ตอนที่ 237 ย่างปลา

หมอกขาวนี้ลอยออกมาจากบ่อน้ำพุร้อน เพียงแต่มันอยู่ห่างจากที่นี่

ทุกคนต่างยิ้มแย้ม พูดคุยกันว่าไม่ได้อาบน้ำมานานมากแล้วอะไรทำนองนั้น ต่อให้ตกปลาได้น้อย แต่ก็เจียดเวลาเพื่อไปแช่น้ำให้ร่างกายผ่อนคลายสักหน่อย

จ้าวเหวินเทาก็อยากแช่น้ำเช่นกัน ใกล้ ๆ บ้านของเขามีตาน้ำพุสองสามจุด แต่น่าเสียดายที่เล็กเกินไป จึงไม่สามารถไปแช่น้ำได้ มากสุดก็แค่มั่นใจได้ว่าน้ำในแม่น้ำจะไม่แข็ง เขาไม่เคยมาที่นี่ แต่เมื่อได้ยินทุกคนพูดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าบ่อน้ำพุร้อนที่นี่คงใหญ่มาก จึงกล่าวว่า “พี่ใหญ่หลิว อีกเดี๋ยวไปแช่น้ำอาบน้ำสักหน่อยเถอะ ผมไม่เคยแช่น้ำที่นี่มาก่อนเลย!”

พี่ใหญ่หลิวหันมองจ้าวเหวินเทาที่แสดงสีหน้าปรารถนา จึงตอบตกลง “เอาสิ งั้นพวกเรารีบตกปลาให้เร็วสักหน่อย จะได้ไปแช่น้ำ”

ทุกคนต่างก็ไม่มีใครคัดค้าน

ข้างแม่น้ำมีต้นไม้ใหญ่สูงเตี้ยแตกต่างกัน ด้านบนกิ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะ เพราะก่อนหน้านี้มีหิมะตก เนื่องจากทางฝั่งนี้หิมะตกหนัก เมื่อเท้าเหยียบย่ำลงไปจึงเกิดเป็นหลุม

ทุกคนหยิบอุปกรณ์ลงจากรถและเดินไปที่ข้าง ๆ แม่น้ำ หลังผ่านต้นไม้เหล่านี้ หิมะและน้ำแข็งได้ร่วงหล่นลงมาจากลำต้น จนกระทั่งมาถึงริมแม่น้ำ ทุกคนก็ดูคล้ายกับมนุษย์หิมะ

ด้านในหิมะและน้ำแข็งที่อยู่ตรงหน้ามีใบหญ้าสีเหลืองเหี่ยวเฉา ระหว่างที่เหยียบต้นหญ้าสีเหลืองเหี่ยวเฉาเหล่านี้ พี่ใหญ่หลิวและชายวัยกลางคนกวาดตามองทุกจุด จ้าวเหวินเทาเดินตามอยู่ด้านหลัง พี่ใหญ่จ้าวก็บอกเขาว่าต้องให้ความสำคัญกับจุดที่มีหรือไม่มีปลา อย่าได้เดาสุ่มสี่สุ่มห้า

“พี่ใหญ่หลิวมีความรู้เยอะจริง ๆ” จ้าวเหวินเทาชื่นชมจากใจจริง

อย่ามองว่าเขาลงไปในแม่น้ำแล้วจะจับปลาได้ตลอด นั่นเป็นเพราะเขาโชคดีต่างหาก

พี่ใหญ่หลิวหัวเราะ “ปีก่อนหน้านี้กินมื้ออดมื้อ เป็นเพราะต้องทำให้อิ่มท้อง ฉันเลยต้องทำงานอย่างหนัก เลยเรียนรู้การดูปลาแบบนี้มาจากตอนนั้นแหละ”

เมื่อหาตำแหน่งดี ๆ ได้แล้ว คนส่วนหนึ่งก็เริ่มตักหิมะ ตอนนี้ย่อมขาดเมล็ดทานตะวันไม่ได้

ใต้หิมะที่ทับถมกันคือชั้นน้ำแข็ง พี่ใหญ่หลิวหยิบแท่งเหล็กยาวหนึ่งเมตรขึ้นมา ปลายด้านหน้าถูกเหลาจนแหลม น้ำหนักของมันก็มากด้วย เขาเจาะลงบนพื้นน้ำแข็ง ทันใดนั้นเศษน้ำแข็งก็ลอยกระจุยกระจาย

การเจาะแบบนี้ทำให้เจาะไปถึงผิวน้ำ จากนั้นก็ขุดขยายออกและเริ่มทอดแห

นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวเหวินเทาทอดแหจับปลา มันมีความยาวหลายสิบเมตร ด้านบนมัดเข้ากับท่อนไม้ ตรงปากแหมีโซ่เหล็ก มันเป็นแหที่ทำแบบดั้งเดิมอย่างหยาบๆ ส่วนรูตาข่ายมีขนาดใหญ่ แค่เห็นก็ทราบแล้วว่าต้องการจับปลาตัวใหญ่

หลังเหวี่ยงแหลงไปในน้ำ ทุกคนก็วุ่นอยู่กับสิ่งนี้ ตอนนี้ท้องฟ้าสว่างแล้ว อากาศของวันนี้ไม่เลวเลย ท้องฟ้าปลอดโปร่ง พระอาทิตย์สีแดงเพลิงประดับอยู่ด้านบน มองดูแล้วน่าจะอบอุ่นมาก แต่ในความเป็นจริงกลับไม่อบอุ่นเลยสักนิด แต่ให้ความรู้สึกหนาวแบบแห้ง ๆ

จ้าวเหวินเทาดื่มเหล้าของพี่ใหญ่หลิวอีกหนึ่งคำ ทุกคนต่างก็นำเหล้าออกมาดื่มเช่นกัน จ้าวเหวินเทากำลังคิดว่า ครั้งหน้าหากมาอีกครั้งเขาต้องนำเหล้ามาสักหน่อย ไม่เช่นนั้นคงทนไม่ไหวจริง ๆ

“เอาล่ะ เก็บแหได้!” พี่ใหญ่หลิวตะโกน

ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจลากแหขึ้นมา จ้าวเหวินเทาพบว่ามีปลาติดแหมาไม่น้อยเลยจริง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละตัวต้องมีขนาดใหญ่ ส่วนปลาตัวเล็กปลาน้อยต่างหลุดออกจากแหไปนานแล้ว

จากนั้นพวกเขาก็ลากแหมาไว้ด้านบนชั้นน้ำแข็งข้าง ๆ พวกปลาพากันดิ้นกระแด่ว ๆ แต่เพียงไม่นานก็หยุดนิ่งไม่ไหวติง ด้วยอากาศหนาวขนาดนี้ หากถูกจับขึ้นจากน้ำก็ย่อมไม่มีโอกาสที่จะมีชีวิตรอด

“ปลาตัวนี้ใหญ่จริง ๆ!” จ้าวเหวินเทาจับปลาตัวที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมาชั่งน้ำหนัก พบว่าน่าจะหนักอย่างน้อยที่สุดสิบชั่ง

“งั้นตัวนี้ให้นายไปเลย!” พี่ใหญ่หลิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ตกลง งั้นผมไม่เกรงใจพี่แล้วนะ” จ้าวเหวินเทาพูดกับคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้ม

คนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมา

“นายมาที่นี่เป็นครั้งแรก ให้ปลาตัวใหญ่นายหนึ่งตัว แต่ครั้งหน้าถ้ามีปลาตัวใหญ่แบบนี้อีกจะไม่ใช่ของนายแล้วนะ” คนหนึ่งพูดแซว

จ้าวเหวินเทาหัวเราะ “ถึงเวลานั้นผมไม่แย่งทุกคนแน่นอน”

ระหว่างที่พูดด้วยรอยยิ้มก็เริ่มเก็บปลาเข้าไปใส่ไว้ในถังน้ำ แต่จู่ ๆ จ้าวเหวินเทาก็เกิดความคิดแผลง ๆ “ทุกคนคงเหนื่อยแล้วใช่ไหม งั้นพวกเรามาย่างปลากินกันสักตัวดีไหม?”

พี่ใหญ่หลิวชะงัก “พวกเราไม่ได้เอาไฟมานะ”

“ไม่เป็นไร พี่ดูผมนะ” จ้าวเหวินเทาเริ่มลงมือด้วยความตื่นเต้น

จ้าวเหวินเทาเป็นนักกินมาตรฐาน เขาคิดถึงเรื่องของกินได้ทุกที่ทุกเวลา และเขาก็สามารถปรุงอาหารได้ทุกที่ทุกเวลาเช่นกัน

เขาถอนหญ้าเหี่ยว ๆ และกิ่งไม้แห้งมาส่วนหนึ่ง เป็นเพราะถูกห้อมล้อมด้วยป่าจึงย่อมไม่ขาดแคลนฟืน เขาทำการจุดไฟง่าย ๆ ที่ข้างแม่น้ำ ทุกคนเห็นว่าได้ผล จึงยื่นมือช่วยเหลือด้วยการเตรียมปลา

พวกเขาใช้มีดเล่มเล็กที่พกติดตัวมาขอดเกล็ดปลา จากนั้นหั่นปลาออกเป็นส่วน ควักเครื่องในออกมาและล้างทำความสะอาด จากนั้นใช้เหล็กที่เพิ่งเจาะชั้นน้ำแข็งเมื่อครู่มาเสียบไว้ ก่อนเข้ามานั่งล้อมกองไฟและค่อย ๆ ย่างปลา ตอนนี้ไม่สามารถเร่งได้ หากเร่งก็อาจจะทำให้ปลาไหม้

เพียงไม่นานกลิ่นหอมก็เริ่มโชยตลบอบอวล ซึ่งเป็นกลิ่นหอมจากเนื้อปลาทั้งหมด โดยที่ด้านนอกตัวปลาค่อย ๆ กลายเป็นสีเหลืองส่งกลิ่นหอมมากขึ้น พี่ใหญ่หลิวรอไม่ไหวจึงหยิบปลาตัวหนึ่งขึ้นมารับประทาน ดวงตาของเขาเป็นประกายในทันที

“น้องชายฝีมือทำอาหารไม่เลวเลย!” พี่ใหญ่หลิวไม่สนใจว่าปลาจะร้อนลวกลิ้น เขาชวนคนอื่น ๆ ให้เข้าร่วม “พวกนายรีบมาชิมดู รสชาติไม่เลวเลยจริง ๆ!”

ทุกคนจึงเริ่มหยิบกันคนละตัว ทั้งยังชมไม่ขาดปาก

“คิดไม่ถึงเลยนะว่าปลาจะอร่อยขนาดนี้!”

“ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงเนี่ย กลับไปฉันจะเอาไปย่างกินแบบนี้”

“นี่ถ้าได้เกลือมาโรยสักหน่อยน่าจะอร่อยกว่านี้อีก”

พวกเขาไม่ได้นำเครื่องปรุงมา แต่รสชาติก็ยังอร่อยอยู่ดี ระหว่างที่รับประทานก็ดื่มเหล้าไปด้วย ท่ามกลางพื้นหิมะและน้ำแข็ง

ตอนที่จ้าวเหวินเทายังเป็นเด็ก เขาก็เคยย่างปลารับประทานเหมือนกัน เพียงแต่ปลาที่ย่างไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้ เขายัดปลาใส่เข้าไปในปาก เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มในให้ความคล้ายกับเต้าหู้ที่พี่สามจ้าวทำ และยังส่งกลิ่นหอมอวลทั่วปาก ไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย อร่อยสุดยอดไปเลย!

กลับไปเขาจะย่างให้ภรรยาได้รับประทานด้วย ปลาของที่นี่อร่อยจริง ๆ! จ้าวเหวินเทาคิดเช่นนี้

“พี่ใหญ่หลิว ทำไมพี่ถึงได้มาเจอที่นี่ล่ะครับ?” จ้าวเหวินเทาถามด้วยความสงสัย

คนหนึ่งหัวเราะ “เป็นเพราะของกินแล้วทำไมจะหาไม่เจอล่ะ”

พี่ใหญ่หลิวก็หัวเราะเช่นกัน “นายคิดผิดแล้ว ที่ฉันหาเจอที่นี่ก็เพราะตอนเด็ก ๆ ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ หลังจากที่ฉันขับรถแทรกเตอร์ ครอบครัวของฉันก็ย้ายที่อยู่ทั้งบ้าน เห็นไหม ตรงนั้น ตรงที่มีควันลอยอยู่ ตรงนั้นมีหมู่บ้าน เป็นที่ที่ฉันเคยอยู่”

พี่ใหญ่หลิวชี้ไปยังตำแหน่งหนึ่ง

จ้าวเหวินเทาหันไปมองก็พบว่าด้านในสุดของป่ามีควันจากการทำอาหารลอยอยู่ เมื่อประกอบกับท้องฟ้าสีฟ้าและหิมะน้ำแข็ง มันก็ให้ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจบรรยายได้ อืม คล้ายกับรสชาติของปลาเผานี้ เป็นรสที่ติดลิ้นอย่างไม่สิ้นสุดเลย

“ป่าภูเขาผืนนี้ ตอนที่ฉันยังเด็กก็เดินมาจนทั่วแล้ว ออกมาหาของกินทุกวัน พอพูดถึงก็รู้สึกขอบคุณที่แห่งนี้จริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะมีป่าภูเขาแห่งนี้ ฉันคงได้หิวตายไปนานแล้ว” พี่ใหญ่หลิวพูดด้วยอารมณ์ความรู้สึก

“ดังนั้นนายก็เลยมาตกปลาทุกปี” อีกคนหนึ่งพูดพลางหัวเราะร่า “ถ้าป่าภูเขารู้ว่านายเป็นแบบนี้ นายว่าเขาจะเสียใจไหมที่ให้อาหารเพื่อเลี้ยงชีวิตนาย ถ้าไม่มีนาย ปลาพวกนี้ก็คงได้มีชีวิตดี ๆ อยู่ในน้ำ!”

พี่ใหญ่หลิวพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “นายสงสารปลาตัวนี้นักก็เอาคืนมาเลย!”

“ช่วยไม่ได้ รสชาติของปลามันอร่อยนี่นา!”

ทุกคนต่างพากันหัวเราะร่า

เมื่อครู่จ้าวเหวินเทามองดูแบบคร่าว ๆ แล้ว ปลาของที่นี่มีความหลากหลาย มีทั้งปลาไน ปลาลิ่น ปลาเฉา ปลาดุกและอื่น ๆ ขนาดตัวกำลังพอเหมาะเลย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความคิดขึ้น

“พี่ใหญ่หลิว ผมพอจะมองออกเลยว่าพี่มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อสถานที่แห่งนี้ ทำไมพี่ไม่เหมาแม่น้ำสายนี้ แล้วตั้งใจเลี้ยงปลาโดยเฉพาะไปเลยล่ะ?” จ้าวเหวินเทาเป็นนักธุรกิจ เห็นอะไรก็เชื่อมโยงไปถึงการค้าขายได้ทั้งหมด

ทุกคนต่างพากันชะงักงัน เหมาแม่น้ำเพื่อเลี้ยงปลา นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อน พี่ใหญ่หลิวก็เช่นกัน

…………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

รู้สึกได้ถึงความหนาวจับจิตเลยค่ะ แบ่งความหนาวมาทางนี้บ้างได้ไหมคะ

เหวินเทานี่หยิบจับทุกอย่างก็กลายเป็นเงินทองหมดเลยนะ

ไหหม่า(海馬)