคิดว่ากินหมดไหมอีก เส้นหมี่ไม่รู้สึกว่าคุณใช้ชีวิตเหนื่อยมากหรอ”
น้ำเสียงออกคำสั่งตามแบบฉบับของประธานตึกหิรัญชากรุ๊ปเป๊ะ!
เส้นหมี่ถอนหายใจ และทำได้เพียงนั่งลง
หลังจากนั้นไม่นานแสนรักก็ทำงานเสร็จ เขาลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปที่โต๊ะเล็กๆพร้อมนั่งลงตรงข้ามเส้นหมี่
เส้นหมี่ “อยากกินอะไร มีข้าวต้ม บะหมี่ ซุป…”
“นั่นให้คุณกิน คุณป่วยอยู่ต้องกินของเบาๆ” ชายหนุ่มพูดประโยคนั้นเบาๆ แล้วนำชามข้าวมา
ทันทีที่พูดจบ เส้นหมี่ที่คีบบะหมี่กำลังจะใส่ปากก็นิ่งค้างทันที
เธอฟังผิดหรือเปล่า ทั้งหมดนี้สั่งให้เธอหรอ
ทำไม
เมื่อไหร่ที่เขาเปลี่ยนเป็นมีน้ำใจอย่างนี้ ที่ผ่านมาเขามักจะเสียดสี อยากจะฆ่าเธอด้วยประโยคเดียวไม่ใช่หรือ
เขาสนใจเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
เส้นหมี่รู้สึกว่าเรื่องนี้น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอยังมีความสุขมากเมื่อได้ยิน
ดังนั้นเธอจึงตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และพบว่าเขาเริ่มด้วยชามข้าวจริงๆเท่านั้น ไม่ได้แตะต้องอย่างอื่นเลย เธอจึงเอาซุปที่เธอต้องการจะดื่มแต่แรกกลับมา
แสนรัก “…”
โง่เป็นบ้า!
ทั้งสองกินกันไปพักหนึ่ง บรรยากาศที่น่าอึดอัดนั้นก็หายไป และในที่สุดก็เริ่มบทสนทนาตามปกติ
“เด็กๆอยู่ที่บ้านเป็นยังไงบ้าง”
“ดีค่ะ คุณไม่อยู่ พวกเขาเชื่อฟังฉันมาก”
แสนรักกินไปพลางถามไป
เด็กสามคนนี้ค่อนข้างเชื่อฟังมากในช่วงสองวันที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นห่วงหม่ามี๊ แต่พวกเขาก็เชื่อฟังมาก ตั้งแต่เขาสัญญากับพวกเขาว่าจะพาหม่ามี๊กลับมาในสภาพที่สมบูรณ์ พวกเขาก็เชื่อฟังตลอด