ตอนที่ 122 ร่วงหล่น

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 122

ร่วงหล่น

 

ตุบ…ร่างของหยุนฟางนอนลงบนแขนของเซียนดาบที่พุ่งเข้ามารับร่างของศิษย์ตนเองเอาไว้อย่างปรอดภัย ดวงตาของมันมองไปทางเฒ่าประทับสวรรค์ด้วยความไม่พอใจครู่หนึ่ง ก่อนจะรับร่างของศิษย์มันกลับไปเงียบๆ

“คู่ต่อไปเริ่มประลองได้”เฒ่าประทับสวรรค์ว่าพลางมองไปทางไป๋จูเหวินโดยไม่สนท่าทีของเซียนดาบเลยแม้แต่น้อย ส่วนทางเซียนดาบนั้น มันไม่ได้มีท่าทีคุกคามแต่อย่างไร แม้จะโกรธที่ศิษย์ตนเองโดนเอาเปรียบ แต่มันก็ไม่บ้าพอจะทำลายงานประลองทิ้งด้วยอารมส่วนตัว

ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนนับเป็นกองกำลังหลักของอาณาจักร ยิ่งเป็นระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 อย่างพวกมันแล้วแทบจะเป็นตัวแปลสำคัญของการรบเลยก็ว่าได้ หากมันกับเฒ่าประทับสวรรค์เกิดปะทะกันขึ้นมา ทั้งสองฝ่ายย่อมบาดเจ็บอย่างมากเป็นแน่ และเมื่อถึงเวลานั้นก็เท่ากับว่าอาณาจักรของราชวงก์อู๋เสียกำลังหลักไปถึง 2 คน และนั่นก็มากพอที่จะทำให้อาณาจักรข้างเคียงมีช่องโจมตีพวกมันแล้ว ยิ่งยามนี้พวกมันอยู่ตรงชายแดน คนของอาณาจักรอื่นย่อมเห็นการต่อสู้อย่างแน่นอน

“……”ไป๋จูเหวินและเฟยหลงหลังจากได้รับสัญญาณให้เริ่มประลอง ทั้งสองคนกลับไม่ได้เข้ามาโจมตีกันในทันที พวกมันต่างยืนรักษาระยะราวกับทั้งสองฝ่ายต่างถืออาวุธเอาไว้กับมือก็ไม่ปาน

ผั๊วๆๆๆ ยังไม่ทันเข้าระยะดี ฝ่ามือของทั้งสองคนก็เข้าปะทะกันอย่างจังจนเกิดเสียงปะทะกันถี่ยิบ

“……”ในยามนี้ผู้ฝีมืออ่อนด้อยหน่อยต่างพากันขมวดคิ้ว พวกมันไม่เห็นเลยว่าตกลงพวกมันปะทะฝ่ามือกันไปกี่ครั้งแล้ว

“หึ…”เซียนดาบหัวเราะเยาะสั้นๆพลางยิ้มด้วยสีหน้าพึงพอใจ ชื่อเสียงฝ่ามือไวอันดับ 1 ของเฒ่าประทับสวรรค์สั่นคลอนแล้ว เพียงเท่านี้ก็ทำให้มันพึงพอใจไม่น้อยทำให้อารมที่คุกรุ่นเพราะศิษย์มันโดนเอาเปรียบเบาบางลงมากทีเดียว

“อัก..”เป็นฝ่ายเฟยหลงที่ถอยห่างออกมาก่อนเพราะตัวมันโดนฝ่ามือของไป๋จูเหวินซัดไปหลายฝ่ามือ แม้หลายคนจะมองไม่ทัน แต่ตัวเฟยหลงและเหล่ายอดฝีมือต่างมองเห็นอย่างชัดเจน ฝ่ามือประทับสวรรค์ที่มันภาคภูมิใจฝ่าเข้าไปโจมตีไป๋จูเหวินไม่ได้เลยแม้แต่ฝ่ามือเดียวแถมตัวมันยังโดนไปอีกหลายฝ่ามืออีกต่างหาก แถมแต่ละฝ่ามือเหมือนจะเบา แต่กลับสร้างความเสียหายให้ไม่น้อยเลย ท่าทางผู้ที่แข่งความเร็วกับไป๋จูเหวินได้คงมีเพียงอู๋หมิงที่ใช้พลังธาตุสายฟ้าเท่านั้นกระมัง

วูมม…เฟยหลงเปลี่ยนท่าฝ่ามือของมันเป็นท่าอื่น ในเมื่อมันแพ้ความเร็วก็ต้องงัดท่าอื่นของชุดฝ่ามือประทับสวรรค์มาใช้ ตัวเฟยหลงนั้นแม้จะใช้ฝ่ามือความเร็วสูงแต่ความจริงแล้วตัวมันมีพลังธาตุลมไม่ใช่ธาตุสายฟ้า ทำให้เร่งความเร็วได้ไม่เต็มที่เหมือนธาตุสายฟ้า แต่อย่างที่เฒ่าประทับสวรรค์ว่า ฝ่ามือประทับสวรรค์ไม่ได้มีเพียงความเร็ว

เฟยหลงรวมรวมไอเซียนเข้าไปในฝ่ามือพลาปล่อยออกมาอย่างรุนแรงเข้าใส่ไป๋จูเหวิน นี่คือฝ่ามือที่รุนแรงเป็นอันกับต้นๆในกระบวนท่าของฝ่ามือประทับสวรรค์ ฝ่ามือเทพสะท้าน แม้ความเร็วจะไม่เท่าฝ่ามือประทับสวรรค์แต่กำลังทำลายนั้นเหลือเฟือทีเดียว หากไป๋จูเหวินใช้ฝ่ามือประกายอัสนีต้านรับมีหวังได้กระดูกป่นเป็นแน่

ตูม!! แน่นอน ไป๋จูเหวินไม่รับฝ่ามือเทพสะท้านด้วยฝ่ามือประกายอัสนีอยู่แล้ว แถมมันยังอยากรู้ด้วยว่าความรุนแรงของฝ่ามือสะท้านอัสนีจะรุนแรงแค่ไหน ไป๋จูเหวินจึงใช้ฝ่ามือหิมะละลายกลางนภาต้านรับ แต่ดูเหมือนไป๋จูเหวินเองก็ประมาทฝ่ามือของเฟยหลงเกินไป ทันทีที่ฝ่ามือของมันกระแทกกับฝ่ามือของไป๋จูเหวินพลังเซียนสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่ไป๋จูเหวินในทันที นอกจากกำลังทำลายแล้วฝ่ามือเทพสะท้านยังแฝงพลังเซียนเข้าไปทำลายอีกฝ่ายด้วย

ซู่….. ฝ่ามือของเฟยหลงชะงักค้างอยู่กับที่ ส่วนพลังเซียนที่ส่งเข้าไปนั้นกลับมลายหายไปราวเรื่องโกหก

“เจ้าทำอะไร…”เฟยหลงเบิกตากว้าง ปกติแล้วเมื่อมันส่งพลังเซียนเข้าไปทำลาย อีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง บ้างก็ถึงตายเลยก็มี แต่ไป๋จูเหวินกลับยืนนิ่งไม่มีท่าทีบาดเจ็บแม้แต่น้อย แถมพลังเซียนที่มันส่งเข้าไปก็ราวกับจะไหลผ่านร่างมันไปเสียเฉยๆ

เมื่อครุ่ที่ไป๋จูเหวินไม่เป็นไรนั้นเพราะท่าหนึ่งของท่านน้าจิ้งจอกที่มีชื่อว่า จิ้งจอกผงาดกลางทุ่ง โดยท่านี้เป็นท่าใช้ฝ่ามือรับและสลายพลังแปลกปลอมในร่างของตนเองออกไปด้วย แม้ในร่างจะไม่มีพลังของผู้อื่นตกค้างแต่เฟยหลงพยายามแทรกพลังเซียนเข้ามาก็สามารถขจัดออกได้เช่นกัน

“เจ้าภูมิใจในความเร็วมากสินะ”ไป๋จูเหวินถามพลางปล่อยให้เฟยหลงหลุดจากท่าฝ่ามือหิมะละลายกลางนภาไป ทำให้มันรีบถอยห่างรักษาระยะในทันที

“……”เฟยหลงไม่ได้ตอบ ตัวมันเองเคยเชื่อมั่นในฝ่ามือประทับสวรรค์มาก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เพราะเมื่อครุ่ฝ่ามือประกายอัสนีได้ทำให้เห็นแล้วว่าฝ่ามือประทับสวรรค์ของเฟยหลงไม่ใช่ฝ่ามือเร็วอันดับ 1 เพียงแต่ก็ยังมีเส้นแบ่งบางๆเส้นหนึ่งทำให้มันยังรักษาความภาคภูมิใจเอาไว้ได้ นั่นคือตัวเฒ่าประทับสวรรค์นั้นย่อมสามารถซัดฝ่ามือประทับสวรรค์ได้รวดเร็วกว่าฝ่ามือประกายอัวนีของไป๋จูเหวินแน่ๆ แต่นั่นเป็นเพราะยังไม่มีผู้ใช้ฝ่ามือประกายอัสนีในระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 นั่นเอง

………. ราวกับทุกอย่างเงียบสงบไปชั่วอึดใจ พริบตานั้นร่างของไป๋จูเหวินปรากฎตรงหน้าเฟยหลงราวกับตัวไป๋จูเหวินอยู่ตรงนั้นมาก่อนแล้ว แถมเมื่อรู้ตัวอีกทีร่างของเฟยหลงยังโดนฝ่ามือของไป๋จูเหวินซัดจนลอยออกมาเสียแล้ว เพียงแต่ตัวเฟยหลงเองยังรู้สึกประหลาดใจราวกับว่าฝ่ามือเมื่อครู่นั้นมีบางอย่างขาดหายไป

เปรี้ยง! เสียงฝ่ามือของไป๋จูเหวินทำให้ดวงตาของเฟยลงเบิกค้าง ตัวมันโดนซัดฝ่ามือใส่จนลอยออกมาแล้วแน่ๆ เหตุใดจึงมีเสียงฝ่ามือลอยตามมาทีหลังได้ หรือว่าฝ่ามือของมันเร็วจนแม้แต่เสียงยังตามมาไม่ทันงั้นหรือ….

ไม่มีข้อกังขาไดๆกับชื่อฝ่ามือไวอันดับ 1 อีกต่อไป ยามนี้ฝ่ามือประทับสวรรค์ไม่อาจใช้ชื่อว่าฝ่ามือไวอันดับ 1 ได้อีกแล้ว ด้วยฝ่ามือที่ไวที่สุดของพยัคฆ์อัสนี อัสนีข้ามฟ้า สร้างความเหลื่อมล้ำอย่างใหญ่หลวงให้กับชุดกระบวนท่าฝ่ามือของไป๋จูเหวินและฝ่ามือของเฒ่าประทับสวรรค์ ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์เช่นนี้คงไม่มีใครสามารถตามทันได้ง่ายๆอย่างแน่นอน

“อัก..”เฟยหลงพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้งพลางรักษาอาการบาดเจ็บของตนอย่างเร่งด่วน ตัวมันแทบจะลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่พึ่งอยู่ระดับชำระกระดูกเท่านั้น ศัตรูตรงหน้ามันนั้นสามารถข้ามระยะห่างกว่า 3 ระดับได้เลยงั้นหรือ

ต้องบอกว่าโชคดีมากที่ไป๋จูเหวินยังไม่ได้ใช้ฝ่ามือเน้นกำลังทำลายของท่าน้าราชสีห์ ไม่อย่างนั้นเฟยหลงคงยืนไม่ไหวไปนานแล้ว แต่เพราะไป๋จูเหวินไม่ชอบการเอาเปรียบของเฒ่าประทับสวรรค์ ตัวมันเลยอยากจะปะทะโดยตรงกับชื่อเสียงของเฒ่าประทับสวรรค์ก็ว่าได้ และผลก็ออกมาอย่างที่เห็น ฝ่ามือประทับสวรรค์ตกลงมาเป็นฝ่ามือเร็วอันดับ 2 เสียแล้ว

“แค่เร็วอย่างเดียวล้มข้าไม่ได้หรอกนะ”เฟยหลงกัดฟันพลางตั้งท่าฝ่ามืออีกครั้ง คราวนี้มันไม่ได้ใช้ฝ่ามือเทพสะท้านแต่อย่างไรเพราะมันกำลังรวบรวมพลังเซียนอย่างหนักเพื่อใช้กระบวนท่าต่อไป เช่นนั้นกระบวนท่าของมันคงเป็นกระบวนท่าไม่ตายแล้วเป็นแน่

“กระบวนท่านั้นมัน…”เหล่ายอดฝีมือต่างพากันตะลึงตาค้าง ไม่นึกเลยว่าเฟยหลงจะสามารถฝึกกระบวนท่านี้ได้สำเร็จ

วูมมม ร่างของเฟยหลงทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับติดปีกบิน

“ไป๋จูเหวิน รีบตั้งรับซะ”หวงหลงตะโกนพลางลุกขึ้นยืน กระบวนท่าที่เฟยหลงใช้คือกระบวนท่าไม้ตายของเฒ่าประทับสวรรค์ที่ชื่อว่า จุติจากสวรรค์ เป็นฝ่ามือที่ปล่อยพลังโจมตีอย่างรุนแรงที่สุดของกระบวนท่าฝ่ามือประทับสวรรค์ แถมมันยังกินวงกว้างจนไม่อาจหลบได้หากยังอยู่ในลานประลองอีกต่างหาก ทำให้เหล่ายอดฝีมือต่างออกมาข้างหน้าเพื่อป้องกันพลังฝ่ามือให้กับคนของตนเอาไว้ก่อน นั่นหมายความว่าตัวไป๋จูเหวินที่อยู่กลางลานประลองแทบไม่มีโอกาสหลบเลย

วูม….วินาทีนั้นไป๋จูเหวินไม่ได้รวบรวมพลังเพื่อรับการโจมตีของเฟยหลง แต่มันเลือกที่จะโจมตีสวนไปต่างหาก

โบร๋ววววว…..  กรรรรร…….. เหล่าอสูรที่อยู่ด้านหลังกลุ่มผู้ฝึกอสุรถึงกับมีอาการแตกตื่น เนื่องจากพลังอสูรของไป๋จูเหวินกำลังทะยานขึ้นสูงอ่ย่างน่ากลัว ในเมื่ออีกฝ่ายใช้พลังออกมาจนหมด ไป๋จูเหวินเองก็คงไม่อาจประมาทได้ ตัวมันเร่งทั้งพลังวิญญาณและพลังอสูรขึ้นมาจนสุดขีด ก่อนจะเริ่มใช้ทั้งเคล็ดวิชาอสูรวัฒนะและเคล็ดโลหิตมังกรเพิ่มเร่งพลังวิญญาณและพลังอสูรให้เลยขีดจำกัดของตนไปอีก

“……”ยามนี้ภาพตรงหน้าราวกับความฝันไม่มีผิด ฝุ่นควันรวมทั้งเศษหินรอบตัวไป๋จูเหวินลอยขึ้นมาอยู่รอบๆตัวไป๋จูเหวินราวกับถูกพลังของไป๋จูเหวินดึงขึ้นมาก็ไม่ปาน

ซูมมม…. เฟยหลงที่เริ่มโจมตีไปแล้วไม่อาจรั้งกระบวนท่ากลับมาได้ เนื่องเพราะมันลอยอยู่บนอากาศอยู่แล้ว ทางเดียวของมันคือโจมตีต่อจนจบเท่านั้น ทำให้มันทิ้งร่างของมันลงมาพร้อมดันฝ่ามือไปข้างหน้าด้วยพลังเซียนทั้งหมดที่มี

ตูม!! ในจังหวะที่ฝ่ามือของเฟยลงกำลังร่อนลงมาโจมตี ไป๋จูเหวินที่รวมพลังอยู่ด้านล่างก็ปล่อยฝ่ามือของตนสวนไปทันที พริบตาที่คลื่นพลังปะทะกันฝุ่นทรายก็กระจายไปทั่วพื้นที่ปกคลุมจนทั่วบริเวณกลายเป็นสีน้ำตาลไปหมด

แต่จนฝุ่นทรายบางตาลงแล้ว เหล่าผู้ชมที่คิดว่าจะได้เห็นผลการประลองเสียแล้วต่างมองภาพตรงหน้าตาค้าง ร่างของเฟยหลงไม่ได้ตกลงมาถึงพื้น แต่กลับลอยอยู่กลางท้องฟ้าราวกับตรงกลางระหว่างมันกับไป๋จูเหวินมีคลื่นพลังขวางเอาไว้ก็ไม่ปาน

“…….”เฟยหลงกัดฟันแน่นพยายามใช้พลังเซียนกดฝ่ามือลงไปใส่ไป๋จูเหวินให้ได้ แต่แรงที่ปะทะกันตรงกลางกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย แถมด้านพลังของไป๋จูเหวินยังเริ่มขยายใหญ่ขึ้นอีกต่างหาก ทั้งๆที่พลังของเฟยหลงปล่อยออกไปจนจะหมดอยู่แล้ว แต่ไป๋จูเหวินกลับยังสามารถรักษาคลื่นพลังเอาไว้ได้เป็นเวลานานราวกับมันมีพลังเหลือเฟือ

ด้วยฝ่ามือ เพลิงผลาญคร้อยสำนึก ของท่านน้าราชสีห์ ทำให้ไป๋จูเหวินสามารถปล่อยคลื่นพลังที่รุนแรงกว่าฝ่ามือเพลิงพิโรธได้ แถมด้วยวิชาเพลิงผลาญคร้อยสำนึกเป็นวิชาที่ดึงเอาพลังที่ปล่อยออกไปกลับมาเช่นกัน ทำให้ไป๋จูเหวินสามารถปล่อยคลื่นพลังได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้จะกินพลังมากแต่ก็เป็นกระบวนท่าที่สร้างคามเสียหายอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง จนกระทั่งพลังเซียนของเฟยหลงเริ่มหมดลงแล้วไป๋จูเหวินก็ยังสามารถปล่อยพลังออกไปต่อได้จนคลื่นพลังของมันซัดเฟยหลงจนลอยไปทางหน้าผาด้านหลังในทันที แต่เพราะอยู่ๆเฒ่าประทับสวรรค์ก็กระโจนมารับร่างของศิษย์มันเอาไว้ทำให้เฟยหลงไม่ลอยไปกระแทกหน้าผาด้านหลังจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

วูม… ไป๋จูเหวินดึงพลังกลับมาเพื่อฟื้นฟูตนเอง ยามนี้รอบกายไป๋จูเหวินปรากฎประกายสีของพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาร่างกายที่พึ่งใช้เคล็ดวิชาอสูรวัฒนะไปนั่นเอง เพียงแต่ภาพของยอดฝีมือรุ่นใหม่ยามนี้ช่างงดงามน่าหลงไหลยิ่งนัก

แปะ….แปะ….. เสียงปรบมือเสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านของเซียนดาบ ศิษย์ของมันพึ่งโดนเฒ่าประทับสวรรค์เอาเปรียบ ตัวมันย่อมขุ่นเคืองใจไม่น้อย แต่ได้เห็นไป๋จูเหวินฉีกหน้าเฒ่าประทับสวรรค์เช่นนี้นับว่าถูกใจมันไม่น้อย ตัวมันเลยปรบมือออกมาอย่างชื่นชม ไม่นานคนรอบๆต่างก็ปรบมือตามจนเกิดเสียงปรบมือกึกก้องไปทั่วสากวัดเก่าแห่งนี้