“กงชีเซียว!” มูตงไหล่เรียกเขาเนื่องจากเห็นว่าเขาได้ทำการวิเคราะห์การแข่งขันในเมื่อวานเขานั่งข้างๆ เซียวหยูและเอ่ยถามว่า “วันนี้เจ้ามีความเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันอย่างไรบ้าง!?”
เมื่อได้ยินคำถามของมูตงไหล่ หลันโม, จุนหยางชี,หลี่เฮารันและซงฉิงเฟิงหันกลับมามอง
แม้แต่มูฮงจูพร้อมอาจารย์คนอื่นๆ จากสำนักหลิงหยวนตามด้วยสาวกอีกสองสำนักยังหันมามองดูด้วยความประหลาดใจ แม้พวกเขาเองจะไม่ได้ร่วมแข่งขันก็ตาม
ตอนนี้เซียวหยูได้เรียนรู้บทเรียนของเขาอย่างชัดเจน เมื่อวานเขาตั้งใจทำนายผลลัพท์อย่างมากแต่ผลของมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะออกมาตามที่คาดคิดไว้ วันนี้หลังจากที่นั่งกินผลไม้พลางมองคนอื่นกินขนมรสเผ็ด “จากที่ข้าศึกษากฏของเจ้าของร้าน ข้ามองว่าไม่มีทีมไหนที่จะแข็งแกร่งไปกว่ากัน ทุกทีมมีผู้เล่นที่ดี”
“ทีมที่แข็งแกร่งมีประมาณสองทีมจากสำนักหลิงหยวน ทีมหนึ่งนำทีมโดยนาหลันหมิงสื่อและอีกทีมนำทีมโดยซีเพื่อร่วมชั้นเรียนของเธอพร้อมด้วยเหล่าเพื่อนอีกหลายคนเช่น เกาซงที่ได้อันดับหนึ่งจากการสอบระดับชาติ .. พวกเขาเป็นผู้เล่นเก่าแถมยังเชี่ยวชาญในการใช้ปืนอีกด้วย”
“มีทีมนักรบอิสระ พวกเขาก็ดูแข็งแกร่งนะ แต่ข้าไม่เคยพูดคุยกับพวกเขา”
“แน่นอนว่าทีมจากวังหลิวหยุนของเราก็เด็ดไม่แพ้กัน!” เซียวหยูกล่าวสริม
“แล้วท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับทีมราชวงศ์” มูตงไหล่เอ่ยถาม แม้ตัวเขาจะเดินทางมาจากจิงฉี
“ทีมราชวงศ์ ..” เซียวหยูกล่าวว่า “จากที่ข้าสังเกตดูเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา ทีมนี้ถือยังใหม่มากสำหรับการใช้ปืน แต่ในการฝึกฝนของพวกเขาที่ผ่านมามีประสิทธิภาพไม่น้อย ..”
“แต่ถึงอย่างไร” เขาพูดต่อ “ดูเหมือนวันนี้พวกเขาจะเล่นเป็นตัวสำรอง”
“ผู้เล่นคนหนึ่งหายไป” มูตงไหล่พยักหน้าและตรวจสอบเวลาโดยตระหนักว่าตอนนี้การประชุมในตอนเช้าน่าจะเพิ่งจบลง
เซียวหยูส่ายหัว “หากพวกเขาถูกจัดอยู่ในทีมสำรอง ข้าเกรงว่าโอกาสที่จะติดหนึ่งในสิบหกจะยากขึ้น”
“แล้วทีม .. บลูเฟรมของข้าละเป็นอย่างไรบ้าง!?” หลันโมถาม
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเซียวหยูกระตุกเขารู้สึกตะกุกตะกัก “ข้า .. ยังไม่ได้วิเคราะห์เลย”
…
เวลายังคงดำเนินต่อไปการจัดอันดับเริ่มแสดงขึ้นบนหน้าจอขนาดยักษ์และตามที่คาดคิดไว้ ทั้งสองทีมจากสำนักหลิงหยวนได้รับสองอันดับแรก ตามด้วยทีมเมฆหมอกที่พุ่งขึ้นมาอยู่ในอันดับที่สี่อย่างน่าอัศจรรย์!
“ทีมราชวงศ์อยู่ที่ไหน!?” มูตงไหล่มองไปรอบๆ พร้อมอ่านรายชื่อบนหน้าจอซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ยังคงไม่เห้นรายชื่อ
หลังจากนั้นไม่นาน .. ชื่อที่สิบหกอันดับสุดท้ายตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยทีมบลูเฟรม
…
มูตงไหลและหลันโมมองหน้ากัน .. ดูเหมือนบรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย ใบหน้าของพวกเขาต่างเย็นชาชวนสภาพแวดล้อมเย็นยะเยือกไปด้วย
“ดูเหมือนว่าทีมบลูเฟรมของเรายังพอมีความหวัง!” หลันโมกล่าวเสียงเรียบ
ทีมราชวงศ์ของตาจินไม่สามารถทำได้ .. สีหน้าของมูตงไหล่เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว หลายคนยังคงจ้องที่หน้าจอยักษ์อย่างมีความหวัง
“สู้ๆ! ทีมราชวงศ์!”
“สู้ๆ! ทีมบลูเฟรม!”
“สู้ๆ! ทีมราชวงศ์!”
“สู้ๆ! ทีมบลูเฟรม!”
ผู้คนรอบข้างเริ่มเงียบ ..
“เสี่ยวหยูทีมไหนที่เจ้ากำลังหยั่งรู้ได้ ทีมราชวงศ์หรือบลูเฟรม!?” ตงชิงลี่เอ่ยถามขณะที่สายตายังคงเฝ้ามองอยู่บนจอยักษ์
“ไม่ต่างกัน” เจียงเสี่ยวหยูพูดหน้ามุ่ย “หัวหน้าทั้งสองทีมต่างสูสี”
จากนั้นเธอกัดขนมแท่งเผ็ด .. เสียงเชียร์ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ด้านหลัง
“ทีมราชวงศ์ต้องมา พวกเขาต้องติดหนึ่งในสิบหก!!”
“ทีมบลูเฟรมต้องมา พวกเขาต้องติดหนึ่งในสิบหก!”
“ฮึ .. ทำไมต้องหนึ่งในสิบหก!?”
พวกเขาจ้องมองหน้าจอยักษ์และเห็นว่าพวกเขาสองทีมกำลังบีบทีมที่สิบห้าออก
…
เวลาเดียวกัน ณ เมืองหยุนเตียน ซึ่งอยู่ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของตาจิน
หยุนเตียนเป็นเมืองที่มีความงดงามพื้นที่สูงตระหง่าน เมืองของเขาสร้างอยู่บนยอดของภูเขาสูงสุดที่นี่แม้แต่นกหรือลิงเองก็ไม่สามารถจะเดินทางไปถึงได้ มีเพียงผู้ฝึกฝนที่ทรงพลังเท่านั้นที่จะสามารถบินไปยังที่นั้นได้
สำหรับคนธรรมดาที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเขาไม่สามารถเดินทาางไปได้ แต่สำหรับผู้ปลูกฝังแล้วมันเป็นเรื่องง่ายมาก หยุนเตียนเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุด
หากมองลลงมาจากจุดสูงสุดของหยุนเตียนเราจะสามารถเห็นภูเขาลูกที่อยู่ต่ำลงไป ที่นั้นมีเรือจิตวิญญาณบินไปมา นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำที่คาดเคี้ยว ชานเมืองที่ตั้งอยู่รอบล้อมไปด้วยภูเขา
ที่แห่งนี้ไม่มีคนธรรมดาอาศัยอยู่ เพราะที่นี่เป็นเมืองของกองกำลังแห่งการเพาะปลูกขนาดใหญ่ ผู้ฝึกฝนอิสระอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อเพาะปลูก ผู้ที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่เป็นผู้ปลูกฝังและผู้ฝังฝนโดยเฉพาะ พวกเขาถ่ายทอดวิชากันรุ่นสู่รุ่น
นอกจากนี่ที่นี้ยังมีทรัพยากรการเพาะปลูกมากมายเช่นผลึกแห่งจิตวิญญาณ หยกแห่งท้องฟ้าและเหมืองแร่ เป็นที่รู้จักกันดีว่าที่นี่เพียบพร้อมไปด้วยทรัพยากร หากนำตาจินมาเปรีบกับที่นี่ ตาจินจะกลายเป็นประเทศยากจนในทันที
แม้แต่จีซวนตงจักรพรรดิองค์แรกของตาจินยังต้องเดินทางมาเมืองนี้เพื่อตกลงเกี่ยวกับทรัพยากร
ในดินแดนของหยุนเตียนครอบครัวตระกูลอี้นั้นเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากกระพัฒนาอาณาจักร พวกเขาเข้าร่วมการประชุมที่มีการจัดขึ้นในทุกๆ สามสิบปีตลอดมา
มากกว่านั้นที่นี่มีการปกป้องเมืองที่ไม่เหมือนใคร ที่นี่วางกับดักแสงป้องกันไว้รอบเมือง ไม่มีใครสามารถแอบเข้ามาได้!
ดินแดนหยุนเตียนในเวลานี้ หัวหน้าตระกูลกงชูครอบครัวหมายเลขสามและหัวหน้าครอบครัวของตระกูลกงหยางครอบครัวหมายเลขสี่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่พอใจเมมื่อได้ยินรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา
“กลุ่มพันธมิตรวู่เว้ยนั้นช่างดื้อรั้น แทนที่จะแยกตัวออกจากร้านเล็กๆ แห่งนั้นและส่งคนเพื่อมาเข้าร่วมการประชุมอาณาจักร แต่ดันเลือกที่จะร่วมการแข่งขันในร้านแห่งนั้นแทน”
“ท่านพี่ชู!” กงหยางจุนผู้นำครอบครัวตระกูลหยางเอ่ยเรียก “ในความคิดข้าเนื่องจากพันธมิตรวู่เว้ยไม่ต้องการเข้าร่วมประชุม พวกเขาเลือกแลล้วงั้นเราก็ไม่จำเป็นต้อง ..”
“ท่านพี่กงหยาง! นี่ท่านยังไมม่เข้าในสถานการณ์อีกหรือ?” กงชูเกาเอ่ย “การเดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งการเพาะปลูกครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการจัดอันดับ”
“หากว่ากลุ่มพันธมิตรวู่เว้ยไม่ประสงค์จะเข้าร่วมด้วยตัวเองก็คงไม่เป็นไร แต่นี่ไม่ใช่อย่างนั้น”
“หรือว่ากำลังมีคนตั้งใจทำอะไรบางอย่าง ท่านคิดอย่างไร!?”
กงชูเกาจิบชาล้างคอ “ถ้ากลุ่มพันธมิตรวู่เว้ยไม่ส่งรายงานต่อเรา เราจะทำการกดดันต่อไป”
“นี่มันขึ้นกับธุรกิจของพวกเขาด้วย ทำไมเรา ..”
กงชูเกามมองหน้ากงหนางจุน “ตราบใดที่ครอบครัวของเรายังต้องเข้าร่วมการประชุมอาณาจักรเพาะปลูก .. มันจะดีกว่าถ้าเราทำตามระเบียบแบบแผน”