ครึ่งชั่วโมงผ่านไปหลินจือก็มาปรากฏตัวขึ้นที่ฟอเรนากรุ๊ปไม่มีเหตุผลอื่นใด นักลงทุนคือพระเจ้า
หลินจือกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นบน สถานที่นี้เธอคุ้นเคยกับมันพอสมควร เพราะเธอมาส่งอาหารกลางวันให้เทาเท่อยู่บ่อยๆ
หลังจากที่พวกเขาแต่งงานกันได้ไม่นานเธอก็มาเผชิญกับอาการปวดท้องอย่างเฉียบพลันและรุนแรงของเทาเท่จนต้องถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลในกลางดึก หลังจากนั้นเป็นต้นมาเธอก็พยายามปรับสภาพและฟื้นฟูร่างกายของเทาเท่ อาหารสามมื้อในแต่ละวันเธอจะลงมือทำเอง ตามคำแนะนำของนักโภชนาการที่กำหนดให้ โดยไม่ให้ตกหล่นเลยแม้แต่น้อย
หน้าห้องทำงานของเทาเท่หลินจือสูดหายใจเข้าลึกเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป
เทาเท่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาหลินจือมองเขาแวบหนึ่ง แล้วรู้สึกอยากจะเป็นลม
เพราะเทาเท่สวมเสื้อเชิ้ตสีเทาอ่อน ผูกเนกไทสีดำ โดยไม่รู้ตัวการแต่งกายนั้นเข้าคู่กับชุดของเธอราวกับชุดของคู่รัก
ก่อนออกจากบ้านหลินจือก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดแบบทางการ สูทสีเทาอ่อนที่ตัดเย็บจากผ้าลินิน ข้างในเสื้อเป็นสายเดี่ยวสีดำ
และเธอยังได้แต่งหน้าเบาๆ ในเมื่อมาคุยเรื่องงาน ต่อให้จะเป็นเวลากลางคืน เธอคิดว่าก็ควรทำอะไรให้มันดูเป็นงานเป็นการ เพื่อไม่ให้เทาเท่หาเรื่องมาตำหนิเธอได้
ใครจะไปคิดว่าเสื้อผ้าของเทาเท่ก็เป็นเทาดำเหมือนกัน เห็นชัดว่าเทาเท่เองก็สังเกตเห็นถึงในจุดนี้ ยกยิ้มมุมปากแล้วพูดกับเธอว่า “วันนี้แต่งตัวดูดีมาก ”
หลินจือแอบกัดฟันกร่อน เธอฟังออกว่าเขากำลังล้อเลียนชุดที่เหมือนคู่รักที่พวกเขาใส่ในวันนี้
แต่ตอนนี้เธอทำได้เพียงเมินเฉยกับคำหยอกล้อของเทาเท่ ทักทายเขาอย่างสุภาพ “ประธานเทาเท่”
เทาเท่ละสายตาออกจากใบหน้าของเธอ ส่งสัญญาณให้เธอไปที่โต๊ะตัวยาวข้างๆ“นั่งก่อนสิ”
หลินจือเดินไปแล้วนั่งลงอย่างเงียบๆ จากนั้นก็หยิบโน๊ตบุ๊คออกจากกระเป๋าแล้วเปิดออก
เทาเท่ลุกขึ้นและถือกาแฟติดมือมาด้วยสองแก้ว หลินจือกล่าวขอบคุณแล้วยื่นมือไปรับ แต่ไม่รู้ว่าเทาเท่เป็นอะไร แก้วกาแฟที่ถืออยู่ในมือดีๆก็เอนเอียงกาแฟในแก้วบางส่วนก็หกใส่เสื้อผ้าตรงหน้าอกของเธอ
หลินจืออุทานออกมาแล้วรีบลุกขึ้นยืน นี่เธอไปมีความแค้นกับพี่น้องเขาสองคนใช่ไหม วันก่อนพินอินสาดกาแฟใส่เธอ มาวันนี้เทาเท่ก็มาทำกาแฟหกใส่เธออีก
“ขอโทษ”เทาเท่ไม่คิดว่ากาแฟจะหก หลังจากที่กล่าวขอโทษแล้วก็รีบวางถ้วยกาแฟในมือลงและหยิบทิชชูที่อยู่ข้างๆมาช่วยหลินจือเช็ด
ใบหน้าของหลินจือก็เห่อร้อนขึ้นมาทันที เพราะมือของเทาเท่สัมผัสไปโดนหน้าอกของเธอโดยตรง
เทาเท่เห็นใบหน้าที่เห่อร้อนของเธอ พูดเสียงแผ่วเบาว่า“ จะหน้าแดงทำไม ? ใช่ว่าผมจะไม่เคยเห็นมาก่อน ”
หลินจือ“……”
เทาเท่ยื่นทิชชูไปให้กับหลินจือและกำลังจะดึงมือกลับ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักออกอย่างแรง และซูซีก็เดินตรงเข้ามา
ซูซีขับรถตามเทาเท่มาพอเห็นชายหนุ่มมาที่บริษัทก็รู้สึกโล่งใจ หากเพราะเขามีงานจริงๆเลยต้องทิ้งเธอเอาไว้ เธอก็คงจะไม่เสียใจมากเท่าไร
ใครจะไปรู้ว่าพอเธอขับรถออกจากที่จอดรถชั้นใต้ดินมาได้ ทันทีที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นหลินจือลงมาจากรถแท็กซี่
เธอไม่สนใจจะรักษาภาพลักษณ์ของเธอต่อหน้าเทาเท่อีก จอดรถทิ้งไว้แล้วรีบตามขึ้นมา
“พวกคุณกำลังทำอะไร?” จากมุมมองของซูซีเทาเท่ดูเหมือนกำลังเอื้อมมือไปจะถอดเสื้อสูทของหลินจือ
เธอคลุ้งคลั่งขึ้นมาทันที ยกนิ้วชี้หน้าหลินจือแล้วด่ากราด“หลินจือ นังหน้าไม่อาย?”
“เมื่อสี่ปีก่อนเธอก็ใช้วิธีสกปรกปีนป่ายขึ้นเตียงของเทาเท่ตอนนี้ก็ยังหน้าด้านมาอ่อยเขาถึงที่อีก นี่เธอคิดว่าเธอเป็นใคร!”
ซูซีด่าไปแล้วยกหนึ่งก็ยังรู้สึกไม่หายโมโห สวมใส่รองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาหาง้างมือขึ้นแล้วตวัดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าของหลินจือ