ตอนที่ 1044 ผู้ช่วยลู่ สายเกินไปแล้วล่ะ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ต่อให้หม่าเวยเวยต้องการให้อะไรสักอย่างกับหันซิวเช่อ ตามฐานะของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจกับเงินไม่กี่ล้านหยวน เพราะสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ คือการกระชากหน้ากากของถังหนิง 

 

 

สุดท้ายหม่าเวยเวยจึงขายจู้ซิงมีเดียได้อย่างราบรื่น 

 

 

ในขณะเดียวกันที่ไห่รุ่ยรู้ข่าวนี้ผ่านทางลู่เช่อ ซึ่งได้รายงานให้โม่ถิงทราบเรียบร้อยแล้ว “ผมได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้มาว่าปั๋วอี้ได้ตกลงทำสัญญาและพร้อมเซ็นสัญญาในบ่ายนี้ครับ…” 

 

 

โม่ถิงมองกลุ่มบอดีการ์ดของไห่รุ่ยและส่งสายตาคล้ายเตือนลูเช่อ “ต้องให้ฉันสอนนายว่าต้องทำยังไงอีกเหรอ พาทนายความตามไปที่ปั๋วอี้วันนี้และจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ฉันยังมีเรื่องสำคัญมากกว่านี้ต้องทำ ไม่อยากจะเสียเวลากับเรื่องหยุมหยิมพวกนี้หรอกนะ” 

 

 

“รับทราบครับ ท่านประธาน!” ลู่เช่อรีบทำตามคำสั่งทันที 

 

 

… 

 

 

การเซ็นสัญญาจะถูกจัดขึ้นในเวลาบ่ายสองภายในโรงแรมซิงรุ่ย 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ แฟนๆ ของถังหนิงพากันสติแตก เพราะจนถึงบัดนี้ถังหนิงยังไม่ออกมาเคลื่อนไหวใดๆ เธออยากจะเห็นจู้ซิงมีเดียถูกขายจริงๆ อย่างนั้นหรือ 

 

 

“หนิงจะไม่ออกมาจัดการเรื่องนี้เลยหรือไงกัน” 

 

 

“มันทำให้ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว เครียดจะตายแล้วเนี่ย! ฉันจะไม่ติดตามข่าวจากกลุ่มแฟนคลับอีกแล้ว! ไปนอนดีกว่า!” 

 

 

“ฉันล่ะยอมใจหม่าเวยเวยแล้ว นังหน้าด้าน!” 

 

 

แฟนๆ เหล่านี้ต้องมีประสบการณ์มานานเพื่อก่อตั้งกลุ่มแฟนคลับอย่างเป็นทางการ พวกเขาทั้งมั่นคงและไม่อาจใช้ทางลัดได้ อีกทั้งยังต้องรักษาเจตนารมณ์ของกลุ่ม พวกเขาต้องมีความสามารถในการคัดกรองสมาชิกหรือไม่ก็มีแหล่งรายได้ที่มั่นคง น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ว่าบัญชีที่ใช้ชื่อว่า ขอให้หนิงมีความสุขที่สุด ได้ถูกขายให้กับใครบางคนเสียแล้ว 

 

 

อย่างไรเสียไม่ว่าคนเราจะคลั่งไคล้คนดังขนาดไหน มันก็เป็นเพียงแค่ช่องทางระบายความเครียดเท่านั้น ดังนั้นเมื่อมีบางคนยื่นข้อเสนอขอซื้อบัญชีในราคาหนึ่งหมื่นหรือแม้แต่หนึ่งแสนแล้ว… 

 

 

…มันก็เป็นเหมือนของขวัญที่ส่งมาจากสวรรค์ สำหรับแฟนๆ ที่มาจากครอบครัวชนชั้นกลาง นี่นับว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ 

 

 

ความจริงแล้วหันซิวเช่อได้สืบข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของบัญชีนี้มาแล้ว เขารู้ว่าทางเดียวที่สามารถหลอกล่อใครสักคนได้คือการใช้จุดอ่อน! ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ก้าวเข้าไปทีละนิดเพื่อเล็งเป้าหมายก่อนจะซื้อบัญชีของแฟนตัวยงคนนี้ 

 

 

น่าเสียดายที่หลังจากเขาได้เข้ามาในเว็บไซต์ทางการของแฟนคลับได้ กลับพบว่าแฟนๆ ของถังหนิงไม่รู้ว่าเธอทำอะไรอยู่ และเธอสนใจจู้ซิงมีเดียบ้างหรือไม่ด้วยซ้ำ 

 

 

“ผู้หญิงจอมปลอมคนนี้ไม่เคยสนใจแฟนๆ ของเธอเลย ไม่รู้ว่าคนในกลุ่มนี้ต้องโง่ขนาดไหนกัน!” หัน 

 

 

ซิ่วเช่อเอ่ยด้วยท่าทีขบขัน “ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อเธอ ต้องไร้สมองแค่ไหนกันล่ะเนี่ย!” 

 

 

หม่าเวยเวยต้องการจะขายจู้ซิงมีเดีย ในขณะที่หันซิวเช่อเข้ากลุ่มแฟนคลับของถังหนิงได้สำเร็จ ทว่าจากที่เขาเห็นในตอนนี้ เหมือนเขาจะไม่ได้ข้อมูลวงในกลับไป ทำได้แต่จับตาดูสถานการณ์และเล่นงานจุดอ่อนของถังหนิงเมื่อมีโอกาส 

 

 

… 

 

 

ในขณะเดียวกันเงินสิบสองล้านกำลังจะถูกโอนเข้าบัญชีของหม่าเวยเวย สำหรับเธอแล้วมันมากพอๆ กับการที่เธอทำงานหนักมาครึ่งปี 

 

 

“แฟนๆ ของถังหนิงกำลังโกรธจนตัวสั่นไปหมด พวกเขาไม่พอใจกับสิ่งที่เธอทำจริงๆ นะ…” 

 

 

“ฉันไม่มีเวลามาสนใจตัวเองด้วยซ้ำ แล้วทำไมต้องสนใจพวกเขาด้วยล่ะ” หม่าเวยเวยเอ่ยฮึดฮัด 

 

 

หม่าเวยเวยนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของโรงแรมพร้อมบุหรี่ที่ถูกจุดในมือขณะที่รอเซ็นสัญญา อย่างไรก็ตามผู้จัดการของเธอเดินเข้ามาก่อนจะดับมัน “เธอต้องระวังตัวหน่อยสิ อยู่ในที่แบบนี้มันเสี่ยงนะ” 

 

 

หม่าเวยเวยวางบุหรี่ลงอย่างว่าง่ายและมองนาฬิกาข้อมือ “ใกล้ถึงเวลาแล้ว ไปพบกับประธานหวังกันเถอะ” 

 

 

ผู้จัดการพยักหน้าก่อนเดินตามหลังหม่าเวยเวยไป ทว่าเธอเองก็ยังคงงุนงง เห็นๆ กันอยู่ว่าถังหนิงมีหลักฐานพิสูจน์ว่าหม่าเวยเวยกับหันซิวเช่อเคยเจอกันก่อนหน้านี้ แต่ทำไมเธอยังไม่เปิดเผยมันออกมากัน ด้วยความฉลาดของถังหนิงแล้ว เธอไม่น่าจะปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปได้ แล้วทำไมถึงยังอยู่เฉยแม้ว่าจู้ซิงมีเดียกำลังจะถูกขายกันล่ะ นี่มันไม่น่าจะเป็นไปได้เลย 

 

 

ดังนั้นผู้จัดการของหม่าเวยเวยจึงเตรียมใจมาบ้างและไม่ได้ตื่นเต้นอย่างหม่าเวยเวย อย่างไรเธอเองก็ไม่ใช่คนที่ได้เงินอยู่แล้ว 

 

 

ไม่นานทั้งสองฝ่ายก็ได้พบกันในพิธีส่งมอบที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ดูเหมือนว่าปั๋วอี้จะต้องการให้คนทั้งโลกรู้ว่าตัวเองได้เป็นเจ้าของจู้ซิงมีเดียแล้ว จึงเชิญสื่อมวลชนมากมายหลายสำนักมาเป็นสักขีพยานในพิธีครั้งนี้ 

 

 

สัญญาวางอยู่ตรงหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมปากกาขนนกที่วางอยู่ด้านข้าง… 

 

 

พวกเขาแค่ต้องเซ็นสัญญาและทุกอย่างก็จะมีผลบังคับใช้ 

 

 

ทุกคนที่ติดตามข่าวของจู้ซิงมีเดียจับตามองพิธีลงนามสัญญาอย่างใกล้ชิด อย่างไรเสียจู้ซิงมีเดียก็กำลังจะเปลี่ยนนายใหญ่อีกครั้ง! ชวนให้สาธารณชนพากันถอนหายใจด้วยความผิดหวัง ด้วยการที่ถังหนิงสร้างชื่อเสียงให้กับจู้ซิงมีเดียไม่ใช่เรื่องง่าย ใครจะไปคิดว่ามันจะถูกทำลายลงเช่นนี้ 

 

 

“ฉันล่ะอยากจะเผาพิธีนี้จริงๆ!” 

 

 

“เอาเลย เซ็นซะเลยสิ!” 

 

 

“จบกัน มันจบแล้วล่ะ ต่อให้ถังหนิงอยากจะเข้ามาตอนนี้ เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว” 

 

 

แฟนๆ มองหม่าเวยเวยกับประธานหวังแลกสัญญากันและลงชื่อของพวกเขาผ่านหน้าจอ ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับเป็นเรื่องง่ายดาย พร้อมรอยยิ้มเป็นประกายของหม่าเวยเวยที่เผยขึ้น 

 

 

“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณนะคะ” 

 

 

“ครับ เหวยเหวย ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณเช่นกัน!” 

 

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่แฟนๆ ต่างพากันถอนหายใจอย่างผิดหวัง และสงสัยว่าทำไมถังหนิงไม่ปรากฏตัวออกมาสักที ลู่เช่อพลันบุกเข้ามาพร้อมทีมทนายความในชุดสูท พวกเขาเดินตรงเข้ามาตามพรมแดงและหันไปเผชิญหน้ากับทุกคน 

 

 

“ลู่เช่อเหรอ” 

 

 

“ผู้ช่วยลู่ สายเกินไปแล้วล่ะ! เราเซ็นสัญญากันไปแล้ว!” 

 

 

“ผมต้องขอโทษผู้ช่วยลู่ด้วยที่ต้องทำให้เสียเวลามาถึงที่นี่นะครับ แต่ว่าเราทำพิธีกันเสร็จแล้วล่ะครับ” ประธานหวังเอ่ยอย่างสุภาพพลางจับมือทักทายลู่เช่อ ในขณะที่หม่าเวยเวยยิ้มเยาะพร้อมสายตาเย้ยหยันที่ส่งตรงมาที่ลู่เช่อ 

 

 

ทว่าลู่เช่อกลับมองเขากลับอย่างแสดงความเสียใจในขณะที่จับมือกัน “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่สัญญาที่คุณเซ็นไปเมื่อครู่ไม่มีผลทางกฎหมายหรอกครับ” 

 

 

“นี่มัน…” ประธานหวังมองหน้าลู่เช่ออย่างงุนงง “แต่ว่าเราตรวจสอบแล้วว่าคุณหม่าเวยเวยครอบครองหุ้นส่วนใหญ่ของจู้ซิงมีเดียแล้วนะครับ ไม่มีทางผิดพลาดได้หรอก” 

 

 

“เธอถือครองหุ้นของจู้ซิงมีเดียอยู่จริงครับ แต่คุณคงไม่รู้เรื่องข้อตกลงระหว่างจู้ซิงมีเดียกับไห่รุ่ย” ลู่เช่อหัวเราะก่อนหันมาขอเอกสารจากทนายความ “ไห่รุ่ยกับจู้ซิงมีเดียได้ทำข้อตกลงกันไว้ครั้งที่ก่อตั้งบริษัทมาแต่แรกเอาไว้ ซึ่งถังหนิงต้องปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการอย่างเป็นอิสระจากไห่รุ่ยได้” 

 

 

ประธานหวังถึงกับตกตะลึงขณะที่คว้าเอกสารจากมือลู่เช่อมาและรีบพลิกอ่านอย่างรวดเร็ว… 

 

 

“ผู้ช่วยลู่ครับ ผมไม่เข้าใจ หุ้นที่ผมซื้อมาด้วยเงินของตัวเองจะไม่ใช่ของผมได้ยังไงกันครับ” 

 

 

“ดูสัญญาให้ดีๆ สิครับ ไห่รุ่ยระบุไว้ชัดเจนว่าหากจู้ซิงมีเดียไม่มีความคืบหน้าภายใน 6 เดือนและไม่ส่งศิลปินให้กับไห่รุ่ย ทางไห่รุ่ยมีสิทธิ์ที่จะทวงจู้ซิงมีเดียกลับคืนมาได้ ไม่ว่าใครจะถือครองหุ้นอยู่ก็ตาม สิทธิ์ขาดในการตัดสินใจเป็นของไห่รุ่ยแต่ผู้เดียวครับ 

 

 

“ฉะนั้นหลังจากลงมติเป็นเอกฉันท์ คณะกรรมการบริหารของไห่รุ่ยได้ตัดสินใจว่าจะทวงจู้ซิงมีเดียกลับคืนมาครับ เป็นอย่างนั้นผมเลยต้องขอโทษประธานหวังด้วย แต่สัญญานี้เป็นโมฆะแล้วล่ะครับ”