ในขณะที่สมาชิกของชมรมศิลปะการต่อซานต้า กำลังพูดคุยซุบซิบกัน ในตอนนั้นก็มีมือใหญ่ยื่นมือออกมาอย่างเงียบงัน และวางมันลงบนไหล่ของผู้ชายที่ย้อมผมสีบลอนด์ เขารู้สึกราวกับว่าไหล่ของเขาถูกภูเขาขนาดยักษ์กดทับลงมาที่เขา มันทำให้ร่างของเขาเอนเอียงไปทางด้านที่ถูกมือใหญ่วาง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง

“เสี่ยว … เสี่ยวหลัว…”

ใบหน้าของชายทั้งสองคนแปรเปลี่ยนไปในพริบตา พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เสี่ยวหลัว จะมาปรากฏขึ้นที่นี่ในเวลานี้

เสี่ยวหลัวกล่าวถามด้วยเสียงอันเย็นยะเยือก “มีใครบ้างที่ไป หอพักชั้นเจ็ด และทุบตีเพื่อนร่วมห้องทั้งสองของฉันในคืนนี้ บอกฉันมาให้หมด!”

เมื่อได้ยินคำถามนี้ คนที่ย้อมผมสีบลอนด์ก็เกือบจะเป็นลมล้มหมดสติไป แต่เมื่อเขาจำได้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นดินแดนของชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้าของพวกเขา นั่นมันก็หมายความว่ามันมีพันธมิตรของเขาอยู่มากมาย ทันใดนั้นความกล้าหาญของเขาเพิ่มขึ้นมาในทันที ชายที่ย้อมผมสีบลอนด์ตะโกนเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัว“แกเป็นใคร ทำไมฉันถึงต้องฟังคำพูดของแกด้วย เอามือของแกออกไปจากไหล่ของฉันซะ!”

ที่เขาตะโกนเสียงดัง ก็เพราะเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน อย่างที่คาดไว้สมาชิกที่ยังฝึกซ้อมอยู่ของชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า และพวกที่ฝึกซ้อมอยู่กับสมาชิกของชมรมอื่นๆ หันมามองทางต้นเสียงในทันที

“ปีศาจเสี่ยวหลัว?”

“เขามาที่นี่ทำไม? ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมรับคำท้ารบของ ซ่ง เจียหนาน จนหนีไป และไม่กล้าแม้แต่ที่จะกลับมาที่ห้อง งั้นเหรอ?”

“ซ่ง เจียหนาน เพิ่งจะกลับไปเมื่อไม่นานมานี้เอง หากเขาได้ยินเรื่องนี้เขาจะต้องรีบกลับมาอย่างแน่นอน และชายทั้งสองคงจะต่อสู้กันแน่ๆ”

สมาชิกของชมรมอื่นๆ ต่างตกใจกัน แต่สมาชิกของชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า กลับค่อยๆรวมตัวกัน เสี่ยวหลัวมองดูพวกนั้นด้วยใบหน้าที่เหยียดหยาม

ใบหน้าของ เสี่ยวหลัว มืดลง เขามองสมาชิกของชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า ที่กำลังรวมตัวกันเป็นเพียงแค่อากาศธาตุ เขาพูดกับชายที่ย้อมผมบลอนด์อีกครั้ง“ตอบคำถามของฉันมาซะ!”

“แกป่วยหรือไง? แกไม่เข้าใจภาษามนุษย์งั้นเหรอ หรือว่าแก…….อ๊ากกกก!”

เสียงพูดของชายที่ย้อมผมสีบลอนด์ยังไม่ทันจะจบประโยค เขาก็ถูกตัดคำพูดของเขาทันทีและกลายเป็นเสียงร้อยโหยหวนแทน มือของ เสี่ยวหลัว กำไหล่ของเขาชายที่ย้อมผมสีบลอนด์แน่น ชายที่ย้อมผมสีบลอนด์รู้สึกเจ็บปวดมากราวกับกล้ามเนื้อของเขากำลังแยกเป็นชิ้นๆ

“ฉันขอถามแกอีกครั้ง! มีใครบ้างที่ทุบตีเพื่อนร่วมห้องของฉันในคืนนี้!?” เสี่ยวหลัว ค่อยๆออกแรงไปที่มือของเขาอย่างช้าๆ

“ฉันไม่รู้ ปล่อยฉันไป…อ๊ากกกก!”

เสียงร้องของชายที่ย้อมผมบลอนด์ ยิ่งนานไปยิ่งน่าสังเวชมากขึ้น เขาพยายามดิ้นรนและต้องการที่จะหลุดออกจากกำมือของเสี่ยวหลัว อย่างไรก็ตามเสี่ยวหลัว คว้าจับเขาไว้ด้วยวิธีการที่พิเศษมันเหมือนกับตำรวจที่ใช้จับผู้ร้าย ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์

“ปล่อยให้เขาไปซะ!” เสียงคำรามของเพื่อนของชายที่ย้อมผมบลอนด์ที่อยู่ข้างๆดังขึ้น พร้อมกับพุ่งหมัดของเขาไปที่เสี่ยวหลัวอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวหลัวสบประมาทอย่างเหยียดหยาม จากนั้นเขาก็โขกศีรษะของเขากลับไปที่กำปั้น กำปั้นและหน้าผากของเขาชนกัน จากนั้นมันก็เกิดเสียงของการแตกหักดังขึ้นมา ชายผู้นั้นถอยหลังกลับไปพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขารู้สึกราวว่ากับหมัดที่เขาเพิ่งปล่อยออกไปนั้นมันไปกระแทกเข้ากับก้อนหินที่แข็งแกร่ง ตอนนี้นิ้วมือทั้งสามนิ้วของเขาหักลงหมดแล้ว มือขวาของเขาสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด จนแทบจะทนไม่ไหวและหยุดสั่นไม่ได้เลย

เรียบง่ายและหยาบโล้น แต่มีประสิทธิภาพมาก!

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มันทำให้สมาชิกคนอื่นๆ ของชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่น

ทันใดนั้นก็ผู้ชายคนหนึ่งที่เจาะหูเดินมาข้างหน้าแล้วตะโกนใส่เสี่ยวหลัวว่า“เฮ้แกอยากจะมีปัญหาใช่ไหม? แกเชื่อหรือไม่ว่า ว่าฉันสามารถถอดชิ้นส่วนและอะไหล่ทั้งหมดของร่างกายของแกได้”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นสมาชิกรุ่นอาวุโสของชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า และเหตุผลที่เสี่ยวหลัว เดาเช่นนั้น ก็เพราะมันมี จ้าว ชิงเหอ , ต้า เผิงเฟย และพรรคพวกที่เหลือเดินตามเขามา

เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีเจาะหูแล้ว จ้าว ชิงเหอ และพรรคพวกคนอื่นๆ ดูเหมือนจะไม่มั่นใจมากนัก พวกเขาไม่กล้าที่จะหยิ่งต่อเสี่ยวหลัว ด้วยสายตาของเสี่ยวหลัวที่มองมา มันทำหพวกเขากลัวเสี่ยวหลัวจากก้นบึ้งของจิตใจ

เสี่ยวหลัวผลักชายที่ย้อมผมสีบลอนด์ออกไป เขาเดินเข้าไปหาผู้ชายที่เจาะหูและยืนอยู่ตรงหน้าของมัน จากนั้นเขาพูดด้วยเสียงที่ลึกและเคร่งขรึมว่า“แกดูเหมือนว่า จะเป็นคนที่มีอำนาจในชมรม บางทีแกอาจจะรู้ว่าใครไปที่หอพักชั้นเจ็ด และทุบตีเพื่อนร่วมห้องทั้งสองคนของฉันในคืนนี้”

เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าชายที่เจาะหู เสี่ยวหลัวรู้สึกราวกับว่าเขาได้พบต้นไม้ที่สูงใหญ่ ร่างกายของชายคนนี้มีความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่า จ้าว ชิงเหอ เลย

ชายที่เจาะหู ใช้นิ้วโป้งชี้ไปคอตัวเองทำท่าปาดคอและพูดอย่างหยิ่งยโสว่า “แน่นอนฉันรู้ เพราะว่ามันเป็นฉันเอง ที่พาพรรคพวกไปรุมกระทืบพวกมัน” จากนั้นเขาถ่มน้ำลายลงบนพื้นและพูดอย่างเหยียดหยามต่อว่า “เมื่อมองไปที่ไอขยะทั้งสองตัวนั่น มันก็ทำให้ฉันรู้สึกโกรธแล้ว เมื่อมองไปที่ใบหน้าของพวกมันที่บ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ มันช่างรู้สึกดีจริงๆ!”

“เหอะ! มันเป็นแกนี่เอง!”

เสี่ยวหลัวยิ้ม จากนั้นเขาก็พุ่งหมัดออกไปที่ใบหน้าของเจ้าคนที่เย่อหยิ่งนี้ในทันที

“ปัง!”

ชายที่เจาะหูได้ยินเสียงดังวิ้งๆอยู่ในหัว ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าโลกเกิดแผ่นดินไหว เขาเดินโซเซไปมาจนล้มไปกองอยู่ที่พื้น!

“พี่ชี!”

พรรคพวกของชายที่เจาะหู ทั้งห้าคนตะโกนออกมาด้วยความเป็นกังวล จากนั้นพวกเขาก็รีบเข้าไปล้อมเสี่ยวหลัว พร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างรุนแรง พวกเขาพร้อมที่จะพุ่งเข้าไปทุบตีคนผู้นี้ได้ทุกเมื่อ

ใบหน้าของเสี่ยวหลัวกลับเฉยชา เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ทำเพียงเตะเข้าไปที่หนึ่งในนั้น แล้วตบหน้าชายทั้งสี่ เรียงตัว จนในหัวของพวกมันส่งเสียงดังวิ้งๆ

ชายทัังสี่ต่างร่วงลงไปกองที่พื้นในทันที เสี่ยวหลัวเดินก้าวข้ามตัวของพวกเขาไปพร้อมกับเดินเข้าไปหาชายที่เจาะหู

ต้า เผิงเฟย,จ้าว ชิงเหอ และพรรคพวกคนอื่นๆ พวกเขาถูกออร่าในตัวของเสี่ยวหลัวสะกดข่มอย่างสมบูรณ์ กลุ่มของพวกเขาหลบหนีอย่างกับหมาที่ถูกน้ำร้อนลวก ในทันทีที่เสี่ยวหลัวเดินเข้ามา

เสี่ยวหลัวคว้าคอของชายที่เจาะหูแล้วดึงเขาขึ้นมาจากพื้น “พรรคพวกของแก มีใครบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง?”

“แม่มึงเถอะ!” ชายเจาะหูคำราม เขาส่งกำปั้นของเขาไปที่เสี่ยวหลัวในทันที

เป็นอีกครั้งที่เสี่ยวหลัวใช้หัวของเขาโขกกระแทกกับหัวของชายผู้นี้ แต่ครั้งนี้แรงที่เขาใช้มีมากกว่าครั้งก่อน หน้าผากของชายผู้นี้แตกออกมันแล้วทำให้ใบหน้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด

สู๊ดดด…..

ทุกคนสูดลมหายใจเย็นอย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้หญิงในชมรมอื่นๆ ในขณะที่พวกเธอเห็นเลือดสาดกระเซ็นพวกเธอไม่สามารถช่วยได้ ได้แต่กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว

สมาชิกชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า ตัวสั่นเทา แต่พวกเขาไม่ใช่พวกไก่อ่อน ที่เห็นเลือดแล้วจะแข้งขาอ่อนจนทำอะไรไม่ถูก มีใครบางคนตะโกนรีบวิ่งเข้าไปหาชายที่เจาะหู

“ไอเชี้…ย เอ้ย!”

คนอื่นๆก็เหมือนกัน ตอนนี้พวกเขาโกรธมากและตะโกนใส่เสี่ยวหลัว ราวกับพวกเขาเป็นกลุ่มของหมาป่าที่จ้องจะขย้ำเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น

จ้าว ชิงเหอ และ ต้า เผิงเฟย ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาไม่สามารถโดนหยามหมิ่นแบบนี้ได้ พวกเขาได้แต่กัดฟัดแล้วพุ่งตัวเข้าไปหาเสี่ยวหลัว

“เยี่ยมเลย เข้ามาสนุกกันเถอะ!”

เสี่ยวหลัวพูดอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาประกายแสงแห่งความโหดเหี้ยม เสี่ยวหลัวยกยิ้มที่มุมปาก เขาปลดปล่อยรอยยิ้มอันโหดร้ายราวกับร้อยยิ้มของปีศาจออกมา จากนั้นมือของเขาก็คว้าไปที่คอของชายที่เจาะหู แล้วยกร่างของมันขึ้นจากพื้น พร้อมกับโยนร่างนั้นไปทางด้านหน้าของคนที่กำลังวิ่งเข้ามา

“ปัง ปัง ~”

ร่างกายของชายที่มีน้ำหนักกว่าหนึ่งร้อยหกสิบปอนด์ บินตรงไปยังสมาชิกชมรมเจ็ดแปดคนในขณะที่พวกเขาวิ่งเข้ามา สมาชิกชมรมซานต้า เจ็ดแปดคนล้มลงเหมือนกับลูกบอลโบว์ลิ่งที่พุ่งเข้าชนขวดพินที่ถูกวางเอาไว้

นี่เขายังเป็นมนุษย์อยู่ใช่ไหม?

เมื่อผู้คนจากชมรมอื่นๆ เห็นภาพนี้ พวกเขาตกใจจนลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า การขว้างร่างคนราวกับของเล่นนั้น พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยจริงๆ

เมื่อเสี่ยวหลัวโยนร่างของชายเจาะหู ไปแบบนั้น เมื่อสมาชิกคนอื่นๆเห็นฉากนี้ มันก็ราวกับว่าเสี่ยวหลัวเขาได้เป่าเสียงแตรเพื่อเริ่มการต่อสู้

ในขณะนี้พลังที่ซุกซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเสี่ยวหลัวก็ปะทุขึ้นราวกับเขื่อนแตก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงความจริงที่ว่า คู่ต่อสู้ของเขาเป็นเพียงแค่นักศึกษาธรรมดาๆเท่านั้น เขาจึงเก็บออมพลังของเขาเอาไว้ส่วนหนึ่ง มิฉะนั้นด้วยหมัดเพียงหมัดเดียวเขาก็สามารถฆ่าคนพวกนี้ตายได้เลยทันที

สมาชิกของชมรมคนใดก็ตามที่ได้สัมผัสกับกำปั้นของเสี่ยวหลัว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนข้อต่อหรือที่อื่นใดก็ตาม พวกเขาจะได้รับผลกระทบของการสะท้อนกกลับที่รุนแรง สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากที่สุดคือ ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่สามารถบุกเข้าไปใกล้ในรัศมีสองหลารอบตัว เสี่ยวหลัวได้เลย แม้พวกเขาจะมีคนอยู่มากมาย ราวกับพื้นที่รอบๆตัวของเขาเป็นเขตแดนต้องห้ามอย่างไรอย่างนั้น แม้ว่าจะมีใครบางคนบุกทะลวงเข้าไปและระเบิดการโจมตีได้ แต่การโจมตีเหล่านั้นก็ไม่อาจสร้างความเสียหายต่อเสี่ยวหลัวได้อย่างแท้จริง

ร่างกายของผู้ชายคนนี้สร้างขึ้นมาจากโลหะหรือไง?

กลุ่มคนไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้เลย มันยากสำหรับพวกเขาที่จะหยั่งถึงความแข็งแกร่งของเสี่ยวหลัวด้วยรูปลักษณ์ที่ดูเหมือนกับผู้ชายธรรมดาๆ นอกจากความแข็งแกร่งทางร่างกายที่น่ากลัวแล้ว มันก็ราวกับว่าร่างกายของเขาหล่อขึ้นมาจากเหล็กอย่างไรอย่างนั้น

ไม่มีใครรู้นอกจากเสี่ยวหลัวว่าเขาได้รับ ร่างกายของราชาทหารรับจ้าง ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาไม่สามารถเทียบได้กับคนธรรมดาสามัญ มันต้องใช้กำลังอย่างน้อย 500-600 ปอนด์ ถึงจะทำอันตรายแก่เขาได้ และสมาชิกของชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า เหล่านี้ ก็เป็นเพียงแค่นักศึกษาธรรมดาและด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขามันก็เป็นการยากที่จะส่งกำลังให้ถึง 500-600 ปอนด์ ดังนั้นตอนนี้มันก็ดูราวกับว่าเสี่ยวหลัวจะอยู่ยงคงกระพัน เมื่ออยู่ท่ามกลางกลุ่มคนพวกนี้