ตอนที่ 773 เผชิญหน้า

Elixir Supplier

ในอีกสองวันจะมีการประชุมของบอร์ดบริหาร สาเหตุที่หวังเย้าต้องการเจอหน้าจางเหว่ยนั้นก็เป็นเพราะเขาต้องการรู้ว่า ชายคนนี้มีพลังเหนือธรรมชาติอย่างที่เขี่ยจื้อจายบอกจริงหรือไม่

คนจํานวนไม่น้อยที่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอาชีพอันตรายแบบนี้ เจียจื้อจายนั้นเหนื่อยกับการต่อสู้และฆ่าฟันแล้วเขาต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ หญิงสาวที่คอยอยู่ข้างเขาก็คิดเช่นเดียวกันความจริงพวกเขาต้องการออกจากองค์กรมานานแล้วและได้เตรียมตัวสําหรับเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่องค์กรมีอํานาจอยู่ในมือมากเกินไปพวกเขาจึงไม่สามารถเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงได้แต่ตอนนี้กลับต่างออกไปพวกเขาได้โอกาสดีที่จะบอกลาองค์นี้แล้ว

“หมอจะไปเมืองเต่กับผมเหรอครับ?” จงหลิวชวนมาหาหวังเย้าทันทีที่ได้รับข่าว

“ใช่ ผมอยากไปเจอบอสของนายสักหน่อยน่ะ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

“งั้นผมจะไปด้วย” จงหลิวชวนพูดโดยไม่ต้องคิด

“ไม่จําเป็น อยู่ที่หมู่บ้านนี้เถอะ ผมจัดการเองได้ ไม่ต้องห่วงผมไม่เป็นอะไรหรอก”หวังเข้าตบไหล่จงหลิวชวน

“ผมแค่ไม่ไว้ใจพวกเขาเท่านั้น จงหลิวชวนพูด ความหมายของเขาก็คือเจียจือจายและหูเหม

“เรื่องนั้นไม่สําคัญสําหรับผมหรอก” หวังเย้าตอบ “เรื่องเดียวที่ผมใส่ใจก็คือหมู่บ้านนี้จัดการดูแลที่นี่ให้ดีล่ะ”

“ครับ หมอหวัง” จงหลิวชวนพูด

“พรุ่งว่าจะไปวันพรุ่งนี้เลยนะ” หวังเย้าพูด

“จําเป็นต้องเอาอะไรไปด้วยไหมครับ?” จงหลิวชวนถาม

“ไม่ล่ะ ผมคงไม่เอาอะไรไปด้วย” หวังเย้าพูด

คืนนั้น เขากลับไปบอกเรื่องที่จะเดินทางไปเมืองเต่ให้พ่อแม่ของเขาได้รู้เอาไว้

“ลูกเพิ่งจะกลับมาเองนะ” จางซิวหยิ่งพูด

“ผมจําเป็นต้องไปที่เมืองเต่จริงๆครับ” หวังเย้าพูด “มันก็ไม่ได้ไกลมาก พอดีมีเรื่องที่ต้องไปจัดการที่นั้นนะครับ”

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ดูแลตัวเองดีดีนะ” จางซิวหยิงพูด

“ครับ”หวังเย้าพูด

เขาออกเดินทางในเช้าตรู่ของวันถัดมาและไปถึงเมืองเต่ในอีกสองชั่วโมงต่อมาเขาขับรถเข้าไปจอดในโมเทลแห่งหนึ่งและเช่นห้องพักสําหรับเขาคนเดียวหนึ่งห้องจากนั้นเขาก็โทรเรียกแท็กซี่เพื่อให้พาเขาไปที่องค์กรที่เลี้ยจื้อจายกับจงหลิวชวนทํางานให้

องค์กรถูกเรียกในชื่อ บริษัทซื่อห่ายเทรดดิ้ง ซึ่งไม่ได้ใหญ่โตมากนักตัวอาคารมีอยู่ทั้งหมดหกชั้นดูค่อนข้างเก่ามีสวนขนาดเล็กด้านในมีลานสําหรับจอดได้หลายคันที่ดูดีที่สุดก็คือรถเบนซ์คันหนึ่ง หวังเย้าเดาว่าน่าจะเป็นพาหนะของบอสเจ้าของบริษัท

บอสพักอยู่ในย่านบ้านหรูที่มีชื่อเสียง คนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ที่นั้นล้วนแล้วแต่ร่ำรวย

หวังเย้าดูเวลาก่อนจะส่งข้อความไปหาเจี่ยจือจาย

เขาอยู่ที่นี่?!

เจี่ยจื้อจายประหลาดใจเมื่อได้รับข้อความ เวลานี้เขาไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิส

ครูต่อมาเขาก็ไปถึงที่บริษัท เขาขับรถออดี้ที่มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในเมืองเต๋หวังเย้าเข้าไปนั่งอยู่ในคาเฟเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลและสั่งกาแฟมาแก้วหนึ่ง

หนึ่งชั่วโมงต่อมา หวังเย้าก็ได้รับข้อความจากหมายเลขแปลกๆ เขาเดินออกไปจากคาเฟจากนั้นก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาจอดตรงหน้าเขา

“สวัสดีครับ คุณเจี้ยเป็นคนบอกให้ผมมา” ชายหนุ่มในแว่นตากันแดดพูดในขณะที่เลื่อนกระจกรถลง

หวังเข้าไม่ได้พูดอะไร เขาเปิดประตูรถและขึ้นไปนั่ง

“ตามรถบีเอ็มคันนั้นไป และอย่าให้พวกเขารู้ตัว” หวังเย้าพูด

“ไม่มีปัญหา” ชายหนุ่มพูด

มีมากมายอยู่บนถนน ครูต่อมา จางเหว่ยก็มาถึงคลับเพื่อสุขภาพแห่งหนึ่ง

“คุณต้องสมาชิกของคลับก่อนถึงจะเข้าไปได้” ชายหนุ่มพูด

“ผมเข้าใจแล้ว นายไปได้” หวังเย้าพูด

ชายหนุ่มจากไปในทันที

เมื่อลงจากรถแล้ว หวังเย้าก็กดโทรออก ไม่นานอาหาวก็มาถึงที่คลับ

“หมอหวังมาที่นี่ได้ยังไงครับ?” อาหาวถามด้วยความรุนงง

“ผมอยากเข้าไปในคลับนี้ แต่ผมไม่ได้เป็นสมาชิก” หวังเย้าพูดแล้วชี้ไปที่ตัวคลับ

“รอสักครู่นะครับ” อาหาวหยิบบัตรสีดําเหลือบทองออกมา

“คุณสามารถใช้ได้เท่าที่ต้องการเลยครับ” อาหาวพูด

“ขอบคุณ” หวังเย้าพูด

“ด้วยความยินดีครับ” อาหาวพูด

หวังเย้าเข้าไปในคลับด้วยบัตรสมาชิก การตกแต่งด้านในเป็นแบบญี่ปุ่นดูหรูหราพนักงานที่รับหน้าที่ดูแลแขกล้วนเป็นหญิงสาวหน้าตาดี หนึ่งในนั้นเดินเข้ามาต้อนรับหวังเย้า

ตัวคลับมีห้องส่วนตัวอยู่หลายห้อง ซึ่งมีไว้สําหรับความเป็นส่วนตัวของแขกเอง

ดูเหมือนจะไม่ง่ายเลย หวังเย้าคิดหม?

เขาหันไปเห็นชายญี่ปุ่นที่ดูเหมือนจะเป็นคนคนเดียวกับที่เลี้ยจื้อจายเคยพูดถึงเขายังได้ดูรูปภาพที่เลี้ยจื้อจายเตรียมมาให้ด้วย ชายญี่ปุ่นคนนั้นเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง

“ผมอยากได้ห้องนั้น” หวังเย้าพูดกับพนักงานต้อนรับสาว เขาเลือกห้องที่อยู่ข้างกัน

“เธอไปได้แล้ว” หวังเย้าพูดกับพนักงาน

“ได้ค่ะ ถ้าต้องการอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ” หญิงสาวพูด

ตัวห้องเก็บเสียงได้ดีเยี่ยม หวังเข้าไม่ได้ยินเสียงจากห้องข้างๆเลย เขาเจาะรูเล็กๆที่กําแพง

ตอนนี้ฉันได้ยินแล้ว เขาคิด

เสียงพูดค่อนข้างเบา แต่หวังเย้าที่การฟังดีเป็นพิเศษนั้นได้ยินทุกคําพูด

“ทุกอย่างเป็นยังไงบ้าง?” จางเหว่ยถาม

“ผมต้องการหนูทดลอง” ชายญี่ปุ่นพูด

“อีกเท่าไหร่?” จางเหว่ยถาม

“เก้า” ชายญี่ปุ่นพูด

จางเหว่ยเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดว่า “ผมจะลองดูว่าทําอะไรได้บ้าง”

แค่ก! แค่ก! จางเหว่ยเริ่มไอ

เขาป่วย ป่วยหนักมากด้วย หวังเย้าสามารถบอกได้ว่า มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นที่ปอดของจางเหว่

“คุณต้องดูแลตัวเองบ้าง” ชายญี่ปุ่นพูด

“ผมจะพยายาม แต่การที่ผมมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว”จางเหว่ยพูด

น้ําเสียงของเขาแหบแห้งและหายใจหอบ เขาอ่อนแอมาก

“ผมก็ยังคิดเหมือนเดิม ให้คุณกลับไปที่ที่คุณเคยฝึกฝนเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง” ชายญี่ปุ่นพูด “การก้มหัวเพื่อสุขภาพของตัวเองจะเป็นไรไป”

“มันไม่ได้เกี่ยวกับการก้มหัวหรือเสียหน้าหรอก” จางเหว่ยพูด “ถ้ากลับไป ผมอาจไม่เหลือแม้แต่ชีวิต”

ที่ที่เขาเคยฝึกฝนงั้นเหรอ? หวังเย้าแปลกใจกับเบื้องลึกของจางเหว่ย

ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก หวังเย้ากลับไปนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา

ตึดด! มือถือของใครคนหนึ่งสั่น

“ฮัลโหล? ใช่…โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” จางเหว่ยพูดใส่มือถือ “คุณฮิรากานะ ผมคงต้องขอตัวก่อนเชิญพักผ่อนและสนุกกับที่นี่ตามสบาย”

“ได้ ขอบคุณ” ชายญี่ปุ่นพูด

จางเหว่ยเดินออกจากห้องไป หวังเย่าลังเลอยู่เดิมและเลือกที่จะไม่ตามจางเหว่ยไปครูต่อมาเขาก็ได้ยินเสียงครวญครางของหญิงสาวจากห้องข้าง

นี่มัน? หวังเย้าพูดไม่ออก

หลังจากนั้นสักพัก ชายญี่ปุ่นก็เรียกหาหญิงสาวอีกคน ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่พอ

นี่มันคลับเพื่อสุขภาพจริงๆเหรอ? หวังเย้าถอนหายใจ

ฮิรากานะ ชายชาวญี่ปุ่นเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางไม่ค่อยมั่นคงเล็กน้อย เขาไม่ได้สังเกตว่าตนกําลังถูกติดตามอยู่

หวังเข้าพบว่า อาหาวยังคงรออยู่ที่ด้านนอก

“ตามผู้ชายคนนั้นไป” หวังเย้าพูด

“ซาซากิ ฮิรากานะ?” อาหาวพูดชื่อญี่ปุ่นของเขาออกมา “คุณกําลังสืบเรื่องเขาอยู่เหรอครับ?”

“ใช่ คุณรู้จักเขาเหรอ?” หวังเย้าถาม

“ผมเคยเจอเขามาก่อน” อาหาวพูด “เขาเป็นนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่มาทําการค้าระหว่างประเทศธุรกิจหลักของเขาเกี่ยวเรื่องยาเป็นหลัก คุณซุนเคยทําธุรกิจกับเขามาก่อนน่ะครับ”

“แล้วเขาทําเรื่องผิดกฎหมายบ้างรึเปล่า?” หวังเย้าถาม

“หมายความว่ายังไงครับ?” อาหาวถาม

“เปล่า” หวังเย้าส่ายหน้า อาหารจําคําถามของหวังเย้าเอาไว้

“เขาพักอยู่ที่ไหนในเมืองเต่เหรอ?”

“เขาอยู่ที่กลุ่มอพาร์ทเมนต์หรูครับ” อาหาวพูด

“งั้นเราไปดูที่นั่นกันเถอะ” หวังเย้าพูด

อาหาวขับรถพาหวังเข้าไปที่ที่พักของฮิรากานะ พวกเขาสังเกตเห็นรถของฮิรากานะในทันทีที่เข้าไป

“คุณรู้ไหมว่าช่วงนี้หยุนเชิงทําอะไรอยู่?” หวังเย้าถาม

“เขาอยู่ที่ออฟฟิสครับ” อาหาวพูด

“ตอนนี้เขาว่างไหม?” หวังเย้าถาม

“ผมมั่นใจว่า ถ้าเป็นเรื่องของคุณเขาจะว่างอยู่เสมอครับ” อาหาวตอบ

“โอเค พาผมไปหาเขาที่ออฟฟิสที” หวังเย้าพูด

“ครับ” อาหาวพูด

พวกเขาตัดสินใจไม่ไปพบกันที่ออฟฟิสของซุนหยุนเชิง และเปลี่ยนไปพบกันที่หนึ่งในคลับที่ซุนหยุนเชิงเป็นเจ้าของแทน

“นายมาที่นี่เพราะเรื่องของฮิรากานะเหรอ?” ซุนหยุนเชิงถาม

“ใช่ ฉันอยากรู้เกี่ยวกับเขาน่ะ” หวังเย้าพูด

“ฉันจะให้อาหาวตรวจสอบให้” ซุนหยุนเชิงพูด “เขามีปัญหาอะไรเหรอ?”

“ฉันคิดว่าน่าจะมีนะ” หวังเย้าพูด

“เขาไปสร้างปัญหาให้นายเหรอ?” ซุนหยุนเชิงถามออกไปตามตรง

“เอ่อ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี” หวังเย้าพูด “เขาก็ไม่ได้มีเรื่องกับฉันโดยตรงหรอก ขอฉันรู้ให้ได้ก่อนว่าเขากําลังทําอะไรอยู่”

“ได้สิ นายว่างกินข้าวด้วยกันไหม?” ซุนหยุนเชิงถาม

“เอ่อ ฉันมีแผนอื่นแล้วน่ะ” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หวังเย้าก็พูดออกไป

“แล้วนายจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนเหรอ?” ซุนหยุนเชิงถาม

“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” หวังเย้าตอบ “มันขึ้นอยู่กับว่าฉันเจออะไรบ้าง”

“ฉันเข้าใจแล้ว” ซุนหยุนเชิงพูด

หลังจากคุยกับซุนหยุนเชิงได้ไม่นาน หวังเย้าก็ออกไปจากคลับ หลังจากนั้นไม่นานอาหาวก็กลับมา

“เจออะไรบ้าง?” ซุนหยุนเชิงถาม

“เขาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอวัยวะมนุษย์ในตลาดมืดครับ” อาหาวพูด

“อะไรนะ?” ซุนหยุนเชิงขมวดคิ้ว “เขาทําเรื่องนี้มานานแค่ไหนแล้ว? แล้วเขามีคู่คําอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”

สิ่งที่ฮิรากานะทําไม่ได้อยู่ในการคาดเดาของซุนหยุนเชิงเลย เขายังคงมีการติดต่อทําธุรกิจกับบริษัทของฮิรากานะอยู่เสมอ เขาสงสัยว่า ฮิรากานะอาจจะใช้อํานาจของตระกูลซุนในการก่ออาชญากรรมในเมืองเต๋เขาคิดว่าความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง