ในทางเหนือของเมืองเจียงหนัน ณ โกดังของท่าเรือร้างแห่งหนึ่ง
มีคนสีคนกำลังนั่งล้อมวงเล่นไพ่อยู่บนโต๊ะ
“พี่ใหญ่ เราจะอยู่ที่นี้อีกนานแค่ไหนครับ?”
หนึ่งในนั้นถามด้วยเสียงที่หนักแน่น
“รีบไปทำไมกัน? เบื้องบนส่งพวกเรามา เพื่อมาร่วมมือกับตระกูลเจิ้น ถ้าไม่มีคำสั่งจากตระกูลเจิ้น พวกเราก็ไปไหนไม่ได้”
ชายหน้าดุคนหนึ่งทนไม่ไหวและพูดออกมา
เขาชื่อซวี่เปา และเป็นหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มนี้
บูม!
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก
ซวี่เปาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
ชายร่างกำยำคนหนึ่งลุกขึ้นมาทันทีและพูดว่า “พี่ใหญ่ เดี๋ยวผมไปดูเองครับ”
ในขณะที่พูด เพื่อความปลอดภัย เขายังหยิบปืนพกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วหันเดินออกจากห้องไป
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
และในขณะนี้ เสียงฝีเท้าก็ค่อยๆ ดังขึ้น
ทุกคนมองไปที่นั่นพร้อมกันด้วยความสงสัย และเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใส่ชุดลำลองก็เดินตรงมาหาพวกเขาจากด้านนอกโกดัง
แม้การก้าวเดินของชายคนนั้นจะเบามาก แต่ทุกๆ ก้าวของเขามันเหมือนเหยียบลงที่กลางใจของพวกเขา ทำให้พวกเขาสั่นสะเทือนไปถึงจิตใจ
ชายที่ถือปืนก่อนหน้านี้ก็รู้สึกแข็งทื่อไปทั้งตัว
เขาสามารถสัมผัสถึงจิตสังหารที่รุนแรงที่แผ่ออกมาจากตัวของอีกฝ่ายได้
“แกเป็นใคร หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!”
เขาตะโกนอย่างเสียงดังทันที และคนถือปืนก่อนหน้านี้ก็หันปลายปืนไปหาชายคนที่เดินเข้ามาคนนั้น
เย่เทียนไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้สนใจเรื่องที่พวกเขากำลังพูดเลยด้วยซ้ำ
เสียง ‘สึบ’ ดังขึ้น ตะปูเล่มหนึ่งก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
ชายคนนั้นไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น และทันใดนั้น ตะปูก็ปักลงกลางหน้าผากของเขา ทำให้เขานั้นล้มลงนอนลงไปกับพื้นและตายในทันที!
การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้อีกสองคนที่เหลือลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นทั้งสองมองไปที่เย่เทียนด้วยสายตาที่หวาดกลัวราวกับว่าเจอศัตรูที่แข็งแกร่งมาก!
มีเพียงซวี่เปาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและพูดขึ้นมาว่า “ถึงข้าจะไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่จู่ ๆแกก็โผล่หัวมาที่นี่ ข้าว่าแกมันต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายแน่นอน?”
“ว่ามา พวกแกอยากตายท่าไหน?”
ในที่สุดเย่เทียนก็พูดขึ้นมา
คำพูดที่ฟังดูเรียบเฉย แต่มาพร้อมกับความตายที่ราวกับว่าเทพมรณะกำลังพิพากษาคนพวกนี้!
ทันทีที่เขาพูดจบ อีกฝ่ายก็พากันตะลึงงัน
ซวี่เปาหัวเราะขึ้นมาและมองไปที่เย่เทียนเหมือนกำลังมองคนบ้าคนหนึ่ง
“ข้ายอมรับนะว่าฝีมือของแกนั้นเก่งใช้ได้ แต่แกคิดว่าแกบุกมาที่นี่คนเดียว แล้วจัดการลูกกระจ๊อกข้างนอกของข้าได้หมด แล้วแกจะหยุดพวกเราอยู่ที่นี่ได้งั้นเหรอ?”
“แกรู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? ข้าชื่อว่าซวี่เปา เป็นหัวหน้าใหญ่ของแก๊งหมาป่าโลภ และความแข็งแกร่งของข้านั้นอยู่ในจุดสูงสุดของระดับเหลืองชั้นสูง ถ้าให้ฆ่าแก แค่หมัดเดียวก็เกินพอแล้ว!”
เย่เทียนขมวดคิ้ว
แก๊งหมาป่าโลภที่พูดถึงเขาพอรู้จักอยู่แล้ว เพราะในอดีต เขายังเคยล้มหัวหน้าใหญ่ของแก๊งหมาป่าโลภด้วยมือของเขาเองด้วยซ้ำ!
หมาป่าโลภ ทหารกล้าตาย และเจ็ดสังหาร ทั้งสามองค์กรรวมเป็นทหารรับจ้างระดับสองที่มีชื่อว่า ‘แก๊งS.P.L’
ซึ่งผู้นำของทหารกล้าตายและหมาป่า เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด!
นอกจากทหารกล้าตายแล้ว ถ้าไม่นับเจ็ดสังหารด้วย แก๊งหมาป่าโลภเป็นผู้รับผิดชอบในการทำธุรกิจกับต่างประเทศ ซึ่งพวกเขายอมรับงานที่มีความเสี่ยงสูงและให้ผลตอบแทนสูงเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนของโลกก็ตาม
เย่เทียนนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้เจอกับกลุ่มแก๊งS.P.Lเป็นครั้งแรก!
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจ ได้แต่มองไปที่ซวี่เปาด้วยสายตาที่เย็นชาแล้วพูดว่า “ผมก็แค่ตามหาข้อเท็จจริงก็เท่านั้น”
“ก็น่าสนใจดีนะ!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นซวี่เปาก็หัวเราะขึ้นมาและทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป จากนั้นออกคำสั่งว่า “ยิงมันซะ!”
ลูกน้องอีกสองคนที่เหลือก็ไม่ได้ลังเล ทั้งสองหยิบปืนขึ้นมาแล้วจ่อไปที่เย่เทียนและลั่นไกปืนอย่างไร้ความปรานี
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วโกดัง!
แต่แล้ว ในขณะที่พวกเขาลั่นไกปืน เย่เทียนก็มีการเคลื่อนไหว
เขาไวอย่างกับวิญญาณ และในชั่วพริบตานั้น กระสุนที่ยิงออกมาไม่ได้ถูกโดนตัวเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ใช่นักบู๊ระดับฟ้าอยู่แล้ว เขาก็มีร่างกายและเนื้อหนัง ซึ่งไม่อาจต้านทานความแรงของกระสุนปืนได้หรอก
แต่ช่วงที่ผ่านมาเย่เทียนก็ได้เตรียมพร้อมแล้ว ในขณะที่เขากำลังหลบกระสุนปืนนั้น เขาหยิบตะปูทั้งสามเล่มออกมาและดีดมันออกไป
สึบ สึบ สึบ……
ตะปูไม่ใช่อาวุธลับ แต่มันดีกว่าอาวุธลับ ด้วยเสียงสะท้อนจากอาการ ตะปูก็พุ่งตรงไปหาทั้งสามคนนั้น
ซวี่เปารู้ทันตั้งแต่แรก ในขณะที่ตะปูพุ่งออกมา เขาก็กระโดดขึ้นเหมือนมีสปริงติดตัวเพื่อเลี่ยงการโจมตีที่อันตรายถึงแก่ชีวิตของเย่เทียน!
ส่วนอีกสองคนที่เหลือนั้นไม่ได้โชคดีอย่างที่คิด ตะปูที่พุ่งเข้ามาได้ปักเข้าไปกลางหน้าผากและกลางอกของพวกเขา จนทำให้เลือดไหลท่วมไปทั่วพื้น
ทั้งสองก็ล้มลงนอนกับพื้นและสิ้นใจทันทีโดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้องออกมาด้วยซ้ำ!
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สายตาของซวี่เปาก็เริ่มเคร่งขรึมขึ้นมาทันที จากนั้นเขาหรี่ตาลงแล้วมองไปที่เย่เทียน
“ไอ่หนุ่ม ฝีมือแกก็ไม่เบาเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งความเร็วและพละกำลัง ก็สุดยอดมาก”
“แต่ถึงอย่างไงแกก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ยังไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง ไม่มีทางที่จะสู้ข้าได้หรอก แต่เมื่อแกฆ่าลูกน้องของข้าแล้ว ข้าจะให้แกชดใช้ด้วยเลือด!”
ในขณะที่พูด ซวี่เปาก็ปล่อยจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
ในเวลาชั่วพริบตา เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก เขารวบรวมแรงทั้งหมดที่มีไปที่หมัดของเขาและต่อยไปที่เย่เทียนอย่างสุดกำลัง!
หมัดอันทรงพลังเขา แรงพอที่จะทำลายก้อนหินก้อนหนึ่งได้เลยทีเดียว
ซวี่เปามั่นใจมาก ว่าหมัดนี้มันสามารถกำจัดเย่เทียนได้ พร้อมกับแสดงใบหน้าที่ได้ใจออกมา
แต่ในวินาทีต่อมา ความได้ใจของเขานั้นค่อยๆ หายไป แต่กลับต้องทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะหมัดอันทรงพลังของเขาถูกหยุดไว้โดยเย่เทียน
เมื่อเสียงปะทะดังขึ้น เย่เทียนยกมือขึ้นอย่างสบายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรับหมัดอันทรงพลังของเขา มันไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย!
“ไม่ ไม่มีทาง!”
สีหน้าของซวี่เปาเปลี่ยนไปอย่างมาก
การโจมตีที่แรงที่สุดของเขากลับถูกอีกฝ่ายรับได้อย่างง่ายดาย?
เย่เทียนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและพูดว่า “แข็งแกร่งไม่เบาเลยนะ แข็งแกร่งกว่าหวางซานที่ผมเจอเมื่อวานอีก แต่ฝีมือก็ยังไม่ถึงระดับดำอยู่ดี”
เย่เทียนพูดแล้วส่ายหัวเบาๆ
“ตอนนี้ คุณเตรียมตัวตายไว้หรือยัง?”
ซวี่เปาตกตะลึงอย่างมาก เขาพยายามจะดึงแขนกลับมา แต่ถึงใช้แรงแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์
หมัดของเขานั้น ราวกับว่าถูกคีมจับไว้ มันไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียน ซวี่เปาก็รู้สึกกังวลใจไม่น้อย เขาไม่คิดอะไรมากอีกและเหวี่ยงหมัดอีกข้างออกไปด้วยความแรง
“ไปตายซะ!”
เสียงตะโกนดังขึ้น เขาต่อยหมัดออกไปอีกครั้ง แต่เย่เทียนก็รับได้อย่างง่ายดาย และบิดแขนของเขาแรงๆ!
แคร่ก! แคร่ก!
“อ๊ากกก!”
ซวี่เปาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับหยาดเหงื่อที่ไหลออกมาไม่หยุด
สายตาของเย่เทียนนั้นน่ากลัวขึ้นไปอีก ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ ขนาดบิดแขนของเขาจนหักแล้วทำไมยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ใช่คนแล้ว นี่มันผีชัดๆ!
“ว่ามาสิ คุณอยากตายท่าไหน?”
เย่เทียนยังคงพูดคำเดิม
ซวี่เปาตกใจกลัวจนถึงที่สุด เขาสั่นไปทั้งตัวและพูดพึมพำว่า “แก แกจะฆ่าข้าไม่ได้นะ! ข้าเป็นถึงคนของทหารกล้าตายและหมาป่า ถ้าแกลงมือกับข้า พี่ใหญ่ข้าไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่นอน ตระกูลเจิ้นก็จะไม่……”
เมื่อพูดถึงท้ายประโยค ร่างกายของซวี่เปาแข็งทื่อไปหมด!
“ตระกูลเจิ้นเหรอ?”
ทันใดนั้นเย่เทียนก็หัวเราะออกมาและมองไปที่ซวี่เปาด้วยสายตาเย็นชาแล้วพูดว่า “เพื่อเห็นแก่ความร่วมมือของคุณ ผมจะตบรางวัลสุดพิเศษให้กับคุณสักชุด!”