แดนนิรมิตเทพ บทที่ 396
“ฮ่า ๆ ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป บวกกับคำบอกเล่าจากปากผู้ถูกกระทำอย่างผม คุณคิดว่าทุกคนจะเชื่อใคร?” หนานกงหลินเทียนมองเวินฉิงด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ

“เลวทรามต่ำช้า!” เวินฉิงพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา ถ้าหากพวกเขาทำอย่างที่พูด เหตุการณ์นี้จะส่งผลเสียต่อเหม่ยหวา กรุ๊ปอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่สามารถทำให้เหม่ยหวา กรุ๊ปเสียหายมากนัก

ทำให้เวินฉิงไม่เกรงกลัว

หนานกงหลินเทียนเหลือบมองเฉินโม่ด้วยความยั่วยุ สีหน้าเต็มไปด้วยความชั่วร้าย “เฉินโม่ ฉันหนานกงหลินเทียนจะจำบัญชีแค้นในวันนี้เอาไว้ ตระกูลหนานกงจะไม่จบแค่นี้อย่างแน่นอน!”

“กลับ!”

ขณะที่หนานกงหลินเทียนว่านเหวินโยวและคนอื่น ๆ ถอยหลังกลับพวกเขาหันมามองเฉินโม่ ราวกับว่าพวกเขากลัวเฉินโม่จะโจมตีอย่างกะทันหัน

“พวกเขาไม่จบแค่นี้หรอก” เฉินโม่มองพวกเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าเย็นชา

“ในเมื่อมาแล้ว แกยังต้องการจากไปอีกเหรอ? แกคิดว่าฉันเฉินโม่เป็นตัวอะไร!”

หลังจากกล่าวด้วยเสียงเย็นชา ร่างของเฉินโม่ก็หายไปทันที วินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของหนานกงหลินเทียนและจับคอของหนานกงหลินเทียนด้วยมือข้างหนึ่ง

“ไอ้หนุ่ม แก ….แกคิดจะทำอะไร?” หนานกงหลินเทียนรู้สึกราวกับว่าคอของเขาถูกคีมเหล็กยักษ์หนีบเอาไว้ เขาใช้กำลังทั้งหมดแล้วแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นด้วยได้ ทำให้เขาอดที่จะตกใจไม่ได้

ว่านเหวินโยวและกลุ่มลูกน้องรีบถอยหลัง กลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อพวกเขา

“เฉินโม่ คุณชายหนานกงเป็นคนของตระกูลนักบู๊แห่งเจียงหนาน หากแกกล้าทำร้ายเขา ตระกูลหนานกงจะมีเหตุผลที่จะทำลายล้างเหม่ยหวา กรุ๊ป!” ว่านเหวินโยวกล่าวอย่างเย็นชา

เฉินโม่เหลือบมองว่านเหวินโยวอย่างเย็นชา “แกกำลังข่มขู่ฉันเหรอ?”

ว่านเหวินโยวก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวราวกับว่าเขาถูกสัตว์ป่าจ้องมอง ความกลัวแบบนั้นดูเหมือนจะมาจากส่วนลึกในจิตวิญญาณของเขา

“ฉันไม่ได้ข่มขู่แก สิ่งที่ฉันพูดนั้นเป็นความจริง ถ้าแกไม่เชื่อแกสามารถลองได้!” ว่านเหวินโยวไม่กล้าสบตาของเฉินโม่ แต่ยังคงตอบกลับอย่างดื้อรั้น

หนานกงหลินเทียนที่ถูกเฉินโม่ล็อกคอและยกขึ้นกลางอากาศ เขาแอบด่าอยู่ในใจ ถึงแม้ฟังดูเหมือนว่าคำพูดของว่านเหวินโยวเพื่อป้องกันไม่ให้เฉินโม่ทำร้ายตนเอง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามบีบบังคับให้เฉินโม่ทำร้ายตนเอง?

อย่างไรก็ตาม หนานกงหลินเทียนมั่นใจในสถานะของตนเองมาก เขาจึงก้มหน้ามองฉินโม่และกล่าวเยาะเย้ย “ไอ้หนุ่ม ถึงแม้ว่าแกจะเป็นปรมาจารย์ ถ้าตระกูลหนานกงอยากจะฆ่าแก มันก็เหมือนฆ่ามดตัวหนึ่งเท่านั้น แกลองไปตรวจสอบความแข็งแกร่งตระกูลหนานกงดี ๆ ซึ่งไม่ใช่ตระกูลที่แกสามารถต่อต้านได้!”

“แม้แต่ในโลกฝึกบู๊ ก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินความยิ่งใหญ่ของตระกูลหนานกง!”

ถึงแม้ว่าเขาจะถูกเฉินโม่ล็อกคอเอาไว้ แต่สีหน้าของหนานกงหลินเทียนยังคงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ราวกับระลึกถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลหนานกง!

“ฉันว่าแกปล่อยฉันดีกว่า แล้วคุกเข่าก้มกราบขอโทษฉัน ฉันสามารถไว้ชีวิตแกได้!” หนานกงหลินเทียนกล่าวเยาะเย้ย ชีวิตที่ถูกคนตามใจมาโดยตลอด ทำให้เขามีนิสัยหยิ่งทะนง

หากเป็นคนที่มีสมองสักนิด ก็จะรู้ว่าตอนที่ชีวิตของตนเองอยู่ในมือของผู้อื่น ความอ่อนน้อมถ่อมตนและขอความเมตตาเพื่อรักษาชีวิตไว้ก่อนถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญ

ความปีติประกายอยู่ในดวงตาของว่านเหวินโยว เขาตะโกนด้วยความเย่อหยิ่ง “เฉินโม่ แกได้ยินสิ่งที่คุณชายหนานกงพูดหรือไม่? แกรีบปล่อยคุณชายหนานกง แล้วคุกเข่าและก้มกราบขอโทษ!”

เฉินโม่หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วมองไปที่ว่านเหวินโยว เขารู้สึกชัดเจนว่าว่านเหวินโยวผิดปกติ

จากความเข้าใจของเขาที่มีต่อว่านเหวินโยว บุคคลนี้ไม่ใช่คนไร้สมอง ทำไมวันนี้เขาถึงพูดผิดปกติเหมือนพวกเพลย์บอยที่ไม่มีสมอง?

แต่เฉินโม่ก็ไม่ใส่ใจ ถึงแม้เขามีแผนลับชั่วใด ๆ ฉันก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย!