ตอนที่ 893 ไหน้ำส้มสายชูคว่ำ
เมื่ออวี๋เยว่หานที่กำลังสวมเสื้อโค้ทได้ยินที่ผู้ช่วยรายงานก็ชะงักการเคลื่อนไหวทันที ยื่นมือรั้งเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังจะออกไปพร้อมกับพูดด้วยเสียงอึมครึม
“นายว่ามาจากไหนนะ?”
“เจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ครับ! ทีแรกผมก็ไม่เชื่อจึงให้ทางธนาคารตรวจสอบดูอีกครั้ง แต่ก็พบว่ามาจากเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์จริงๆ ครับ!” ผู้ช่วยตอบด้วยความมั่นใจ
อวี๋เยว่หานรูม่านตาหด นัยน์ตาสะท้อนรังสีอันตราย
ถ้าเขาจำไม่ผิด เจิ้งเหยียนคือคนที่บอกที่อยู่บ้านประจำตระกูลถานให้กับพวกเขาในตอนแรก
ทว่าตอนนี้กลับพบว่าบัญชีชำระเงินของคนที่ซื้อตัวกุ้ยจื่อเพื่อสะกดรอยตามถานเปิงเปิงและคนที่ทำร้ายเหนียนเสี่ยวมู่นั้นมาจากเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์…
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าพวกเขาไปเมือง N ซึ่งพอดีว่าเจิ้งเหยียนก็เป็นหนึ่งในนั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะบ้านประจำตระกูลถานมีคนคอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลา ก็มีเพียงคนเดียวที่รู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขานั่นก็คือเจิ้งเหยียน
“รีบไปตรวจสอบความเคลื่อนไหวเจิ้งเหยียนเร็ว!” อวี๋เยว่หานสั่งการทันที
“ทำไมล่ะ? พวกเราจะไปบ้านประจำตระกูลถานไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณถึงให้คนไปตามเจิ้งเหยียน?” เหนียนเสี่ยวมู่ที่โดนเขารั้งหันไปมองเขาด้วยความงุนงง
อวี๋เยว่หานวางสายเสร็จก็เล่าเรื่องที่ผู้ช่วยเพิ่งตรวจสอบข้อมูลพบให้เธอฟัง
เหนียนเสี่ยวมู่ช็อก
ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรไปชั่วขณะ
ถ้ากุ้ยจื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจิ้งเหยียนจริง อย่างงั้นก็หมายความว่าเรื่องทั้งหมดในเมือง N ก็เป็นแผนการของเจิ้งเหยียนที่หลอกล่อให้พวกเขาไปที่นั่น…
“แต่จุดประสงค์ที่เจิ้งเหยียนทำถึงขนาดนี้คืออะไร? ฉันดูแล้วเธอก็ไม่ได้เหมือนคนเลวร้ายอะไรเลย” เหนียนเสี่ยวมู่พูดด้วยความสงสัย
จริงๆ แล้ววิธีการของเจิ้งเหยียนดูไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่
จากที่เหนียนเสี่ยวมู่ได้คบค้าสมาคมกับเธอ ถึงแม้จะรู้สึกได้ถึงความอันตราย แต่เหนียนเสี่ยวมู่ก็รับรู้ได้เช่นกันว่าเธอก็เป็นคนจริงใจคนหนึ่ง
เนื่องจากเธออยู่ในแวดวงธุรกิจที่ต่อสู้เชือดเฉือนกันโดยไม่เลือกวิธี ดังนั้นนี่น่าจะเป็นความเข้าใจผิดจากคนภายนอก
อวี๋เยว่หานหรี่ตาและพูดว่า
“ผมรู้จักเจิ้งเหยียนมานานกว่าคุณ ถ้าจะพูดถึงความเจ้าเล่ห์เธอก็มีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงอุบายที่ไร้พิษสง ส่วนเรื่องที่ทำร้ายคนจริงๆ ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย เราหาตัวเธอมาถามให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะไปเมือง N ดีหรือไม่”
-
ผับแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตมุมเมือง
ตกกลางคืน ป้ายไฟร้านที่หน้าประตูผับเริ่มสว่างไสว
เสียงเพลงที่อึกทึกครึกโครมจะได้ยินชัดเจนเมื่อเข้าใกล้ปากทางเข้าผับ
ผู้ช่วยจอดรถไว้ข้างทางและหันไปรายงาน “เจิ้งเหยียนเพิ่งกลับมาจากบ้านตระกูลเจิ้งวันนี้ครับ พอลงจากเครื่องปุ๊บก็ตรงมาที่ผับโดยไม่กลับโรงแรมเลยด้วยซ้ำ เธออยู่ข้างในมาหลายชั่วโมงแล้วครับ ตอนนี้ยังไม่ออกมา”
พอผู้ช่วยพูดเสร็จ อวี๋เยว่หานก็ลงจากรถ
จูงมือเหนียนเสี่ยวมู่เดินไปทางเข้าผับ
ดูก็รู้แล้วว่าผับแห่งนี้มีพื้นที่กว้างมาก
ป้ายไฟขนาดใหญ่แขวนไว้ในจุดที่เด่นชัดที่สุด ที่ตรงประตู คนเฝ้าประตูจะเปิดประตูกระจกทันทีที่มีแขกเข้ามา
เสียงเพลงอึกทึกครึกโครม
แสงไฟหลากสี
กระทบลงบนใบหน้าที่เยือกเย็นของอวี๋เยว่หาน เห็นท่าทางอกผายไหล่พึงของเขาเพียงลางๆ
ด้วยการรวมตัวของชายหล่อหญิงงาม ทันทีที่เข้ามาในผับก็สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ไม่น้อย
น้อยมากที่เหนียนเสี่ยวมู่จะมาเที่ยวผับ พอเข้าไปก็หันหน้ามองไปรอบๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อเห็นหนุ่มหล่อบาร์เทนเดอร์กำลังทำการแสดงผสมเหล้าที่เคาน์เตอร์บาร์ก็มีมือใหญ่ข้างหนึ่งมาบังตาเธอไว้
ตามมาด้วยเสียงเตือนอันเย็นเฉียบของอวี๋เยว่หาน “เหนียนเสี่ยวมู่ เรามาตามหาคน”
“ฉันก็กำลังหาอยู่นี่ไง!” เหนียนเสี่ยวมู่จับมือใหญ่พลางอธิบายแทนตัวเองด้วยอาการร้อนตัว
อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว “ใช้ใจที่อยากจะเลี้ยงดูหนุ่มหล่อตามหาหรือไง?
เหนียนเสี่ยวมู่ “o(╯□╰)o……”
เธอก็แค่มองหนุ่มหล่อที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนเพียงหน่อยเดียว ไหน้ำส้มสายชูก็คว่ำแล้วเหรอเนี่ย
ขณะที่อวี๋เยว่หานจูงมือเหนียนเสี่ยวมู่เดินตามหา ไม่นานก็เจอเจิ้งเหยียนนั่งดื่มเหล้าคนเดียวตรงที่นั่งหลบมุม
ตอนที่ 894 ไม่ได้อะไรติดตัวไปแม้แต่อย่างเดียว!
เธอสวมกระโปรงสั้นสุดเซ็กซี่ บวกกับการแต่งหน้าทาปากที่ทำให้หน้าดูสวยหยาดเยิ้มโดดเด่นขึ้นมา
ด้วยรูปร่างที่เย้ายวน เพียงแค่เธอพิงพนักแขนโซฟาด้วยท่าสบายๆก็สะกดใจคนได้เป็นพิเศษ
เธอนั่งอยู่ตรงมุมสุด ผู้ชายหลายคนที่อยู่โต๊ะด้านนอกต่างก็จับจ้องตาเป็นมัน เหมือนอยากจะเข้าไปชวนคุยแต่ก็รอให้เธอเมาก่อน…
ตรงหน้าเจิ้งเหยียนมีขวดเหล้าเปล่าอยู่หนึ่งแถว
ใบหน้าที่เมามายเล็กน้อยเริ่มแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ
คิดว่าถ้าดื่มอีกหน่อย เธอคงเมาไปแล้ว
ตอนที่อวี๋เยว่หานกับเหนียนเสี่ยวมู่เดินไปตรงหน้าเธอ เธอก็กำลังจะยกแก้วส่งเข้าปาก
หลังจากดื่มเหล้าหมดไปแล้วหนึ่งแก้วเพียงหนึ่งอึดใจ ก็วางแก้วลงอย่างแรง ปากยังคงก่นด่า “โง่เง่าเต่าตุ่น!”
“สารเลว!”
“ไม่เอาไหน!”
ไม่รู้ว่าคำด่าไม่กี่คำนั้นกำลังด่าใคร
พอด่าเสร็จก็ยื่นมือมาคว้าขวดเหล้าเพื่อเตรียมจะรินให้ตัวเอง
เมื่อเห็นสถานการณ์ดังนั้น ผู้ช่วยที่อยู่ข้างอวี๋เยว่หานก็รีบตะโกนเรียก “รองประธานเจิ้ง!”
“รองประธานอะไร? ที่นี่ไม่มีหรอก มีแค่สาวสวยกับสุรารสเลิศ นายจะดื่มซักแก้วไหม?” เมื่อเจิ้งเหยียนได้ยินเสียงผู้ช่วย เธอก็ตอบรับโดยไม่เงยหน้ามอง
รอจนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เอนหลังด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนสามคนยืนเรียงกันอยู่ตรงหน้าเธอ
เบิกตาโพล่ง
“พวกคุณมาได้ยังไงกัน? ทำไมไม่ให้สุ้มให้เสียงบ้าง นี่แสดงมายากลกันอยู่เหรอ?” ทันทีที่เจิ้งเหยียนพูดจบก็ยื่นมือไปจับเหนียนเสี่ยวมู่แล้วดึงมาข้างๆ เธอ หยิบแก้วเหล้ามาวางไว้ตรงหน้าเธอ
“พวกคุณมาก็ดีแล้ว ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่พอดี มาดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
ขณะที่พูดก็วางแก้วเหล้าไว้ตรงหน้าผู้ช่วยและอวี๋เยว่หาน
ไม่ต้องรอให้พวกเขาได้พูด เธอรินเหล้าไปก่อนสามแก้ว
“ยังไม่ต้องพูดอะไร ดื่มเหล้ากันก่อน ไม่อย่างงั้นก็ไม่คุย!” อันที่จริงเจิ้งเหยียนก็เมามาบ้างแล้ว พอเหนียนเสี่ยวมู่มานั่งข้างเธอ เธอก็ตัวอ่อนปวกเปียกพิงบนตัวเหนียนเสี่ยวมู่
มือยังเกาะไหล่เหนียนเสี่ยวมู่ไว้พลางพึมพำ
“เธอตัวหอมจัง มิน่าล่ะคุณชายหานถึงชอบเธอ พอฉันดมกลิ่นบนตัวเธอก็รู้สึกสบายใจ…”
“……”
พอเหนียนเสี่ยวมู่เห็นเธอในสภาพนี้ คำพูดที่อวี๋เยว่หานบอกว่าเจิ้งเหยียนชอบผู้หญิงในตอนแรกก็ผุดเข้ามาในหัวทันที หนาวสั่นไปทั้งตัว
พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นๆ แล้วพูดว่า
“ทำไมคุณถึงมาดื่มเหล้าย้อมใจที่ผับคนเดียวล่ะ?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจิ้งเหยียนก็เหมือนโดนสะกิดแผล
สักพักก็เงยหน้าขึ้น
“ยังจะมีอะไรอีกล่ะถ้าไม่ใช่เพราะโมโหน้องชายที่ไม่เอาไหนที่บ้าน…ถ้ามันเอาการเอางาน พี่สาวอย่างฉันก็คงไม่ไปแย่ง…กับมันหรอก”
“ฉันอุตส่าห์ทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายก็เพราะใคร? ถ้าไม่ใช่เพราะฉันคอยหนุนหลังอยู่ข้างนอก ตระกูลเจิ้งคงหายเกลี้ยงไปเพราะความไม่เป็นโล้เป็นพายของมันไปตั้งนานแล้ว!”
“ฉันเป็นพี่สาวมันแท้ๆ แต่มันกลับปล่อยข่าวลือข้างนอกไปทั่ว พูดว่าฉันลงมือโดยไม่เลือกวิธีก็แล้วไปเถอะ แต่มาพูดว่าฉันไปนอนกับลูกค้าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ…เสี่ยวมู่มู่ ไหนเธอบอกมาซิว่าทำไมฉันต้องทิ้งสมบัติของตระกูลไว้ให้คนสารเลวอย่างมันด้วย?”
“เป็นลูกผู้หญิงแล้วยังไง? ลูกผู้หญิงก็เป็นคนตระกูลเจิ้ง ฉันอยากจะให้ไอ้งั่งคนนั้นได้รู้ว่าถ้าพี่สาวอย่างฉันคนนี้ไม่ให้ทานมัน มันก็จะไม่ได้อะไรติดตัวไปแม้แต่อย่างเดียว!”
“……”
เมื่อเจิ้งเหยียนพูดมาถึงจุดเดือด ก็ยื่นมือมายกแก้วเหล้าแล้วดื่มจนหมด
ลากเหนียนเสี่ยวมู่มาคุยปรับทุกข์ได้สักพักก็สะอึกเหล้า พอมารู้ตัวอีกทีก็พูดว่า
“ทำไมฉันถึงต้องลากเธอมาพูดเรื่องนี้ด้วยเนี่ย เธอคงรำคาญแน่เลย…ใช่สิ พวกเธอมาได้ยังไง?”