[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 436 : คนปล่อยข่าว!
หลิงหยุนยังต้องไปจัดการกับใครอีกน่ะหรือ? ยังมีเว่ยเถียนอันซึ่งเป็นคนปล่อยข่าวลือเสียหายในครั้งนี้อีกคน!
ตั้งแต่ครั้งแรกหลิงหยุนได้ฟังเรื่องราวจากปากฉางหลิง เขาก็เล็งเป้าไปที่เว่ยเถียนอันเป็นคนแรก และก่อนที่เขาจะเข้าไปที่ห้องทำงานของครูใหญ่ เขาก็ได้เหลือบมองเว่ยเถียนอันที่กำลังนั่งตัวสั่นเพราะความกลัว!
และเมื่อหลิงหยุนนำนักเรียกห้องหกทั้งหมดไปที่ห้องทำงานของครูใหญ่แล้ว เขาก็ได้สังเกตุทุกคนที่ตามมาอย่างละเอียด แม้กระทั่งเจี่ยเมิ่งที่ถูกเขาตบหน้าในครั้งนั้นก็ตามมาด้วย มีเพียงเว่ยเถียนอันคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้มา
หลังจากที่หลิงหยุนใคร่ครวญอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เขาก็มั่นใจว่าข่าวลือเสียหายที่แพร่สะพัดออกไปนั้น ต้องเป็นฝีมือของนักเรียนในห้องของเขาเองอย่างแน่นอน อีกทั้งยังต้องเป็นคนที่เกลียดเขาเข้ากระดูกดำด้วย
ไฉฮั่นหลินนั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนกู่หยวนหลงและซาเกาจิ้งตอนนี้ก็กลายมาเป็นสมุนของเขาเรียบร้อยแล้ว แม้แต่เจี่ยเมิ่งเองยังไม่ถือศักดิ์ศรีและยอมตามเขาไปที่ห้องทำงานของครูใหญ่ มีเพียงเว่ยเถียนอันที่มักชอบทำตัวโดดเด่น และไม่ยอมตามเขาไปอยู่คนเดียว จึงต้องเป็นเว่ยเถียนอันแน่นอนที่เป็นตัวต้นคิดในการปล่อยข่าวลือนั่น
เมื่อคิดถึงศักยภาพที่ไม่ธรรมดาของเว่ยเถียนอัน หลิงหยุนจึงมั่นใจได้ทันที่ว่าต้องเป็นฝีมือของเขาอย่างแน่นอน!
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่า ‘เว่ยเถียนอัน.. ข้าเห็นแก่เจ้าที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันจึงไม่อยากรังแกเจ้า แต่ในเมื่อเจ้าไม่ชอบอยู่กันดีๆ ข้าก็จะให้เจ้าได้รับบทเรียนบ้าง แล้วอย่าได้ตำหนิว่าข้าใจร้ายกับเจ้าก็แล้วกัน!’
‘หากเจ้าโกรธเกลียดข้า และอยากจะจัดการกับข้า หรือลงมือกับข้าเพียงผู้เดียว ข้าก็จะไม่ตำหนิเจ้าเลย แต่เจ้าไม่ควรดึงครูประจำชั้นเข้ามาเป็นเครื่องมือ!’
หลิงหยุนได้แต่แสยะยิ้ม ฉางหลิงเห็นหลิงหยุนพูดออกมาเช่นนั้น จึงถามออกไปว่า “ยังมีอีกคนเหรอ.. ใครกัน?”
หลิงหยุนยิ้มให้ฉางหลิง แล้วตอบกลับไปว่า “ก็คนที่ปล่อยข่าวลือไง!”
“คุณเห็นไม๊ล่ะ.. มีใครบ้างที่ไม่ได้ตามผมไปห้องครูใหญ่ ก็คนนั้นล่ะที่เป็นคนปล่อยข่าว?”
“หลิงหยุน.. ฉันรักนาย!”
หลิงหยุนเพิ่งจะสะสางปัญหาเสร็จเรียบร้อย แต่เมื่อได้ยินเสียงคุ้นๆที่กำลังตะโกนบอกรักเขา หลิงหยุนก็ถึงกับใจสั่น และรีบเงยหน้าขึ้นมองทันที และก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ!
ห่างออกไปนั้น.. มีร่างของสาวน้อยเจ้าเนื้อที่ทาแก้มแดงราวกับก้นลิงคนเดิม กำลังชี้นิ้วมาทางเขา และวิ่งตรงมาหาเขาจนไขมันกระเพื่อมไปทั้งร่างพร้อมกับร้องตะโกนเรียกหลิงหยุน
“หลิงหยุน.. ฉันรักนาย!” สาวน้อยจ้ำม่ำผลักนักเรียนคนอื่นๆที่รุมล้อมหลิงหยุนอยู่ออกไป
“แย่แล้ว.. หนีก่อนดีกว่า!”
สีหน้าของหลิงหยุนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ เขาไม่สามารถใช้วิชาตัวเบาได้ จึงทำได้เพียงแค่ผลักทุกคนออก แล้วก็รีบวิ่งกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง หลิงหยุนเหลือบมองก่อนจะออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต!
ด้านหลังหลิงหยุนเป็นแฟนคลับของเขามากมาย และได้เห็นภาพที่เขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตนั้น ทุกคนก็ได้แต่ยืนหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง และต่างก็คิดเหมือนกันว่า หลิงหยุนรู้จักความกลัวกับเขาเหมือนกันหรือ?!
หลงหวู่เ หมี่ยวเสี่ยวเหมา และฉางหลิง หญิงสาวหน้าตาสะสวยทั้งสามคน ต่างก็พากันยืนหัวเราะร่วนเช่นกัน
ภายในห้องเรียนของนักเรียนมัธยมปลายห้องหนึ่ง หนิงหลิงยู่กำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ในห้องเหมือนเช่นเคย ที่ระเบียงด้านนอก เฉิงเมี่ยนยืนพิงราวระเบียงอยู่เงียบๆ และได้เห็นภาพนั้นอย่างชัดเจนเช่นกัน
หลิงหยุนกลับไปถึงห้องเรียนคนแรก และทันทีที่เข้าไปเขาก็พบเว่ยเถียนอันนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้ว
เว่ยเถียนอันถือหนังสือไว้ในมือ ใบหน้าของเขาซีดเผือด และขาก็สั่นพร้อมกับถอนหายใจอออกมาอย่างแรง และไม่กล้าที่จะมองไปทางหลิงหยุน
เพราะว่าข่าวลือต่างๆนั้น เขาเป็นผู้ที่ปล่อยออกไปเอง!
ในเวลานั้น หลิงหยุนหายตัวไปนานถึงสี่วันแล้ว และข่าวคราวเกี่ยวกับหลิงหยุนที่ลือกันภายนอกนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นข่าวไม่ดีทั้งสิ้น และนั่นทำให้เว่ยเถียนอันตื่นเต้นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน กู่หยุนฟะ เสียเจิ้นเหยิน และหลู่เจิ้งเทียนก็เริ่มสร้างคลื่นใต้น้ำขึ้นในโรงเรียน พวกเขาพากันปล่อยข่าวว่าหลิงหยุนไม่น่ารอด
และด้วยความร่วมมือของหนุ่มเพลย์บอยทั้งสามคน หลิงหยุนจึงถูกทางโรงเรียนไล่ออก ทำให้เว่ยเถียนอันถึงกับเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ และวันนั้นทั้งวันเขาก็ร้องเพลงอย่างมีความสุข
แต่ใครจะไปคิดว่า กงเสี่ยวลู่ซึ่งเป็นครูประจำชั้นจะเข้าไปโต้แย้งกับครูใหญ่จาง และคัดค้านการไล่หลิงหยุนออกจากโรงเรียน
เว่ยเถียนอันเห็นว่าความหวังของเขากำลังจะถูกทำลาย และด้วยความโมโห และผิดหวังอย่างรุนแรง เขาจึงไม่ลังเลที่จะปล่อยข่าวว่าหลิงหยุนกับกงเสี่ยวลู่มีอะไรกันเพื่อทำลายพวกเขาทั้งคู่
ผลจาการปล่อยข่าวลือนี้ใหญ่โตอย่างไม่ต้องสงสัย และผลก็คือหลิงหยุนถูกไล่ออกจริงๆ และกงเสี่ยวลู่ก็ถูกคาดโทษอย่างรุนแรง!
และนับจากนั้น เว่ยเถียนอันก็ดูเหมือนจะมีความสุขมาก และคิดว่าในที่สุดเขาก็จะกลับมายิ่งใหญ่ในห้องเหมือนเดิม
เว่ยเถียนอันถึงกับคิดว่าในเมื่อเกาเฉินเฉินก็กลับไปปักกิ่งแล้ว เขาก็คิดที่จะหันมาจีบเหมี่ยวเสี่ยวเหมาแทน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า จู่ๆในวันอาทิตย์หลิงหยุนก็ปรากฏตัวออกมา และทันทีที่เขาปรากฏตัว ก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมืองจิงฉู จึงไม่ต้องพูดถึงโรงเรียนเล็กๆอย่างมัธยมจิงฉู
และเมื่อวานนี้ ด้วยความหวาดกลัวว่าหลิงหยุนจะกลับมาสร้างปัญหายุ่งยากให้กับทางโรงเรียน จึงได้มีประกาศเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจจากทางโรงเรียนออกมาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า
เมื่อวานนี้เว่ยเถียนอันเองก็นั่งกังวลอยู่ตลอดทั้งวัน ความรู้สึกของเขานั้นราวกับนั่งอยู่บนเข็มแหลมหลายสิบเล่ม ระหว่างนั้นก็แอบสอบถามจากหนุ่มเพลย์บอยทั้งสามคน แต่กลับพบว่าทั้งหมดไม่มีใครมาโรงเรียนเลย เว่ยเถียนอันจึงได้แต่อึ้ง!
แต่ถึงกระนั้น เว่ยเถียนอันก็อดทนรออยู่หนึ่งวันเต็มๆ แต่หลิงหยุนก็ยังไม่มาโรงเรียน และเมื่อคืนเขาเองก็นอนคิดทั้งคืนว่าจะหนีดีหรือไม่?
แต่เมื่อเช้า.. เว่ยเถียนอันเข้ามานั่งในห้องเรียนก้นยังไม่ทันร้อน เขาก็เห็นหลิงหยุนเดินเข้ามา ทำให้เขาเกิดอาการหวาดกลัวสุดขีด!
และเมื่อเช้าที่กงเสี่ยวลู่เรียกหลิงหยุนให้ตามออกไป เว่ยเถียนอันก็รับรู้ได้ว่าความลับของเขาคงจะต้องถูกเปิดเผยแน่แล้ว และนั่นทำให้เขากลับหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
หลังจากการเรียนตอนบ่ายผ่านไปได้สองคาบ หลิงหยุนก็ตะโกนบอกเพื่อนๆในห้องว่าจะไปทวงความยุติธรรมให้กับบครูประจำชั้น เว่ยเถียนอันถึงกับรู้สึกเหมือนคนที่หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เขารู้ว่าครั้งนี้เขาคงจะต้องป่นปี้ยับเยินจนไม่เหลืออะไรอีกแน่!
ตอนนี้หลิงหยุนกลับมาจากการสะสางเรื่องราวทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาเดินเข้ามาในห้องเรียนและค่อยๆก้าวเข้าไปหาเว่ยเถียนอัน ใบหน้าของเว่ยเถียนอันตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และน้ำตาก็เริ่มไหลพร่างพรูออกมา!
“เว่ยเถียนอัน.. มีคนบอกฉันว่า แกเป็นคนปล่อยข่าวว่าฉันกับครูประจำชั้นมีอะไรกัน เรื่องนี้จริงไม๊? ฉันจะให้โอกาสแกได้อธิบาย..” หลิงหยุนพูดกับเว่ยเถียนอันยิ้มๆ พร้อมกับใช้ฝ่ามือตบลงบนโต๊ะ
“ไม่.. ไม่.. ฉันไม่ได้ทำ..” เว่ยเถียนอันกลัวจนถึงกับปฏิเสธเสียงสั่น!
หลิงหยุนมองสีหน้าท่าทางของเว่ยเถียนอัน ในใจก็ได้แต่คิดว่า ‘ใช่แล้ว.. เป็นมันอย่างแน่นอน ยากที่จะปฏิเสธได้!’
ปัง!!
หลิงหยุนไม่ปราณีอีก เขายกมือขึ้นตบหน้าเว่ยเถียนอันอย่างแรง!
“ว่าไง.. มีอะไรจะอธิบายไม๊?”
หลิงหยุนใช้มังกรคำรามพูดกับเว่ยเถียนอันที่ถูกตบหน้า ความหวาดกลัวทำให้เขาถึงกับสติหลุด และยอมพูดความจริงทั้งหมดออกมา
“โอ๊ย..!”
เว่ยเถียนอันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และรีบรับสารภาพ “ฉันเอง.. ฉันเป็นคนทำเอง.. ฉันผิดไปแล้ว.. ฉันไหว้ล่ะหลิงหยุน.. ปล่อยฉันไปเถอะนะ!”
เมื่อได้ฟังเว่ยเถียนอันสารภาพ หลิงหยุนจึงพูดอย่างเย้นหยัน “ไอ้สารเลว! ครูประจำชั้นมอบหมายให้แกเป็นหัวหน้าห้อง แล้วก็ดูแลหอพัก แกยังไม่นึกขอบคุณ แต่กลับทำร้ายครูประจำชั้นของตัวเองได้ลงคอ!”
ในเวลานั้นฉางตง กู่หยวนหลง และคนอื่นๆ ก็วิ่งตามหลิงหยุนเข้ามาให้องพอดี และทุกคนต่างก็ได้ยินคำพูดของหลิงหยุนทุกคำ พวกเขาต่างก็ตกใจและโมโหอย่างมาก
ฉางตงโมโหสุดขีด เขาวิ่งเข้าไปหาเว่ยเถียนอัน พร้อมกับยกมือขึ้นตบปากเว่ยเถียนอันอย่างแรง!
“เว่ยเถียนอัน ไอ้สารเลว!” ฉางตงโกรธสุดขีด และกำลังจะตบซ้ำแต่ถูกหลิงหยุนห้ามไว้
“สำหรับบไอ้ขยะตัวนี้ รอให้เพื่อนๆในห้องกลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน..”
เมื่อกู่หยวนหลงและซาเกาจิ้งเห็นว่าคนที่ปล่อยข่าวลือเป็นเว่ยเถียนอัน พวกเขาทั้งคู่ต่างก็รู้สึกผิดหวังในตัวเว่ยเถียนอันอย่างมาก
“เว่ยเถียนอัน.. ไอ้ชั่ว.. นายทำแบบนี้ทำไม? ใครๆในห้องต่างก็รู้ดีว่านายรังแกพี่หลิงมาตั้งหลายปี แต่เขาแค่ทำร้ายนายกับเจี่ยเมิ่งแค่ครั้งเดียว พวกนายถึงกับแค้นจนต้อง..”
กู่หยวนหลงพุ่งเข้าไปหาเว่ยเถียนอัน พร้อมกับชี้หน้าเขา และร้องตะโกนออกมาอย่างเสียใจและเจ็บใจ เพราะตลอดสามปีที่อยู่ในหอพักชายมาด้วยกัน ทั้งสองคนก็ไม่เคยขัดแย้งอะไรกันมากมาย อาจจะมีโกรธกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยทะเลาะกัน
ซาเกาจิ้งมองเว่ยเถียนอันด้วยสายตาเย็นชา เขาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เพียงแค่ส่ายหน้าอย่างผิดหวัง และทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ
ไม่นาน.. นักเรียนคนอื่นๆต่างก็ทยอยเข้าไปในห้องกันมากขึ้น รวมทั้งหลงหวู่ เหมี่ยวเสี่ยวเหมา และฉางหลิง เมื่อทั้งสามสาวได้รู้ว่าผู้ที่ปล่อยข่าวลือก็คือเว่ยเถียนอัน พวกเธอก็ทั้งตกใจและโกรธ!
“เว่ยเถียนอัน.. นาย.. นายทำเกินไปแล้วนะ! ครูประจำชั้นดีกับนายขนาดใหน ให้นายเป็นคณะกรรมการของห้องตั้งหลายปี แต่นายกลับให้ร้ายเธอ!”
ฉางหลิงเองก็คิดว่าเป็นเว่ยเถียนอัน แต่ก็ไม่อยากปรักปรำเขา แต่ตอนนี้หลิงหยุนกลับพิสูจน์แล้วว่าเป็นเว่ยเถียนอันจริง!
หลงหวู่ส่ายหน้าพร้อมกับมองอย่างเหยียดหยัน ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง ส่วนเหมี่ยวเสี่ยวเหมานั้นก็แทบจะไม่สนใจเว่ยเถียนอัน และเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะของเธอทันที
หญิงสาวทั้งสองคนมาเรียนมัธยมปลายที่ห้องหกของโรงเรียนแห่งนี้ ต่างก็มีจุดประสงค์ของตัวเอง พวกเธอล้วนเป็นคนนนอก หลังจากนึกสาปแช่งเว่ยเถียนอันในใจ ก็ไม่อยากที่จะสนใจเขาอีก
ฉางหลิงหยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เพราะเรื่องนี้ไม่เพียงทำให้ครูประจำชั้นเสียชื่อเสียง แต่ยังทำให้คนที่เธอรักเสียหายอีกด้วย ยิ่งคิดว่าเว่ยเถียนอันต้องการทำร้ายหลิงหยุน เธอก็ยิ่งด่าเขารุนแรงจนแทบฟังไม่ได้
เว่ยเถียนอันทำให้คนในห้องโกรธแค้นอย่างมาก และเหตุการณ์ก็ชุลมุนจนไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนพูดคำว่า “ออกไป!” ขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะหลังจากนั้นก็มีคนโห่ร้องตะโกนตามกันทั้งห้อง
ออกไป! ออกไป!
แล้วเด็กผู้ชายเจ็ดแปดคนก็เดินเข้าไปชกหน้าและรุมกระทืบเว่ยเถียนอัน เขาถูกซ้อมจนลงไปนอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้น แต่ก็ไม่มีใครยอมหยุดจนกระทั่งหลิงหยุนต้องร้องห้าม!
“เอาล่ะ.. ขยะแบบนี้ทำไปก็เท่านั้น ปล่อยให้ทางโรงเรียนจัดการก็แล้วกัน..”
หลิงหยุนมองเว่ยเถียนอันที่นอนกองกับพื้นด้วยหน้าตาบวมเปล่งและฟกช้ำ หลังจากที่หลิงหยุนพูดเตือนสติ เพื่อนๆในห้องต่างก็นึกขึ้นมาได้ว่า ถึงอย่างไรเว่ยเถียนอันก็ต้องถูกไล่ออก เพราะครูใหญ่จางได้ประกาศไว้ชัดเจนแล้วว่า หากจับตัวคนที่ปล่อยข่าวได้ เขาจะไล่ออกทันที!
ความจริงแล้วแม้ว่าเว่ยเถียนอันจะไม่ถูกไล่ออก แต่เขาก็คงไม่สามารถทนเรียนต่อที่นี่ได้ เพราะไม่ว่าจะเดินไปที่ใหน ก็คงจะมีแต่คนด่าว่า..
นักเรียนบางคนถึงกับรีบโทรไปรายงานเรื่องเว่ยเถียนอันให้กงเสี่ยวลู่รู้ เธอจึงได้บอกกับนักเรียนทุกคนว่า ให้รอเธอกลับไปจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง อย่าได้ทำอะไรเว่ยเถียนอัน
หลิงหยุนไม่อยู่เรียนสองคาบสุดท้าย เขาบอกกับบฉางหลิงว่าให้ตั้งใจเรียน แล้วหลังจากนั้นก็ร้องบอกหลงหวู่ให้พาเขาไปพบหลงคุน
ระหว่างที่เดินออกจากห้องเรียน หลิงหยุนก็ส่งกระแสจิตบอกเหมี่ยวเสี่ยวเหมาว่า
“เรื่องของเราไว้คุยกันพรุ่งนี้!”
หลิงหยุนและหลงหวู่เดินออกไปถึงหน้าประตูโรงเรียน กริ่งเริ่มคาบสามก็ดังขึ้นพอดี..
“รถของคุณอยู่ที่ใหน?” หลิงหยุนถามหลงหวู่เมื่อเดินไปถึงหน้าประตู
“ฉันไม่ได้ขับรถมา.. ฉันมาแท๊กซี่” หลงหวู่ตอบยิ้มๆ
หลิงหยุนคิดในใจว่าหลงหวุ่เป็นถึงลูกสาวหัวหน้าแก๊งมังกรเขียวแต่กลับมารถแท๊กซี่
หลงหวู่อธิบายยิ้มๆ “ฉันขับรถเป็นแล้วก็จริง.. แต่อายุยังไม่ถึงก็เลยทำใบขับขี่ไม่ได้!”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “ลูกสาวหัวหน้าแก๊งมังกรเขียว จำเป็นต้องใช้ใบขับขี่ด้วยเหรอ?”
หลงหวู่ตอบเสียงเรียบเฉย “ฉันเป็นนักกฎหมายก็ย่อมรู้กฎหมายดี และยิ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย”
หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ “นี่คุณทนายคนสวย.. ผมจำได้ว่าตอนที่ซื้อเสื้อผ้าวันนั้น คุณยังจะเอาเสื้อที่ผมซื้อแล้วให้ได้เลย”
หลงหวู่หน้าแดง..
“พอวันรุ่งขึ้นก็ไปเต้นเซ็กซี่อยู่ที่คลับ.. ใครก็ไม่รู้?”
หลิงหยุนทำเสียงกระซิบ หลงหวู่ทั้งโกรธทั้งอาย และกลิ่นหอมจากตัวเธอก็รุนแรงมากขึ้น
“หลิงหยุน.. นี่นาย.. ฉันจะฆ่านาย!”
พูดจบหลงหวู่ก็จับแขนหลิงหยุนไว้แน่น พร้อมกับก้มหน้าลงกัดแขนของเขา!
“หลงหวู่.. นี่คุณกัดผมจริงๆเหรอ เป็นหมารึไง?” หลิงหยุนร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
หลงหวู่ไม่สนใจ.. เธอกัดแขนหลิงหยุนและพูดอย่างไม่หยุดหายใจ “เรื่องนี้ฉันจะคิดบัญชีกับนายทีหลัง อีกไม่นานหรอก!”
หลังจากนั้น หลงหวู่ก็ยกแขนหลิงหยุนขึ้นดูพร้อมกับบถามว่า “ไม่เจ็บใช่ไม๊?”