ตอนที่ 256 ซย่าซย่า เลิกบิดไปบิดมาสักที (1) / ตอนที่ 257 ซย่าซย่า เลิกบิดไปบิดมาสักที (2)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 256 ซย่าซย่า เลิกบิดไปบิดมาสักที (1)

 

 

“นายจะบอกว่าเธอไม่ซื่อบื้อเหรอ” ฉีเหยียนซีดูทนไม่ไหวอีกต่อไป

 

 

อันซย่าซย่าเบะปากด้วยความเสียใจ “นายสิซื่อบื้อ!”

 

 

เขากำลังจะสวนกลับ แต่ว่าต้องยั้งไว้เพราะเซิ่งอี่เจ๋อส่งสายตาเจ้าเล่ห์เป็นการเตือนเขาอีกแล้ว

 

 

บ้าจริง ไอ้เวรนั่นมีแผนจะทำอะไรเขาอีกเนี่ย

 

 

ฉีเหยียนซีกระแอม เขายอมรับเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง “ก็ได้ ฉันซื่อบื้อ…”

 

 

อันซย่าซย่ามองเขาด้วยความแคลงใจ เดี๋ยวก่อนนะ นี่เธอเพิ่งเห็นนายฉีตัวร้ายยอมรับคำด่าเหรอ

 

 

ก่อนที่เธอจะคิดออก เซิ่งอี่เจ๋อก็พาเธอเดินตรงไปที่ประตูร้านอินเทอร์เน็ต เขาพ่นลมหายใจ “อันซย่าซย่า ได้เวลาจัดการหนี้ที่ติดค้างไว้แล้ว”

 

 

อันซย่าซย่าโอด “ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ฉันสัญญา…”

 

 

เธอไม่มีทางตีเซิ่งอี่เจ๋ออีกแล้ว ถ้ามันมีราคาที่ต้องจ่าย!

 

 

ห่างออกไปไม่ไกล เหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงแอบออกมาจากร้านอินเทอร์เน็ตพร้อมหมวกแก๊ปบนศีรษะ พวกเขากำลังจะกลับบ้าน

 

 

อันซย่าซย่าเห็นผู้ช่วยชีวิตของเธอแล้ว เธอกระโดดเหยงๆ พร้อมเรียก “ช่วยฉันด้วยเฟิงเฟิง…”

 

 

ฉือหยวนเฟิงได้ยินเสียงเรียกและหันมาทางเธอ เขาจะเดินไปหาเธออยู่แล้วเชียว ถ้าเซิ่งอี่เจ๋อไม่ผลักอันซย่าซย่าข้ามไหล่ของเขาไป เขารีบก้าวฉับๆ เข้าไปในรถ ก่อนปิดประตูใส่

 

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก

 

 

ฉือหยวนเฟิงตกตะลึง “ว้าว…”

 

 

เหอจยาอวี๋หัวเราะเบาๆ “หึหึ อี่เจ๋อโหดจังเลยวันนี้ ซย่าซย่าผู้น่าสงสาร ฉันสงสัยจังว่าตัวเล็กแค่นั้นจะทนเสน่ห์อันน่าหลงใหลของเขาไหวไหม…”

 

 

“นี่พี่ ฉันรู้นะว่านายจะหมายถึงอะไร แต่ทำไมใช้คำแบบนั้นล่ะ…”

 

 

“คำแบบนั้น นายเข้าใจฉันผิดแล้ว ฉันว่านายนั่นแหละที่เป็นคนคิดลึก…”

 

 

ฉือหยวนเฟิงผู้ใสซื่อตามไม่ทัน เขาเลยต้องยอมรับข้อกล่าวหาไปโดยปริยาย “ก็ได้ ฉันคิดลึกเองแหละ…”

 

 

 

 

ในรถ

 

 

ฮีตเตอร์เริ่มทำงาน ทำให้อากาศอุ่นสบาย

 

 

อย่างไรก็ตาม อันซย่าซย่าเหงื่อตก เธอเขยิบเข้าชิดมุม พยายามทำตัวเองให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้และหวังว่าเซิ่งอี่เจ๋อจะไม่เห็นเธอ

 

 

แต่เห็นได้ชัดว่าการหลีกเลี่ยงใช้ไม่ได้ผลกับเซิ่งอี่เจ๋อ

 

 

เขากอดอกพร้อมนั่งไขว่ห้าง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ร้อนรน “ซย่าซย่า ฉันโชคดีนะที่เธอแรงไม่เยอะมาก ถ้าเธอตีฉันแรงกว่านี้ เดี๋ยวเธอก็ฆ่าสามีตัวเองหรอก”

 

 

ใบหน้าสะสวยของอันซย่าซย่ากลายเป็นสีชมพูเมื่อเธอได้ยินคำว่า “ฆ่าสามีตัวเอง”

 

 

“สามีอะไรกัน…เราไม่ได้แต่งงานกันซะหน่อย…” อันซย่าซย่าทำแก้มป่องพลางบิดแก้มไปมา เซิ่งอี่เจ๋อปรายตามองเธอ ก่อนตอบ “โอ้ นี่ฉันสัมผัสได้ถึงความอยากแต่งงานจนตัวสั่นหรือเปล่าน้า ซย่าซย่า ใจเย็นๆ นะ ฉันพาเธอไปจดทะเบียนได้ตลอดแหละถ้าเธออายุถึงแล้ว~”

 

 

น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขามีการโน้มน้าวอยู่ในนั้น อันซย่าซย่าเขินอายจนกว่าจะกล้าพูดออกมา

 

 

“ไปให้พ้นเลยเซิ่งอี่เจ๋อ!” เธอบ่น “ฉันไม่ได้ตั้งใจตีนายซะหน่อย นายจะตีฉันคืนเมื่อไหร่ก็ได้นะ!”

 

 

เธอยื่นหัวของเธอให้เขาด้วยความหงุดหงิด เธอเตรียมพร้อมรับโทษประหารแล้ว

 

 

ทำไมแฟนของเธอถึงได้ร้ายกาจแบบนี้นะ ฮึก…

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้กับการกระทำของเธอดี

 

 

ทำไมแฟนของเขาถึงได้น่ารักแบบนี้นะ

 

 

เขาลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนหัวเราะ “ฉันดูเหมือนคนที่จะตีผู้หญิงหรือไง ฉันไม่ทำอะไรแฟนตัวเองหรอก…”

 

 

อันซย่าซย่าชอบเวลาที่เขาสัมผัสผมของเธออย่างอ่อนโยนและเส้นเลือดขดบนแขนของเขา

 

 

บางสิ่งบางอย่างในตัวของเซิ่งอี่เจ๋อตื่นขึ้นมาระหว่างการสานสัมพันธ์ครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…เขากระแอมในลำคอ “ซย่าซย่า…เลิกบิดไปบิดมาสักที…”

 

 

อันซย่าซย่าเอานิ้วจิ้มฝ่ามือของเขา เธอพึมพำ “ทำไมล่ะ”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 257 ซย่าซย่า เลิกบิดไปบิดมาสักที (2)

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อคว้ามือเล็กๆ ของเธอไว้ มีขดเส้นเลือดดำขึ้นขมับสองข้างของเขา “อันซย่าซย่า!”

 

 

“หา?” อันซย่าซย่ามองเขาอย่างใสซื่อ

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่รู้จะพูดอะไรดี

 

 

เขารู้แล้วว่าอันซย่าซย่าไม่ได้คิดตามที่เขาพูดเลย

 

 

อย่างไรก็ตาม ดวงตาอันเปล่งประกายของเธอทำให้ปากของเขายิ่งแห้งผาก

 

 

เขากระแอมกระไอด้วยเสียงแหบห้าว “หลับตาสิ”

 

 

“ทำไม” อันซย่าซย่าถามอย่างไม่เต็มใจ

 

 

“ฉันต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า อยากดูหรือไง” เขาขู่เธออย่างเย็นชา

 

 

อันซย่าซย่ารีบส่ายหัว เธอหลับตาเอนหลังชิดพนักพิง ก่อนหันหลังให้เซิ่งอี่เจ๋อ

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่เธอปล่อยแขนของเขา แต่เขาก็รู้สึกเสียดายในขณะเดียวกัน

 

 

บ้าจริง!

 

 

ยัยผู้หญิงคนนี้!

 

 

เขาคว้าขวดน้ำจากด้านหลังพนักพิงมาจิบ เมื่อน้ำเย็นเฉียบเข้าสู่ร่างกาย ความปั่นป่วนในตัวของเขาก็สงบลง

 

 

ขาสั้นๆ ของอันซย่าซย่าแกว่งไปแกว่งมา เธอถาม “เฮ้ เปลี่ยนเป็นเสื้ออะไรเนี่ย ทำไมนานจังเลย!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อตอบอย่างใจเย็น “อ๋อ ฉันเปลี่ยนกางเกงในอยู่น่ะ”

 

 

“คนทะลึ่ง!” อันซย่าซย่ากรี๊ดออกมา

 

 

เธอไม่เคยคิดเลยว่าเซิ่งอี่เจ๋อก็มีด้านนี้ด้วย!

 

 

เปลี่ยนกางเกงในในรถเนี่ยนะ! เธอคิดว่าเธอจะเป็นลมไปซะแล้ว!

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มเมื่อเขาเห็นว่าแม้กระทั่งผิวบริเวณหลังหูของเธอก็กลายเป็นสีชมพู

 

 

ความปั่นป่วนในตัวของเขาเกือบเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “เธอเสียใจไหมที่พวกเราไม่ได้เข้ารอบไฟนัล”

 

 

“ไม่เลย…พวกเราเก่งแล้วล่ะ ฮิๆ” อันซย่าซย่าเป็นคนที่มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ได้ง่าย “อีกอย่าง ผู้เล่นหลักจากเฉินเจียงหล่อแล้วก็เล่นเก่งมาก เขาอยู่ในทีมบาสเกตบอลระดับเขตด้วย! พวกเขามีโอกาสชนะมากกว่าพวกเราอีก!”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อจับขวดน้ำในมือไว้แน่น ก่อนพ่นลมหายใจ “เขาหล่องั้นเหรอ อันซย่าซย่า เธอนี่รสนิยมต่ำจริงๆ”

 

 

อย่างไรก็ตาม อันซย่าซย่าทำให้เขาเข้าใจผิด เธอไล่เหตุผลของเธอให้ฟังอย่างจริงจัง “เขาหล่อจริงๆ นะ เขาทั้งสูง รูปร่างดี แล้วก็ดูดีด้วย เขาดูแปลกแยกไปหน่อย แต่ก็สุภาพ…”

 

 

เขาบีบรัดขวดน้ำแน่นขึ้นอีกครั้ง

 

 

เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากข้างหลังของเธอ อันซย่าซย่าอดไม่ได้ที่จะหันไปมองผ่านช่องว่างระหว่างนิ้ว

 

 

ทำไมเซิ่งอี่เจ๋อไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะ!

 

 

คนโกหก!

 

 

“เซิ่งอี่เจ๋อ! คนโกหก!” อันซย่าซย่าโกรธ

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อนั่งอยู่กับที่ด้วยความเขินอาย เขาบอกเธอตรงๆ ไม่ได้ว่า…เขาขอให้เธอหันไปทางอื่นเพื่อที่เขาจะได้สงบอารมณ์ ใช่ไหมล่ะ

 

 

“อ๋อ…เดี๋ยวเปลี่ยนแล้ว” เขาแสร้งทำเป็นปลดกระดุมเสื้อ อันซย่าซย่าร้องออกมาด้วยความโมโห “นายมันคนไม่จริงใจ!”

 

 

เมื่อเห็นความโรแมนติกระหว่างทั้งสอง คนขับรถอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

 

 

เมื่อรู้ตัวว่ามีคนอื่นอยู่ภายในรถด้วย อันซย่าซย่าหยุดพูดฉับพลัน เธอเขยิบเข้าไปชิดมุมและแกล้งตาย

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อก็เห็นเหตุการณ์นี้ด้วย

 

 

เมื่อพวกเขามาถึงบ้านของครอบครัวอัน เซิ่งอี่เจ๋อให้อันซย่าซย่าลงไปก่อน ในขณะที่เขายังอยู่ในรถต่อ

 

 

คนขับรถวัยกลางคนยิ้ม “นายน้อยครับ พรุ่งนี้กระผมมารับคุณกับคุณอันซย่าซย่าเวลาเดิมนะครับ”

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อถาม “คุณลุงหวังครับ ลุงทำงานให้ตระกูลเซิ่งมานานเท่าไหร่แล้ว”

 

 

คุณลุงหวังลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตอบไป “สิบเก้าปีครับ”

 

 

“นานกว่าอายุผมอีก” รอยยิ้มบนใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ “สิบเก้าปีนี่นานพอจะรู้ว่าตอนไหนควรพูดและตอนไหนควรเงียบ ใช่ไหมครับ”

 

 

คุณลุงหวังคิดว่าเขาถูกตำหนิเรื่องที่เขาแทรกกลางบทสนทนาเมื่อก่อนหน้านี้ เขากำลังจะกล่าวขอโทษ แต่ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ลุงฟ้องพ่อผมเรื่องผมกับอันซย่าซย่า ใช่ไหม”