ตอนที่ 1379 เริ่มการล่า (1)
ที่ด้านล่างผาสุดสวรรค์มีเลือดไหลชุ่มพื้นดิน ภายใต้หมอกหนาที่เย็นยะเยือก มีผู้คนที่นอนตายอยู่ในแอ่งเลือดมากมายเกินกว่าจะนับได้
หลังจากที่เพิ่งต่อสู้ครั้งใหญ่ คนกลุ่มหนึ่งยืนหอบหายใจหนักอยู่ภายใต้หมอกหนา มองดูกันและกันภายใต้แสงจากบอลเพลิงวิญญาณที่พวกเขาถืออยู่ในมือ
กลุ่มคนและม้ามีจำนวนเกินร้อย บนร่างของทุกคนมีแสงสีม่วงจากพลังวิญญาณของพวกเขาหมุนวนอยู่ การต่อสู้ครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ทำให้พลังของพวกเขาหมดไปพอสมควร และตอนนี้การต่อสู้ได้จบลงแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสได้พักหายใจหายคอซะที
“ไอ้พวกสมควรตาย วิหารจิตหวนคืน วิหารปีศาจเพลิง……พวกมันบ้ากันไปหมดแล้ว ส่งคนมาที่อาณาจักรล่างกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ทำเหมือนไม่มีใครรู้ว่าพวกมันคิดอะไรอยู่ในใจ” หัวหน้าคนพวกนั้นพูดขึ้นขณะขมวดคิ้วจ้องมองพื้นรอบๆที่เต็มไปด้วยศพ กลุ่มของเขาเพิ่งลงมาจากผาสุดสวรรค์ก็เจอเข้ากับคนกลุ่มอื่นที่มาจากวิหารอื่น คนต่างกลุ่มเข้าปะทะกัน ความตั้งใจของพวกเขาชัดเจนโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรสักคำ
“ช่วงนี้อาณาจักรล่างวุ่นวายโกลาหล ข้าได้ยินว่าเบี้ยที่วิหารอื่นๆวางไว้ในอาณาจักรล่างถูกขุดรากถอนโคนโดยใครบางคน แผนที่ที่ฝากไว้ที่อาณาจักรล่างก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาจะไม่วิตกกังวลได้ยังไง?” ชายอีกคนพูดไปหอบไป
ถ้าเป็นในสถานการณ์ปกติ หากพวกเขาเจอกับคนวิหารอื่นจากสิบสองวิหาร อย่างมากพวกเขาก็แค่พูดจาเหน็บแนมดูถูกกันเล็กน้อย ก่อนจะหาข้ออ้างแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเอง
แม้ว่าวัตถุประสงค์ของพวกเขาจะเหมือนกัน แต่การที่พวกเขาจะหาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดได้นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเองทั้งหมด
ถึงยังไงวิหารต่างๆก็มีระดับพลังที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน พวกเขาก็คงไม่สู้กัน
แต่ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว
“เฮ้ เจ้าจำได้ไหมว่าเจ็ดวิหารนั่นหยิ่งผยองแค่ไหนตอนที่พวกมันได้แผนที่ไป? คิดว่าได้เบาะแสใหญ่แล้ว จะสามารถหาสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเจอก่อนคนอื่น แต่หลายปีผ่านไป พวกมันเจออะไรบ้าง? แผนที่ที่พวกมันส่งไปอาณาจักรล่างได้หายไปแล้ว และพวกมันก็สงสัยพวกเราที่เหลือ ไร้สาระสิ้นดี ตัวเองไม่มีความสามารถ ก็ไม่ควรลากคนอื่นลงน้ำ คิดว่าจะชี้นิ้วใส่ทุกคนได้ พวกมันคิดว่าตัวเองอยู่ยงคงกระพันรึไง?” หัวหน้ากลุ่มกระอักเลือดออกมา พวกเขาได้รับชัยชนะจากจำนวนที่เหนือกว่า แต่ถึงยังไงคู่ต่อสู้ก็เป็นคนจากวิหารอื่น พลังของพวกเขาไม่ใช่จะดูถูกได้ แม้ว่าพวกเขาจะชนะ แต่ก็บาดเจ็บกันเป็นจำนวนมาก
“เราโชคดีที่ครั้งนี้ท่านผู้อาวุโสมองการณ์ไกล สั่งให้พวกเรานำคนมาให้มากเข้าไว้ ถ้าเรามาที่นี่เหมือนชุดที่แล้ว เราคงตกเป็นเหยื่อของศัตรูไปแล้ว” ชายอีกคนพูดด้วยเสียงเย้ยหยัน
พวกเขามาจากวิหารฝูหัว หนึ่งในสิบสองวิหาร ในบรรดาสิบสองวิหาร พวกเขาถูกจัดให้อยู่ในระดับกลางในแง่ของพลังความแข็งแกร่ง เป็นพวกที่ไม่โดดเด่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาไม่ยอมแพ้กับการสืบหาที่ตั้งของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเลย และเช่นเดียวกับวิหารอื่นๆ พวกเขาหาเบี้ยในอาณาจักรล่างให้ดำเนินการแทนพวกเขา แต่เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้ว อาณาจักรล่างตกอยู่ในสงคราม เบี้ยที่พวกเขามีก็ถูกกำจัดจนสิ้นซาก พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปฏิบัติภารกิจด้วยตัวเอง
ตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว พวกเขาได้ส่งคนลงมาที่ด้านล่างผาสุดสวรรค์หลายกลุ่มเพื่อค้นหาที่ตั้งของสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด แต่ไม่มีใครกลับไปเลยสักคน
พวกเขารู้แก่ใจดีว่าผาสุดสวรรค์เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย จึงมักจะทิ้งคนเอาไว้เฝ้าที่ด้านบนสุดของผาสุดสวรรค์หนึ่งหรือสองคนเสมอ ถ้าพวกเขายังคงไม่ได้รับข่าวสารใดๆหลังจากผ่านไปครึ่งเดือน คนที่เฝ้าอยู่ที่ด้านบนผาจะนำข่าวกลับไปให้พวกเขา
แต่เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันแล้ว กลุ่มที่วิหารฝูหัวส่งออกไปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าไม่ได้กลับมาเลยแม้แต่คนเดียว