การแข่งขันรอบแรกใช้เวลาดำเนินมาถึงหนึ่งอาทิตย์ได้จบลง จนในเวลานี้การแข่งขันรอบที่สองกำลังเริ่มขึ้น
ในตอนนี้ผู้เล่นที่ติดอันดับหนึ่งในสิบหกทั้งทีมและเดียวกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมตัว ขณะเดียวกันฟางฉีเองก็ได้กำลังเตรียมตัวเขาเช่นกัน
ระบบได้ให้เวลาเขาสามวันในการฝึกฝนในห้องบ่มเพาะเกมเพื่อให้เขาสามารถปกป้องตัวเองจากสิ่งอันตรายต่างๆ จากโลกภายนอกอย่างจิวหัวได้
ฟางฉีได้ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อฝึกฝนในห้องบ่มเพาะ
ความแข็งแกร่งในการฝึกฝนที่เขาได้รับในห้องบ่มเพาะเกม มันไม่เพียงแต่จะเพิ่มเทคนิคการต่อสู้อย่างรวดเร็ว แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝนอันเป็นองค์ประกอบหลักอีกด้วย หลังจากผ่านไปสองสามวันการพัฒนาของร่างกายเขาได้เดินทางเข้าสู่ในอาณาจักรของนักรบบรรพบุรุษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สถานะของฟางฉี
กำลังการฝึกฝน : อาณาจักนักรบบรรพบุรุษระดับสอง
เทคนิคการต่อสู้ : เทคนิคการควบคุมดาบ (ความเชี่ยวชาญ 36.5%)
เทคนิคการควบคุมดาบนับไม่ถ้วน (ความเชี่ยวชาญ 88.3%)
เทคนิคการใช้ดาบ (ความเชี่ยวชาญ 36.56%)
เทคนิคการใช้ค้อนสายฟ้า (ความเชี่ยวชาญ 78.6% เทียบเท่าระดับ 7)
การต้านทนทานต่อสายฟ้า (ความเชี่ยวชาญ 80% เทียบเท่ากับระดับ 4)
ทักษะการต่อสู้ระยะประชิด (ระดับปรมาจารย์)
ตัวช่วย : T-Virus วัคซีนเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพความรวดเร็วต่อการตอบสนองและความแข็งแรงทางจิตใจ ฯลฯ
เมื่อตรวจสอบทักษะโดยรวมที่เขาฝึกฝนแล้วนี่คือระบบการต่อสู้ของฟางฉีในปัจจุบัน เขาได้รับความคืบหน้าอย่างมากเมื่อได้รับการฝึกฝนจากห้องบ่มเพาะ ทุกครั้งที่เขาบ่มเพาะและถูกฆ่าตายเขาจะรู้สึกแค้นใจจนมันกลายเป็นแรงพลักดันจนเอาชนะคู่ต่อสู้ได้!
สำหรับไซเลนต์ฮิลล์ เป็นเกมที่เพิ่มความแข้งแกร่งทางจิตใจมันช่วยให้เขาสามารถกำจัดความชั่วร้ายภายในจิตใจของฟางฉีที่เคยผิดเพี้ยนให้กลับมาดีกว่าเก่า
เขาฝึกฝนเทคนิคดาบนับไม่ถ้วนของหลี่เสี่ยวเหยาให้อยู่ในระดับเชี่ยวชสญและตอนนี้เขากำลังเก็บรายละเอียดเทคนิคให้เข้าสู่ในระดับปรมาจารย์!
ข้างหน้าเขาหลี่เสี่ยวเหยากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมดาบจำนวนมากที่ขยายตัวออกทีละสองเท่า! ฟางฉีเองกำลังวางแผนที่จะรับมือเขาต้องเปลี่ยนตำแหน่งการควบคุมดาบของเขาและจัดการมันด้วยความปราณีต
ในไม่ช้าดาบของเขารวมตัวกันเป็นวงกลมขยายตัวกว้างขึ้นบานท้องฟ้า! .. นอกจากดาบจะสร้างความเสียหายแล้วมันยังสามารถสร้างรวดลายได้ตามใจสั่งอีกด้วย ฟางฉีได้ซึมซับและจดจำในสิ่งที่เขาได้รับหลังจบเกม
เนื่องด้วยระบบของเกมในห้องมีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมในคาเฟ่ เช่นฟางฉีสามารถทำภารกิจโดยการตามหาหัวหน้ากลุ่มภูเขาชูในฐานะหลี่เสี่ยวเหยาเขาสามารถอยู่ในภูเขาชูเพื่อศึกษาชุดดาบของกลุ่มได้
ลวดลายของดาบเทียนจาง!? ใบหน้าของฟางฉีดูสับสนเมื่อเห็นว่านี่คือสิ่งที่เขาเพิ่งได้เรียนรู้ การจัดดาบให้เป็นแถว!? นี่ถือเป็นการใช้ดาบในชั้นสูงหรือไม่?
เมื่อใส่รวดลายของดาบลงไปแล้วมันยิ่งทำให้ดาบนั้นดูน่าใช้และลึกลับลึงซึ้งและน่าค้นหามากขึ้น ฟางฉีรู้สึกว่าเขาค้นพบการสลักลวดลายได้อย่างน่าทึ้ง
ฟางฉีได้ใช้พลังภายในร่างกายของเขาอย่างไม่จำกัดในห้องบ่มเพาะ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีความสามารถก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อใช้เวลาที่นี่เขาสามารถแสดงพลังจากทุกส่วนของร่างกายได้อย่างไม่ต้องกังวล เมื่อใช้ออกไปก็จะถูกเติมเต็มด้วยประสบการณ์และพลังภายในอันบริสุทธิ์
ในทางตรงกันข้ามผู้คนที่บ่มเพาะในโลกภายนอกจะต้องใช้เวลาหรือต้องพักผ่อนเพื่อกู้พลังภายในที่เสียไปกับการฝึกฝน
ขณะนี่ฟางฉีใช้ความแข่งแกร่งของเขาไปเกือบหมดร่างกายในการฝึกเทคนิคการควบคุมดาบนับไม่ถ้วนเพื่อสร้างเมฆขนาดยักษ์บนท้องฟ้า!
สายฟ้าส่องประกายเหนือเมฆเมื่อมองขึ้นไปช่างให้ความสง่างามทั้งจากลวดลายของดาบเองและสายฟ้าที่แว้บประกายออกมา มันสวยและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
พลังงานสายฟ้าที่เปล่งประกายเพิ่มขึ้นรอบๆ วงล้อมของดาบแห่งจิตวิญญาณที่ฟางฉีสร้างขึ้น ในตอนนี้ยิ่งเข้าสร้างวงล้อมเมฆให้ใกล้ขึ้นกันมากเท่าไรมันยิ่งสั่นค่อน เมื่อมาถึงชุดสุดท้ายของใจกลางดาบ .. วงล้อมแตกสลายในทันที!
เขายังคงใช้เวลาฝึกฝนอย่างต่อเนื่องในการบังคับทิศทางและรูปทรง .. ครึ่งชั่วโมงมาการต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างดุเดือดเลือดสาด
ในจุดเกิดใหม่ ฟางฉีในครั้งนี่ดูท่าทางซีดเซียว เขาเห็นชุดดาบจิจวิญญาณของไทฉีบินมาทางนี่อย่างรวดเร็วจากท้องฟ้าที่ห่างไกล
ชิบแล้ว! ฟางฉีเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก เขาละลึกได้และรู้สึกโชดีที่ลวดลายของดาบเทียนจางของหลี่เสี่ยวเหยาเป็นเพียงแค่ขั้นเริ่มต้นเท่านั้น มิฉะนั้นเขางจะต้องถูกโจมตีโดยดาบที่มีลวดลายอันแข็งแกร่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากผู้ฝึกคนอื่นในเกมนี้
…
“ฟู่ว! ..” ฟางฉีที่เพิ่งออกจากห้องบ่มเพาะเขารู้สึกว่ากำลังได้รับบาดแผลใหม่ทางจิตวิทยาจากการฝึกฝนอย่างเข้มข้นในครั้งนี้
โชคดีที่ก่อนหน้านี้เขาพอจะมีเวลาพักผ่อนสักสองสามวันก่อนทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินการแข่งขันในวันนี้ผู้คนจำนวนมากมารวมตัวในที่คาเฟ่ พวกเขาตื่นเต้นเกี่ยวกับการจับคู่ระหว่างคนต่อคนทีมต่อทีมอย่างมาก วันนี้ไม่ได้มีแต่เด็กร้านเกมเท่านั้น แต่ยังมีผู้ชมจำนวนมากที่เฝ้าจับตามองการแข่งขัน
อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านไม่ได้ตั้งกฏว่าห้ามคนนอกหรือคนไม่มีเงินไม่ให้ย่างก้าวเข้ามาในร้าน .. แน่นอนไม่เหมือนร้านดังๆ ในสมัยก่อนที่กีดกั้นและจงใจให้เฉพาะผู้คนระดับสูงเข้าเท่านั้น
หวังใต้เป็นคนหนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยและเกาซงเองเป็นนักรบธรรมดาคนหนึ่งที่วันนี้เขาประสบความสำเร็จ มันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาและทางเลือกของแต่ละคนสำหรับเขาในตอนนี้ระดับของเขาสามารถเทียบเท่ากับขุนนาง
สำหรับการแข่งขันในวันนี้คือการต่อสู้ระหว่างหนึ่งในสิบหกคนของเกม Diablo
ครั้งนี้กำหนดการไม่ได้จัดเรียงแบบสุ่มแต่จัดให้ลำดับที่ 1 ต่อสู้กับ 16 ลำดับที่ 2 ต่อสู้กับ 15 ไล่ไปเรื่อยๆ
ขณะเดียวกันเซียวหยูที่กำลังบ้าน้ำลายอยู่บนโซฟา “ตามตารางนี้ข้าว่ามีความน่าแปลกใจเล็กน้อย ผลลัพท์ของการแข่งขันก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้เล่นแต่ละคนพวกเขาทุกคนคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและกฏของการแข่งขัน .. ท่านอันหูเว้ย ตามมาด้วยผู้อาวุโสนาหลัน และจากนั้น ..”
นาหลันหมิงสื่อจองมองหลันยันที่กำลังอยู่ในการแข่งขันอย่างเงีนบๆ
ในการแข่งขันคู่ต่อสู้ของหลันยันคืออันเชงซึ่งเป็นนักเวทย์อันดับต้นๆ โอกาสในการเอาชนะของเธอนั้นแอบริบหรี่มาก
ฟังอย่างระมัดระวังนี่เป้นวิธีเดียวที่จะจัดการกับนักเวทย์เช่นอันเชง หลันยันนั่งสงบสติในขณะที่เธอกำลังละลึกถึงกลยุทธ์ที่นาหลันหมิงสื่อได้ติวให้ก่อนการแข่งขัน
จู่ๆ .. หน้าจอและพื้นที่โดยรอบมืดสนิท
“เกิดอะไรขึ้น!?” เซียวหยูยืนขึ้นจากโซฟา
“เกิดอะไรขึ้น!?” มูตงไหล่เอ่ยถาม เขารู้สึกมีอะไรแปลกๆ
“นี่เป็นทักษะของนักฆ่า!”