ตอนที่ 307 เอาตัวนางไปและฆ่านางซะ !

แพทย์เทวะ หัตถ์ปีศาจ

สิ่งนี้ทำให้เฟิงจินหยวนถึงกับใจหายแวบ เขามองกลับไปอย่างรวดเร็ว ที่นั่นเขาเห็นองค์หญิงคังอี้นั่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด รุ่ยเจียอยู่ข้าง ๆ และร้องตะโกนว่า “เสด็จแม่! เสด็จแม่เกิดอะไรขึ้น ท่านล้มลงอย่างไร ? เสด็จแม่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ? เสด็จแม่อย่ากลัว! สถานที่แห่งนี้คือราชวงศ์ต้าชุน ถ้าเสด็จแม่เป็นอะไรไป ข้าควรจะอธิบายกับเสด็จลุงว่าอย่างไร ! ”

“อ๊ะ ! ” เฟิงจินหยวนปล่อยเฟิงหยูเฮง แล้วรีบวิ่งไปหาคังอี้

ดูเหมือนว่าคังอี้จะได้รับบาดเจ็บ นางยังคงนั่งอยู่บนพื้นและลุกไม่ขึ้นมาเป็นเวลานาน ในท้ายที่สุดเฟิงจินหยวนก็ประคองนางขึ้นมาและเข้าไปในคฤหาสน์

เมื่อเฟิงหยูเฮงเข้าไปนางยืนข้างรุ่ยเจีย ทันใดนั้นนางกำนัลของรุ่ยเจียได้เอ่ยขึ้นมาว่า “เป็นเพราะนาง ! นางกำนัลผู้นี้เห็นใต้เท้าเฟิงมาถึงรถม้าของเราแล้วและกำลังจะช่วยองค์หญิงคังอี้ แต่ใต้เท้าเฟิงถูกเรียกกลับไปเพราะนาง นางยืนยันให้ใต้เท้าเฟิงช่วยนางลงจากรถม้าของนางก่อน ทำให้องค์หญิงคังอี้ต้องล้ม เป็นเพราะนาง ! ”

รุ่ยเจียจ้องมองไปที่เฟิงหยูเฮง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธ

อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงยกมุมปากของนาง นางยกมือขึ้นและตบนางกำนัล 2 ครั้งโดยไม่พูดอะไร จากนั้นนางก็พูดอย่างดุดันว่า “เอาตัวนางไปและฆ่านางซะ ! ”

เมื่อได้ยินคำสั่งของเฟิงหยูเฮง หวงซวนก็ลงมือทันที คว้าคอของนางกำนัล หวงซวนลากนางไปยังคฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑล ในเวลาเดียวกันนางพูดกับทหารองครักษ์ว่า “ให้คนสองคนมาที่นี่แล้วพาผู้หญิงคนนี้ไปยังสถานที่ซึ่งไม่มีคน เฆี่ยนนางจนตาย”

ทหารองครักษ์เฝ้ายามอยู่ที่ฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑล ดังนั้นเฟิงหยูเฮงจึงเป็นหัวหน้าของพวกเขา สำหรับพวกเขา คำสั่งของเฟิงหยูเฮงนั้นเปรียบเสมือนคำสั่งจากฮ่องเต้ ไม่ต้องพูดถึงการเฆี่ยนนางกำนัลให้ถึงตาย แม้ว่าพวกเขาจะได้รับคำสั่งให้รีบเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงและกำจัดครอบครัวเฟิง พวกเขาก็จะไม่ขัดคำสั่ง

เมื่อเห็นนางกำนัลของนางถูกลากออกไป รุ่ยเจียก็ตะลึงงัน เมื่อได้ยินนางกำนัลร้องไห้และกรีดร้อง นางมองไปที่เฟิงหยูเฮงด้วยความหวาดกลัวแล้วพูดเสียงดังว่า “เจ้ากล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร? เจ้ากล้าดีเช่นไรถึงได้จะเฆี่ยนนางกำนัลของข้าจนตาย”

เฟิงหยูเฮงตอบด้วยความสับสน “ทำไมข้าถึงไม่กล้า ? นางกำนัลบังอาจชี้มาที่องค์หญิงแห่งมณฑลของราชวงศ์ต้าชุนและให้ร้ายข้า การที่ข้าตีนางจนตายถือเป็นการลงโทษสถานเบาแล้ว องค์หญิงรุ่ยเจีย ถ้าองค์หญิงตั้งใจจะปกป้องนางกำนัลขององค์หญิง องค์หญิงแห่งมณฑลคนนี้จะบอกเหตุผลกับองค์หญิง การที่ท่านพ่อมาช่วยข้าส่งผลกระทบต่อองค์หญิงได้อย่างไรเพค่ะ ? ”

“แต่พวกเราคือแขก ! ” รุ่ยเจียตะโกนอย่างมีนัยสำคัญ

“แขกควรดูและประพฤติตัวเช่นแขก ! ” เฟิงหยูเฮงตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีแขกที่ไหนกล้าตะโกนใส่เจ้าของบ้านของพวกเขามาก่อน! หวงซวนนำตราประทับขององค์หญิงแห่งมณฑลเพื่อเชิญหมอหลวง นี่จะสิ่งที่องค์หญิงแห่งมณฑลทำเพื่อองค์หญิงใหญ่” หลังจากพูดอย่างนี้นางก็เข้าไปในคฤหาสน์ ในขณะที่เดินเข้าไปนางพูดว่า “มีโรงเตี้ยมที่ดีเลิศ แต่เจ้าไม่ต้องการอยู่ในนั้น ตอนนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บจากการตกรถม้า ใครจะถูกตำหนิ ? ใช่แล้ว เจ้าได้รับของจากองค์ชายซงซุยหรือไม่ ? ”

เฮ่อจงที่เดินตามนางไปอย่างรวดเร็วกล่าวว่า “บ่าวรับใช้คนนี้กำลังจะบอกคุณหนูว่ามีคนมาส่งเต่าหยกโดยบอกว่าเป็นของขวัญปีใหม่จากองค์ชายสี่ของซงซุยถึงคุณหนูขอรับ”

“อ่า” นางพยักหน้า “นำไปที่โถงด้านหน้าของเรือนโบตั๋นและวางไว้ที่นั่น นั่นหมายถึงนำสันติสุขจะกลับมาสู่บ้าน จะต้องวางไว้อย่างถูกต้อง”

“คุณหนูรองไม่ต้องกังวล บ่าวรับใช้ผู้นี้จะรีบไปจัดการตอนนี้เลยขอรับ” เฮ่อจงคำนับและไปจัดการเรื่องนี้

เฟิงจินหยวนพาคังอี้กลับไปที่เรือนที่นางอาศัยอยู่ซึ่งทำให้บ่าวรับใช้ในคฤหาสน์เฟิงเริ่มถกกันเรื่องนี้ ก่อนอื่นพวกเขาไม่เข้าใจว่านางบาดเจ็บได้อย่างไรหลังจากออกจากคฤหาสน์ ประการที่สองพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายของพวกเขาจึงดูแลองค์หญิงคังอี้ดีเช่นนี้ พวกเขาซุบซิบกันเรื่องนี้ขณะเดินตามหลังมา

รุ่ยเจียรีบวิ่งไปตามพวกเขาด้วยความโกรธ เมื่อได้ยินการสนทนาของบ่าวรับใช้ นางก็อดไม่ได้ที่จะโกรธจัด “นินทาเจ้านายขณะที่เดินตามหลัง นี่เป็นหนึ่งในกฎของตระกูลเฟิงหรือไม่ ? ”

บ่าวรับใช้รู้สึกหวาดกลัวเงียบ ๆ เฟิงหยูเฮงได้ยินแล้วหยุดเคลื่อนไหว “นี่เป็นหนึ่งในกฎของคฤหาสน์ของเรา หากองค์หญิงรุ่ยเจียไม่สามารถทำความคุ้นเคยกับมันได้ก็มีทางออกอยู่ทางหนึ่ง องค์หญิงสามารถย้ายออกจากคฤหาสน์ของเรา”

“เจ้ากำลังไล่ข้าออกไปหรือ ? ” รุ่ยเจียสามารถเข้าใจสิ่งนี้ “เราได้รับเชิญจากลุงเฟิงและฮูหยินผู้เฒ่าให้เข้ามาในคฤหาสน์ ! ”

เฟิงหยูเฮงส่ายหัว “ใครบอกว่าหม่อมฉันอยากไล่องค์หญิงออกไป ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เต่าหยกก็ถูกนำเข้ามาเพื่อนำความสงบสุขมาสู่คฤหาสน์ นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บไม่ใช่หม่อมฉัน”

“ช่างเป็นองค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันที่ยิ่งใหญ่ ! ” รุ่ยเจียกัดฟันของนางและพูดว่า “เจ้ามีพฤติกรรมที่แตกต่างออกไปเมื่อต้องรับมือกับผู้คนเมื่อเทียบการซุบซิบนินทาลับหลังแล้ว เจ้าช่างร้ายกาจเสียจริง”

“องค์หญิงคิดผิด” เฟิงหยูเฮงแก้ไขนาง “ไม่ว่าจะจัดการกับผู้คนต่อหน้าหรือการซุบซิบนินทาลับหลัง องค์หญิงแห่งมณฑลผู้นี้ก็ทำแบบเดียวกันเสมอ” หลังจากพูดอย่างนี้นางก็ไม่สามารถไปเยี่ยมคังอี้ นางหันหลังกลับออกไปกับหวงซวน

รุ่ยเจียเฝ้าดูการจากไปของนางและถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างลับ ๆ ไม่น่าแปลกใจที่มารดาของนางบอกว่าคุณหนูรองของตระกูลเฟิงนั้นจัดการได้ไม่ง่าย ตอนนี้สิ่งนี้เกิดขึ้นแน่นอนว่าไม่มีข้อผิดพลาด ในพริบตานางได้สูญเสียนางกำนัล สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดมาก

ในขณะที่กลับไปที่เรือนตงเซิง เฟิงหยูเฮงแจ้งหวงซวน “เดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักหยู บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ บอกองค์ชายเกี่ยวกับองค์ชายแห่งซงซุยที่จะเข้าเฝ้าในวันพรุ่งนี้ด้วย ให้นางกำนัลอาวุโสโจวเตรียมตัว”

หวงซวนพยักหน้า “เจ้าค่ะ นอกจากองค์หญิงคังอี้ได้รับบาดเจ็บที่คฤหาสน์เฟิง จะไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นใช่หรือไม่เจ้าค่ะ ? ”

“จะเกิดอะไรขึ้นได้ ? ” เฟิงหยูเฮงกล่าวว่า “นางกำนัลของนางไม่สามารถแม้แต่จะช่วยเจ้านายของนางลงจากรถ แล้วจะมีพวกเขาไว้ทำไม อีกสักครู่ส่งบ่าวรับใช้ 10 คนจากเรือนตงเซิงไปดูแลพวกเขา บอกว่าองค์หญิงแห่งมณฑลนี้ไม่วางใจบ่าวรับใช้ของเฉียนโจว เนื่องจากพวกเขามาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เฟิง องค์หญิงแห่งมณฑลนี้จึงมีข้อผูกพันในการรับรองความปลอดภัยขององค์หญิงใหญ่”

หวงซวนเริ่มยิ้ม “ด้วยการที่นางกำนัลทั้งหมดถูกสับเปลี่ยนออกไป มันจะแปลกถ้านางไม่รู้สึกหดหู่ใจอย่างยิ่ง”

อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงส่ายหน้าของนาง “ถ้ามีคนบอกว่ารุ่ยเจียสลดใจข้าก็จะเชื่อ แต่คังอี้สามารถรอดชีวิตจากการต่อสู้เพื่อครองบัลลังก์ได้จนถึงทุกวันนี้ จะเป็นได้อย่างไรที่จะจัดการนางได้ง่ายดายเช่นนี้ ? ”

ทั้งสองเดินพูดคุยและมาถึงที่ลานหน้าคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าไปในสวนพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างมีชีวิตชีวา เมื่อมองดูอีกครั้งปรากฏว่าเหยาซื่อพาเฟิงจื่อหรูมาแล้ว เฟิงจื่อหรูเล่นกับวังซวนทำให้บ่าวรับใช้ทุกคนในลานหัวเราะ

เมื่อเห็นว่าเฟิงหยูเฮงกลับมา วังซวนก็รีบมาคำนับ “ในที่สุดคุณหนูก็กลับมา ช่วยบ่าวรับใช้ผู้นี้ด้วยเจ้าค่ะ นายน้อยกำลังถามคำถามที่ข้าไม่สามารถให้คำตอบได้ ข้าแพ้ดื่มชาไป 6 จอกแล้ว ถ้าคุณหนูยังไม่กลับมา บ่าวรับใช้คนนี้คงตัวแตกตายเจ้าค่ะ”

เฟิงจื่อหรูพูดเสียงดัง “มันเป็นวังซวน นางต้องการแข่งขันกับจื่อหรูในเรื่องความรู้ จื่อหรูได้เลือกหัวข้อง่าย ๆ แล้วนะท่านพี่”

เหยาซื่อเดินไปดึงเฟิงจื่อหรูพร้อมพูดว่า “วังซวนปล่อยให้เจ้าชนะ อย่าได้หยิ่งผยอง”

วังซวนรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่เจ้าค่ะ บ่าวคนนี้แพ้นายน้อยจริง ๆ เจ้าค่ะ”

เหยาซื่อยิ้มและพูดว่า “เจ้ารู้ดีที่สุดว่าจะดูแลเขาได้อย่างไร” จากนั้นนางมองที่เฟิงหยูเฮงและพูดว่า “ข้ามีอะไรจะถามเจ้า ข้ากำลังวางแผนจะไปพระราชวังเหวินซวนในวันพรุ่งนี้ เจ้ามีเวลาว่างพอที่จะไปด้วยหรือไม่ ? ”

ได้ยินว่านางต้องการไปที่พระราชวังเหวินซวน เฟิงหยูเฮงต้องการไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นนางกับซวนเทียนเก้อยังสนิทกันแล้วก็เข้ากันได้ดี และองค์หญิงเหวินซวนเป็นบุตรสาวของราชครูฟู่หรง จากมุมมองนั้นนางควรเป็นคนที่จะไปเที่ยว โชคไม่ดีที่นางมีนัดแล้ว “ข้าสัญญากับองค์ชายจากซงซุยว่าจะพาเขาไปเยี่ยมองค์ชายเก้า ข้าคงไม่ไปกับท่านแม่ไม่ได้เจ้าค่ะ”

เหยาซื่อส่งเสียง “โอ้” ออกมาอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “เรื่องของเจ้าเป็นเรื่องงานและมีความสำคัญที่สุด ห้ามยกเลิก พรุ่งนี้ข้าจะพาจื่อหรูนำไปด้วย เจ้าก็จัดการเรื่องของเจ้าเถิด”

เฟิงหยูเฮงไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ท่านแม่รอก่อนนะ” หลังจากพูดอย่างนี้นางเข้าไปในห้องเก็บยาทันที หลังจากจัดเรียงสิ่งของต่าง ๆ ในมิติของนาง นางก็ดึงถุงเจลทำความร้อนออกมา 2 ถุงจากนั้นจึงเดินออกมา “นี่ใช้เพื่อประคบหัวเข่า ท่านใต้เท้าเหวินซวนแก่แล้ว ขาและเท้าของท่านใต้เท้าไม่แข็งแรงมาก ท่านแม่นำสิ่งนี้ไปมอบให้ คิดว่ามันเป็นของกำนัลเล็กน้อยจากหยูเฮง”

ในขณะที่พูดสิ่งนี้นางมอบให้กับเหยาซื่อ นางถืออีกถุงหนึ่งในมือของนาง จากนั้นนางก็บีบถุงเจลทำความร้อนแล้วพูดว่า “ท่านแม่ควรลองด้วย แค่บีบมันแบบนี้ หลังจากบีบ มันจะเริ่มรู้สึกอุ่น มันสะดวกมากที่จะใช้”

เหยาซื่อทำตามนางและบีบสองสามครั้ง แน่นอนถุงเจลในมือของนางเริ่มรู้สึกร้อนและนางก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “ดีจริง ๆ ท่านใต้เท้าเหวินซวนต้องมีความสุขมากที่ได้เห็น”

“เจ้าค่ะ” เฟิงหยูเฮงไม่เคยสงสัยเลยว่าสิ่งต่าง ๆ ของนางจะทำให้ผู้คนในยุคนี้ประหลาดใจ นางแนะนำทั้งสอง “ท่านแม่ต้องระวังตัวให้มาก พรุ่งนี้ข้าจะให้หวงซวนและวังซวนไปกับท่านแม่”

“แล้วเจ้าล่ะ?” เหยาซื่อกังวลเล็กน้อยว่า “ให้ไปกับข้าทั้งหมด เจ้าจะทำอย่างไร?”

“ข้ายังมีผู้คุ้มกันลับอยู่ ท่านแม่ไม่ควรเป็นกังวลเจ้าค่ะ” นางจูงมือเหยาซื่อแล้วเดินไปส่งเหยาซื่อออกจากลาน เมื่อเหยาซื่อจากไป นางบอกหวงซวน “ไปที่ตำหนักหยูเร็ว ข้าจะให้ฉิงหยูดูแลส่งบ่าวรับใช้ไปที่คฤหาสน์เฟิง”

หวงซวนรับคำสั่งและจากไป จากนั้นเฟิงหยูเฮงก็บอกกับวังซวนและฉิงหยูถึงสิ่งที่นางกำนัลของคังอี้กล่าวหานาง สิ่งนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองโกรธเมื่อพวกเขาตัดสินใจเลือกบ่าวรับใช้บางคนที่เจ้าระเบียบ

ฉิงหยูและวังซวนกลับมาหลังจากครึ่งชั่วยาม พวกเขาบอกกับเฟิงหยูเฮง “มีบ่าวรับใช้ 10 คนที่ถูกส่งไปแล้ว องค์หญิงคังอี้ไม่พูดอะไรมาก แต่เสนาบดีเฟิงโกรธและองค์หญิงรุ่ยเจี่ยก็โกรธเช่นกันเจ้าค่ะ แต่เราบอกว่าเพราะบ่าวรับใช้ของเฉียนโจวไม่สามารถแม้แต่จะดูแลช่วยเจ้านายให้ลงจากรถม้าได้ ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ คุณหนูรองไม่ต้องการให้ผู้คนกล่าวว่าคฤหาสน์เฟิงดูแลองค์หญิงใหญ่ไม่ดี ดังนั้นคุณหนูจึงส่งคนมาช่วยด้วยความปรารถนาดี ดังนั้นองค์หญิงคังอี้จึงยอมรับอย่างจริงใจ”

เฟิงหยูเฮงเข้าใจดีว่านางจะไม่ยอมรับมันได้อย่างไร ความอดทนของคังอี้เป็นสิ่งที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน รวมถึงรุ่ยเจีย บางทีนางอาจจะไม่ง่ายอย่างที่นางเห็นอย่างผิวเผิน

ในวันถัดไปเฟิงหยูเฮงตื่นเช้าเพื่อไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่า หลังจากนางคารวะ นางก็จะไปยังตำหนักหยู

สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือเมื่อนางมาถึงที่เรือนซูหยา นอกจากผู้หญิงของตระกูลเฟิงที่นั่งอยู่ที่นั่น ยังมีคังอี้และรุ่ยเจียมาด้วย

นางเดินไปข้างหน้าและคำนับฮูหยินผู้เฒ่า หลังจากนั่งลงนางก็ถามด้วยความกังวล “องค์หญิงใหญ่รู้สึกดีขึ้นหรือไม่เพคะ ? เมื่อวานนี้อาเฮงรู้สึกเป็นห่วงมากเพคะ”

คังอี้ยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณองค์หญิงแห่งมณฑลที่เป็นห่วงข้า ข้าดีขึ้นแล้ว เมื่อวานหิมะตกเลยทำให้พื้นลื่น ข้ารู้สึกผิดที่ทำให้องค์หญิงแห่งมณฑลเห็นอะไรที่น่าอับอายเช่นนั้น”

“เป็นเรื่องดีที่องค์หญิงใหญ่ไม่เป็นอะไรมาก อาเฮงจะหัวเราะเยาะองค์หญิงได้อย่างไรเพคะ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านพ่อต้องมาช่วยอาเฮงลงจากรถม้า บางทีคนที่ลื่นคงจะเป็นอาเฮง องค์หญิงใหญ่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่เพคะ ? ”

คังอี้กล่าวว่า “ข้าข้อเท้าแพลงและปวดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเดินของข้า แพทย์สั่งยาบางตัวให้แล้ว หลังจากที่ทานยาคงจะดีขึ้น”

เฟิงหยูเฮงพยักหน้า “ถ้าเป็นอย่างนั้นอาเฮงก็สบายใจ แต่มีบางสิ่งที่หม่อมฉันอยากรู้ตลอดเวลา โดยปกติแล้วเฉียนโจวคงถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งบ่อยครั้ง องค์หญิงใหญ่ควรคุ้นเคยกับถนนน้ำแข็งเป็นอย่างดี แล้วทำไมองค์หญิงถึงลื่นล้มที่ราชวงศ์ต้าชุนได้เพคะ”

คังอี้รู้สึกอับอายเล็กน้อย อย่างไรก็ตามนางพูดทันที “ข้าประมาทเอง” นางตอบ “บางทีอาจเป็นเพราะบ่าวรับใช้ดูแลข้าไม่ดี เมื่อวานองค์หญิงแห่งมณฑลส่งบ่าวรับใช้มาให้ และองค์หญิงผู้นี้ก็รู้สึกขอบคุณมาก”

เมื่อกล่าวถึงบ่าวรับใช้ที่ส่งโดยเฟิงหยูเฮง รุ่ยเจียก็เต็มไปด้วยความโกรธ แต่มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการแสดงความโกรธออกมา นางพูดได้อย่างขมขื่น “ถูกต้อง องค์หญิงแห่งมณฑลจัดการได้ดี”

หลังจากที่นางพูดจบ นางก็มองไปที่เฟิงหยูเฮงซึ่งดวงตาของนางเป็นสีแดงก่ำและใบหน้าซีดเซียว แล้วเฟิงหยูเฮงก็มองฮูหยินผู้เฒ่าด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ

ฮูหยินผู้เฒ่าตกตะลึงทันที…