ส่วนลึกของจักรวาล ณ ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์แห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป

ในช่วงเวลานี้ ยานอวกาศของเซี่ยปิงไม่ได้เดินทางกลับไปที่นิกายฟ้าดิน ทว่าลงจอดบนหุบเขาภายในดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์แห่งนี้

ดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่กว่าดาวหยานหวงประมาณสามเท่า พลังฉีของธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์ มีอสูรดุร้ายจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในดาวเคราะห์ดวงนี้ ปกคลุมไปด้วยผืนป่า ดูเขียวชอุ่มอย่างมาก

ทว่าดาวเคราะห์ดวงนี้นั้นไม่ได้มีตัวตนของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาอยู่ ไม่ได้มีวัฒนธรรมอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนกับยุคดึกดำบรรพ์ ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลว่าจะมีชาวพื้นเมืองเข้ามาโจมตี

เหตุผลที่เขาไม่ได้กลับไปที่นิกายฟ้าดินทว่าเลือกลงจอดบนดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ที่พบเจอโดยบังเอิญดวงนี้นั้น เป็นเพราะว่าในช่วงที่เซี่ยปิงกำลังบ่มเพาะอยู่ในยานอวกาศนั้น ในที่สุดเขาก็บ่มเพาะจนไปถึงสภาวะสมบูรณ์ของระดับสมปรารถนา

จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์และพลังเวทมนตร์ของเขาไปถึงจุดสูงสุดของระดับสมปรารถนา หากมีบางคนที่เห็นสถานการณ์ในตอนนี้ จะต้องคิดว่าทั่งร่างกายของเขามีพลังเวทมนตร์ที่เต็มเปี่ยมอย่างแน่นอน เป็นเหมือนกับลูกโป่งที่บวมพองออกมาอย่างสุดขีด ทุกท่วงท่าทุกการเคลื่อนไหวมีพลังอำนาจเพียงพอที่จะทำลายภูเขาได้

อีกทั้งพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เป็นเหมือนกับคมดาบที่แหลมคมก็ว่าได้ สามารถที่จะตัดทุกสิ่งทุกอย่าง ฉีกผ่านห้วงมิติ ทรงอำนาจอย่างมาก

ในตอนนี้พลังอำนาจของเซี่ยปิงอยู่ในจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนกับว่าขาดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น เขาก็จะสามารถเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ได้ ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแท้จริง

เดิมทีเซี่ยปิงนั้นต้องการที่จะกลับไปที่นิกายฟ้าดินเพื่อทำการเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าถึงอย่างไรการที่มีการคุ้มครองของนิกายฟ้าดินและมีพลังฉีของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์นั้น ที่นั่นก็เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการบ่มเพาะที่สุด

แต่ปัญหาก็คือว่าเขานั้นมีลางสังหรณ์บางอย่าง หากตนเองเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น จะต้องเกิดปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาอย่างแน่นอน

อีกทั้งก็อาจจะนำพาการลงทัณฑ์แห่งสวรรค์เช่นกัน

บางทีเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะไม่สามารถปกปิดความลับของตนเองได้อีกต่อไป ตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดังนั้นไม่สามารถที่จะกลับไปที่นิกายฟ้าดินเพื่อเลื่อนขั้นได้ เซี่ยปิงจึงตัดสินใจที่มองหาดาวเคราะห์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อลงจอด

ทว่าเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะโชคดีเช่นนี้ ภายในจักรวาลที่ไร้ขอบเขตซึ่งมีดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วนนั้น ไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญพบเจอดาวเคราะห์ที่มีชีวิต ซึ่งสามารถใช้เป็นสถานที่บ่มเพาะได้

ณ ถ้ำแห่งหนึ่ง

เซี่ยปิงออกมาจากยานอวกาศและเดินมาถึงที่ถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งมีพลังฉีจากธรรมชาติที่อุดสมบูรณ์อย่างมาก จากนั้นเขาก็นั่งขัดสมาธิทันที

ดิ้ง!

ในตอนนี้เสียงของระบบได้ดังขึ้นมา “ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดความเกลียดชังจากผู้คนของเมืองตะวันออกอันไกลโพ้นและเมืองอื่นๆ ครั้งนี้ได้คะแนนความเกลียดชังไปทั้งหมด320ล้านคะแนน ขอให้ผู้เล่นพยายามต่อไป”

คะแนนความเกลียดชัง320ล้านคะแนน?!

เซี่ยปิงมีความสุขขึ้นมาทันที หากรวมกับคะแนนความเกลียดชังที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ เขาก็จะมีคะแนนความเกลียดชังทั้งหมด1.4พันล้านคะแนน

ถึงแม้ว่าเขาจะยังห่างไกลกับคะแนนความเกลียดชังจำนวนหมื่นล้านคะแนนอย่างมาก ทว่านี่ก็ถือว่าเป็นความคืบหน้าที่ไม่ได้น้อยเลย

“ได้เวลาที่จะเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์”

คิดได้แบบนี้ เซี่ยปิงก็ได้นำดอกสงบวิญญาณออกมาจากร่างกาย สาเหตุที่เขาไม่ได้กินมันเข้าไปก่อนหน้านี้ เป็นเพราะต้องการที่จะใช้ดอกสงบวิญญาณนี้ในการช่วยให้ตนเองเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ภายในคราวเดียว

ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะกินสมุนไพรวิญญาณนี้เข้าไป เมื่อใดที่กินเข้าไป เขาจะสามารถเข้าสู่สภาวะเห็นแจ้งได้ ทำให้เขาสามารถทำความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว ควบแน่นรูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ก้าวเข้าสู่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มตัว

“ผู้เล่น หากใช้คะแนนความเกลียดชัง จะสามารถช่วยให้ผู้เล่นยืดระยะเวลาของสภาวะเห็นแจ้งได้นานขึ้น ส่งผลให้ทำความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นการที่ได้ผลลัพธ์สองเท่าทั้งๆที่ใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว เป็นการที่จะทำให้การเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธ์ง่ายขึ้นมาก”

ระบบเริ่มพูดออกมาอย่างกะทันหัน

อะไรนะ?!

เซี่ยปิงสะดุ้งตกใจ หากใช้ดอกสงบวิญญาณ ตามที่แมวนักปราชญ์ได้คาดการณ์ไว้ ก็จะสามารถอยู่ในสภาวะเห็นแจ้งได้ประมาณช่วงเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย

ทว่าต่อให้จะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาจิบชาหนึ่งถ้วยนั้น ก็ยังคงถือว่าน่าอัศจรรย์ เพราะว่าในสภาวะเห็นแจ้งนั้น มันจะเทียบเท่ากับการที่มีกระบวนความคิดที่รวดเร็วกว่าเดิมถึงหนึ่งหมื่นเท่า ในสภาวะนี้ ไม่ว่าจะต้องการทำความเข้าใจวิทยายุทธใดๆ กระบวนการของมันก็จะรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์

นี่เปรียบเสมือนกับการที่ไอคิวของคนปกติธรรมดาพัฒนากลายมาเป็นไอคิวของไอน์สไตน์อย่างกะทันหันก็ว่าได้ ไม่ว่าจะการแก้ไขปัญหาใดๆหรือการทำความเข้าใจสิ่งใด ก็ล้วนเป็นเรื่องที่ง่ายดาย

ดังนั้น ดอกสงบวิญญาณนี้จึงมีความล้ำค่าอย่างมาก นักวิทยายุทธจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็หวังว่าจะได้ครอบครอง

ทว่าไม่คาดคิดว่าระบบจะสามารถยืดเวลาของสภาวะการเห็นแจ้งได้ นี่มันช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ

ต้องรู้ด้วยว่าการที่จะก้าวเข้าสู่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น ยิ่งทำความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี นี่จะส่งผลให้มีพลังต่อสู้ที่แตกต่างจากคนทั่วไปอื่นๆ มีรากฐานที่แตกต่างกับคนอื่นๆ

แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายถึงการที่จะทำความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์ขยะๆ คุณภาพของความสามารถศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมาก ต่อให้จะทำความเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาทั่วไปได้หนึ่งร้อยอย่าง ก็เทียบไม่ได้กับการเข้าใจความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงอำนาจเพียงอย่างเดียว

ทว่าหากทั้งคุณภาพและปริมาณของความสามารถศักดิ์สิทธิ์อยู่ในจุดที่น่าอัศจรรย์นั้น นั่นก็จะเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน สามารถที่จะเคลื่อนย้ายภูเขาและแหวกว่ายน้ำทะเล มีจุดยืนที่ไร้เทียมทานภายในโลกมนุษย์

“สามารถที่จะยืดเวลาออกไปได้นานแค่ไหน?” เซี่ยปิงถามขึ้นมาทันที

ระบบตอบกลับ “หากใช้คะแนนความเกลียดชังจำนวนหนึ่งพันล้านคะแนน จะสามารถยืดเวลาของสภาวะการเห็นแจ้งได้ถึงหนึ่งวัน”

“ใช้คะแนนทันที” เซี่ยปิงตัดสินใจโดยที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย หากคะแนนความเกลียดชังสามารถที่จะเพิ่มพลังอำนาจให้กับตนเองได้อย่างมหาศาล คะแนนความเกลียดชังเพียงแค่หนึ่งพันล้านคะแนนนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง พลังอำนาจของร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้นระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เป็นที่ล่วงรู้กันดีว่าเป็นระดับที่เป็นรากฐานสำคัญ เป็นการก้าวเข้าไปในระดับที่เหนือมนุษย์ เริ่มที่จะครอบครองพลังอำนาจของความสามารถศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อม นี่คือระดับที่มีความสำคัญอย่างมาก

หากก้าวพลาดแม้แต่นิดเดียว ก็อาจจะส่งผลให้เกิดความเสียใจในภายหลังได้

ดังนั้น ไม่ว่าจะต้องใช้ทรัพยากรมากแค่ไหน เขาก็จะไม่ลังเล จะต้องทำให้ปลอดภัยที่สุด

“รับทราบ ผู้เล่น” ระบบพูดออกมา

ปัง!

เซี่ยปิงไม่ได้คิดอะไรมากมาย ทันใดนั้นก็ได้กินดอกสงบวิญญาณเข้าไป ดอกสงบวิญญาณนี้ก็ได้เข้าไปในท้องของตนเองอย่างรวดเร็ว เปลวไฟในกระเพาะกำลังทำการกลั่นกรองอย่างต่อเนื่อง

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าเย็นที่ทะยานออกมาจากกระเพาะ เอ่อล้นออกมาจากทุกซอกทุกมุมของร่างกาย ไหลเวียนไปตามเส้นลมปราณแต่ละเส้นและท้ายที่สุดก็มาถึงที่อาณาเขตจิตใต้สำนึก

หล่ง หล่ง หล่ง~

ร่างกายของเซี่ยปิงสั่นไหว ออร่าเย็นนี้เหมือนกับว่าได้เจาะเข้าไปที่จิตวิญญาณของเขา ทันใดนั้นอารมณ์ความรู้สึกด้านลบทุกอย่างก็ได้หายไปอย่างกะทันหัน ตอนนี้อารมณ์ของเขาสงบนิ่งอย่างมาก

ในช่วงเวลานี้ เขาคิดว่าตนเองได้สูญเสียอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่างไป อยู่ในสภาวะที่ว่างเปล่า เป็นเหมือนกับเทพเจ้าก็ว่าได้ ไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่ได้มา ไม่ได้มีความทุกข์กับสิ่งที่เสียไป นี่คือสภาวะที่จิตใจสงบนิ่งอย่างถึงที่สุด

อีกทั้งกระบวนการความคิดของเขาก็มาถึงระดับจุดสูงสุด มีความเร็วในการคิดที่รวดเร็วกว่าเดิมกว่าหมื่นเท่า

ภายใต้สภาวะนี้ เหมือนกับว่าทุกๆอย่างช้าลงไม่รู้กี่เท่า หนึ่งวินาทีในความเป็นจริง ทว่าเหมือนกับเปลี่ยนกลายเป็นหนึ่งหมื่นวินาทีในโลกของความคิดก็ว่าได้ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

สิ่งต่างๆก่อนหน้านี้ที่ไม่สามารถคิดได้อย่างชัดเจนนั้น ภายใต้สภาวะเห็นแจ้งนี้ เขากลับเข้าใจทุกอย่างได้อย่างกะทันหัน

“ดอกสงบวิญญาณช่างมีสรรพคุณที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ตอนนี้เซี่ยปิงก็เข้าใจว่าทำไมดอกสงบวิญญาณถึงเป็นสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าอย่างมาก เป็นสมุนไพรวิญญาณที่ผู้คนต่างก็แย่งชิงกัน มีสรรพคุณที่สั่นสะท้านสวรรค์ ประเมินราคาไม่ได้

ในสภาวะนี้นั้น สำหรับการทำความเข้าใจวิทยายุทธต่างๆนั้นมันจะมีความคืบหน้าที่รวดเร็วดั่งการวิ่งหนึ่งพันลี้ต่อวัน หากอยู่ในสภาวะนี้ตลอดเวลานั้น จะสามารถเรียนรู้วิทยายุทธในความเร็วที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้อย่างแน่นอน

น่าเสียดายที่ว่าหากไม่มีความช่วยเหลือของดอกสงบวิญญาณนี้นั้น การที่จะเข้าสู่สภาวะนี้ได้ คาดการณ์ได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก

ในขณะเดียวกันพลังอำนาจของระบบก็ได้ปะทุออกมา พลังอำนาจที่ลึกซึ้งและไม่สามารถประเมินค่าได้หลั่งไหลเข้าไปในอาณาเขตจิตใต้สำนึก เหมือนกับว่าพลังอำนาจที่ลึกลับนี้ได้ดึงเขาเข้าสู่อาณาเขตของพระเจ้าก็ว่าได้

ภายในอาณาเขตนี้ เขาดูเหมือนกับเป็นเทพเจ้า ไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถทำได้ ความสับสนที่ผ่านมาทั้งหมด ในช่วงเวลานี้เหมือนกับได้เห็นแสงสว่างอย่างกะทันหัน เหมือนกับว่าเข้าใจได้ถึงความท่องแท้ของจักรวาลอย่างชัดเจน เหมือนกับว่าหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกฎของโลก