บทที่ 40 ไม่สนใจผู้ชายอย่างประธานเทาเท

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

“ซูซี!”

มือของซูซีไม่ได้ฟาดลงที่ใบหน้าของหลินจือแต่ถูกเทาเท่ คว้าไว้กลางอากาศ

เทาเท่บีบไปที่ข้อมือของซูซีตวาดเสียงดังอย่างโกรธเคือง“ นี่คุณจะทำอะไร !”

ดวงตาของซูซีแดงก่ำขึ้นมาทันที เธอจ้องมองเทาเท่และพูดอย่างเจ็บช้ำน้ำใจว่า “เทาเท่ ดึกดื่นป่านนี้เธอยังหน้าด้านเอาเรื่องงานมาคุยกับคุณ เจตนาคืออะไร ? คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเคยวางแผนทำอะไรกับคุณ ?”

ในตอนที่เทาเท่มารับฝ่ามือของซูซีแทนเธอจังหวะนั้นหลินจือรู้สึกซาบซึ้งใจมาก แต่พอคำว่าซูซีของเทาเท่หลุดออกมา ก็ทำให้เธอได้สติ

ใช่ พวกเขากำลังจะแต่งงานกัน พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน

เหมือนเหตุการณ์ครั้งนั้นของพินอิน เทาเท่ขวางซูซีเอาไว้สำหรับหลินจือแล้วเทาเท่ไม่ได้กำลังจะปกป้องเธอ แต่เขากำลังปกป้องซูซี

ซูซีก็เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง และเป็นสะใภ้ตระกูลฟอเรนาในอนาคต หากเขาตบหน้าเธอจริงๆ เรื่องแพร่สะพัดออกไปก็จะดูไม่ดีกับซูซีและตระกูลฟอเรนา

เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวยิ้มเยาะให้ซูซีแล้วพูดว่า“คุณซูซี คุณไม่ลองถามประธานเทาเท่ดูว่าทำไมฉันต้องมาทำงานอยู่ที่นี่ในเวลาดึกๆดื่นๆแบบนี้ ”

ใบหน้าที่เยาะเย้ยของหลินจือทำเอาเทาเท่กดปลายลิ้นไปที่ฟันกรามแน่น เขาพูดกับซูซีด้วยใบหน้าที่มืดมน“ ผมเป็นคนตามเธอมาเอง”

ใบหน้าของซูซีเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เธอไม่คิดว่าเทาเท่จะเป็นคนประเภทที่เรียกหญิงสาวมาคุยงานในเวลาดึกๆดื่นๆแบบนี้

ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงคนนั้นก็ยังเป็นอดีตภรรยาของเขาเป็นอดีตภรรยาที่เขาเคยรังเกียจอย่างมาก

หลินจือไม่สนใจว่าซูซีจะเชื่อหรือไม่ พูดด้วยท่าทีสงบและสำรวมว่า “ซูซี ตอนที่ฉันตัดสินใจหย่า ก็ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะข้องเกี่ยวอะไรกับผู้ชายคนนี้อีก”

“ม้าที่ดียังไม่หวนกินหญ้าที่เคยกินไปแล้วเลย นับประสาอะไรกับผู้ชายที่หยิ่งยโสและเห็นแก่ตัวแบบนี้”

“พูดตามตรง ฉันในตอนนี้ไม่คิดจะสนใจผู้ชายอย่างประธานเทาเท่อีกแล้ว หล่อรวยแล้วยังไง ? ไม่มีใจทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์ ”

หลินจืออยากจะใช้โอกาสนี้วาดเส้นแบ่งเขตกับเทาเท่แต่นี้ต่อไปให้ซูซีไม่ต้องมาวุ่นวายกับเธออีก

เธออยากจะตั้งใจทำงานของเธอ และอยากจะขอร้องให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างพวกเขาไปไกลๆให้พ้นๆซะ

คนที่ควรแต่งงานก็แต่งงาน คนที่ควรมีครอบครัวก็ไปมีมันให้จบๆ

คำพูดของหลินจือทำให้เทาเท่ที่อยู่ข้างๆใบหน้าดูแย่ขึ้นมาทันที ตอนนั้นเธอใช้ทุกวิถีทางเพื่อปีนป่ายเข้าหาเขา และตอนนั้นเธอก็พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่ารักเขา เธอทำทุกอย่างเพื่อเขาตั้งมากมาย แต่ตอนนี้กลับรังเกียจเขาซะขนาดนี้ ?

เขาหยิ่งยโสและเห็นแก่ตัว ?

เขาไม่มีใจ ?

เทาเท่รู้สึกว่าอวัยวะภายในของตัวเองเคลื่อนย้ายไปมาด้วยความกรุ่นโกรธเพราะคำพูดของหลินจือ และนอกเหนือจากความโกรธเหล่านั้น เขาก็ยังรู้สึกหดหู่และเศร้าสลดเล็กน้อย

นี่เธอ……ไม่ได้คิดถึงหรือผูกพันกับเขาแล้วจริงๆเหรอ ?

หลังจากที่หลินจือพูดถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเทาเท่จบก็หันมองไปที่เทาเท่ใบหน้าของเธอยกยิ้มการค้า “ประธานเทาเท่ ฉันว่าคืนนี้งานของเราคงคุยกันต่อไม่ได้แล้ว ฉันว่าฉันขอตัวก่อนดีกว่า ”

หลินจือพูดจบก็เก็บโน๊ตบุ๊คของตัวเองแล้วเดินไปอย่างช้าๆ หลังจากที่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ราวกับจะนึกอะไรขึ้นมาได้พูดเตือนสติว่า“เออนี่ประธานเทาเท่ คราวหลังถ้าจะคุยเรื่องงานรบกวนเลือกเวลากลางวัน และเลือกสถานที่ที่ผู้คนพลุกพล่านด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้คุณซูซีเธอต้องมาหึงแล้วเสียภาพลักษณ์แบบนี้”

“เพราะที่ผ่านมาคุณซูซีเธอมักจะดูแคลนผู้หญิงที่ขี้หึงขี้หวงจนหน้ามืดตามัวไม่ห่วงภาพลักษณ์มากที่สุด อย่าให้คุณซูซีเธอต้องกลายเป็นคนที่ตัวเองดูแคลนแบบนั้นเลยค่ะ”

เมื่อพูดทุกอย่างจบ หลินจือก็จึงหิ้วกระเป๋าจากไปอย่างสาแก่ใจ

ผู้หญิงขี้หึง ขี้หวง เสียภาพลักษณ์คำพูดเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ซูซีเคยพูดกับเธอมาก่อน ตอนนี้เธอสวนกลับซูซีโดยไม่ตกหล่นเลยสักคำ นี่มันจะสาแก่ใจอะไรแบบนี้

“หลินจือ!” ซูซีตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิดและโมโหจากทางด้านหลังของ หลินจือ เธอไม่อยากจะปล่อยหลินจือไปง่ายๆแบบนี้ แต่เทาเท่รั้งข้อมือเธอไว้ เธอจึงไม่สามารถขยับได้

รอจนร่างของหลินจือหายลับไป เทาเท่ก็จึงสะบัดแขนเธอออก

ด้วยแรงอันมากทำเอาซูซีถึงกับยืนไม่อยู่ เธอคว้าไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านข้างซวนเซถอยหลังไปหลายก้าวก็จึงยืนนิ่งได้

น้ำเสียงของเทาเท่มีความโกรธเคืองแฝงอยู่ “ วุ่นวายซะขนาดนี้ พอใจคุณหรือยัง ?”

“นี่คุณว่าฉันทำสร้างเรื่องวุ่นวายเหรอ?” น้ำตาของซูซีรินไหลลงมา เธอหาเหตุผลให้กับตัวเองอย่างน้อยอกน้อยใจ“เทาเท่ เธออยู่กับคุณในเวลาดึกๆดื่นๆ ตอนที่ฉันเข้ามาคุณก็กำลังจะถอดเสื้อผ้าของเธอ คุณยังมาว่าฉันสร้างเรื่องวุ่นวายอีก?”

หากเธอไม่เข้ามา พวกเขาก็จะโรมรันพันตูกันแล้วใช่ไหม ?

เมื่อเทาเท่ได้ยินซูซีพูดว่าเขากำลังจะถอดเสื้อผ้าของหลินจือรู้สึกเพียงว่าไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“ ตาข้างไหนของคุณที่เห็นว่าผมจะถอดเสื้อผ้าของเธอ ? ผมไม่ระวังเผลอทำกาแฟหกใส่เธอ และผมก็แค่ยื่นทิชชูให้เธอเท่านั้น ”

ซูซีปาดน้ำตาแล้วยิ้มเยาะ“ คุณทำกาแฟหกใส่เธองั้นเหรอ ? ฉันว่าเธอจงใจให้กาแฟหกใส่มากกว่าหรือเปล่า ? แบบนี้เธอก็จะสามารถใช้โอกาสที่จะถอดเสื้อคลุมเธอออกโดยอ้างว่าเสื้อเธอสกปรกแล้วยั่วยวนคุณนะสิ !”

หลังจากที่เทาเท่ได้ฟังคำพูดของซูซีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น นี่เป็นความคิดเบื้องลึกของซูซีเอง ดังนั้นก็จึงคิดว่าหลินจือจะเป็นแบบเดียวกัน ?

เขาอยู่ในเหตุการณ์ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่ากาแฟหกยังไง ?

ตอนที่เขาเอากาแฟให้หลินจือหลินจือกำลังเปิดคอมอยู่

รูปหน้าจอคอมของเธอคือรูปถ่ายเธอเอง ในรูปเธอกำลังยิ้มให้กล้องอย่างร่าเริงสดใส

รอยยิ้มแบบนั้นคือรอยยิ้มแห่งความสุขที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ราวกับแสงที่ทอประกาย แวววาวจนทำให้รู้สึกหวั่นไหว

มันเป็นรอยยิ้มที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อนตลอดสามปีที่แต่งงานกับเธอ เมื่อก่อนหลินจือก็ยิ้มให้เขาทุกวัน แต่รอยยิ้มนั้นเทียบไม่ได้เลยกับรอยยิ้มในรูป

สติเขาหลุดลอยไปชั่วขณะ จนทำให้ข้อมือเอียงกาแฟในแก้วก็กระฉอกออกมา

ไม่ได้เป็นอย่างที่ซูซีพูดว่าหลินจือจงใจทำกาแฟหกใส่ตัวเอง

เงยหน้าขึ้นมองซูซีที่กำลังร้องห่มร้องไห้อยู่ตรงหน้า เทาเท่ลุกขึ้นและหยิบกุญแจรถของตัวเอง “ ผมจะส่งคุณกลับ คุณไปสงบสติอารมณ์ก่อน ”

ทันทีที่เขาพูดจบก็ผละเดินออกไป ซูซีร้องไห้อย่างโกรธเคืองอยู่ทางด้านหลัง

เขาบอกให้เธอกลับไปสงบสติอารมณ์ เห็นชัดว่าเขากำลังว่าเธอสร้างเรื่องสร้างปัญหาอยู่

ต่อหน้าเทาเท่เธอต้องตรากตรำรักษาภาพลักษณ์อันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาเป็นเวลานาน คืนนี้เพราะการปรากฏตัวขึ้นของหลินจือก็ทำลายทุกอย่างเสียสิ้น ซูซีเกลียดหลินจือมากเสียจริง

แต่ซูซีเป็นคนที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ในตอนที่เทาเท่มาส่งเธอถึงที่ประตูหน้าบ้านเธอก็ใจเย็นลงแล้ว

หลังจากที่รถของเทาเท่จอดสนิทเธอไม่ได้ลงจากรถในทันที ปลดเข็มขัดนิรภัยของเธอหันมาพูดกับเทาเท่ด้วยเสียงสะอื้น“ ฉันขอโทษ เรื่องในคืนนี้เป็นความผิดของฉันทั้งหมด”

ใบหน้าของเทาเท่ไม่มีอาการใดๆ ซูซีหลุบตาลงยังคงพูดต่อว่า “ฉันควรจะเชื่อใจคุณ คุณไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักแยกแยะ ”

“เมื่อก่อนคุณเมินเฉยกับหลินจือมาโดยตลอด ตอนนี้หย่าไปแล้วก็ยิ่งจะไม่สนใจเธอ ฉันควรเชื่อว่าพวกคุณแค่คุยเรื่องงานกัน เป็นความผิดของฉันเอง……”

ซูซีกำลังนั่งสำนึกผิดกับความหุนหันและบุ่มบ่ามของตัวเอง แต่ภายในใจของเทาเท่ก็กลับรู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูกกับคำพูดของซูซี

ใช่ เมื่อก่อนเขาเคยมองข้ามและไม่สนใจไยดีหลินจือเลย แล้วตอนนี้ทำไมถึงต้องทำอะไรต่อมิอะไรที่คาดไม่ถึงกับหลินจือครั้งแล้วครั้งเล่าด้วย ?

อาทิเช่นคอยปกป้องเธออยู่ซ้ำๆ

กับน้องสาวของเขาพินอินในครั้งนั้น และกับซูซีในครั้งนี้

เขาออกตัวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่อยากให้เธอต้องถูกพินอินกับซูซีทำร้าย ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ