ตอนที่ 209

Black Tech Internet Cafe System

“เธอคนนั้นงดงามมาก!”

 

“เธออยู่ไหนละท่านซงได้ตัดสินใจเลือกเธอจากศิษย์ทั้งหมดของกลุ่มภูเขาไผ่” บนจตุรัสที่เต็มไปด้วยสาวกของกลุ่มเมฆเขียว พวกเขารวมตัวกันเพื่อเฝ้ารอดูหญิงสาวจากกลุ่มภูเขาไผ่

 

“ข้าละอยากจะเข้าร่วมกับกลุ่มเมฆเขียว!” ซูเหลียวพึมพำ “ว่าแต่ไหนละหญิงสาวคนสวยมีด้วยหรือ?”

 

“มีสิ! ตรงนั้น เธอไม่ได้อยู่ในกลุ่มสาวก!” ซงฉิงเฟิงตอบด้วยเสีียงตื่นตเ้น ข้างอาจารย์ซงปามีหญิงสาวรูปงามยืนอยู่ เธออยู่ในชุดสีขาวพร้อมดาบยาวที่หลัง มองดีๆ จะพบว่าปลอกสีฟ้าของดาบถูกปกคลุมไปด้วยไฟซึ่งแสดงให้เห็นว่าดาบนั้นเป็นสมบัติของสววรค์

 

“ว้าว!” ซูเหลียวและหลินเซีียวมองไปยังทิศทางที่ซงฉิงเฟิงชี้นิ้ว ปากของพวกเขากลมโตอ้าปากค้าง

 

“ไหน? ไม่เห็นจะมีความมงามปรากฏ?” อันเชงและคนอื่นๆ ที่สนิทกับพวกเขสต่างเปิดทางเลือกสื่อสารภายนอกไว้ พวกเขาอยู่ไม่สุขเมื่อได้ยินกลุ่มของซงฉิงเฟิงพูดถึงสาวงาม

 

“ชู่ว! นั้นไงข้าเห็นเธอแล้ว!” อันเชงมองตาไม่กระพริบ “โอหยางๆ บุเช่ๆ ดูทางนั้นสิ!”

 

 

ซูเทีียนจิรู้สึกพูดไม่ออกเมื่อเห็นฉากตรงหน้า

 

“เจ้าดูนั้นสิ! กิเลนน้ำอายุพันปี! มันเป็นสัตว์ดุร้ายในตำนาน”

 

“สุดยอด! เราจะได้เห็นกิเลนพ่นไฟทั้งบนบกและในน้ำในกระบี่เทพสังหาร” เฟงหัวและยูซินจ้องมองหน้าจอด้วยความตื่นเต้น

 

ทุกครั้งที่ซูเทียนจิเห็นฝ่ายจิตวิญญาณของกลุ่มเมฆเขียวคอยรักษาประตูทางเข้าของกลุ่มเธอจะรู้สึกโศกเศร้าทุกครั้ง เพราะที่วังของเธอไม่มีผู้คอยปกป้องประตูแบบนั้นบ้างเลย

 

จู่ๆ เสียงคำรามก็ดังขึ้นมันมาใต้จากน้ำ กิเลนรับรู้ถึงรัศมีของลูกปัดกระหายเลือด ลมเปลี่ยนทิศทางโดยทันทีีเมฆก็ได้เปลี่ยนสีเช่นกัน!

 

ลำแสงขนาดใหญ่พุ่งขึ้นจากน้ำ .. สัตว์ประหลาดทุกชนิดปรากฏขึ้น​ ณ บ่อน้ำอันยิ่งใหญ่ สัตว์ดุร้ายพวกนั้นล้วนเป็นสัตว์ที่ถูกกิเลนสังหารและพวกมันถูกกักขังอยู่ในลำแสงใต้น้ำ

 

“มันช่างน่ากลัวจริงๆ ..” เฟงหัวและยูซินกอดคอกัน

 

“กิเลนมีบาดแผลเต็มร่างกายแต่มันก็ยังสามารถควบคุมน้ำด้วยพลังอันยิ่งใหญ่” หลันโมอุทานด้วยความประหลาดใจ เขาหวังว่าสักวันจะได้จับกิเลนตัวเป็นๆ ด้วยมือของเขาเอง!

 

สัตว์ชนิดนี้หายากมันมีค่ามาก!

 

 

ตงชิงลี่กล่าว “ต้องมีสาเหตุมาจากขุมทรัพย์ทางจิตวิญญาณของเสี่ยวฟานแน่ เสี่ยวฟานชั่งน่าสงสานจริงๆ!”

 

“ใช่!” จางวันหยูเอ่ยอย่างเห็นอกเห็นใจ “เขาไม่มีความสามารถในการฝึกฝนแถมน้องสาวสุดที่รักของเขายังคง ..”

 

“แม้จะมีีพลังอันยิ่งใหญ่จากขุมทรัพย์ แต่ดูเหมือนจะไม่เข้ากันกับวิถีของกลุ่มเมฆเขีียวเอาซะเลย เขาจะทำอย่างไรหากพบว่ามันคือลูกปัดกระหายเลือด?”

 

พวกเธอเป็นห่วงเขา

 

หลังจากนั้น ..

 

“โอ้ไม่!” หลายคนอุทานเกือบกรีดร้องออกมาเมื่อเห็นสองร่างกอดกันภายใต้แสงจันทร์ ชัดเจนภายใต้ดวงตาสองตาของจางเสีี่ยวฟาน

 

ตงชิงลี่รู้สึกเจ็บหัวใจเมื่อเห็นฉากนี้ “มันเกินไป! ในขณะที่คนอื่นฉลาดและเก่ง แต่ทำไมเสี่ยวฟานถึงไม่มีอะไรดีบ้างเลย”

 

ผู้ชมคนอทื่นๆ ส่วนใหญ่มักแบ่งปันความเห็นต่อกัน เฉินชิงชิงเองดูเศร้าหมองขณะที่ดูละครกระบี่เทพสังหาร “อะไรกัน!?”

 

“เอ้อ .. เจ้าเด็กนี่มันทึ่มจริงๆ ..” แม้แต่หลันโมที่เฝ้าดูละครยังเป็นห่วง ในตอนแรกเขารู้สึกไม่ชอบจางเสีี่ยวฟานเท่าไรนัก แต่ยิ่งดูก็ยิ่งกังวลมากกว่าเก่า

 

“น่าเบื่อจริงๆ เดี๋ยวเขาก็จะต้องตกอยู่ในสถานการณ์เลสร้าย!” จุนหยางชีกล่าวด้วยความร้อนใจปนโกรธเคือง

 

“ใจเย็นๆ ค่อยๆดูก่อน” หลันโมปลอบโยนเขา “ดูนั้นจางเสีี่ยวฟานจะเข้าร่วมการแข่งขัน!”

 

ก่อนที่จางเสี่ยวฟานจะขึ้นเวลาประกวดศิษย์พี่ของเขาเทีียนหลิงเอ่ยกับเขาว่า “เสี่ยวฟานข้าต้องเดินทางไปแข่งขันเช่นกัน ข้าคงไม่ได้อยู่เพื่อให้กำลังใจเจ้าแต่ถึงอย่างไรข้าเชื่อในตัวเจ้า!”

 

ทุกคนรวมรวมถึงอาจารย์ของเขาเลือกที่จะไปดูเทีียนหลิง .. โดยที่ทิ้งเขา

 

“อืม .. เขาไม่มีใครจริงๆ”

 

“เกิดอะไรขึ้น!? เขามีพวกผองแต่ทำไมพวกเขาถึงทิ้งเสี่ยวฟานไว้”

 

“นั่นสาวกของกลุ่มภูเขาไผ่”

 

“หืม?” หลันโมมองดู “นั้นเสี่ยวฟานหยิบท่อนไม้จิตวิญญาณของเขาออกมาแล้วนี่”

 

“เอาละ .. ชายคนนั้นชื่อชูซูฮงเขาดูมีท่าทางแข็งแรง ข้าจะสงสัยว่าจางเสี่ยวฟานจะไหวหรือไม่” ในเวลานี้คู่แข่งของเสี่ยวฟานปล่อยแสงออกมารอบดาบ

 

เสียงเชียร์ดังมากจากผู้ชมทั่วทิศ

 

ขณะเดียวกันจางเสี่ยวฟานกัดริมฝีปากร่างของเขาด้วยความประหม่า เขากัดแรงจนมันชาไม่รู้สึกถึงเลือดที่ไหลออกมามันหยดไส้ท่อนไม้แห่งจิตวิญญาณของเขา

 

ได้เวลาต่อสู้ .. จางเสี่ยวฟานพุ่งโจมตีชูซูฮงอย่างจังด้วยท่อนไม้ของเขาชูซูฮงร้องขึ้นและถอยกลับไปหลายก้าวก่อนจะล้มลง

 

ผู้ชมต่างเงียบ ..

 

“สุดยอด!” ซงฉิงเฟิงกระโดดดีใจ

 

“ฮ่าๆ ดูหน้าพวกเขาสิ!”

 

“พวกเขาทำหน้าราวกับโดนใครตบหน้า” หลินเซียวรู้สึกว่าในที่สุดเสี่ยวฟายก็ได้ระบายความหงุดหงิดที่สะสมมานานสักที

 

“ข้าเดาว่าทุกคนรู้สึกหน้ามืดเมื่อเห็น!”

 

“เจ๋ง!” อันเชงรู้สึกดีใจมาก “เขาต้องได้รับการยอมรับเป็นแน่”

 

“ข้าพนันได้ว่าเหล่าผองเพื่อนของเขาจะต้องอึ้ง ฮ่าๆ โอ้ยข้าไม่สามารถหัวเราะได้เลย” โอหยางหัวเราะคิกคัก

 

“สมบัติทางจิตวิญญาณของเขาดูอันตราย ..” ตงชิงลี่ขมวดคิ้ว

 

“ถึงอย่างไงมันสนุกจริงๆ เมื่อได้ดูฉากนี้ ดูหน้าผู้คนที่เคยหัวเราะเขาตอนนี้สิ หัวเราะไม่ออก!”

 

 

จางเสี่ยวฟานเดินทางกลับมาบ้าน “เสี่ยวฟานเป็นยังไงบ้าง” คนที่บ้านเอ่ยถามเขา

 

“ข้า .. ข้าชนะด้วยโชค”

 

“โอ้ มันเป็นเรื่องที่ดี ..​ เดี๋ยวนะ จริงหรือ!?”

 

“ฮ่าๆๆ” ซงฉิงเฟิงหัวเราะ “ประหลาดใจละสิ!”

 

“พวกเจ้าประหลาดใจกันใช่มั้ยละ?” ผู้ชมในร้านขำขัน

 

“ท่านอาจารย์! ดูท่าทางพวกเขาสิ” เฟงหัวตะโกนเรียกซูเทียนจิและยูซินด้วยเสียงตื่นเต้น