ในช่วงเวลานี้ ณ ห้องของสตรีภายในหุบเขาแห่งหนึ่งของนิกายเมฆาทะยาน เย่เมิ่งเหยาและเพื่อนสาวของเธอกำลังพูดคุยกันผ่านวีดีโอคอล

“ร้ายกาจจริงๆ เจ้าอู๋ตี่นี่ปรากฏตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ก็มักที่จะก่อให้เกิดเรื่องที่สะเทือนน้ำสะเทือนบกขึ้นมา ไม่คาดคิดว่าครั้งนี้เขาจะเขียนหนังสือขึ้นมา อีกทั้งยังทำให้นักเขียนโด่งดังจำนวนมากสนับสนุนเขาเช่นนี้ ช่างไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ”

“ตามข่าวที่ข้าได้รับมานั้น หนังสือเล่มนี้มียอดขายที่มากกว่าสามล้านเล่มเสียอีก”

“แม่เจ้า ยอดขายสามล้านเล่ม ตามราคาของหนังสือเล่มนี้นั้น อย่างน้อยก็เป็นจำนวนเงินทั้งหมดสามร้อยล้านเหรียญ ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป”

“การเขียนหนังสือนั้น ไม่คาดคิดว่าจะได้เงินในจำนวนที่มากขนาดนี้ พวกเราที่ทำงานกันอย่างหนัก ไล่ล่าอสูรดุร้าย ออกไปในสถานที่อันตรายต่างๆนาๆเพื่อทำภารกิจนั้น ก็ไม่อาจที่จะได้เงินจำนวนมากขนาดนี้มา”

“อันที่จริงเขาเขียนอะไรออกมากันแน่ ทำไมถึงได้เป็นที่นิยมเช่นนี้”

เพื่อนสาวจำนวนมากต่างก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม พวกเธอรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดฝัน อีกทั้งยังคิดว่าเจ้าอู๋ตี่นี่อาจจะใช้คำสาปบางอย่างกับผู้คนของอาณาเขตดวงดาวทั้งห้า บีบบังคับให้พวกเขาซื้อหนังสือของตนเอง

ไม่อย่างนั้นยอดขายจะน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ได้อย่างไรกัน

“เมิ่งเหยา เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

เพื่อนสาวของเธอถามขึ้นมา

“ข้า..ข้า!”

เย่เมิ่งเหยาก็ได้รับข่าวนี้เช่นนี้ ล่วงรู้ว่าหนังสือของเจ้าอู๋ตี่นั่นได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นข่าวที่โด่งดังไปทั่วทั้งอาณาเขตดวงดาวทั้งห้า แม้แต่นักเขียนที่โด่งดังจำนวนมากก็พูดแนะนำหนังสือเล่มนี้เป็นเสียงเดียว

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจยอมรับอย่างมาก ทว่าเธอก็ได้ซื้อหนังสือนี้มาอ่านเช่นกัน ต้องการที่จะรู้ว่าอันที่จจิงเจ้าอู๋ตี่นี่เขียนอะไรออกมา ทำไมถึงได้ผู้คนจำนวนมากที่ให้ความสนใจกันเช่นนี้

“เป็นหนังสือที่ร้ายกาจริงๆ ไม่สามารถที่จะกล่าวโทษผู้คนจำนวนมากที่แนะนำให้อ่านหนังสือนี้ ไม่รู้ว่าอันที่จริงเจ้านี่ได้หลอกลวงผู้คนจำนวนมากแค่ไหนถึงสามารถที่จะเขียนหนังสือเช่นนี้ออกมาได้” ถึงแม้ว่าเย่เมิ่งเหยาจะไม่เต็มใจอย่างมาก ทว่าเธอก็ต้องยอมรับถึงจุดๆนี้

นอกจากนี้เธอก็ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว คิดว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่นักต้มตุ๋นธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ทว่าตอนนี้ก็ไม่ได้คาดคิดเหมือนกันว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจะสามารถเขียนหนังสือเกี่ยวกับเคล็ดลับการหลอกลวงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้

“ระดับสูงสุดของการหลอกลวงนั้นก็คือการล่อลวงใจ ตราบใดที่สามารถล่อลวงใจของผู้คนได้นั้น จากนั้นก็จะสามารถเดินทางไปอย่างราบลื่นในทุกหนแห่ง เจ้าอู๋ตี่นี่ช่างเป็นบุคคลที่อันตรายอย่างแท้จริง” เมื่อเย่เมิ่งเหยาอ่านประโยคสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้ เธอก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในโลกเสมือนจริง สาเหตุที่เจ้าบัดซบนั่นไม่ได้ไล่ตามเธอมานั้น เป็นเพราะต้องการที่จะล่อลวงใจเธออย่างนั้นหรือ?!

เจ้าบัดซบนั่นได้ตั้งเป้าหมายไปที่เธอแล้วหรือ ต้องการที่จะหลอกลวงเธอเช่นกันหรือ?!

คิดได้แบบนี้ เธอก็โมโหจนกัดฟันอย่างแน่น ช่างเป็นบุคคลอันตรายที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าเกิดอันตรายที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน

“จะต้องหาทางจับตัวเขาให้ได้”

เย่เมิ่งเหยากำหมัดขึ้นมา เธอได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใด ก็จะต้องตามหาเจ้าอู๋ตี่ให้ได้ จับเจ้านี่มาลงโทษตามกฎหมาย ไม่สามารถปล่อยให้โลดแล่นอยู่เหนือกฎหมายอย่างอิสระแน่นอน

“การที่หนังสือเล่มนี้ขายดีเช่นนี้ เจ้าอู๋ตี่นั่นก็จะต้องกลายเป็นเศรษฐี”

“คาดการณ์ได้ว่าท้ายที่สุดแล้วยอดขายจะต้องไปถึงจำนวนที่น่าอัศจรรย์ อย่างน้อยเจ้านี่ก็จะต้องมีเงินทั้งหมดเป็นจำนวนกว่าหลายพันล้านเหรียญจักรวาล”

“แม่เจ้า คาดการณ์ได้ว่านี่คือความมั่งคั่งในระดับเดียวกับผู้อาวุโสของนิกายที่ยิ่งใหญ่”

“ไม่รู้ว่าจะสามารถหลอกล่อผู้ชายคนนี้ได้หรือไม่ หากสามารถที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามลุ่มหลงและทำให้เขามอบเงินให้ด้วยความเต็มใจนั้น จากนั้นข้าก็อาจจะร่ำรวยขึ้นมาได้”

“เจ้าผู้หญิงโง่ เจ้านี่คือยอดปรมาจารย์ด้านการหลอกลวง อย่าคิดไปเล่นกับไฟเด็ดขาด เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าอาจจะร้องไห้วิ่งกลับมาพร้อมกับท้องที่ป่องและต้องบอกกับคนอื่นๆพ่อของเด็กเป็นผู้ชายที่ไร้ค่า”

“ผายลม ข้าคือหญิงสาวที่งดงามระดับเทพธิดา เป็นไปได้อย่างไรที่จะถูกคนอื่นหลอกลวง มีแค่ผู้ชายเท่านั้นที่จะหลงเสน่ห์ของข้า หลงข้าหัวปักหัวปำ ไม่มีใครที่จะสามารถหลอกลวงผู้หญิงคนนี้ได้”

กลุ่มของหญิงสาวที่พูดคุยกัน

เย่เมิ่งเหยาก็มีสีหน้าที่พูดอะไรไม่ออก ทว่าเธอก็ไม่มีทางยินยอมให้กลุ่มเพื่อนสาวของเธอติดต่อเจ้าอู๋ตี่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นด้วยวีการของเจ้านักต้มตุ๋นนี่ ไม่รู้ว่าจะมีนักบุญหญิงจำนวนมากแค่ไหนที่สูญเสียความบริสุทธิ์ไป

…………….

หลังจากนั้นไม่กี่วัน

<เคล็ดลับการหลอกลวง36วิธี> หนังสือเล่มนี้ขายดีอย่างมากในอาณาเขตดวงดาวทั้งห้า มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่สนใจซื้อหนังสือเล่มนี้ ซึ่งทำให้ยอดขายของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

หนึ่งล้านเล่ม สองล้านเล่ม สามล้านเล่ม ในที่สุดยอดขายก็มาถึงที่ยี่สิบล้านเล่ม

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นเพียงข้อมูลของไม่กี่วันเท่านั้น เมื่อระยะเวลาผ่านไปมากกว่านี้ เชื่อว่าข้อมูลยอดขายก็จะต้องเพิ่มขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

“ยอดขายถล่มทลายจริงๆ”

ทันทีที่เจียเอ่อหม่าได้ยินถึงข้อมูลของยอดขาย เขาก็รู้สึกว่าหัวใจของตนเองสั่นระรัว เขาไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ตนเองไม่ได้เห็นหนังสือที่มียอดขายถล่มทลายเช่นนี้

ถึงแม้ว่าบริษัทของเขานั้นจะมีหนังสือจำนวนมากที่มียอดขายถึงสิบล้านเล่ม ทว่าหนังสือเหล่านี้ต่างก็มีราคาที่ต่ำมาก มีราคาเพียงแค่ห้าเหรียญจักรวาลเท่านั้น ต่อให้จะขายออกไปนับสิบล้านเล่ม ก็ไม่ถือว่าได้กำไรอะไรมากมาย

ทว่าหนังสือเคล็ดลับการหอกลลวงนี้แตกต่างออกไป ราคาของมันนั้นสูงมาก มีราคาถึงหนึ่งร้อยเหรียญจักรวาลต่อเล่ม ซึ่งเป็นราคาที่มากกว่าหนังสือเล่มอื่นๆกว่ายี่สิบเท่า ไม่คาดคิดว่าด้วยราคาขายเช่นนี้ก็จะมียอดขายไปถึงยี่สิบล้านเล่มได้ ช่างเป็นยอดขายที่น่าอัศจรรย์จริงๆ

เพียงแค่การคำนวณยอดขายทั้งหมดนั้น ก็เป็นเงินถึงสองพันล้านเหรียญ หากจำนวนยอดขายนี้แพร่งพรายออกไปถึงหูของผู้คน ไม่รู้ว่าจะทำให้ผู้คนจำนวนมากแค่ไหนตกใจ

นี่คือความน่าสะพรึงกลัวของนักเขียนที่มีอิทธิพลภายในจักรวาล หากตีพิมพ์หนังสือที่ขายดีออกมา ทั้งชีวิตนี้ก็จะไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องเงินอีก

ปัญหาก็คือว่าจำนวนผู้คนที่ตีพิมพ์หนังสือของตนเองออกมานั้นก็มีจำนวนมากอย่างยิ่ง ทว่าการที่ต้องการให้ยอดขายไปถึงสิบล้านเล่มนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ยากแค่ไหน

ผู้คนส่วนใหญ่นั้นต่างก็ต้องล้มละลายไป แม้แต่ต้นทุนค่าตีพิมพ์ก็ไม่ได้กลับคืนมา

“แต่ว่าส่วนแบ่งสูงเกินไป”

ในช่วงเวลานี้เมื่อเจียเอ่อหม่านึกได้ถึงข้อตกลงสัญญากับเซี่ยปิง เขาก็รู้สึกโศกเศร้าอย่างมาก เหมือนกับตนเองถูกขูดเลือดขูดเนื้อก็ว่าได้ เพราะว่าตามข้อตกลงของสัญญานั้น เขาจะต้องมอบส่วนแบ่งกับเซี่ยปิงถึง70% ซึ่งบริษัทของเขาจะได้ไปเพียงแค่30%

ในอีกคำพูดหนึ่งก็คืออย่างน้อยเซี่ยปิงจะได้เงินไป1.4พันล้านเหรียญจักรวาล ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปมากกว่านี้ เงินจำนวนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อถึงเวลานั้นการที่จะได้รับเงินไปนับพันล้านเหรียญจักรวาลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก

สีหน้าของเขาตอนนี้นั้นซีดเผือดอย่างมาก หากก่อนหน้านี้เขาล่วงรู้ว่าหนังสือเล่มนี้จะมียอดขายที่ดีเช่นนี้ล่ะก็ ไม่มีทางที่เขาจะเซ็นสัญญาเด็ดขาด เพราะว่าเพียงแค่ส่วนต่างของหนึ่งเปอร์เซ็นต์นั้น ก็มีโอกาสที่จะเป็นเงินนับสิบล้านหรือแม้กระทั่งนับร้อยล้านเหรียญจักรวาล

ผลประโยชน์ที่มากมายเช่นนี้ มันทำให้ผู้คนคลุ้มคลั่งได้

ทว่าเขาก็ได้คิดพิจารณาอย่างรอบคอบ หากเขาไม่ตกลงเซ็นสัญญานี้ คาดการณ์ได้ว่าเจ้าอู๋ตี่นี่ก็คงจะไม่ยินยอมที่จะร่วมมือกับทางบริษัท เมื่อถึงเวลานั้นบริษัทของพวกเขาก็จะสูญเสียไก่ทองนี้ไป

อีกทั้งหากฝ่ายตรงข้ามวิ่งไปที่บริษัทคู่แข่งล่ะก็ ในตอนนั้นเขาจะต้องรู้สึกเสียใจจริงๆ

ถึงแม้ว่าเงินที่ได้มาในตอนนี้จะน้อยกว่าที่จินตนาการไว้เล็กน้อย ทว่าก็ยังได้รับมามากพอสมควร อย่างน้อยก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าฝ่ายตรงข้ามจะวิ่งไปที่บริษัทคู่แข่งและมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของบริษัท

“ดูเหมือนว่าด้วยผลกำไรของบริษัทในปีนี้นั้น ข้าก็มีโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งไปอยู่ในสำนักงานใหญ่” เจียเอ่อหม่าคาดหวังอย่างมาก เขาได้อยู่ในตำแหน่งซีอีโอนี้มานานนับสิบปี ไม่สามารถที่จะทำอะไรเพื่อเลื่อนตำแหน่งได้ เพราะว่าเขานั้นขาดผลงาน

ตอนนี้การที่มีหนังสือที่มียอดขายถล่มทลายไปทั่วทั้งอาณาเขตดวงดาวทั้งห้านั้น นี่จะเป็นการนำพาผลประโยชน์มหาศาลมาให้กับบริษัท เชื่อว่าเขาเจียเอ่อหม่านั้นก็จะมีคุณสมบัติที่จะย้ายไปอยู่ที่สำนักงานใหญ่เช่นกัน ได้รับตำแหน่งที่สูงกว่าในตอนนี้

“ใช่สิ ข่าวที่ดีเช่นนี้ควรที่จะรายงานคุณอู๋ให้เร็วที่สุด”

เจียเอ่อหม่าต้องการที่จะติดต่อเซี่ยปิงทันที จะต้องรักษาความสัมพันธ์กับไก่ทองตัวนี้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นหากไก่ทองหนีไป เขาอาจจะเผชิญกับความสูญเสียที่แสนสาหัส

บี๊บ บี๊บ!!

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะติดต่อไปมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อได้

“อะไรนะ? กำลังบ่มเพาะอยู่ ไม่รู้ว่าจะเสร็จสิ้นจากการบ่มเพาะเมื่อไหร่?!”

เจียเอ่อหม่าที่ได้ยินข่าวจากแมวนักปราชญ์ ตอนนี้เซี่ยปิงไม่มีเวลาที่จะรับสายโทรศัพท์ ดังนั้นการสื่อสารทั้งหมดจึงถูกจัดการโดยแมวนักปราชญ์

“ลืมมันไปเถอะ รอให้เขาบ่มเพาะเสร็จ ข้าจะรายงานข่าวนี้กับเขาอีกครั้ง”

เจียเอ่อหม่าพูดออกมาอย่างเสียใจเล็กน้อย ทว่าเขาก็ไม่ได้เป็นกังวลแต่อย่างใด