บทที่ 243 ยัยบ๊อง มานี่…

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 243 ยัยบ๊อง มานี่….
ทันใดนั้น รถคันนี้ก็วิ่งอยู่บนถนนลาดยาง หลังจากเห็นวิ่งส่ายไปมา รถที่อยู่รอบๆ ก็ตกใจขับรถเลี่ยงเขาไปไกล

คนขับเป็นอะไร?

เมาหรือเปล่า?

ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ก็จะโทรแจ้งตำรวจ

โชคยังดี ในตอนนี้มือถือในรถเบนท์ลีย์มีคนโทรเข้ามาพอดี

“ท่านประธานครับ มีข่าวดีครับทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่า เมื่อวานมีพยาบาลที่ได้บันทึกคลิปวีดีโอไว้ในโทรศัพท์พอดี คุณเส้นหมี่ได้ออกไปกับคนๆหนึ่งครับ ไม่ได้โดนคุณท่านกมลภพลักพาตัวไปครับ”

นั้นเป็นเสียงของเคมี เขาอดใจรอไม่ได้ที่จะรีบนำข่าวดีโทรมาบอก

ดวงตาของผู้ชายที่อยู่ในรถเริ่มแดงก่ำและเริ่มสงบลง

“เป็นใคร?”

“เขาคนนี้……ภาพค่อนข้างเบลอยังดูไม่ออกว่าเป็นใครครับ แต่ผมให้ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบแล้วครับ วางใจได้ครับ ผลน่าจะออกมาในเร็วๆนี้”

“โอเค ฉันจะรีบไป”

จากนั้นชายคนนั้นก็เหยียบคันเร่ง และทันใดนั้นรถก็แล่นเข้าไปทางใจกลางเมืองราวกับลูกศร

——

ที่แท้เส้นหมี่ก็ออกไปกับคนๆหนึ่ง

หรือว่าคนๆนี้จะไม่ใช่คนอื่นคนไกล หรือว่าจะเป็นมาร์ติน คนที่หล่อนไหว้วานให้พี่ภาพามาเมื่อตอนกลางวัน

“ยัยบ๊องเอ้ย หล่อนตัดสินใจอยากไปรักษาตัวที่ประเทศนั้นจริงหรอ? มันจะไกลไปรึเปล่า? ตอนนี้เรื่องมันเกิดกับเราที่นี่ ไปหาเขาจะมีประโยชน์อะไร?”

จากเมืองเอ ก็ห่างจากกองถ่ายไม่ไกลคุณชายที่สองของตระกูลโรแกนผู้ซึ่งรู้สึกหดหู่ใจอย่างมากในช่วงสองวันที่ผ่านมา กำลังนั่งอยู่บนโซฟาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด มองดูหญิงสาวที่อยู่ไม่ไกลนักหล่อนกำลังขีดๆเขียนๆบนแผนที่

ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นเส้นหมี่แน่ๆ

บ่ายวานนี้ หลังจากที่เส้นหมี่รู้ว่าคุณท่านกมลภพกำลังมาจะพาตัวหล่อนไป หล่อนจึงติดต่อมาร์ติน เป็นการส่วนตัวโดยขอให้เขาไปรับหล่อนในตอนกลางคืน จากนั้นหล่อนก็ไปกับเขา

สตูดิโอเป็นที่ปลอดภัยที่หนึ่ง

ตอนนี้ตระกูลโรแกนคงดีใจจนกระโดดโลดเต้น คิดว่าไม่มีใครนึกถึงที่นั้น หล่อนคงยังอยู่ที่นี่กับคุณชายสองของตระกูลโรแกนแน่ๆ

เส้นหมี่วางแผนที่ต่างๆที่หล่อนต้องไปอย่างเร่งรีบเธอจึงนึกถึงคุณชายท่านนี้: “ใช่แล้ว เนื่องจากคุณบอกว่าพี่ชายของคุณไม่ได้ให้เงินคนนั้นเลย งั้นเรามาตรวจสอบเงินกันจากที่นี้ก่อน!”

“แต่ว่าการตรวจสอบเงิน ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่างประเทศนิ เงินถูกโอนออกไปจากบัญชีภานในประเทศของพี่ชายฉัน”

“ใครจะไปรู้ละ ตอนนี้มีบัญชีปลอมมากมาย พวกเขาแอบทำบัญชีแบบลับๆพวกคุณไม่มีทางรู้หรอก ชื่อที่อยู่บนหน้าบัญชีเป็นเพียงแค่ชื่อหลอกๆ”

เส้นหมี่ดูค่อนข้างชำนาญในเรื่องนี้

อาจเป็นเพราะเธอและคริสทำงานร่วมกันเพื่อเก็งกำไรในด้านการเงิน

มาร์ติน ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ

แต่ว่าเขายังมีความสงสัยว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเชื่อที่เขาพูด?

ถ้าเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น เขาคงไม่เพียงแค่ไปขอร้องน้าชายเขาคงต้องไปหาไอ้สารเลวแสนรักนั้นด้วยตัวเอง ว่าเรื่องนี้ตระกูลโรแกนไม่ได้ทำ แต่พวกเขาคงไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เขาพูดแน่

พวกเขาได้ตัดขาดกับตระกูลโรแกน

ถ้างั้นทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเชื่อว่าตระกูลโรแกน ไม่ได้ทำเรื่องนี้

มาร์ตินนั่งดูหญิงสาวอย่างเงียบๆสักพัก ก็ถามเธอว่า“เส้นหมี่ ทำไมเธอถึงเชื่อที่ฉันพูดตระกูลโรแกนของพวกเราก็ดูไม่ได้ดีกับเธอนิ”

“……”

เส้นหมี่ที่กำลังวาดแผนที่อยู่นั้นได้ยกขนตายาวขึ้น มองไปทางที่คุณชายที่สอง เขาเหมือนสุนัขตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บและรอหล่อนปลอบโยน

“เพราะฉันคิดว่าตระกูลตระกูลโรแกนของพวกคุณคงไม่ทำเรื่องโงๆแบบนั้น”

“อะไรนะ?” มาร์ตินอึ้งไปครู่หนึ่ง “โง่หรอ?”

เส้นหมี่พยักหน้า “ใช่ เพียงแค่ต้องการชีวิตฉัน เป็นคุณจะเขียนสิ่งนี้ในงานเลี้ยงวันเกิดของแม่คุณเหรอ? แอบทำอย่างลับๆไม่ดีกว่าเหรอ?”

มาร์ติน: “……”

เขาจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ เขาไม่รู้จะตอบกลับเธอยังไงดี

ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆสินะ เรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตาย สำหรับเธอตอนนี้สามารถเอามาพูดเล่นเป็นเรื่องตลกได้แล้ว

มาร์ติน ยังไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาก็ได้ฟังสิ่งที่เส้นหมี่เตรียมการไว้ หลังจากเฮลิคอปเตอร์มาตอนกลางคืน เขาก็ออกไปถ่ายละคร

และทันทีที่เขาจากไป เขาก็ไม่เห็นหญิงสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะยิ้มอย่างแผ่วเบา

ทันใดนั้นอารมณ์ของหล่อนก็เยือกเย็นขึ้น ใช้แรงจับอย่างแน่น หลังจากจับแผนที่ที่วางแผนไว้อย่างแน่นหนาในมือของเขา สายตาสังหารที่ดุเดือดของดวงตาสีแอปริคอท

ไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องนี้หล่อนถึงเชื่อว่าตระกูลโรแกนไม่ได้เป็นคนทำเพียงคนเดียว

หล่อนไม่เชื่อเพราะจิตแพทย์คนนั้น

ไม่มีใครรู้ หล่อนไม่เคยบอกเรื่องโรคความจำเสื่อมความบกพร่องทางพันธุกรรมกับใคร นอกจากที่นั้นที่เดียว

นั่นคือหนังสือที่เธอเขียนในปีนั้น

ในเล่มนั้น เธอสร้างตัวละครเอกที่เป็นผู้ชาย เขาสมบูรณ์แบบในทุกสิ่ง มีไอคิวสูงมาก และมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ข้อบกพร่องเดียวคือเขาป่วยด้วยโรคร้าย

โรคนี้คือ “โรคกลัวตัวเองดีไม่พอ”!

หนังสือเล่มนั้นจัดได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างมากเมื่อได้รับการตีพิมพ์ แต่ต่อมาเนื่องจากตระกูลวชิรนันท์ของเธอล้มละลายและเธอแต่งงานเข้าคฤหาสน์หิรัญชาเธอจึงไม่เคยสนใจเรื่องนี้อีกเลย

แต่เมื่อเธอกลับมาคราวนี้ เธอก็พบว่ามันถูกตีพิมพ์

เก่งไหม?

นอกจากนี้สถานที่ตีพิมพ์ยังเป็นประเทศ M ที่จิตแพทย์ศึกษาอยู่ มันบังเอิญเกินไปไหม?

เส้นหมี่ถือแก้วน้ำมาที่ขอบหน้าต่าง มองดูพระอาทิตย์ตกที่ค่อยๆ ลาดเอียงไปทางทิศตะวันตกในระยะไกล คิ้วและตาของเธอก็เย็นชาลง ยิ้มมุมปากมีเพียงความอาฆาต