“โชคดีที่เราเข้าร่วมการแข่งขันของ CS” เหลลียงชีและคนอื่นๆ พึมพำเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน Diablo
พวกเขาไม่สามารถที่จะจ่ายกับของที่มีราคาสูงถึงร้อยหรือสองร้อยคริสตัลได้
เขาเล่นแต่ Resident Evil เกมแรกและเกมเดียวในคาเฟ่ แม้ว่าเขาจะเป็นลูกค้าเก่าแก่และเขาเองก็เพิ่งจะเปิดใจเล่น CS เมื่อไม่นานเพราะทุกเกมมีราคาเฉพาะของมัน
ผู้เล่นไม่มีกำลังมากพอที่จะจ่ายค่าเล่น แม้เกมมันจะแลกมาด้วยความแข็งแกร่งทักษะที่เพิ่มขึ้นหรือความสนุกก็ตาม ผู้คนที่นี้ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาทั่วไปแต่เมื่อได้สัมผัสกับคาเฟ่แห่งนี้เขาเองรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ดูจืดชืดหรือธรรมดาอีกต่อไป ช่วงเวลาที่ได้พัฒนาตัวเองกับการเล่นเกมมันได้ดูดความเป็นทัศนคติสมัยก่อนให้หายไป
แต่ก็ .. ไม่ใช่ทุกคนจะเล่นเกมเพื่อผลประโยชน์
จากมือใหม่ที่ไม่สามารถใช้ปืนพกได้ตอนนี้พวกเขาฝึกฝนพัฒนาจนเชี่ยวชาญในการใช้ปืนและทักษะการต่อสู้ระยะประชิด .. พวกเขาใช้เวลาและพลังงานในการฝึกฝนจนตอนนี้มีความสามารถมากพอๆ กับขุนนางบางคนด้วยซ้ำ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายและก่อนการแข่งขันเขามองดูเหล่าสหายของเขาทั้งในชีวิตจริงและในเกม การแข่งขันในครั้งนี้อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุด เขาจินตนาการว่าเขาอาจมีโอกาสยืนบนยอดเขาสูงและมองทิวทัศน์แสงแดดท่อส่อง
เมื่อจินตนาการถึงฉากนี้แล้วเขาจึงรีบเตรียมตัวอย่างกระตือรือร้น!
การแข่งขันครั้งนี้มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น .. จุดเริ่มต้นแห่งความรุ่งโรจน์ที่เขาคาดหวังไว้
เขาจับปืนด้วยความมั่นใจและมองหาศัตรูอย่างตั้งใจขณะเดียวกันความคิดที่จินตนาการก็พุ่งพล่านในสมองชวนสับสน
…
วันนี้เป็นการแข่งขันสำหรับ CS รอบแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว
ตงชิงลี่ที่กำลังอารมณ์ดี แม้ว่าเธอจะไม่ได้ติดหนึ่งในสิบหกคนเมื่อวานแต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังหรือเสียใจเพราะเธอเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อความสนุกและเปิดประสบการณ์ใหม่
เธออารมณ์ดีเนื่องจากเมื่อวานเธอชนะถึงสองสามครั้งในเกม คู่แข่งของเธอถูกสุ่มเข้ามานั่นจึงทำให้ยิ่งตื่นเต้นเมื่อได้ต่อสู้กับคนแทนที่จะเป็นสัตว์ประหลาดปกติ
หลังจากได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้ว เธอกำลังจะนั่งพักบนโซฟาเพื่อรอดูการถ่ายทอดสด เธอหันไปเห็นฟางฉีที่กำลังทำข้อตกลงเกี่ยวกับการแข่งขัยนโดยการเขียนลงบนกระดานดำ
“เจ้าของ! เจ้ามีราบการใหม่อีกหรือไม่!?” ตงชิงลี่มุ่งหน้าไปทางเขาทันที อะไรใหม่ๆ คือสิ่งที่เธอสนใจมากที่สุด
แม้แต่ .. ของว่างในร้านก็ไม่เพียงพอสำหรับท้องและความต้องการของเธอ!
เมื่อฟางฉีเขียนเสร็จเธอมองด้วยความงุนงง “ขนมแท่งรสเผ็ด!?”
ฟางฉีพยักหน้าและชี้ไปที่กระดานดำ “นี่เป็นขนมที่มีชื่อเสียงที่สุดมันมีราคาถึง 15 คริสตัลหนึ่งกลล่องมีสิบแท่ง มันเป็นของว่างเพียงอย่างเดียวที่เจ้าจะสามารถแบ่งให้ผู้อื่นชิมได้”
“แต่ .. ท่านไม่สามารถแบ่งให้ผู้ที่อยู่ในบัญชีดำได้ หากเจ้าแบ่งเจ้าเองก็จะอยู่ในบัญชีดำเช่นกัน!” ฟางฉีกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าต้องการสักกล่องมั้ย!?”
“แน่นอน!” เธอตะโกนตอบ “ข้ากลัวว่าขนมจะไม่พอกินระหว่างที่ข้ากำลังดูการแข่งขัน!”
“มีของว่างหรือขนมอะไรใหม่ๆ หรือ!?” หลันยันนั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟาเพื่อรอดูการเล่นเกมของนาหลันหมิงสื่อได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดถึงของว่างชนิดใหม่ เธอจึงปรี่เข้ามาทันที
เธอมองดูพลางพูดว่า “หืม .. ขนมนี่แพงกว่าฮาเก้นดาสตั้งสามเท่า!”
“มันดีมั้ย!?” เธอเอ่ยถามทันที
“…”
“ข้ายังไม่ได้ลองเลย” ฟางฉีตอบหน้าตาย จากนั้นเขาหยิบมันขึ้นมาสองกล่อง
ขนมนี้ผลิตขึ้นโดยระบบ มันมีรูปร่างเป็นแท่งจัดอยู่ในกล่องสีเหลี่ยมรองด้วยถาดพลาสติกใสและมีตะเกียบให้สองสามคู่
เมื่อเขาเปิดกล่อง .. กลิ่นหอมเผ็ดๆ ฟุ้งขึ้นมามันเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ แท่งรสเผ็ดสีส้มดูโรยด้วยงาขาว
“รูปร่างมันเป็นแบบนี้เองหรอ!?” ฟางฉีพยักพึมพำ
“ข้าได้กลิ่นความอร่อย!” ตงชิงลี่สูดความหอม
แม้แต่จางวันหยูที่ยืนดูเธออยู่ข้างๆ หันมาสกิดให้เธอจ่ายตังโดยทันที “ลองเลยสิ!”
ฟางฉีเปิดกล่องเจียงเสี่ยวหยูหันมองเขาตาค้าง เขาวางขนมไว้ข้างหน้าเธอพร้อมยื่นมือไปหยิบตะเกือบ
“อ่ะ!” เจียงเสี่ยวหยูกำลังอ้าปากพูดและ ..
ฟางฉียัดขนมแท่งเข้าปากของเขา .. อือหื้อกลิ่นหอมอร่อยแพร่กระจายไปทั่วปาก รสชาติของมันให้ความเผ็ดและหวานผสมผสานกันอย่างลงตัวแถมยังเหนียวนุ่มอีกด้วย “ว้าว! มันอร่อยมาก!”
เจียงเสี่ยวหยูยิ้มแหยๆ “หยิบไปสิ” ฟางฉีบอกเธอพลางเลพลิดเพลินกับขนมตรงหน้า
“ตก .. ลง” เจียงเสี่ยวหยูมองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง แม้จะรู้ตัวว่าเธอควรทำหน้าตาเพิกเฉยต่อหน้าเจ้านายของเธอก็ตาม แต่เธอก็อดในไม่ไหวจนต้องยื่นมือออกไปคว้ามันเข้าปาก
“มันมากกว่าความอร่อย” ตงชิงลี่กล่าวเกินจริง “มันทำจากข้าวสาลีหรอ อืม .. ดีๆ แล้วรสเผ็ดนี่คืออะไร!?”
“เวลาที่ข้ากลืนมันลงไปรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่เริ่มใหม่ในร่างกายของข้า!” จางวันหยูเองก็ไม่ต่าง “ข้ารู้สึกถึงพลังภายในร่างกายของข้าวิ่งผล่านด้วยความแข็งแกร่ง!”
เจียงเสี่ยวหยูจับที่ขนมของเธอแน่น ราวกับกลัวว่ามันจะหายไปหากรีบกิน หลังจากที่ได้กัดหนึ่งคำ
“นี่มันกลิ่นอะไร!?” หลันโมและคนอื่นๆ มองไปรอบๆร้าน
…
ในเวลาเดียวกันเซียวหยูนั้นเดินเข้ามาด้วยความอารมณ์ดีพร้อมตะกร้าของหว่างในมือ
“วันนี้ข้าเตรียมของว่างมามากมายเพื่อรอดูการแข่งขัน!”
“ฮึ!? กลิ่นอะไร!?” ทันทีที่ตูดวางลงที่โซฟาเขาหันไปเห็นตงชิงลี่, หลันยันและแม้แต่หลันโมเองกำลังถือกล่องสี่เหลี่ยมพลางทำหน้าเคลิ้บเคลิ้ม
“ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร้านนี้จะมีของว่างอร่อยแบบนี้!” หลันโมคีบตะเกียบไปพูดและหัวเราะไป “ท่านพี่อาวุโส ข้าว่ามันมีรสชาติดีมาก แถมยังทำให้พลังภายในวิ่งผล่านอีกด้วย!”
ทันใดนั้นจุนหยางชีก็หยิบมันออกมาชิมเช่นกัน “ว้าว! มันเหนียวนุ่มละเอียดอ่อนโดยแท้จริง!”
เซียวหยูเองมองหน้าเจียงเสี่ยวหยูเพื่อนร่วมกินของเขา ในขณะที่หันมองคคนอื่นกำลังกินของว่างอย่างเอร็ดอร่อย
“มาดูการแข่งขันกันเถอะ มาดูกันเถอะ!”
เซียวหยู “…”