ตอนที่ 935 ใครยังจะกล้าดูถูกสืออวี้อีก?

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

คนที่เคยแอบสังเกตเสี่ยวเชี่ยนก็จะรู้ว่าเธอมีสมุดบันทึกเล่มสำคัญที่พกติดตัวเสมอ นอกจากจดบันทึกการรักษาแล้ว ยังมีข้อมูลที่ใช้ติดต่อลูกค้าด้วย

จะจิตแพทย์หรือหมอประสาทก็ดี ล้วนไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลคนไข้ได้ โดยเฉพาะเสี่ยวเชี่ยนที่เปิดรับการรักษาแบบส่วนตัว ลูกค้าของเธอเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์เป็นคนรวย ถ้าข้อมูลเล็ดลอดออกไปเพียงแค่คนเดียวนับเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องต่อไปจะไม่มีคนมารักษากับเธออีก คนที่มีอำนาจมีเงินเหล่านั้นจะมาล้างแค้นเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้

ดังนั้นสมุดโน้ตเล่มนี้ ก็ควรจะถูกรักษาเอาไว้อย่างดี ประมาณว่าอาจเอาไปเก็บไว้ใต้หมอนก็เป็นได้

คนที่สนิทกับเสี่ยวเชี่ยนดีจะรู้ว่า อันที่จริงสมุดโน้ตเล่มนี้ไม่ได้ลึกลับอย่างที่คิด

เสี่ยวเชี่ยนพกติดตัว แต่พอถึงบ้านก็โยนทิ้งเรื่อยเปื่อย

มักจะเห็นบ่อยๆว่าเสี่ยวเชี่ยนเอาสมุดโยนไว้บนโซฟาบ้าง บนเตียงบ้าง พอมีที่นั่งเล่นริมหน้าต่างเธอก็ชอบไปนั่งดูวิวตรงนั้น สมุดก็จะอยู่แถวนั้น

สืออวี้ยังเคยเห็นเสี่ยวเชี่ยนเอาสมุดเล่มนั้นปิดถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยด้วยซ้ำ…

ไม่ใช่เพราะเสี่ยวเชี่ยนเป็นคนใช้ชีวิตสะเปะสะปะ ก็เหมือนกับที่เธอพูดก่อนนอน ประธานเชี่ยนเป็นคนมีกำแพงในใจกับคนอื่น คนที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเธอได้ ก็แสดงว่าเป็นเพื่อนที่สนิทมาก เธอไม่มีอะไรต้องปิดบังหรือระแวงเพื่อนสนิท

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สืออวี้เป็นคนที่ได้อยู่ในกำแพงมาตลอด

เมื่อเธอเกินไปหยิบสมุดเล่มนั้นขึ้นมา เมื่อเธอก้าวออกจากประตูนี้ไป เมื่อประตูได้กั้นแบ่งเธอกับเสี่ยวเชี่ยนไว้คนละโลก อนาคตจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้

พออวี๋หมิงหลางได้ยินเสียงเปิดประตูก็ตื่น เขายกมุมผ้าม่านเปิดดูเล็กน้อย เห็นสืออวี้เดินออกไปอย่างรีบร้อน เสี่ยวเฉียงคิ้วขมวด

เขามองเสี่ยวเชี่ยนที่กำลังหลับลึก เขาครุ่นคิดสักพักกำลังจะไปเปิดประตู ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ยุ่งเรื่องสืออวี้เพราะเขาเห็นเสี่ยวเชี่ยนมีแผนอยู่แล้ว ดูท่าเขาต้องยื่นมือเข้าไปยุ่งแล้ว

“อาหารเช้ากินเกี๊ยวอีกนะ”

เสียงเสี่ยวเชี่ยนดังมาจากเตียง เธอหลับตาอยู่ เสี่ยวเฉียงแยกไม่ออกว่าเธอละเมอหรือตื่นแล้ว

“ลูกเชี่ยน เขา—”

“ปล่อยเขาไปเถอะ”

เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เสี่ยวเฉียงเข้าใจแล้ว

“ยังอยู่ในการควบคุมเหรอ?” ไม่ให้เขายุ่งสินะ

“อืม”

“เขาอยู่ในกำมือคุณหรือคุณอยู่ในกำมือเขา หรือพวกคุณอยู่ในกำมือกันและกัน?”

“เดาดูสิ”

เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างเนือยๆ อวี๋หมิงหลางจึงวางใจ หัวเราะพลางส่ายหน้า

“ผมประเมินพวกคุณสองคนต่ำเกินไป”

“ดูถูกคนอื่นก็ต้องยอมรับผลกรรมที่ตามมา” เสี่ยวเชี่ยนมองไปตามทางที่สืออวี้ออกไปแล้วยิ้มอย่างมั่นใจ ช่วงหลายปีมานี้สืออวี้ของเธอโตขึ้นไม่น้อย ใครยังกล้าดูถูกสืออวี้ได้อีก?

“คุณพักไปก่อนนะ ผมจะไปทำอาหารเช้า” อวี๋หมิงหลางสบายใจแล้ว ตอนนี้วางใจได้แล้ว

เสี่ยวเชี่ยนมองไปนอกหน้าต่าง ยิ้มมุมปาก “ฟ้า ใกล้สว่างแล้ว”

“นี่น่ะเหรอสมุดบันทึกที่เฉินเสี่ยวพกติดตัว?” ภายในบ้านของน้าหวาง น้าหวางกับสามีที่ถูกสืออวี้ปลุกจากความฝันอยู่ในสภาพชุดนอน กำลังมองสมุดที่อยู่ในมือของสืออวี้ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

“หนูเพิ่งเอามาจากบ้านเขา ถ้าเป็นของปลอมหนูจะเอาไปเปลี่ยนให้ค่ะ” สืออวี้แกว่งสมุดไปมาต่อหน้าทั้งสองคน น้าหวางเหมือนเห็นเงินเป็นปึกลอยไปมา

คนจ้างบอกแล้วว่า ขอแค่เอาสมุดเล่มนี้มาได้ ร้านขายยาหลายแห่งของพวกเขาก็จะได้ผลประโยชน์มากมาย

น้าหวางยื่นมือจะไปหยิบ แต่สืออวี้กลับเอาสมุดตีโต๊ะ

“หนูอุตส่าห์ยอมหักหลังเพื่อนเอาสมุดเล่มนี้มา คุณน้าจะให้หนูเจอคนๆนั้นเพื่อคุยเรื่องที่บ้านหนูได้หรือยังคะ?”

“คือ…รอก่อนนะ ขอน้าโทรหาเขาก่อน” น้าหวางลุกขึ้นไปคุยโทรศัพท์ห้องข้างๆ สืออวี้หลับตา มือกำสมุดเล่มนั้นแน่น สมุดเล่มนี้อยู่กับเสี่ยวเชี่ยนมานาน แต่ตอนนี้มันอยู่ในมือเธอแล้ว

“คนจ้างบอกว่า ต้องให้พวกเราตรวจสอบดูก่อน พวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นของจริงหรือของปลอม?” อาหวางเดินออกมาพร้อมโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้วางสายแล้วพูดกับสืออวี้

“ให้หนูฉีกออกมาหนึ่งหน้าเพื่อเอาไปตรวจสอบลายมือว่าเป็นของเขาหรือเปล่าก็ได้นะคะ”

สืออวี้ทำท่าจะฉีก อาหวางได้ยินเสียงตะโกนลอดออกมาจากโทรศัพท์ “เดี๋ยวก่อน! คนจ้างบอกว่าห้ามทำให้หลักฐานด่างพร้อย เธอกางสมุดออกเดี๋ยวพวกเราใช้กล้องถ่ายไป แค่นี้ฝั่งนั้นก็รู้แล้วว่าของจริงหรือของปลอม”

ภายในบ้านนี้มีกล้องวงจรปิด สืออวี้รู้สึกได้ตั้งแต่เข้ามาในบ้านนี้ครั้งแรกแล้วว่าเหมือนมีคนจับตาดูอยู่ และเป็นเครื่องยืนยันว่า เธอถูกใช้เป็นเครื่องมือ

แต่ทว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะถอยหลัง สืออวี้ยิ้มแบบยากที่จะคาดเดาเปิดสมุดหน้าแรกออก เผยให้เห็นลายมือและความลับสุดยอดของเสี่ยวเชี่ยน

“เป็นลายมือของเขาจริง”

คนที่อยู่หลังกล้องวงจรปิดเปรียบเทียบดู ลายมือในสมุดที่อยู่ในมือของสืออวี้เหมือนกับลายมือเสี่ยวเชี่ยนที่เขาจ้างคนไปเอามาจากมหาวิทยาลัย

แต่แค่นี้ยังไม่พอ เพื่อเป็นการยืนยันว่าสมุดเล่มนี้เป็นของจริง ทางนั้นได้ตั้งเงื่อนไขขึ้นมาอีก

“มีแค่บันทึกการรักษายังไม่พอ ในสมุดนี้น่าจะมีพวกข้อมูลการติดต่อด้วย เธอเปิดหน้าที่มีข้อมูลพวกนั้น หลังจากพวกเราแน่ใจแล้วเราค่อยมาคุยเรื่องเงินกัน”

สืออวี้ หึ ออกมา “เงื่อนไขเยอะจังนะ”

สืออวี้เปิดอีกหน้า การจดบันทึกของประธานเชี่ยนมีลักษณะเด่น คือด้านหน้าเขียนบันทึกการรักษาของคนไข้ หน้าหลังเขียนช่องทางการติดต่อและความรู้สึกของตัวเอง

สั้นๆง่ายๆไม่เวิ่นเว้อ ปกติถ้าไม่ได้เป็นเคสที่น่าสนใจประธานเชี่ยนจะไม่บันทึกลงไป เธอไม่เหมือนกับศาสตราจารย์หลิวที่จะบันทึกทุกอย่างละเอียดยิบจนแทบจะเขียนได้เป็นสิบๆหน้า เสี่ยวเชี่ยนตรงกันข้าม เธอไม่ค่อยเขียนวิธีรักษาอะไร แต่จะชอบจดความรู้สึกมากกว่า

หน้าที่สืออวี้เปิดไปเป็นข้อมูลที่น่าตกใจ

ทังสุ่ยเซียนลูกสาวคนเดียวของตระกูลทัง โรคเบื่ออาหาร พร้อมเบอร์โทรศัพท์

คนที่มองผ่านกล้องวงจรปิดรีบเอาข้อมูลนี้บอกเจ้านาย ทางด้านเจ้านายกำลังครุ่นคิด

มิน่าตระกูลทังถึงได้ดูสนิทกับเสี่ยวเชี่ยนนัก ปีๆหนึ่งทังสุ่ยเซียนจะมาหาเสี่ยวเชี่ยนหลายครั้ง ที่แท้เมื่อสี่ปีก่อนสองคนนี้ก็รู้จักกันเพราะการรักษา

เมื่อเทียบเรื่องเวลาทุกอย่างก็ลงล็อค

สมุดเล่มนี้คงเป็นของจริง

อยากเปิดดูต่อแต่สืออวี้ไม่ทำแล้ว เธอปิดสมุดแล้วทำสีหน้าเจ้าเล่ห์เหมือนนักธุรกิจ

“ตอนนี้จะเรียกคนจ้างออกมาคุยกับหนูได้หรือยังคะ?”

สองสามีภรรยาแซ่หวางมีสีหน้าเหมือนถูกความโลภเข้าครอบงำ พวกเขามองสมุดในมือของสืออวี้ ตอนนี้สมุดเล่มนี้มีค่าเท่าไรกันนะ

“อย่าคิดจะฆ่าคนปิดปากหรืออะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อหนูมาแล้วก็ใช่ว่าจะไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย สมุดเล่มนี้หนูเอามาแค่ครึ่งเดียว เป็นแค่บันทึกการรักษาในช่วงแรกของเขาที่ไม่ได้น่าสนใจเท่าไร อีกครึ่งที่เหลือเก็บไว้ไหนมีแค่หนูคนเดียวที่รู้ ในนั้นหรอกถึงจะมีข้อมูลเด็ด พูดได้เลยว่า มีสมุดเล่มนี้ไม่เพียงแต่จะล้มเฉินเสี่ยวเชี่ยนได้ ยังได้กุมความลับของนักธุรกิจรายใหญ่ๆเอาไว้ด้วย เป็นจิ้งจอกพันปีแล้วก็ไม่ต้องพูดมากดีกว่า บอกให้คนที่อยู่เบื้องหลังออกมา”