[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 430 : ปลอบโยนหยาลู่!
หลินเมิ่งหานเพิ่งได้ลิ้มรสความสุขของการเปลี่ยนจากเด็กสาวมาเป็นหญิงสาวเต็มตัวเมื่อคืนนี้ เธอจึงต้องการอยู่กับหลิงหยุนทุกนาที แต่ก็รู้ดีว่าหลิงหยุนยังเป็นเพียงเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายที่ต้องเตรียมตัวสอบเอนทรานซ์ เขาจึงจำเป็นต้องไปโรงเรียน
หลิงหยุนโอบกอดร่างทีสั่นเทาเพราะแรงสะอื้นและใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหลินเมิ่งหานไว้ด้วยความสงสาร ในใจของก็รู้สึกทนเห็นภาพเช่นนี้ไม่ได้
หลิงหยุนเองก็ไม่ได้ต้องการปล่อยให้หลินเมิ่งหานอยู่บ้านเพียงลำพัง! เขาจึงได้แต่เกาศรีษะพร้อมกับกอดเธอไว้แน่นขึ้น ก่อนจะยิ้มให้และบอกกับเธอว่า
“เอาล่ะ.. หยุดร้องไห้ได้แล้ว! ผมมีวิธีแก้ไขแล้ว ผมจะรีบกลับไปหาน้าหญิง แล้วก็จะพยายามหาทางออกมาอยู่กับคุณดีไม๊?”
หลินเมิ่งหานตอบกลับทันที “ไม่ใช่ ‘หาทาง’ แต่ ‘ต้องมา’ ไม่อย่างนั้นภรรยาของนายจะข่มตาหลับได้ยังไงกัน?”
หลิงหยุนลูบศรีษะของหลินเมิ่งหานและบีบจมูกเล็กๆของเธอ “ได้ๆ ในเมื่อคุณบอกว่า ‘ต้องมา’ ผมก็จะรีบออกไปจัดการธุระต่างๆให้เสร็จในตอนกลางวัน แล้วคืนนี้เราจะได้มีความสุขด้วยกัน!”
หลินเมิ่งหานยิ้มออก แต่ก็ยังถอนหายใจพร้อมกับพึมพำเบาๆ “ดูเหมือนนายจะรีบร้อนออกไปมากเลยนะ ไม่รู้บ้างหรือไงว่า เมื่อเช้าที่นายออกไปน่ะ ฉันรู้สึกเหงาแล้วก็เคว้งคว้างมาก จนไม่รู้จะอยู่ยังไง..!”
หลิงหยุนได้แต่คิดว่า หลังจากนี้อีกสองสามวัน เขาจะสอนวรยุทธให้กับหลินเมิ่งหาน เพื่อให้เธอมีอะไรทำและไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
เขาอุ้มหลินเมิ่งหานเดินขึ้นไปบนห้องนอน พร้อมกับถามขึ้นว่า “แล้วพรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไร? ผมจะได้ซื้อมาให้”
หลินเมิ่งหานตอบกลับอายๆ “ไม่เป็นไร.. ถ้ามีนายอยู่ด้วย ฉันกินอะไรก็เหมือนกัน..”
หลังจากที่อุ้มหลินเมิ่งหานเข้าไปในห้องนอนแล้ว ทั้งคู่ก็สวีทกันอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นหลิงหยุนจึงขับรถออกจากบ้านของหลินเมิ่งหานตรงไปที่โรงแรมแชงกรีล่า
ยี่สิบนาทีต่อมา หลิงหยุนก็ขึ้นไปถึงชั้นยี่สิบเจ็ดของโรงแรม และจัดการเคาะประตูห้องสูท
เมื่อเหยาลู่เปิดประตูออกมา และพบว่าเป็นหลิงหยุนยืนอยู่ เธอถึงกับพุ่งเข้าหาอ้อมกอดของเขา หลิงหยุนอุ้มร่างของเหยาลู่เดินเข้าไปในห้อง พร้อมกับยกเท้าขึ้นถีบประตูให้ปิด
“คุณทานข้าวเที่ยงยัง?”
หลิงหยุนอุ้มเหยาลู่ไปนั่งลงบนโซฟา เขามองเหยาลู่ด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิดพร้อมกับนึกตำหนิตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะถามเหยาลู่ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“ฉันกินแล้ว.. พอดีที่ห้องมีบริการให้” เหยาลู่ตอบเอียงอาย
“เหยาลู่.. เมื่อคืนนี้..” หลิงหยุนรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องอธิบายให้เหยาลู่ฟัง
แต่เหยาลู่กลับยกนิ้วชี้ขึ้น และยื่นไปแตะริมฝีปากของหลิงหยุนไว้เป็นเชิงห้าม พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“หลิงหยุน.. ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น ฉันรู้ว่าแต่ละวันคุณมีธุระมากมาย ฉัน.. ฉันเข้าใจ!”
คำพูดของเหยาลู่ทำให้หลิงหยุนรู้สึกเสียใจ และแทบจะพูดอะไรไม่ออก..
เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างรักใคร่ จากนั้นจึงโน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหูเบาๆ “เหยาลู่.. เมื่อคืนผมเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า คุณเพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บสาหัส ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดี จึงไม่เหมาะที่จะเข้าหอกันในช่วงนี้ คงต้องรอไปอีกสักสองสามวัน ให้คุณหายดีกว่านี้ก่อน คุณจะว่ายังไง?”
เหยาลู่ได้ฟังคำอธิบายของหลิงหยุน จึงตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “ฉันมอบร่างกายนี้ให้คุณไปแล้ว คุณจะต้องการเมื่อไหร่ ก็แล้วแต่..”
หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มพร้อมตอบกลับไปว่า “คุณนี่ช่างเป็นคนที่เปิดเผยจริงๆ.. เหยาลู่.. ระหว่างนี้อย่าคิดอะไรมากล่ะ แล้วก็ต้องพักผ่อนให้มากๆ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวให้เร็วที่สุดรู้ไม๊?”
คำพูดของหลิงหยุนทำให้เหยาลู่มีความสุขมาก และไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นๆ
“เหยาลู่.. ผมมาใคร่ครวญดูแล้ว ผมว่าคุณไม่ควรจะอยู่แต่ในคลีนิคทั้งวันทั้งคืนแบบนั้น เพราะผมเองก็อยู่ในเมือง ผมจะซื้อบ้านให้คุณสักหลัง สองสามวันนี้ถ้าคุณเบื่อที่จะอยู่แต่ในโรงแรม ก็ออกไปเดินดูบบ้าน ถ้าชอบหลังใหน ก็ซื้อได้เลย..”
เหยาลู่ฟังแล้วถึงกับตาเป็นประกาย และเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่กลับส่ายหน้าไปมา..
“หลิงหยุน.. ฉันอยู่ชั้นสองของคลินิกก็เพียงพอแล้ว ทำไมยังจะต้องเสียเงินไปซื้อบ้านอีก?”
เพียงแค่หลิงหยุนเอ่ยปาก แค่นี้เหยาลู่ก็พอใจมากแล้ว!
หลิงหยุนยิ้มอย่างอ่อนโยน “คลินิกยังไงก็เป็นคลินิก.. ชั้นสองตกแต่งเป็นห้องพักก็จริง แต่ไว้ใช้สำหรับเวลาที่คุณเหนื่อยล้าจากงาน จะได้มีที่สำหรับไว้งีบพักผ่อนชั่วคราว..”
“ส่วนบ้านก็คือบ้าน.. ย่อมแตกต่างกันแน่นอน คุณเชื่อฟังผม! ออกไปหาดูบ้านที่ถูกใจ แล้วผมจะรีบซื้อให้ทันที”
“แต่.. แค่ทาวน์เฮ้าส์เล็กๆในเมืองอย่างต่ำๆก็ต้องหนึ่งล้านขึ้นไป..” เหยาลู่ตอบอย่างกระอักกระอ่วนใจ
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่า เมื่อวานฉินตงเฉี่วยและหนิงหลิงยู่ช้อปปิ้งหมดไปกว่าสองล้าน แล้วนี่ซื้อบ้านเป็นหลัง!
เขาตอบกลับไปยิ้มๆ “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน.. เอาเป็นว่าคุณไปหาซื้อบ้านในงบห้าล้าน ถ้าชอบก็ซื้อได้เลย..”
หลิงหยุนยังมีบ้านของเถียนป๋อเตาในเมืองจิงฉูอีกหนึ่งหลัง และเงินสดอีกเก้าล้าน เขาสั่งถังเมิ่งให้จัดการขายบ้านทั้งสองหลังให้เร็วที่สุด หากขายในราคาที่ลดแล้ว บ้านสองหลังนั้นก็จะได้เงินราวสิบล้าน รวมแล้วก็เกือบยี่สิบล้าน เขาไม่ได้ขาดแคลนเงินเลย
“ห๊ะ? ห้าล้าน.. ซื้อบ้านเดี่ยวเล็กๆได้หนึ่งหลังเชียวนะ!” เหยาลู่อุทานออกมาอย่างตกใจ พร้อมกับอ้าปากค้าง
หลิงหยุนตอบกลับไปยิ้มๆ “ถ้าจะซื้อบ้านเดี่ยว ก็ต้องซื้อที่แยกออกไปไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ผมจะได้อยู่กับคุณโดยที่ไม่ต้องมีใครมารบกวน”
และดูเหมือนว่าประโยคสุดท้ายของหลิงหยุนจะได้ผลดี เพราะหลังจากที่เหยาลู่ได้ฟัง เธอถึงกับดีใจจนไม่คิดที่จะปฏิเสธอีก
“หลิงหยุน.. คุณช่างดีกับฉันเหลือเกิน..+” เหยาลู่เอนร่างที่อ่อนนุ่มลงซบไหล่ของหลิงหุยนอยู่แบบนั้น
หลิงหยุนพูดต่อว่า “ถังเมิ่งถนัดเรื่องพวกนี้ ถ้าคุณเลือกบ้านได้แล้ว แต่ไม่มั่นใจ ให้โทรเรียกถังเมิ่งให้มาช่วย”
“อืมม..”
หลิงหยุนเรียกเงินสดออกมาจากแหวนพื้นที่ แล้วโยนไปไว้บบนโต๊ะตรงหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ผมมีธุระต้องไปจัดการ สองสามวันนี้คุณออกไปข้างนอกเดินเล่น ถ้าอยากได้อะไรก็ซื้อ แล้วถ้าเงินไม่พอก็บอกผม ผมจะได้โอนเข้าบัญชีให้”
เหยาลู่มองหลิงหยุนอย่างครุ่นคิด และจู่ๆน้ำตาก็เริ่มไหล “คุณ.. คุณให้เงินฉันอีกทำไม? ครั้งที่แล้วสามแสนฉันยังไม่ได้ใช้เลย..”
หลิงหยุนร้องออกมาอย่างตกใจ “ทำไมถึงไม่ใช้? ผมบอกให้คุณเก็บไว้แค่หมื่นเดียว ที่เหลือให้ส่งกลับไปให้ที่บ้านไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงไม่ทำตาม?”
เหยาลู่ตอบกลับไปว่า “นี่มันเป็นเงินของคุณ.. ฉันเกรงใจไม่กล้าส่งเงินมากมายขนาดนั้นให้ทางบ้านหรอก ฉันก็เลยส่งไปให้แค่สามหมื่นหยวน ที่เหลือก็ยังอยู่ ยังไม่ได้เอาไปใช้อะไร?”
หลิงหยุนถึงกับพูดไม่ออกไปครู่ใหญ่ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเหยาลู่ช่างน่ารักนัก เขาหอมแก้มเหยาลู่ฟอดใหญ่ ก่อนจะส่ายหน้าพร้อมกับสั่งว่า
“เหยาลู่.. ครั้งนี้ไม่เชื่อฟังผมได้! แต่ครั้งหน้าไม่ได้แล้วนะ..”
หลิงหยุนพูดต่อว่า “สงสัยผมคงจะให้เงินคุณน้อยไป.. ให้ไปสามแสน คุณส่งไปที่บ้านแค่สามหมื่น ผมคงต้องสั่งให้ถังเมิ่งโอนเงินเข้าบัญชีคุณสามล้านมั๊ง คุณถึงจะกล้าส่งเงินสามแสนกลับไปให้ที่บ้าน..”
เหยาลู่ถึงกับอึ้งไป เธอกำลังจะอ้าปากห้าม แต่หลิงหยุนกลับปิดปากเธอด้วยริมฝีปากของเขา และทั้งคู่ก็ดื่มด่ำกันอยู่นาน หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลิงหยุนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาถังเมิ่ง เขาสั่งให้ถังเมิ่งโอนเงินสามล้านเข้าบัญชีเหยาลู่บ่ายนี้ และเร่งให้ถังเมิ่งจัดการขายบ้านสองหลังของเถียนป๋อเตาให้เร็วที่สุด พร้อมกับสั่งให้ช่วยหาบ้านให้เหยาลู่หนึ่งหลัง และให้เลือกหลังที่สามารถย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย
หลังจากจัดการสั่งงานเรียบบร้อยแล้ว หลิงหยุนก็หันไปยิ้มให้กับเหยาลู่และบอกกับบเธอว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเห็นไม๊.. ง่ายจะตายไป!”
“ทำไมคุณต้องดีกับฉันขนาดนี้? ฉันไม่ได้มีค่าพอที่จะให้คุณมาจ่ายเงินเพื่อฉันมากมายแบบบนี้..” เหยาลู่พูดเสียงสั่น
หลิงหยุนตอบเหยาลู่กลับไปว่า “อย่าโง่ไปหน่อยเลย.. คุณยังสละชีวิตตัวเองปกป้องคลีนิกของเราได้ ผมให้เงินกับบ้านคุณแค่นี้ยังนับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย!”
พิษหนอนกู่ในตัวเหยาลู่นั้น แม้แต่ท่านเสี่ยวหมอเทวดายังไม่สามารถรักษาให้หายได้ หากหลิงหยุนกลับมาไม่ทันเวลา แน่นอนว่าเธอคงต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน!
สำหรับหลิงหยุน สิ่งที่เหยาลู่ทำเพื่อเขานั้นนับว่าเกินขีดความสามารถของเธอมาก ต่อให้เขาดีกับเธอมากเพียงใด ก็คงยังไม่พอ..
หลิงหยุนตั้งใจไว้ว่า ในคืนที่เข้าห้องหอกับเธอนั้น เขาจะมอบไข่มุกราตรีให้กับเธอด้วย..
ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว หลิงหยุนวางร่างของเหยาลู่ลงข้างๆ และบอกกับเธอว่า “เหยาลู่ ผมต้องไปโรงเรียนแล้ว อยู่เป็นเพื่อนคุณไม่ได้ คุณ.. คงจะไม่ตำหนิอะไรใช่ไม๊?”
น้ำเสียงของหลิงหยุนนั้นทุ้มนุ่มลึก และอ่อนโยน เหยาลู่ตอบกลับไปเสียงสั่นพร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ “ฉันไม่ตำหนิคุณหรอก..”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับหอมแก้มเหยาลู่ฟอดใหญ่ เขาเอื้อมมือหยิบเงินสดสองหมื่นที่วางไว้บนโต๊ะกลับเข้าไปในแหวนพื้นที่คืนพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ถ้างั้นผมขอยืมเงินสองหมื่นหยวนนี่ก่อนนะ เพราะตอนนี้ผมไม่มีเงินติดตัวแล้ว”
เหยาลู่ฟังแล้วก็ได้แต่หัวเราะ..
“ผมไปก่อนนะ พรุ่งนี้จะกลับมาหาคุณใหม่!”
หลิงหยุนลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดกับเหยาลู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จำที่ผมสั่งได้ใช่ไม๊? ก่อนที่คลินิกจะตกแต่งเสร็จ ห้ามคุณไปที่นั่นอีก?”