ไม่นานหลังจากนั้น เซี่ยปิงก็ถูกนำทางเข้ามาในตึก นี่เป็นห้องที่แยกออกมาต่างหาก มีพื้นที่100ตารางเมตร มีโต๊ะน้ำชาและโซฟา มีอาหารที่ราคาแพงมากมายตั้งอยู่บนโต๊ะ ดูหรูหราอย่างมาก

อีกทั้งยังมีสาวรับใช้ที่สวยงามหลายคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยที่คอยรับใช้เขาอยู่

ข้างนอกหน้าต่างของห้อง เป็นจัตุรัสกว้าง ซึ่งเป็นเหมือนกับที่นั่งของคอนเสิร์ตก็ว่าได้ มีเป็นชั้นๆ ในช่วงเวลานี้แต่ละที่นั่งต่างก็เต็มไปด้วยผู้คน อย่างน้อยก็มีมากกว่าหนึ่งหมื่นคน

พวกเขากำลังรอให้การประมูลเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบสงบ

ทว่าเซี่ยปิงซึ่งเป็นผู้ที่มีบัตรวีไอพีของธนาคารจักรวาลนั้น เทียบเท่าได้กับแขกผู้มีเกียรติของบริษัทมหาสมุทรแห่งจักรวาล ดังนั้นจึงได้ที่นั่งเดี่ยวที่แยกออกไปจากคนอื่นๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งร่วมกับคนอื่นๆ

“ครั้งนี้มีสมบัติอะไรมาประมูล?”

เซี่ยปิงถามเจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยคนนั้น

“นายท่าน”

เจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยพูดออกมาทันที “การประมูลหลักนั้นจะมีสมบัติสามชิ้นด้วยกัน อย่างแรกก็คือคัมภีร์ลับระดับเซนต์ ทักษะหมัดสายฟ้า ว่ากันว่านี่เป็นคัมภีร์ลับที่เป็นมรดกตกทอดมาจากเซนต์ในยุคสมัยโบราณซึ่งเป็นผู้ที่ควบคุมพลังอำนาจสายฟ้า หลังจากที่สามารถเรียนรู้จนสำเร็จนั้น จากนั้นก็จะสามารถควบคุมพลังอำนาจของสายฟ้าฟาดได้ ยิ่งไปกว่านั้นหมัดนี้ก็รวดเร็วอย่างสุดขีด ไร้เทียมทาน หากบ่มเพาะจนอยู่ในจุดที่ลึกซึ้ง หมัดที่ประเคนออกมาก็จะเป็นเหมือนกับสายฟ้าฟาด อีกทั้งความเร็วของมันก็สามารถที่จะก้าวไปถึงความเร็วแสงได้ มีพลังอำนาจที่ไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งคัมภีร์ลับนี้มีราคาการประมูลเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งร้อยล้านเหรียญจักรวาล”

เขาได้ชูนิ้วขึ้นมา

เซี่ยปิงมีสายตาเป็นประกาย คัมภีร์ลับระดับเซนต์ทักษะหมัดสายฟ้า? นี่เป็นทักษะที่มีคุณสมบัติของสายฟ้า หากได้ครอบครองมา ก็อาจจะสามารถควบแน่นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ดีออกมาได้

น่าเสียดายที่เขามาเพื่อซื้อระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ เพื่อรับประกันความปลอดภัยที่แน่นอน หากไม่จำเป็นเขาก็จะไม่ร่วมประมูลสิ่งของอื่นๆ

ทว่าหากคิดไตร่ตรองว่ามันมีประโยชน์ใช้งานต่อตนเองจริงๆนั้น เขาก็ไม่รังเกียจที่จะซื้อ

“อย่างที่สองก็คือชิ้นส่วนของสิ่งประดิษฐ์เซนต์”

เจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยพูดออกมาอย่างต่อเนื่อง “นี่คือชิ้นส่วนของสิ่งประดิษฐ์เซนต์ที่ค้นพบในซากปรักหักพังโบราณแห่งหนึ่งภายในจักรวาล นี่คือชิ้นส่วนของสิ่งประดิษฐ์เซนต์ที่ถูกทำลายไปในสงครามและถูกทิ้งไว้”

“ชิ้นส่วนนี้มีประทับตราวิญญาณของเซนต์อยู่เช่นกัน มีผลประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้บ่มเพาะ หากสามารถที่จะทำความเข้าใจได้ บางทีอาจจะมีโอกาส10%ในการพัฒนาและก้าวผ่านขีดจำกัดของตนเอง ราคาเริ่มต้นของมันก็อยู่ที่ห้าร้อยล้านเหรียญจักรวาล”

เซี่ยปิงพยักหน้า แน่นอนว่าหากเป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ที่สมบูรณ์นั้น มันจะมีราคาที่สูงกว่านี้อย่างมหาศาล ทว่าต่อให้นี่จะเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนของสิ่งประดิษฐ์เซนต์ มันก็ถือว่ามีพลังอำนาจของสิ่งประดิษฐ์เซนต์ที่หายากอย่างมาก ราคาประมูลเริ่มต้นที่ห้าร้อยล้านเหรียญนั้นไม่ได้ถือว่าเว่อวังอลังการเกินไป

“ส่วนสมบัติชิ้นสุดท้ายก็คือชิ้นที่มีราคาแพงที่สุด มันคืออาวุธระดับสุดยอด นั่นก็คือระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ นี่เป็นระบบที่เหมาะกับการติดตั้งที่คฤหาสน์หรือว่าเมืองของตนเอง เมื่อใดที่ติดตั้งจนสำเร็จ ต่อให้เป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็ไม่กล้าที่จะบุกรุกเข้าไปอย่างสิ้นคิด ราคาเริ่มต้นการประมูลของมันอยู่ที่ห้าพันล้านเหรียญจักรวาล”

เจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยพูดออกมา

ทว่าการที่ระบบอาวุธนี้มีราคาที่แพงอย่างมากนั้น ปกติแล้วก็ไม่ได้มีผู้คนมากมายที่จะสามารถซื้อมันได้ อีกทั้งการประมูลที่ผ่านๆมาก็พบกับความล้มเหลว ดังนั้นเขาจึงไม่มีความมั่นใจว่าครั้งนี้จะสามารถประมูลมันออกไปได้สำเร็จหรือไม่

ดิ้ง!

ในตอนนี้ เสียงระฆังก็ดังขึ้นมากลางห้อง ดังไปทั่วทั้งพื้นที่โดยรอบ

“การประมูลเริ่มขึ้นแล้ว” เจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยพูดออกมาทันที

ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็มองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ในศูนย์กลางของจัตุรัสนั้น มีแท่นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ทว่ารอบๆแท่นนั้นก็มีทหารที่สวมใส่ชุดเกราะปรากฏขึ้นมาเป็นจำนวนหนึ่ง มีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างมาก

ทันใดนั้นทหารกลุ่มนี้ก็ได้ยกกล่องสีดำขึ้นมาและเปิดมันออก เผยให้เห็นเหล็กสีเลือดข้างใน ทันใดนั้นก็มีออร่าของพลังฉีเลือดที่ชั่วร้ายและพลังฉีเหล็กทองแกที่แผ่ออกมา

“เหล็กหยางโลหิต!”

เจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยพูดแนะนำออกมา “เหล็กนี้มีพลังฉีของเหล็กทองแกและพลังฉีของหยางบริสุทธิ์ที่เข้มข้นอยู่ เหมาะสำหรับนักวิทยายุทธที่มีความสามารถศักดิ์สิทธิ์ธาตุเหล็ก หากดูดซับพลังฉีธาตุทองแกข้างในเข้าไป จะสามารถบ่มเพาะได้รวดเร็วกว่าเดิมสองเท่าโดยที่ใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว”

“ต่อให้จะไม่ใช้ในการบ่มเพาะ ก็ยังคงสามารถที่จะนำไปหล่อหลอมสิ่งประดิษฐ์วิญญาณได้ นี่เป็นวัสดุที่ล้ำค่า แข็งแรงทนทานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ราคาการประมูลเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งแสนเหรียญจักรวาล เกณฑ์ขั้นต่ำในการเสนอราคาอยู่ที่หนึ่งพันเหรียญจักรวาล”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง เหล็กหยางโลหิตนี่เหมาะสำหรับเขาอย่างมาก สามารถที่จะประมูลมาเพื่อเป็นอาหารให้กับสไลม์ทองได้

ทว่าทันทีที่เหล็กหยางโลหิตนี่ปรากฏขึ้นมา มันก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากทันที

“สมกับที่เป็นบริษัทมหาสมุทรแห่งจักรวาล เพียงแค่สินค้าชิ้นแรกที่นำออกมาประมูลก็เป็นถึงเหล็กหยางโลหิต”

“ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ดาบบินของข้า บังเอิญต้องใช้เหล็กหยางโลหิตนี่ในการบ่มเพาะพอดี มันจะเพิ่มความเร็วในการควบแน่นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ประเภทดาบของข้า อย่างน้อยก็จะทำให้ทักษะดาบของข้ามีพลังอำนาจเพิ่มขึ้นถึง30%”

“ข้าเป็นยอดปรมาจารย์ด้านการหล่อหลอม บังเอิญต้องการเหล็กหยางโลหิตนี่ในการหล่อหลอมอาวุธขึ้นมาพอดี วัสดุที่ล้ำค่าเช่นนี้ ไม่สามารถที่จะพลาดได้ จะต้องประมูลมาให้ได้”

ทันใดนั้นกลุ่มของผู้คนก็พร้อมที่จะสร้างปัญหาขึ้นมา ต้องการที่จะร่วมการประมูลเหล็กหยางโลหิตนี้

ในช่วงเวลานี้ บนแท่นก็มีชายชราที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาวเดินเข้ามา เขานั้นเป็นผู้จัดการของบริษัทมหาสมุทรแห่งจักรวาล มีชื่อว่าถานหมิง มีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลจัดการงานประมูลครั้งนี้

“ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาอีกต่อไป เริ่มการประมูลทันที”

ผู้จัดการถานหมิงได้นำค้อนขนาดเล็กออกมาทันทีและเคาะลงบนโต๊ะ “เหล็กหยางโลหิต ราคาเริ่มต้นการประมูลอยู่ที่หนึ่งแสนเหรียญจักรวาล”

ทว่าไม่ทันรอให้ผู้คนที่อยู่รอบๆได้เริ่มทำการเสนอราคา เซี่ยปิงก็ได้ตะโกนออกมาทันที “ข้าต้องการเหล็กหยางโลหิตนี้ หนึ่งล้านเหรียญจักรวาล”

อะไรนะ?!

เดิมทีกลุ่มผู้คนที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ต้องการที่จะเสนอราคาของเหล็กหยางโลหิตนี้ ทว่าเมื่อได้ยินจำนวนเงินนี้ พวกเขาก็หวาดกลัวอย่างกะทันหัน แต่ละคนต่างก็มองไปที่ห้องวีไอพีที่เซี่ยปิงกำลังนั่งอยู่

“บัดซบ หนึ่งล้านเหรียญจักรวาล เจ้านี่เสียสติไปแล้วรึ?!” ได้ยินราคานี้ ชายร่างใหญ่คนหนึ่งก็มีสีหน้าที่มืดมนพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างรุนแรง อีกทั้งยังจ้องมองไปที่เซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่โมโห

ราคาเริ่มต้นประมูลของเหล็กหยางโลหิตนี้อยู่ที่หนึ่งแสนเหรียญจักรวาล ทว่าเจ้าเด็กนี่กลับเพิ่มราคาขึ้นมาสิบเท่า ต่อให้จะร่ำรวยก็ไม่ควรที่จะทำเช่นนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไป

“เสียสติ เจ้าเด็กนี่เสียสติจริงๆ!”

“นี่พวกเราจะสามารถเสนอราคาได้อีกหรือ?!”

“เสนอราคาตูดข้าสิหนึ่งล้านเหรียญจักรวาล เหล็กหยางโลหิตนี่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณสองแสนเหรียญจักรวาลเพียงเท่านั้น อย่างน้อยเงินหนึ่งล้านเหรียญจักรวาลนั้นก็สามารถที่จะซื้อมันได้ถึงห้าชิ้น ทว่าเจ้าโง่นี่กลับใช้เงินหนึ่งล้านเหรียญจักรวาลเพียงเพื่อซื้อเหล็กนี่เพียงชิ้นเดียว ช่างเป็นการใช้เงินทิ้งขว้างจริงๆ”

“เจ้าบัดซบนี่เสียสติไปแล้ว อย่าไปเสียสติตามเขา”

“บัดซบ นี่มันจะต้องเป็นลูกไม่เอาไหนของตระกูลที่ร่ำรวยอย่างแน่นอน ใช้เงินทิ้งขว้างโดยที่ไม่คิดอะไรเช่นนี้”

ผู้คนจำนวนมากต่างก็ต่อว่าออกมา พวกเขาต่างก็รู้สึกไม่พอใจกับการที่เซี่ยปิงเพิ่มราคาขึ้นมาสูงเช่นนี้

ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยจะเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทมหาสมุทรแห่งจักรวาล ทว่าเขาก็ตกใจกับราคานี้เช่นกัน “นายท่าน ราคานี้จะไม่สูงเกินไปหรือ?”

ในช่วงเวลานี้เขากำลังคิดว่าเซี่ยปิงเป็นบุคคลที่เสียสติ

“ไม่ต้องกังวล เงินมีมากเท่าไหร่ก็อาจจะไม่สามารถซื้อความสุขได้ ทว่าการที่ข้าใช้เงินหนึ่งล้านเหรียญจักรวาลเพื่อซื้อเหล็กชิ้นเดียวนั้น ข้าก็มีความสุขดี”

เซี่ยปิงเผยให้เห็นท่าทางของเศรษฐีที่ร่ำรวยล้นฟ้า

ได้ยินเช่นนี้ สาวรับใช้หลายคนที่อยู่ในห้องต่างก็จ้องมองเซี่ยปิงด้วยสายตาที่เป็นประกาย เจ้านี่เป็นทายาทของตระกูลระดับสุดยอดอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นมีที่ไหนที่จะมีทรัพยากรทางการเงินที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ เงินหนึ่งล้านเหรียญจักรวาล บอกว่าจะโยนทิ้งก็โยนทิ้ง ไม่แม้แต่จะกระพริบตา

หากสามารถที่จะทำให้นายน้อยคนนี้สนใจตนเองได้ล่ะก็ บางทีชีวิตหลังจากนี้ของพวกเธอจะสุขสบายไปตลอดชาติ บางทีอาจจะสามารถแต่งงานเข้าไปในตระกูลที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล

“บัดซบ ร่ำรวยอย่างน่าอัศจรรย์”

เจ้าหน้าที่ดูแลไป๋เป่ยก็รู้สึกอิจฉาอย่างมาก เขานั้นก็เคยจินตนาการถึงภาพของตนเองที่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเช่นกัน ทว่าในความเป็นจริงนั้นการที่มีเงินกินอยู่นั้นก็มากเกินแล้ว ไม่มีทางที่จะใช้เงินมากขนาดนั้นได้