ตอนที่ 210

Black Tech Internet Cafe System

ภารกิจใหม่ : อาหารใหม่

 

เป้าหมายภารกิจ : เปิดใช้งานขี่พายุทะลุฟ้าแต่ละตอน 250 ครั้ง

 

รางวัลภารกิจ : ขนมแท่ง(ล่าเตียว)

(ผู้แปล : ล่าเตียว Latiao เป็นขนมยอดนิยมในประเทศจีน ส่วนผสมหลักคือแป้งสาลีและพริก)

 

ฟางฉีทำหน้าเซง

 

เขาลังเลที่จะทำงานนี้อย่างมากภารกิจใหม่มาโดยไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งโดยปกติการเปิดใช้งานขี่พายุทะลุฟ้าเฉลี่ยแล้วต่อตอนนั้นน้อยกว่าร้อยครั้ง!

 

แต่ถึงอย่างไรเขาจำเป็นต้องทำงานนี้เพื่อผลประโยชน์

 

การแข่งขันของเจ็ดภูเขาถือเป็นจุดสุดยอดจุดแรกของกระบี่เทพสังหารแม้ตอนทั้งหมดที่ผ่านมาจะได้สร้างความหวังรวมไปถึงสร้างความหงุดหงิดค้างคาต่อผู้ชมก็ตาม ตอนนี้แฟนคลับรู้สึกดีที่ได้เห็นเสี่ยวฟานชนะการแข่งครั้งนี้

 

พวกเขาเฝ้าดูกระบี่เทพสังหารอย่างตั้งใจโดยรวมแล้วมันสนุกแถมยังให้เทคนิคดาบอันทรงพลังพร้อมคาถาทางจิตวิญญาณ พวกเขาหลายคนเริ่มจมลงไปในเรื่องราว

 

“ตัวละครหลักนี้น่าสนใจ ..”

 

“ใช่! ก่อนหน้านี้เขาอยู่ไกลจากระดับของหลี่เสี่ยวเหยามาก ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น”

 

“ตอนนี้เจ๋งสุดๆ”

 

สองตอนที่เปิดตัวในวันจันทร์เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันของเจ็ดภูเขา ส่วนตอนที่เปิดตัวเมื่อวันอังคารเป็นการเปิดตัวเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเหตุการณ์การแข่งขัน ซูเทียนจิที่กำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน CS ถึงขั้นหยุดซ้อมเพื่อชมละคร

 

มาถึงเวลานี้แฟนคลับของกระบี่เทพสังหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในตอนเช้าร้อยละแปดสิบของลูกค้าเลือกจะเปิดดูละครกระบี่เทพสังหาร

 

หากเปรียบเทียบกับขี่พายุทะลุฟ้าแล้วก็มีคนดูอยู่แต่จัดว่าน้อยกว่ากระบี่เทพสังหารเกือบเท่าตัว นาหลันฮงวูกล่าวว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนักรบสวรรค์ซึ่งอาจไม่เป็นที่ดึงดูดสำหรับนักรบระดับสูงบางคน ยกเว้นแต่สาวกจากสำนักต่างๆ ที่ต้องการการเรียนรู้

 

ขี่พายุทะลุฟ้าได้ดำเนินมาถึงการต่อสู้ระหว่างซงปาและมันกำลังจะเข้าสู่ช่วงสำคัญนี่อาจเป็นช่วงดึงดูดนักรบระดับล่างเหล่าสาวกเช่นซงฉิงเฟิง เหลียงชีหรือแม้แต่องค์หญิงจีหยูเองก็ตัดสินใจดูละครเรื่องนี้เช่นกัน

 

สำหรับผู้ปลูกฝังอย่างซูเทียนจิ, ซัวเต๋าและหลันโมเองพวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับนักรบทีี่แท้จริงสักเท่าไร ท้ายที่สุดพวกเขามองว่านักรบบางคนนั้นอ่อนแอกว่าผู้ฝึกฝน

 

“ซงฉิงเฟิง! วันนี้เข้าขะดูขี่พายุทะลุฟ้าหรือไม่?” หลังจากหลินเซียวและซูเหลียวดูกระบี่เทพสังหารจบเขาพร้อมแล้วสำหรับการฝึกซ้อมเพื่อจะลงแข่ง แต่ทักถามเมื่อเห็นซงฉิงเฟิงกำลังจะเปิดละครเรื่องนั้น

 

“เจ้าจะฝึกฝนตัวละครในเกมของเจ้าหรือไม่?”

 

“ข้าว่าจะดูละครสักแบบ” ซงฉิงเฟิงโบกมือ “ข้าเป็นนักข้าอันดับหนึ่งของร้านนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล!”

 

“รับทราบ! พวกข้าจะไปเล่น CS กันก่อนแค่ถามให้แน่ใจว่าเจ้าจะทำอะไรต่อ” พวกเขาพยักหน้าใหกันเมื่อแน่ใจแล้วว่าซงฉิงเฟิงเลือกที่จะทำธุรของเขา

 

ซงฉิงเฟิงดูไปตั้งแต่สองตอนเมื่อวานและสองตอนของวันนี้ แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินช้าไปหน่อย แต่เขาคิดว่าพล็อตเรื่องสำคัญควรมาได้แล้ว ด้วยความคิดนี้เขาจึงตั้งใจนั่งรอดูละครขี่พายุทะลุฟ้าต่อ

 

เหลียงชีและเพื่อนๆ ของเขาก็เฝ้ารอดูเช่นกัน .. ในไม่ช้าเนื้อเรื่องก็ดำเนินมาถึงดวนลังหยิบดาบเพลิงออกมา ขณะเดียวกันวู่หมิงเองพยายามที่จะห้ามปราบเขาไม่ให้สู่รบ

 

“ท่านนักบวชแก่แล้ว ..”

 

“ท่านนักบวชผู้ครองดาบแก่แล้ว ในขณะที่ซงปาเองอยู่ในช่วงวัยที่เหมาะสม ข้าเองจะไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้เท่าไร ..”

 

ลูกค้าที่ดูละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้าเริ่มพูดคุยกันถึงอายุของนักรบและความแตกต่างของช่วงวัยที่เหมาะสำหรับการฝึกฝนถึงข้อได้เปรียบและข้อเสีย

 

“ท่านนักบวชผู้ครองดาบจะแพ้หรือไม่?”

 

เหลียงชีที่เคยผ่านอาณาจักรดินแดนบรรพบุรุษอันยิ่งใหญ่มาแล้ว แม้พวกเขาจะรู้สึกทึ่งกับเทคนิคการต่อสู้ในละครเรื่องนี้แต่เขาก็ภูมิใจว่าครั้งหนึ่งเขาเคยผ่านช่วงเวลาทำนองนั้นมาได้

 

ไม่นานวู่หมิงก็ห้ามการโจมตีของนักบวชผู้ครองดาบได้สำเร็จ .. ในตอนนี้วู่หมิงมั่นใจแล้วว่านักบวชผู้ครองดาบไม่สามารถเอาชนะซงปาได้

 

ถึงตอนนี้ซงฉิงเฟิงไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ได้ดูละครเรื่องนี้ การได้ดูนักบวชผู้ครองดาบคนเก่าแก่นี้ทำให้เขาได้คิดไตร่ตรองว่าบางทีเขาควรจะฝึกฝนก่อนที่จะแก่เกินไป .. ในความเป็นจริงคนรอบข้างเขาเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน

 

ทางตรงข้ามกัน ณ สนามซานเฟนในสหภาพโลกก่อนการสู้รบที่นี่ดูเงียบสงบไม่มีบรรยากาศใดๆ ที่บ่งบอกได้เลยว่าจะเกิดการสู้รบ

 

อาจารย์หลายคนได้รับเชิญให้มารับชมการต่อสู้ที่เมืองหวู่ชง .. ดวงอาทิตย์อยู่เหนือศรีษะเวลาแห่งการต่อสู้เดินทางมาถึงแล้ว!

 

นักรบหลายคนยืนอยู่หน้าขั้ยบรรไดราวกับพวกเขากำลังเดินขึ้นไปบนฟ้า .. การต่อสู้ขึ้นอยู่กับพลังและโชคชะตา

 

นักบวชผู้ครองดาบเองมีอายุมากเวลาในทุกๆ วันเดินผ่านไปใกล้ถึงเวลาตอนจบของชีวิต .. ช่างน่าเสียใจหากมันจะแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต่อสู้!

 

“ข้าต้องการต่อสู้!”

 

ผู้ชมต่างหันไปมองทางเสียตะโกนที่สั่นคลอน

 

ทันใดนั้นเมฆดำปกคลุมท้องฟ้า .. ผู้คนที่มองไปยังนักบวชเขาพบว่านักบวชกำลังยืนอย่างภาคภูมิใจ

 

“อะไรกัน!?”

 

ผู้ชมที่กำลังจะเดินออกจากสนามต่างหันไปชมสีหน้าของพวกเขาเกิดความสับสนทันที

 

เวลาเดียวกันนักบวชผู้มีอายุมากกลับดูแปลกตาไปอย่างจังจากที่ดูเหนื่อยล้าไร้ชีวิตชีวากลับสดชื่นขึ้นทันตา

 

“เกิดอะไรขึ้น!?”

 

“ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้”

 

แม้ซงฉิงเฟิงและเหลียงชีที่เฝ้าดูหน้าจอเองยังรู้สึกทึ่งกับท่าทางของนักบวช

 

การปรากฏตัวในสนามรบนั้นชัดเจนแจ่มแจ้งทุกอย่างอยู่ในระยะที่สัมผัสได้ว่ามันคือความจริงเหมือนกันพวกเขาถูกหั่นใดใบมีด! และก่อนที่นักบวชจะแสดงฝีมือของเขา ซงปาเองรู้สึกตัวแข็งด้วยความกลัว

 

“การปรากฏตัวที่น่าสยองแบบนี้เกิดขึ้นที่นีี่ได้อย่างไรกัน!?”

 

นักรบยอดเยี่ยมกลุ่มแรกพุ่งออกมาจากด้านหลังของซงปาและพุ่งไปข้างหน้า .. นักบวชเดินไปข้างหน้าช้าๆ ราวกับไม่เห็นพวกเขาและเหล่าลูกสมุนของซงปา บางคนพุ่งโจมตีเขา!

 

อย่างไรก็ตามบรรยากาศเปลี่ยนไป นักรบทุกคนตัวแข็งกลางอากาศ ..​แม้แต่เลือดที่ไหลออกจากร่างกายของพวกเขายังแข็งตัวอยู่ในอากาศ!

 

ซงฉิงเฟิง, เหลียงชีเองและผู้ชมคนอื่นๆ รู้สึกสมองว่างเมื่อเห็นฉากนี้!