แดนนิรมิตเทพ บทที่ 398
เฉินโม่อยากจะฆ่าศัตรูตัวฉกาจของชาติที่แล้วคนนี้ทันที แต่สถานะตัวตนของว่านเหวินโยวไม่ธรรมดา ถ้าฆ่าเขาแล้วจะต้องสร้างความโกรธแค้นให้เจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเฉินโม่นั้นยังห่างไกลจากความสามารถที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ได้

“วางใจเถอะ ฉันไม่ฆ่าแกหรอก แต่ในเมื่อแกมาที่นี่แล้ว แกต้องชดใช้สักหน่อยถึงจะจากไปได้!”

เฉินโม่สะบัดมือ ปล่อยพลังทิพย์ออกไปสองเส้น ทำให้ขาของว่านเหวินโยวหักทันที

“อ๊ากก!”

ว่านเหวินโยวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด คุกเข่าลงบนพื้น เจ็บปวดจนหมดสติไป ทำให้ลูกน้องกลุ่มนั้นตกใจจนถอยไปข้างหลัง พวกเขาคิดว่าว่านเหวินโยวถูกฆ่าตายแล้ว

“เจ้าเด็กคนนี้กล้าฆ่าแม้แต่คุณชายว่าน! ทุกคนรีบหนีเร็ว!”

ลูกน้องเหล่านี้รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก สถานะอย่างว่านเหวินโยวนั้นยังถูกเฉินโม่ฆ่าตายทันที สถานะของพวกเขาด้อยกว่าคนของว่านเหวินโยว พวกเขาคงตายอนาถกว่า?

“หยุด!” เฉินโม่พ่นลมออกมาอย่างเย็นชา

ลูกน้องเหล่านี้หยุดฝีเท้าทันที ทุกคนต่างเงียบ คำพูดของเฉินโม่เป็นเหมือนราชโองการ ไม่มีใครกล้าขัดขืน

“ฉันไม่ได้ฆ่าเขา ฉันแค่หักขาเขาเท่านั้น พวกนายพาเขากลับไป!” น้ำเสียงของเฉินโม่ราบเรียบ ราวกับว่าเขาได้ทำเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

ลูกน้องเหล่านี้รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย หากว่านเหวินโยวเสียชีวิตแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหนีกลับไปได้ ตระกูลว่านก็จะไม่ปล่อยพวกเขาอย่างแน่นอน

เฉินโม่กล่าวต่อไปว่า “ช่วยฝากคำพูดให้ว่านฉางหรูด้วย ถ้ามีครั้งต่อไป ฉันจะไปถึงตระกูลว่านด้วยตัวเอง!”

ลูกน้องทุกคนมองเฉินโม่ด้วยความประหม่า ต่างสบตากัน สุดท้ายทุกคนพยักหน้ารับปากพร้อมกัน จากนั้นเดินไปยกว่านเหวินโยวแล้วจากไป

หลังจากคนเหล่านี้จากไปแล้ว เฉินโม่หันไปมองหลี่ซู่เฟินและคนอื่น ๆ

สีหน้าของหลี่ซู่เฟินจริงจัง มองเฉินโม่ด้วยดวงตาที่ซับซ้อน

เวินฉิงมองเฉินโม่ด้วยสายตาประหลาดใจเช่นกัน

สีหน้าของเฉินโม่จริงจัง เขารู้ว่าการที่ตนเองฆ่าคนตาย เขากลัวว่าจะทำให้แม่และพี่เวินฉิงตกใจ แต่เขาจำเป็นต้องทำเช่นนั้น

“คุณแม่ พี่เวินฉิง ผมรู้ว่าพวกท่านกังวลเรื่องอะไร? ไม่ใช่ว่าผมกระหายการฆ่าคน เพียงแต่การที่จะจัดการกับคนพวกนี้ ต้องปราบปรามด้วยความเด็ดขาด ต้องทำร้ายจนพวกเขากลัวและเจ็บปวดเท่านั้น พวกเขาถึงจะไม่กล้าสร้างปัญหาอีก”

“เหตุการณ์ที่การประชุมสูงสุดฮ่านหยางเป็นตัวอย่างดีที่สุด ถ้าตอนนั้นผมฆ่าสองพ่อลูกตระกูลว่านแล้ว วันนี้ก็จะไม่มีคนของตระกูลหนานกงมาปรากกฏตัวอยู่ที่นี่ เป็นเพราะผมใจอ่อนเกินไป ถึงได้ทำให้ว่านฉางหรูไม่กลัวเพราะถือว่ามีคนคอยหนุนหลัง”

ผู้รับผิดชอบแผนกจัดเลี้ยงที่อยู่ข้างหลังหลี่ซู่เฟินกล่าวด้วยสีหน้าเห็นด้วยว่า “คุณชายเฉินโม่พูดถูก การจะจัดการคนเลวพวกนี้ ต้องใจคอโหดเหี้ยม มิฉะนั้นพวกเขาจะคิดว่าคุณรังแกได้ง่าย และพวกเขาจะมาหาเรื่องคุณเรื่อย ๆ”

หลี่ซู่เฟินถอนหายใจ แล้วเธอจะไม่เข้าใจว่าแนวทางของเฉินโม่นั้นถูกต้องได้อย่างไร? แต่ถ้าวันนี้คนที่ฆ่าคนตายเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง เช่นเฉินซงจื่อ เธอคงยอมรับมันได้อย่างสบายใจ แต่คนที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมคือลูกชายของเธอเอง!

คนเป็นแม่ล้วนไม่อยากเห็นลูกชายของตนเองกลายเป็นฆาตกรในยุคสมัยที่สงบ ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนเลวก็ตาม

“แม่ไม่เป็นไร ลูกไม่ต้องกังวล เพียงแต่แม่ยังไม่คุ้นชินชั่วขณะเท่านั้น” หลี่ซู่เฟินกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มฝืนยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเธอยังมีความไม่สบายเล็กน้อย

เฉินโม่เดินไปข้างหน้าทันที จับมือของหลี่ซู่เฟินและกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณแม่ ผมรู้ว่าในใจของคุณแม่อาจจะยังไม่สามารถยอมรับการฆ่าคนของผมได้ แต่คุณแม่ไม่รู้ว่าตอนที่ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่เวินฉิง ผมรู้สึกเป็นห่วงพวกท่านมาเพียงใด!”

“เพื่อพวกท่านแล้ว อย่าว่าแต่การฆ่าคนคนหนึ่งเลย ถึงแม้ว่าจะทำให้ผมเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ผมก็ไม่กลัว เพราะพวกท่านเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับผม ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพวกคุณ!”

“แม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของผมไหม?”