ยวนยางและบ่าวรับใช้ในห้องเป็นคนของนางหมด หากพูดมาจะเชื่อได้อย่างไร แววตาเว่ยอ๋องยิ่งสงสัยขึ้น “ได้ยินมาว่าเจ้ามีปากเสียงกับเขาที่สวนดอกไม้ ไยช่างบังเอิญเช่นนี้ วันนั้นหลังจากมีปากเสียเสร็จเขาก็หายไปด้วย”
“ท่านอ๋องควรพูดว่ายามที่หม่อมฉันเจอเขา มีครั้งไหนบ้างที่ไม่มีปากเสียง” อวิ๋นหว่านถงยิ้มเยาะ “หากว่าไม่มีปากเสียงกัน เกรงว่าจะยิ่งน่าสงสัยกว่านี้เสียอีก อีกอย่าง ทำไมถึงต้องเป็นคนในจวนอ๋องที่ทำอะไรเขา?เขาเป็นนายโลม ใจง่ายดังเกสรปลิว นิสัยเลื่อนลอยโลเลไม่รักเกียรติก็ไม่น่าแปลก ไม่แน่อาจจะเจอคนรักเก่า ถือโอกาสเวลาที่ท่านอ๋องไม่อยู่จวน ตั้งใจบอกว่าท่านอ๋องเรียกหา สุดท้ายก็หนีออกจากจวนไปกับคนนั้น หม่อมฉันว่ารีบไปค้นห้องเขาจะดีกว่า ดูสิว่ายังมีเงินหรือเปล่า”
เว่ยอ๋องจ้องเขม็ง “เป็นไปไม่ได้ เขาไม่มีทางหนีไปแน่ ยิ่งหนีไปจากจวนอ๋องแล้วด้วย ไม่มีทาง!”
ทันใดนั้น บ่าวรับใช้ได้ยินที่ชายารองอวิ๋นพูด จึงรีบรายงานมาจากด้านนอก “ท่านอ๋อง ตอนที่ไปค้นตึกรุ่ยเสวี่ย ค้นเพชรพลอยในห้องเย่หนานเฟิงพบว่าเหลือน้อยมากเพคะ…”
ใบหน้าเว่ยอ๋องตึงเครียด
บ่าวรับใช้พูดพร้อมกันเยี่ยงนี้ หรือว่าจะเอาติดตัวหนีไปด้วยจริงๆ
พ่อบ้านเอ่ย “ท่านอ๋อง ไม่เยี่ยงนั้นบ่าวให้คน ไปหาในเมืองดีไหมพ่ะย่ะค่ะ…”
“เป็นไปไม่ได้” เว่ยอ๋องสะบัดมือ สีหน้ายังคงยึดมั่น “เขาไม่หนีไปเด็ดขาด!” เขาเคยสัญญาไว้แล้ว หลังจากที่ได้ราชภิเษก จะไปไหนมาไหนกับเย่หนานเฟิง เขาไม่หนีไปแน่ อีกทั้งจวนอ๋องเข้มงวดมาก บ่าวที่เฝ้าประตูไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้แน่
สายตาของเว่ยอ๋องมองไปที่อวิ๋นหว่านถง ใจสั่นเล็กน้อย คิดสิ่งที่เลวร้ายที่สุด หากว่าเป็นแผนของนางจริงๆ เย่หนานเฟิงสิ้นใจอย่างไม่สงบเป็นแน่ เว่ยอ๋องโกรธเลือดขึ้นหน้า “หาในจวนต่อไป! หาเย่หนานเฟิง หาบ่าวที่มาส่งข่าวเขาเมื่อวานนี้! ข้าไม่เชื่อว่าจะหาไม่เจอ!”
อวิ๋นหว่านถงเริ่มกลัว เกือบจะประคองร่างไว้ไม่อยู่ในใจเริ่มหมดหวังไปที่ละนิด นางประเมินความรู้สึกที่เว่ยอ๋องมีต่อคนชั้นต่ำเยี่ยงนั้นน้อยเกินไป
ทำไมคนต่ำต้อยคนเดียวถึงทำให้ท่านอ๋องให้ความสำคัญมากเยี่ยงนี้
หา? จะหาเจอได้เยี่ยงไร ต่อให้รู้ว่านางเป็นคนกำจัดหัวแก้วหัวแหวนของเขา แล้วเขาจะให้ใช้ชีวิตตนชดใช้หรือ
ยวนยางยืนหลังชายารอง ตัวสั่นเทา ตกใจกับท่าทีของเว่ยอ๋องที่ต้องการหาให้ถึงที่สุด
ยวนยางเข่าอ่อนแรง แทบจะยืนไม่ไหว ถูกสายตาอวิ๋นหว่านถงจ้องเขม็ง ถึงฝืนพยุงตัวเองไว้
ยามสาย บรรยากาศในห้องใกล้ปะทุเต็มที ในที่สุดพ่อบ้านจวนอ๋องก็เข้ามารายงาน “ท่านอ๋อง
หอสังเกตการณ์เรือนทางใต้มีบ่าวรับใช้งานทั่วไปคนหนึ่ง เมื่อเช้าวันนี้อ้างว่าแม่ป่วยใกล้ตายจึงรีบกลับไปดูใจ เมื่อครู่บ่าวลองเทียบลักษณะกับบ่าวที่ตึกรุ่ยเสวี่ย คาดว่าบ่าวคนนั้นน่าสงสัย เหมือนว่านางจะเป็นคนส่งข่าวปลอมให้เย่หนานเฟิงออกมาเมื่อคืนพ่ะย่ะค่ะ”
“ออกจากจวนต้องลากิจ เจ้าอนุญาตให้ออกไปหรือ” เว่ยอ๋องลุกขึ้น
“ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ บ่าวคนนั้นไปรายงานกับชายารองเองพ่ะย่ะค่ะ” พ่อบ้านเหลือบมองอวิ๋นหว่านถง “ชายาอวิ๋นเป็นคนอนุญาตให้ลาพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยอ๋องโกรธจนตัวสั่น ลุกยืนขึ้น “ดี เจ้ารีบปล่อยบ่าวที่พาเย่หนานเฟิงออกมาเมื่อคืน ยังจะกล้าบอกว่าไม่เกี่ยวกับเจ้าอีกหรือ! บอกมา ใช่เจ้าหรือไม่ ที่พาเย่หนานเฟิงออกมา! เขาล่ะ! เขาอยู่ไหน!”
ใบหน้าอวิ๋นหว่านถงซีดเซียว เอ่ยเสียงเรียบ “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเป็นชายารอง ตอนเช้ามืดมีบ่าวรีบมาขอลากลับไปดูใจแม่ ตอนนั้นหาพ่อบ้านไม่พบ แค่มาขอลากับหม่อมฉัน หรือว่าแม้แต่อนุญาตให้บ่าวลาหม่อมฉันเองก็ทำไม่ได้หรือเจ้าคะ หม่อมฉันจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าบ่าวผู้นั้นทำอะไรมา หรือว่าก่อนที่จะอนุญาตให้ลา ต้องให้ตรวจสอบว่าวันนั้นผู้บ่าวทำอะไรมาบ้างหรือเจ้าคะ”
เว่ยอ๋องเห็นนางเถียงไม่ขาดคำทั้งไม่มีหลักฐาน โกรธจนพูดไม่ออก อึดอัดในใจ หมดหวังว่าเย่หนานเฟิงจะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ
พ่อครัวเห็นว่าบรรยากาศในห้องอึมครึม จึงส่งสัญญาณให้ทุกคนออกไป ตนค่อยๆ ปิดประตูออกไป
อวิ๋นหว่านถงยืนขึ้น มองเว่ยอ๋อง “ท่านอ๋อง ในเมื่อเย่หนานเฟิงไปแล้ว มิใช่ว่ายังมีหม่อมฉันหรือเพคะ ยังมี…” พูดไปก็พลางจับมือเขาวางไว้บนหน้าท้อง
หากไม่ใช่เพราะเด็กในท้อง เว่ยอ๋องคงจะระเบิดอารมณ์ไปแล้ว ตอนนี้คิดกลัวก็แต่เย่หนานเฟิงจะถูกนางทำร้าย เวลานี้แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะโกรธ จิตใจห่อเหี่ยวลง รอบดวงตาแดง พึมพำกับตัวเอง “เขาอยู่ที่ไหน ก่อนตาย เจ็บหรือเปล่า…”
อวิ๋นหว่านถงไม่เชื่อจริงๆ ว่าเขาจะเสียน้ำตาเพราะคนชั้นต่ำนั่น ความโกรธก็ตีขึ้นมา เกือบจะประคองตัวไม่ไหว ทำถึงขนาดนี้แล้วเหมือนสูญเปล่ามันเจ็บในใจ แม้แต่ท้องก็เจ็บตามไปด้วย จับมือยวนยางเดินออกจากห้องโถงเอก
บ่าวในจวนผลัดกันหาสามวันสามคืน จนในที่สุดก็เจอที่ทะเลสาบหลังศาลาเทียนชู ร่างศพตัวแข็งดั่งหินถูกนำขึ้นมา
รูเลือดออกตรงหน้าอกแข็งตัวแล้ว แต่กลับมองออกว่าถูกคนแทงที่หน้าอกมา
ยามที่ข่าวแพร่ไปถึงเรือนชายารอง ยาจีนบำรุงครรภ์ในมือยวนยางตกลงบนพื้น ใบหน้านางซีดเซียว
จวนเว่ยอ๋อง ห้องโถงเอก ผ้าขาวคลุมเปลไม้ แขนที่มีรอยฝกซ้ำข้างหนึ่งไหลลงมา
บุรุษที่นั่งบนเก้าอี้กลม มองมาที่เปลไม้ แผ่นหลังหันให้ประตูไม่ขยับ
ยวนยางอกสั่นขวัญแขวน ขาอ่อนแรง ขยับไม่ได้
อวิ๋นหว่านถงจ้องมองบ่าวรับใช้ ตนเองก็กระวนกระวายใจ ยากที่จะสงบลง แต่ก็เดินเข้าไป เอ่ยเรียก“ท่านอ๋อง”
ไม่ปฏิกิริยาตอบโต้
จึงเรียกอีกครั้ง ยังคงเยือกเย็น เหมือนดั่งโยนหินลงแม่น้ำ ไม่มีแม้แต่ฟองคลื่น
อวิ๋นหว่านถงใบหน้าเหยเก ในใจนึกโกรธ มองเย่เฟิงหนานที่แข็งเป็นหิน ความกังวลและความกลัวเมื่อครู่หายไปแล้ว ท่าทางเกลียดชั่งกลับเผยออกมา
จนถึงตอนนี้ นางก็ยังไม่เสียใจที่ได้ฆ่าเขา
ไม่ว่าจะอยู่หรือตาย เขาก็ได้ความสนใจจากเว่ยอ๋องไปหมด มีสิทธิ์อะไรกัน!
ไม่ง่ายเลยที่นางจะได้ตำแหน่งชายารอง แต่กลับถูกนายโลมนั่นเหยียบย่ำ จะยินดีได้เยี่ยงไร
“หม่อมฉันได้ยินมาว่าเจอเย่หนานเฟิงที่ทะเลสาบของ…” อวิ๋นหว่านถงกัดฟันพูด แสร้งว่าไม่รู้อะไร พยามเอ่ยเสียงให้เรียบที่สุด
ในที่สุดบุรุษผู้นั้นก็เหงยหน้าขึ้น กร่อนฟัน “เจ้าร้ายกาจมาก ใช้มืดแทงเขาทั้งยังใช้หินผูกแขนขาให้จม เจ้าไม่อยากให้เขาฟื้นเลยหรือ ตายแล้วก็ไปผุดไปเกิดไม่ได้เลยหรือ เขาฆ่าครอบครัวของเจ้าจนหมดหรือ ถึงมีความแค้ดแค้นขนาดนี้!”
อวิ๋นหว่านชิ่นหน้าซีด เห็นว่าเว่ยอ๋องค่อยๆ ลุกขึ้นเดินมาทางตนเองที่ละก้าว นึกหวั่นกลัวก้าวถ้อยหลัง “ไม่ หม่อมฉันไม่ได้ฆ่า…”
“ยังไม่ยอมรับอีก!” เว่ยอ๋องใกล้ระเบิดอารมณ์เต็มที เดินเข้าไปใกล้อีก ตะโกนเสียงดังจนนางตกใจ คว้าข้อมือนางขึ้นมา ยิ้มเยาะ “เจ้าไม่ได้ฆ่า เยี่ยงนั้นเจ้ากล้ามองเขาหรือไม่!”