บทที่ 414 การต่อสู้ของเหล่าผู้ปกครอง
บทที่ 414 การต่อสู้ของเหล่าผู้ปกครอง
หานเฟิงกำลังซ่อนตัวอยู่ ณ มุมใดหนึ่งในหมู่บ้านเริ่มต้นเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของคนอื่น ๆ เขาไม่กล้าแม้จะออกไปเก็บเลเวลตอนนี้ด้วย อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ก็อยากจะให้ตนเองปลอดภัยที่สุดในโลกของเกมก่อน
หานเฟิงรับรู้ได้ว่าสิ่งนี้กำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากในฟอรั่มของเขตฮัวเซียที่คุยกันให้ว่อนถึงเรื่องสงครามระหว่างสองผู้ปกครอง และเขาเองก็เป็นหนึ่งในคนไม่กี่คนที่รู้ว่าต้นเหตุของสงครามคืออะไร นั่นก็เพราะองค์หญิงเซียวหลิงของกิลด์มิดซัมเมอร์ถูกฆ่า ซึ่งมันก็มีเขาเป็นต้นเหตด้วย หากการต้องรับผิดชอบเรื่องนี้คือการตายล่ะก็ ตัวเขาเองคงจะหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน…
แต่ถึงอย่างนั้นหานเฟิงก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นจริง ๆ ถึงแม้ว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงด้านลบเสียเยอะ ก็ไม่กล้าที่จะทำเรื่องน่าอัปยศอย่างการนำเด็กสาวตัวเล็ก ๆ มาทำให้กิลด์ขนาดใหญ่สองกิลด์ตีกันเองเพื่อเป็นการแก้แค้นหรอก ยังไงซะเขาก็ยังมีความเป็นคนอยู่
การที่ตัวเองได้ชื่อว่าเป็นพวกชอบปั่นชอบแกล้งนั้นมันทำให้ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เขาพูด ดังนั้นในตอนนี้หานเฟิงทำได้แต่เพียงหลบซ่อนเท่านั้น การที่สองกิลด์ใหญ่จะทำสงครามกันนั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่งที่เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ไม่แพ้กันก็คือ เด็กสาวที่ถูกฆ่าคนนั้นคือน้องสาวของฮีลเลอร์อันดับ 1 แห่งเขตฮัวเซีย! เจ้าแห่งฮีลเลอร์!
หากคนคนนี้ยังคงหายตัวไปเงียบ ๆ และไม่ออนไลน์เหมือนแต่ก่อน เขาคงจะสามารถหนีไปอยู่ยังเมืองหลักไกล ๆ และแอบเก็บเลเวลต่อได้
ทว่าตอนนี้ทั่วทั้งฮัวเซียเองก็รู้หมดแล้ว ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นไม่เพียงแต่กลับมาออนไลน์เท่านั้น เขายังกำลังไปบุกสนามประลองของเขตฮันกุลเพื่อถล่มที่นั่นจนย่อยยับอีกด้วย! ดังนั้นเขาทำได้แค่เพียงหลบซ่อนเท่านั้น บางทีอาจจะต้องหลบซ่อนไปตลอดชีวิต!
เรื่องมากมายที่เกิดขึ้นนี้ทำให้หานเฟิงปวดหัวเป็นอย่างมาก แม้จะซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นที่ขึ้นชื่อว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นตัวเขาก็ยังใจสั่นด้วยความหวาดกลัวอยู่ตลอดจนไม่กล้าออกจากที่นี่เลย ในใจลึก ๆ ตอนนี้เขาแอบคิดแล้วด้วยว่าจะลบบัญชีนี้ทิ้งแล้วสร้างตัวใหม่ เริ่มต้นใหม่จากศูนย์อีกครั้ง การที่เผลอไปผิดใจกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์กับกิลด์มิดซัมเมอร์ในเวลาเดียวกันนั้น มันถือว่าใหญ่หลวงกว่าเป็นศัตรูกับกางเขนเหล็กเป็นไหน ๆ ทั้งสองที่กล่าวถึงนั้นน่ากลัวกว่าเยอะ เมื่อเทียบกันแล้ว กางเขนเหล็กไม่ได้เสี้ยวของพวกเขาเลย
“ทะ…ทำไมจู่ ๆ รอบ ๆ นี้ก็หนาวขึ้นมานะ?…ไม่ ไม่ดีแล้ว!”
จู่ ๆ บรรยากาศรอบ ๆ ตัวหานเฟิงก็เปลี่ยนไป เขาที่ระมัดระวังตัวอยู่แล้วรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างรวดเร็ว ร่างกายของตัวเองมันสั่นเทาไปหมด แม้จะสงสัยแต่ก็มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติอย่างแน่นอน ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นหมายจะออกจากที่นี่
แต่มันก็สายเกินไป
ร่างที่คลุมเครือสี่ร่างปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดมิด พวกเขาทั้งสี่ปิดทางหนีของหานเฟิงไว้จากสี่ทิศทาง ในจังหวะเดียวกัน มีดสั้นทั้งสี่เล่มก็จ่อเข้าที่คอของเขาไว้ด้วย
“กลุ่มนักฆ่าสีชาด…”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หานเฟิงเจอกับคนเหล่านี้ เพราะงั้นเขาจึงจำได้ว่าพวกเขาทั้งสี่คือหนึ่งในปราการที่แข็งกล้าของกิลด์มิดซัมเมอร์ ชื่อสีแดงและม่วงนั้นเป็นประจักษ์ชัดเจนว่าตัวเองจำไม่ผิด ไหนจะรังสีความอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาทำให้ผู้เล่นที่ตกเป็นเป้าหมายต่างพากันรู้สึกหนาวยันไขสันหลังกันทุกคน
อาการนี้แม้แต่หานเฟิงเองก็เป็น เขากำลังสั่นเทาไปด้วยความกลัว ขณะที่มองไปยังมีดสั้นทั้งสี่เล่มที่จ่อมายังคอของตนนั้น ผิวกายก็สัมผัสได้ถึงจิตอาฆาตที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างมหาศาล มันหนาแน่นจนราวกับว่ามีปีศาจร้ายซ่อนอยู่ในตัวคนเหล่านี้จริง ๆ เสียแล้ว นอกจากนักฆ่าผู้โหดเหี้ยมทั้งสี่คนนี้ ภายในความมืดมิด หานเฟิงยังสัมผัสได้ถึงคนอื่น ๆ อีกอย่างน้อยสิบคนกำลังซ่อนตัวอยู่ด้วย
“เดี๋ยว ๆๆ หยุดก่อน เข้าใจผิดกันไปหมดแล้ว! ฉันกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์นับถือกันเป็นพี่น้องเลยนะ! ปะ…เป็นคู่ซี้ไรงี้! ไม่ ๆ ไม่ใช่แบบนั้น เอ่อ เป็นคู่หู! นี่น่ะเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริง ๆ นะ! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพาน้องสาวตัวน้อยมาเกี่ยวข้องกับฉันจริง ๆ!”
หานเฟิงไม่ใช่คนโง่ เขาย่อมสามารถรู้ได้อยู่แล้วถึงเหตุผลที่คนเหล่านี้ตามตัวเขา ดังนั้นจึงรีบอธิบายทุกอย่างไปก่อน
“ฉันได้ยินมาว่า นายถูกพวกกางเขนเหล็กฆ่าจนต้องกลับมาเกิดใหม่ที่หมู่บ้านเริ่มต้นนี่ เพราะงั้นนายเลยคิดจะใช้เซียวหลิงมาปลุกปั่นให้มิดซัมเมอร์กับกางเขนเหล็กตีกันเพื่อจะให้เป็นการล้างแค้นให้นายสินะ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเกรียนจอมปั่นประสาทอันดับ 1 ในเขตฮัวเซียอย่างนายจะวางแผนได้ถึงเพียงนี้”
ซือเยี่ยจิ๋งเองก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากเงามืดนั้นด้วย เธอมองไปยังหานเฟิงด้วยสายตาเหยียดหยามไม่ต่างกับคำพูดที่พูดออกมา
“เข้าใจผิดแล้ว! เข้าใจผิดกันไปใหญ่! ท่านมหาเทพเยี่ยจิ๋ง! ฉันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะ! ความสัมพันธ์ของฉันกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะ ไม่ใช่อะไรที่จะมาล้มล้างกันง่าย ๆ หรอกนะ! เพราะงั้นฉันไม่มีทางคิดที่จะเอาน้องเซียวหลิงมาใช้เป็นเครื่องมือแน่!”
หานเฟิงรีบตาลีตาเหลือกพูดแก้ตัวให้ตนเองขณะที่เหงื่อเย็น ๆ ก็ไหลอาบหน้าผากตลอด เรื่องนี้มันน่ากลัวมาก ๆ ขืนถูกสรุปว่าตนเป็นคนผิดจริงๆ ล่ะก็ ไม่เพียงแต่ทั่วเขตฮัวเซียจะกลายเป็นที่ที่ไม่ปลอดภัยเท่านั้น แต่ทั่วทั้งโลกของเกมเลยต่างหาก!
“ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจผิดหรือไม่อย่างไรก็ตาม พวกฉันจะตามสืบต่อเอง ส่วนนาย ฉันรู้ว่านายกับเซียวเฟิงรู้จักกัน ไม่งั้นนายคงจะไม่มีหน้ามายืนพูดอยู่ที่นี่หรอก ฉันขี้เกียจคุยเรื่องไร้สาระกับนายแล้ว เพราะงั้นไว้เซียวเฟิงกลับมา ฉันจะมาตามหาตัวนายอีกทีหนึ่ง”
น้ำเสียงของซือเยี่ยจิ๋งนั้นเย็นชามาก ๆ หลังจากพูดจบ เธอก็ไม่ได้ดื้อดึงที่จะอยู่ต่อ ร่างนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอยรวมถึงสมาชิกทั้งสี่ที่มาจากเฮลผู้ที่นำมีดสั้นจ่อคอหานเฟิงไว้เองก็หายไปด้วยเช่นกัน พวกเขาเหล่านี้เสมือนภาพมายา ยามปรากฏตัวก็มาด้วยความเงียบ ครั้นเมื่อหายไปก็หลงเหลือไว้เพียงความเงียบสงบด้วยเช่นกัน
“นะ…น่ากลัวชะมัด… กิลด์มิดซัมเมอร์ไปจ้างนักฆ่าที่น่ากลัวขนาดนี้มาจากไหนเนี่ย? ในโลกจริง ๆ พวกนี้จะต้องเป็นคนที่สามารถฆ่าคนอื่นได้โดยไม่รู้สึกผิดแน่ ๆ”
หลังจากที่ความรู้สึกกดดันรอบ ๆ ตัวหายไปแล้ว หานเฟิงก็ทรุดลงไปกับพื้น ขาของตัวเองมันอ่อนแรงไปหมดเลย สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือถอนหายใจไล่ความกลัวออกไปเท่านั้น
“เอาเลยสิ มิดซัมเมอร์! จะได้รู้กันไปเลยว่า พวกเรากางเขนเหล็ก แข็งแกร่งขนาดไหน! ในเมื่อพวกนายกล้าที่จะประกาศสงครามกับพวกเรา! ก็เตรียมใจที่จะแพ้เอาไว้ด้วยล่ะ!”
ด้วยเลเวลของกางเขนเหล็ก มันเลยทำให้ขนาดของแคมป์กิลด์นี้มีระดับพอ ๆ กับเมืองขนาดเล็กแล้ว และด้วยขนาดที่ขยายไม่หยุดนี้ หากปล่อยไว้อีกไม่นานจะต้องได้รับการพัฒนาจนเทียบเท่ากับเมืองหลักระดับ 3 แน่ ๆ
ที่บนกำแพงนั้น ชินห่าวกำลังมองลงมายังฝูงชนมากมายรอบทิศทางพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแสด้วย ซึ่งคนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสมาชิกของกิลด์มิดซัมเมอร์กันทั้งหมด พวกเขากำลังล้อมแคมป์ของกางเขนเหล็กไว้หมดแล้ว
ตัวเขาเองนั้นค่อนข้างจะมั่นใจในกำลังของกางเขนเหล็กมาก ๆ ไม่อย่างนั้นแล้ว กิลด์นี้คงจะไม่สามารถไต่ขึ้นมาเป็นผู้ปกครองแห่งทิศตะวันตกได้ โดยเฉพาะยิ่งศึกในแผ่นดินแม่ของตน เขามั่นใจขนาดที่ต่อให้ศัตรูจะเป็นไดนัสตี้ กางเขนเหล็กก็จะไม่มีทางพ่ายแพ้!
มีเพียงกิลด์เดียวเท่านั้นที่ชินห่าวไม่อยากจะยุ่งด้วย จะเรียกว่าเขากลัวเลยก็ว่าได้ นั่นคือ แอนติควิตี้ เนื่องจากยอดฝีมือของกิลด์นี้นั้นแข็งแรก่งเกินไป!
หากเขากลายเป็นเป้าหมายล่ะก็ ไม่มีทางหยุดการทะลุทะลวงเข้ามาได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงคลาสอัศวินที่มีข้อเสียเป็นพลังป้องกันอยู่แล้วด้วยเลย ต่อให้ยอดฝีมือของมิดซัมเมอร์จะเป็นนักฆ่า เขาอาจจะต้องเสียคนเพราะการโดนลอบฆ่าบ้างก็จริง แต่ชินห่าวก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถต้านเอาไว้ได้ ดังนั้นไม่ยังไงมิดซัมเมอร์ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดที่แอนติควิตี้ทำให้เขากลัว
[ประกาศทั่วทั้งเขต! สงครามกิลด์ระหว่างกิลด์มิดซัมเมอร์และกางเขนเหล็กกิลด์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! สงครามจะดำเนินไปอีก 12 ชั่วโมง! ภายใน 12 ชั่วโมงนี้ หากแคมป์ของกางเขนเหล็กกิลด์ถูกทำลาย จะถือว่าพ่ายแพ้ แต่ถ้ากิลด์สามารถป้องกันแคมป์ไว้ได้ถึง 12 ชั่วโมง จะถือว่าชนะ หากกิลด์มีเลเวลเหลือเพียง 1 กิลด์จะถูกยุบ! ผู้ชนะจะได้รับของรางวัลจากระบบ ส่วนฝ่ายที่แพ้จะถูกลดระดับลง ช่วงระหว่างที่เกิดสงครามกิลด์ ค่าความเกลียดชังจะไม่ถูกเพิ่มขึ้นเมื่อผู้เล่นทำการกำจัดผู้เล่นด้วยกันเอง!]
[ประกาศทั่วทั้งเขต! สงครามกิลด์ระหว่างกิลด์มิดซัมเมอร์และกางเขนเหล็กกิลด์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!…]
[ประกาศทั่วทั้งเขต! สงครามกิลด์ระหว่างกิลด์มิดซัมเมอร์และกางเขนเหล็กกิลด์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!…]
เสียงประกาศจากระบบนั้น ทำให้ทุก ๆ คนในฮัวเซียต่างรับรู้ได้พร้อมกันว่า สงครามระหว่างกิลด์ระดับผู้ปกครองทั้งสอง ในที่สุดก็เริ่มเปิดฉากกันเรียบร้อยแล้ว!
มันมีกฏที่ไม่ได้ถูกเขียนไว้อยู่ข้อหนึ่ง เกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างกิลด์ผู้ปกครอง นั่นคือ เหล่ากิลด์ที่อยู่เบื้องล่างจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มิเช่นนั้นแล้ว การเผชิญหน้ากันของกิลด์ระดับใหญ่ทั้งสองกิลด์นี้จะกลายเป็นการจราจลในเขตฮัวเซียไปในที่สุด
กฏนี้ถูกใช้มาตลอด ตั้งแต่ที่กิลด์แอนติควิตี้เป็นฝ่ายประกาศสงครามกับมิดซัมเมอร์ หรือจะเป็นครั้งนี้ที่มิดซัมเมอร์ประกาศสงครามกับกางเขนเหล็ก สงครามนั้นจะมีเพียงแค่สองกิลด์เท่านั้น…
แต่ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการต่อสู้ของกิลด์เพียงสองกิลด์ แต่จำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมก็มีสูงถึงสิบล้านคน!
ตอนนี้หากมองลงมาจากที่สูง กลุ่มผู้เล่นของมิดซัมเมอร์เองก็มีจำนวนมหาศาลจนไม่สามารถเห็นผู้ที่อยู่ท้ายสุดได้เลย
นี่เป็นครั้งที่สอง ที่มิดซัมเมอร์ได้มาเกี่ยวข้องกับสงครามกิลด์ขนาดใหญ่นี้ แต่ครั้งนี้มันต่างกับครั้งก่อนมาก ๆ นั่นเพราะครั้งนี้มันไม่มีอะไรที่เป็นการอุ่นเครื่องเลย
ทันทีที่สงครามเริ่มทั้งสองฝ่ายก็มีท่าทีพร้อมที่จะปะทะกันแล้ว!
“ดูเหมือนว่ามิดซัมเมอร์จะหดหัวอยู่แต่ในฟากใต้มานานจนไม่รู้แล้วสินะว่าฟ้านั้นสูงขนาดไหน? ในเมื่อพวกแกกล้าที่จะมาท้าทายพวกเราถึงในเขตตะวันตก! งั้นฉันก็จะปราบพยศพวกแกให้หมดวันนี้เลย!”
ประตูแคมป์ของกางเขนเหล็กเปิดออก พร้อมกับทัพที่ดูจะประกอบด้วยคลาสอัศวินทั้งหมดสี่ทัพก็พากันวิ่งออกมาเพื่อปะทะกับทัพของกิลด์มิดซัมเมอร์
“ส่งต่อคำสั่งของฉัน…”
ทว่าตอนนั้นเอง กลุ่มของนักฆ่าในชุดดำก็ปรากฏขึ้นบนกำแพงแคมป์ของกางเขนเหล็ก ชื่อพวกเขาแต่ละคนนั้นเป็นสีม่วงและสีแดง นักฆ่าเหล่านั้นกระจายตัวกันไปยืนอยู่ด้านหลังเหล่าผู้บริหารของกางเขนเหล็กพร้อมกับใช้มีดสั้นจ่อคอพวกเขาไว้อย่างรวดเร็ว
“อะไรน่ะ!?”
ชินห่าวและผู้บริหารคนอื่น ๆ ของกางเขนเหล็กต่างก็ตกอยู่ในความตกใจเหมือนกัน พวกเขาไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งความเยือกเย็นและจิตสังหารคืบคลานมาถึงลำคอของพวกเขา
เหล่านักฆ่าที่มาจากเฮลไม่พูดพร่ำทำเพลง พวกเขาลงมือปาดคอผู้เล่นระดับสูงของกางเขนเหล็กอย่างรวดเร็ว มันทำให้เพียงเสี้ยววินาที ร่างของคนเหล่านั้นก็ล้มลงไปกองเรียงกันบนพื้น
และเมื่อภารกิจลอบสังหารเสร็จสิ้น เหล่านักฆ่าในชุดดำผู้เปรียบเสมือนเทพเจ้าแห่งการฆ่าหายไปราวกับภาพมายาราวกับไม่เคยอยู่ตรงนี้มาก่อน ไม่เหลือไว้ซึ่งร่องรอยใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อแผนการเชือดไก่ให้ลิงดูของมิดซัมเมอร์เริ่มต้นขึ้น สงครามของกิลด์ระดับผู้ปกครองที่มีคนกว่าสิบล้านคนก็ทวีคูณความเร่าร้อนมากขึ้นไปอีก
มันเป็นสงครามที่เข้มข้นที่สุด โหดร้ายที่สุด ขนาดใหญ่ที่สุด และเกิดขึ้นในสนามรบที่ใหญ่เหมาะสมกับการต่อสู้มากที่สุด!
ความน่าตื่นเต้นของการปะทะกันระหว่างสองผู้ปกครองสะกดทุกคนในฮัวเซียให้หันมาจับตามองสงครามแห่งประวัติกาลครั้งนี้กันอย่างไม่วางตา มันมีเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นตลอดเวลาขณะที่สงครามยังดำเนินอยู่ ซึ่งเหล่าคนดูต่างก็เป็นสักขีพยานกันได้ขณะที่เขากำลังรับชมมันด้วยความเงียบสงบเช่นนี้
การต่อสู้รุนแรงและน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา 12 ชั่วโมงที่ดำเนินมา เรียกได้ว่าไม่มีช่วงไหนเลยที่รู้สึกยืดยาด
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการประกาศสงครามครั้งนี้ก็คือ กิลด์มิดซัมเมอร์ไม่สามารถทลายแนวป้องกันของกางเขนเหล็กเข้าไปได้ใน 12 ชั่วโมง และกลายเป็นผู้แพ้ไปในที่สุด
“มิดซัมเมอร์แพ้งั้นเหรอ?”
“อย่างที่คิดเลย ถึงพลังต่อสู้ของทั้งสองกิลด์จะไม่ต่างกันมากนัก แต่การที่ฝั่งหนึ่งเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่ที่เขตของตนนั้นย่อมมีโอกาสชนะมากกว่าอยู่แล้ว”
“ใช่แล้ว พวกเขาดันเลือกมาสู้กันในเขตตะวันตก เพราะงั้นพวกอัศวินของกางเขนเหล็กจึงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา อัศวินที่มีเมืองอยู่น่ะ ก็ไม่ต่างกับเสือที่เป็นเจ้าป่าหรอก พวกเขาสามารถกลับไปในเมืองแล้วนำขบวนทหารม้าที่ยากที่จะหยุดยั้งออกมาได้เรื่อย ๆ แล้วผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ ทัพของมิดซัมเมอร์ต้องแตกพ่ายเพราะทหารม้าพวกนั้นไปกี่ครั้งแล้ว?”
“กลยุทธ์ของกางเขนเหล็กนับว่าชาญฉลาดอยู่นะ ทั้งทหารม้านักธนูและทหารม้าแบบฝรั่งเศสต่างก็เป็นคลาสที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตลอดพร้อมกับโจมตีได้เรื่อย ๆ การสู้ในบ้านของพวกเขา ยังไงก็ไม่มีทางชนะหรอก!”
“กางเขนเหล็กไม่น่าจะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว ฉันเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่กำลังอิจฉาในความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่!”
“พวกนายอย่าลืมสิว่ากิลด์นี้คือผู้ปกครองฟากตะวันตกที่ยิ่งใหญ่เลยนะ! จะให้เขาโดนโค่นล้มง่าย ๆ ได้ยังไงกัน!”
“ครั้งนี้มิดซัมเมอร์เจ็บหนักแน่ ๆ การต่อสู้ที่ใช้จังหวะเข้าว่าแบบนี้ หากการเสริมกำลังคนไม่เร็วพอ ยังไงก็ไม่มีทางชนะ แล้วก็อย่างที่คนอื่น ๆ บอก ครั้งนี้กางเขนเหล็กได้เปรียบอยู่มากจนถึงมากที่สุดจริง ๆ”
“ฉันว่าถ้ามองในแง่ของความแข็งแกร่งการเข้าปะทะ ยังไงกางเขนเหล็กก็แข็งแกร่งกว่ามิดซัมเมอร์นะ ทหารม้าของพวกเขาสามารถออกมาสู้ได้ตลอด 12 ชั่วโมงแบบนี้มันก็นับว่าไม่ธรรมดาเลย”
“ใช่ หน่วยทหารม้าของกางเขนเหล็กน่ะ ถือว่าเป็นภัยคุกคามที่รุนแรงและหนักหน่วงพอตัวเลยสำหรับผู้ที่คิดจะเข้าโจมตี แถมต่อให้พวกเขาพลาดตาย จุดเกิดก็อยู่ที่ด้านหลังแล้ว ดังนั้นการเติมทัพที่ขาดย่อมสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นฝ่ายมิดซัมเมอร์เองที่ต้องเจ็บหนัก”