บทที่ 30 เด็กหน้าละอ่อนกับดาราคนดังห้อมล้อม

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

เจเทาวน์รู้เหตุผลแต่ไม่ได้บอกเทาเท่เพราะเขาตั้งใจเขาอยากจะรู้ว่าเทาเท่คิดยังไงกับอดีตภรรยาอย่างหลินจือ

หลังจากคำพูดของเจเทาวน์สิ้นสุด สายตาของเทาเท่ที่มองไปยังเจเทาวน์ก็มืดมนมากยิ่งขึ้น

เจเทาวน์ในฐานะเจ้านายของหลินจือการประชุมที่สำคัญแบบนี้แต่หลินจือกลับมาไม่ทันมันต้องมีคำอธิบายให้กับคนเป็นเจ้านายอยู่แล้ว ไม่มีทางที่เจเทาวน์ จะไม่ทราบสาเหตุแน่

แต่เจเทาวน์จงใจไม่บอกเขา ต้องการอะไร?

ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่มีสัมผัสที่หก ผู้ชายก็มีเหมือนกัน

เทาเท่รู้สึกว่าความรู้สึกของเจเทาวน์ที่มีต่อหลินจือนั้น มันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

เจเทาวน์เป็นบุคคลสำคัญในวงการบันเทิง ตอนที่อายุยังน้อยเขาเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนักร้อง จากนั้นก็ผันตัวมาเป็นนักแสดง ผลงานการแสดงตั้งแต่ละครทีวีมีไปจนถึงภาพยนตร์นับว่าอยู่ในจุดสูงสุด โด่งดังจนพลุแตก คว้ารางวัลในสถาบันต่างๆมาแล้วมากมาย

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เขาเริ่มถอนตัว ก่อตั้งเบลดิ้งเอนเตอร์เทนเมนต์กับผองเพื่อนและผันตัวไปทำงานเบื้องหลัง

ในตอนที่เจเทาวน์ยังรุ่นๆอยู่ก็เคยเปิดตัวแฟนสาวมาก่อน แต่เพราะนิสัยที่เข้ากันไม่ได้ทั้งสองก็จึงเลิกรากัน หลายปีมานี้มีข่าวรักๆใคร่ๆอยู่บ้าง แต่ตอนนี้สถานะของเขาคือหนุ่มโสด

ก่อนหน้านั้นมีเด็กหนุ่มหน้าละอ่อนที่เพิ่งจะอายุยี่สิบชื่อโจมอน และตอนนี้นักแสดงชายอายุสี่สิบเจเทาวน์ เทาเท่ที่อายุสามสิบสองขบกรามแน่นและไม่พูดอะไร

เหอะ เธอนี่ก็ใช่ย่อยจริงๆ

เทาเท่อารมณ์หงุดหงิดตลอดการประชุม และเจเทาวน์ก็ทำการรายงานของตัวเองราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เทาเท่ไม่คิดว่าอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองจะถูกโครงเรื่องของหลินจือดึงดูดซะขนาดนี้ พูดตามตรง ก่อนที่เทาเท่จะเข้าร่วมการประชุมก็คาดหวังไว้อยู่แล้วว่างานเขียนของหลินจือนั้นจะออกมาหน้าตายังไง แต่ไม่คิดว่ามันจะน่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้

และนี่มัน……

เทาเท่ฟังคำบรรยายของ เจเทาวน์ไปทีละคำ ดำดิ่งไปกับโครงเรื่อง และยังมีความรู้สึกถึงขั้นอยากลงมือถ่ายละครเรื่องนี้เลยทันที

อาศัยประสบการณ์ทางด้านธุรกิจที่มีมานานกว่าหลายปี และจากการประเมินละครและภาพยนตร์ที่เคยทำมา เขามั่นใจว่าละครเรื่องนี้ต้องดังแน่นอน

เจเทาวน์พูดถูก สำนวนภาษาของหลินจือสามารถดึงดูดผู้คนได้จริงๆ ความนึกคิดของเธอกว้างใหญ่และไร้ขอบเขตเต็มไปด้วยความน่าสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งแตกต่างจากหลินจือคนเก่าคนที่ไม่มีอะไรให้นึกถึงคนที่เขาเคยรู้จัก……

หลังการประชุมเสร็จสิ้นเทาเท่ก็ไปที่ห้องทำงานของเจเทาวน์ทันที ลืมไปเสียสิ้นว่าข้างกายตัวเองยังมีซูซีอยู่ด้วยทั้งคน

ซูซีถูกเทาเท่ทิ้งไว้ในห้องประชุม ใบหน้าเผยรอยยิ้ม แต่ในใจกัดฟันข่มความโกรธ

ทันทีที่เทาเท่เข้ามาในห้องทำงานของเจเทาวน์ได้ก็ถามออกไปโต้งๆว่า“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”

เจเทาวน์รินน้ำใส่แก้วให้ตัวเองอย่างเชื่องช้า เลี่ยงตอบคำถามของเทาเท่“ ผมคิดว่าประธานเทาเท่จะมาคุยกับผมเรื่องบทละครซะอีก”

เทาเท่ไม่มีความอดทนเอาซะเลย เปิดประเด็นขึ้นมาทันที เหล่ตามองแล้วถามว่า“เจเทาวน์ คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”

เจเทาวน์ชำเลืองมองเขา จากนั้นหยิบปากกาและเขียนตัวเลขลงบนกระดาษแล้วยื่นมันให้เขา“นี่เบอร์ของเธอ ส่วนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอนั้น ประธานเทาเท่ถามเองจะดีกว่า”

เจเทาวน์มองจากท่าทีของเทาเท่ในตอนนี้ดูท่าแล้วเทาเท่คงไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของแม่หลินจือ

เป็นสามีภรรยากับหลินจือมาสามปี วันสำคัญแบบนี้ก็ยังไม่รู้ ดูออกเลยว่าคนเป็นสามีอย่างเขาที่ผ่านมาละเลยภรรยาของตัวเองมากแค่ไหน

เจเทาวน์ยิ้มเยาะในใจ เมื่อก่อนทำร้ายเธอซะขนาดนั้น ตอนนี้ก็กลับมาทำทีเป็นห่วงเป็นใย มันจะมีประโยชน์อะไร ?

หรือคิดว่าหลินจือยังต้องการความห่วงใยจากเขาอยู่อีก?