ตอนที่ 215 การสร้างตัวตนอันล้ำเลิศ

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

ตอนที่ 215 การสร้างตัวตนอันล้ำเลิศ

“เจ้า!” สตรีนางนั้นรู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมาก นางลุกขึ้นยืนตะโกนใส่หน้าซูหวานหว่าน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าสามีของข้าเป็นใคร หากเจ้าไม่ยอมขายมันให้กับข้า ข้าจะใส่ร้ายเจ้า เจ้าคอยดูได้เลย!”

“เจ้าคงคิดว่าข้าไม่รู้ว่าสิ่งไหนที่เรียกว่าการใส่ร้ายป้ายสีงั้นสินะ ถึงต้องมาให้เจ้าสั่งสอน?” ซู หวานหว่านถอนหายใจ ยกจอกชาขึ้นจิบแล้วพูดอย่างใจเย็น “เจ้าใส่ผ้าคลุมหน้ามาเพื่ออะไร? ไม่ใช่ว่าหน้าของเจ้าพังไปแล้วงั้นหรือ?”

เมื่อซูหวานหว่านพูดออกมาแบบนี้ความโกรธภายในดวงตาของนางก็พลันมลายหายไป เพราะสิ่งที่ซูหวานหว่านพูดออกมานั้นถูกต้อง! ริมฝีปากสีแดงของซูหวานหว่านกระตุกเล็กน้อยและกล่าวออกมาว่า “เจ้ากล้าที่จะบอกความจริงกับสามีของเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่? ตอนนี้ใบหน้าของเจ้าพังไปหมดแล้ว หากสามีของเจ้ารู้เข้ายังคิดว่าเขาจะอยากเป็นสามีของเจ้าอยู่หรือไม่?”

คำพูดเหล่านี้ช่างบีบคั้นหัวใจนัก มันทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ส่วนคนอื่นก็ได้แต่นั่งอยู่เงียบ ๆ

หญิงคนนั้นครุ่นคิด นางหยิบเงินออกมาแล้วพูดว่า “ข้าจะซื้อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าในราคาขวดละหนึ่งตำลึง เจ้าจะว่าอย่างไร ชาดที่ข้าใช้ทั้งหมด ข้าจะใช้ของจากร้านเจ้า เจ้าจะว่าอย่างไร?”

เพียงแค่คำพูดแค่สองสามคำจะทำให้นางหายโกรธได้อย่างงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้! ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มเย็นชา “เจ้าลองพูดเอ่ยชมเชยเครื่องประทินโฉมร้านของข้าก่อนดีหรือไม่ หากข้ารู้สึกถึงความเลิศเลอ ข้าอาจจะให้เด็กที่ร้านเตรียมตัวและเปิดร้านขึ้นมาอีกครั้ง”

“เจ้า!” ซูหวานหว่านทำเกินไปแล้ว ยังจะให้พวกนางเอ่ยชมเครื่องประทินโฉมของนางอีก!

หญิงสาวเหล่านั้นลอบมองหน้ากันด้วยความตกใจ สุดท้ายพวกนางก็ต้องยอมอ่อนข้อ เอ่ยวาจาชื่นชมซูหวานหว่านและพูดยกย่องเครื่องประทินโฉมในร้านนาง แน่นอนว่าคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่คำพูดที่จริงใจ ซูหวานหว่านไม่อยากจะเก็บมันมาใส่ใจ กวาดสายตามองพวกนางอย่างไม่เต็มใจ “ช่างเถอะ! ในเมื่อพวกเจ้ากระตือรือร้นมากขนาดนี้ พรุ่งนี้ข้าจะเปิดร้านให้ก็ได้”

ซูหวานหว่านผายมือออกมา “ข้าขอบอกพวกเจ้าเอาไว้ล่วงหน้า พรุ่งนี้ข้าจะขายน้ำศักดิ์สิทธิ์จำกัดเพียงห้าสิบขวดเท่านั้น และข้าก็จะใช้วิธีการประมูลในการขายในครั้งนี้ เริ่มต้นราคาที่สองตำลึง พวกเจ้าก็อย่าลืมนำเงินมาให้เพียงพอล่ะ”

“อะไรนะ!” สตรีเหล่านั้นร้องออกมาด้วยความตกใจ ซูหวานหว่านกำลังพูดอะไร? จะประมูลมันอย่างงั้นหรือ อีกทั้งมีคนมากมายที่ใช้ของซูเสี่ยวเหยียน แน่นอนว่าใบหน้าของพวกเขาจะต้องพังเหมือนกัน! แต่กลับมีเพียงห้าสิบขวดเท่านั้น! มันจะต้องเกิดการแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งแน่!

หากมีเงินไม่ถึงสิบตำลึงจะไม่สามารถซื้อมันได้อย่างแน่นอน

วิธีการของซูหวานหว่านโหดร้ายเกินไป! ถึงแม้ว่าพวกนางจะโกรธมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่เดินกลับไปบ้านด้วยความคับข้องใจ

ซูหวานหว่านหน้าตาดูใจดีมีเมตตาแต่ใจคอดุร้ายโหดเหี้ยม ซุนฉางอานรู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก แต่โชคดีที่เขาไม่ใช่ศัตรูของนาง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่มีทางรู้ว่าจะตายแบบไหน!

ทันทีที่หญิงสาวพวกนั้นเดินจากไป ซุนฉางอานก็อดปรบมือไม่ได้ “มันวิเศษมาก! วิเศษมาก! ยอดเยี่ยมจริง ๆ! แม่นางเป่ยฉวนที่เจ้าทำขายเพียงห้าสิบขวด จะต้องได้กำไรกลับคืนมาอย่างมากมายแน่นอน”

ไม่ต้องพูดถึงการเปิดขายวันที่สองและวันที่สามเลย!

และก็เป็นไปตามที่ซูหวานหว่านได้คาดการณ์ นางขายติดต่อกันถึงเจ็ดวัน และได้เงินมาทั้งหมดหนึ่งหมื่นตำลึง

ซุนฉางอานรักและเทิดทูนซูหวานหว่านมาก ความรักของเขาที่มีต่อนางเป็นแบบไหนตอนนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้น อีกทั้งเขายังให้เกียรติซูหวานหว่านมากขึ้นกว่าเดิม

เป่ยฉวนเฟิงหลิวที่เพิ่งกลับมาจากการไปเที่ยวเล่นก็ได้รับการต้อนรับจากกลุ่มผู้คนมากมายบนท้องถนน เมื่อถามออกไปก็ทราบได้ว่าร้านเครื่องประทินโฉมของเขาได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างมากในตอนนี้ เป่ยฉวนเฟิงหลิวไม่ค่อยชอบให้คนพูดถึงเขาในด้านนี้เท่าไรนัก อีกทั้งยังไม่ชอบคุยโวขี้อวด ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยสนใจมันเท่าไร จึงมีข่าวลือว่าเป่ยฉวนเฟิงหลิวมีวิสัยทัศน์ที่ดีและมีภูมิหลังครอบครัวที่ดี มีคุณสมบัติที่ผู้ชายนั้นควรมีทุกประการ และเขาก็ได้กลายเป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคนในเมืองนี้ทันที

เป่ยฉวนเฟิงหลิวถูกหญิงสาวเดินห้อมล้อมอยู่บนถนน ร่างกายของเขาถูกเบียดเสียดจนเกิดความรู้สึกเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เมื่อหลุดพ้นออกมาได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในร้านเจวียเซ่อเพื่อจัดการกับคนก่อเรื่อง ซึ่งก็คือซูหวานหว่าน

เมื่อไปถึงและเจอเข้ากับซูหวานหว่าน เขาก็เอ่ยตำหนินางทันที หวังว่าเขาจะสามารถแลกเปลี่ยนภาพลักษณ์กับซูหวานหว่านได้ “ศิษย์น้อง เหตุใดเจ้าไม่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย แล้วให้ข้านั้นปลอมตัวเป็นเป่ยฉวนเฟิงอวิ๋นแทนเจ้าล่ะ เจ้าคิดว่าอย่างไร?

นางไม่ต้องการถูกผู้หญิงมารุมล้อมรักใคร่! ซูหวานหว่านเหลือบตามองเขาก่อนจะหยิบเสื้อผ้าหญิงสาวออกมาแล้วขว้างใส่เป่ยฉวนเฟิงหลิว “ศิษย์พี่ที่แสนดีของข้า! งั้นเจ้าก็ลองดู! ถ้าเจ้าลองใส่แล้วพวกเราดูเหมือนกัน ข้าจะตอบตกลงกับเจ้า”

“เช่นนั้นก็ได้!” เป่ยฉวนเฟิงหลิวเดินไปที่หลังฉากกั้นและเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดสตรีสีชมพู เมื่อเสร็จแล้วเขาก็เดินออกมา มันดูมีเสน่ห์เล็กน้อยแต่ว่า…

“แค่ก แค่ก!” ซูหวานหว่านไอแล้วชี้ไปที่หน้าอกที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยของเป่ยฉวนเฟิงหลิวและพูดว่า “ในฐานะที่เจ้าจะเป็นผู้หญิง การเปิดเผยหน้าอกเช่นนั้นมันดูไม่ดี”

“…”

แน่นอนว่า… มีเหตุผล!

เดิมทีแล้วเป่ยฉวยเฟิงหลิวเป็นคนใจร้อน เขาชอบแต่งตัวสบาย ๆ เป็นเรื่องปกติ และการที่แต่งตัวเผยให้เห็นหน้าอกก็เป็นเรื่องปกติของเขา หากเป็นเสื้อผ้าเป็นชุดที่สตรีใส่ก็คงจะ…

ไม่ได้! ชื่อเสียงของเขาคือสิ่งสำคัญที่สุด! เป่ยฉวนเฟิงหลิวรีบพูดออกมาทันทีว่า “ข้าเป็นตัวเองดีที่สุด!”

ทันทีที่พูดออกมาเช่นนั้นก็เตรียมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ทันทีที่พูดจบประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาเสียก่อน และหนึ่งในนั้นคือพลลาดตระเวน “ผู้ใดคือเป่ยฉวนเฟิงหลิว?”

“…”

ใครกัน? ไม่มีผู้ใดอยากจะยอมรับ! เป่ยฉวยเฟิงหลิวหน้าแดง และคนที่ตามมาดูความสนุกก็มองออกทันทีว่าใครคือเป่ยฉวนเฟิงหลิว “เป่ยฉวนเฟิงหลิว ดูเหมือนว่าเจ้าจะชอบแต่งตัวเป็นหญิงเสียจริง ๆ”

“คุณชายเป่ยฉวนช่างน่าสนใจเหลือเกิน! ข้าอยากจะแต่งงานกับเขาแล้วเอาเสื้อผ้าของข้าให้เขาได้สวมใส่มัน”

“…”

มีคนแบบนี้ด้วยหรือ! เป่ยฉวนเฟิงหลิวจับหน้าผากของตนเอง เขาจ้องไปที่ซูหวานหว่าน และรีบเดินไปเปลี่ยนเสื้อทันทีก่อนจะออกมาเขาก็ส่งเสียงไอและพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

หัวหน้าพลลาดตระเวนจึงพูดออกมาว่า “โปรดให้ความร่วมมือกับพวกเราในการสืบสวนเรื่องน้ำงามที่ทำให้ใบหน้าของผู้คนพัง เพราะพวกเราสงสัยว่าเจ้าได้ร่วมมือกับจูเหยียนวางแผนเพื่อที่จะหวังผลกำไร!”

เหลวไหล!

ซูหวานหว่านกลอกตาไปมา นางเดินเข้าไปหาเป่ยฉวนเฟิงหลิวด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อยและพูดออกมาว่า “ท่านพี่ของข้ากับจูเหยียนไม่ลงรอยกัน นางกระทำตัวหยาบคายมากในงานวันเกิดของซุนซ่างชู นางต้องการที่จะฆ่าข้าและนางยังมาใช้ประสิทธิภาพน้ำงามของตัวเองมาท้าให้ข้าแข่งขันกับนาง ถึงแม้ท่านพี่ของข้าจะไม่มีความสุข แต่เขาก็ไม่มีทางร่วมมือกับนางอย่างแน่นอน”

หากพูดออกมาแบบนี้จุดประสงค์ของพวกเขาคือไม่ต้องการให้จับตัวไป! เหล่าพลลาดตระเวนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ คนที่เป็นหัวหน้าพวกเขาพูดออกมาว่า “พวกเราเชื่อคำพูดของเจ้า แต่ว่าเจ้านายของเราไม่เชื่อ เจ้าต้องนำน้ำงามของพวกเจ้ามาให้พวกเราตรวจสอบดูก่อน!”

ซูหวานหว่านดูเหมือนจะเข้าใจถึงจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของพวกเขา คือต้องการนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ของซูหวานหว่านไป นางจึงหยิบมันออกมาและพูดว่า “ทุกคนสามารถมาเอาไปได้เลย”

“ขอบคุณมากแม่นางเป่ยฉวน”

เป่ยฉวนเฟิงหลิวปิดประตูห้องอาหารส่วนตัวทันที ชายหนุ่มจ้องไปที่ซูหวานหว่านพลางนึกถึงเสื้อผ้าสตรีที่เขานั้นได้สวมใส่ พร้อมกับทุบหน้าอกของตัวเองและพูดว่า “แย่แล้ว! ชื่อเสียงของข้า!”

“ศิษย์พี่ใจเย็น ๆ” ซูหวานหว่านเอ่ยปลอบโยนและพูดว่า “การปรากฏตัวของศิษย์พี่มันช่างโดดเด่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งสวยงาม…”

นี่เป็นคำที่พรรณนาถึงความหล่อของเขาอยู่หรือเปล่า? ศิษย์น้องคนนี้กำลังทำให้เขาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม

เป่ยฉวนเฟิงหลิวถอนหายใจออกมา เมื่อนึกถึงน้ำศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรบางอย่างออก จึงพูดออกมาทันทีว่า “ไหนเจ้าเอาน้ำงามของจูเหยียนมาให้ข้าหน่อย”

ซูหวานหว่านก็หยิบมันออกมาหนึ่งขวด เป่ยฉวนเฟิงหลิวก็ตกใจทันที่ที่ดมกลิ่น ในน้ำนี้มีว่านฮวาหงที่เขากำลังหาผสมเอาไว้อยู่ด้วย และเขาไม่สามารถปล่อยให้มันเล็ดรอดออกไปได้!

เป่ยฉวนเฟิงหลิวขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “มันเสียแล้ว!”