บทที่ 611 หมดหนทางช่วยแล้ว / บทที่ 612 เห็นแล้วจะทำไม

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 611 หมดหนทางช่วยแล้ว

ปรากฏว่าตอนลุกขึ้นยืน จู่ๆ ร่างเฉินเมิ่งฉีก็เซแล้วล้มลงไป

“เฉินเมิ่งฉี!” เยี่ยมู่ฝานตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน รีบเข้าไปประคองเฉินเมิ่งฉีไปที่โซฟา กดจุดตรงใต้จมูกให้เธอ

“เมิ่งฉี ตื่นเร็ว อย่าทำให้ผมตกใจ…” ใบหน้าเยี่ยมู่ฝานเต็มไปด้วยความตกใจ

ผ่านไปสักพัก เฉินเมิ่งฉีค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา “พี่มู่ฝาน ฉันไม่เป็นไรค่ะ… ไม่เป็นไร… ก็แค่มึนหัวนิดหน่อย… น่าจะเป็นเพราะหลายวันมานี้อดนอน…”

เยี่ยมู่ฝานกำหมัดข้างลำตัวแน่น “ขอโทษนะ เพราะผมไร้ประโยชน์เอง จึงทำให้คุณต้องเหนื่อยแบบนี้”

“ได้ยังไง พี่มู่ฝานพี่ช่วยฉันตั้งเยอะแยะ” เฉินเมิ่งฉีแสดงสีหน้าเข้าอกเข้าใจ

เยี่ยมู่ฝานมองดูใบหน้าขาวซีดอ่อนล้าของหญิงสาว เขาเงียบไปสักพัก ในที่สุดก็ตัดสินใจพูดออกมา “เมิ่งฉี ไม่ต้องกังวลใจแล้ว ตอนนี้รีบกลับบ้านไปพักผ่อน เรื่องนี้มอบให้ผม ผมรับรองว่าจะช่วยคุณไปเอาราคาประมูลของตระกูลเยี่ยกรุ๊ปมาให้ได้!”

นัยน์ตาเฉินเมิ่งฉีฉายแววดีใจ แต่แสดงสีหน้าลำบากใจ “จริงเหรอ? แต่ว่า… พี่จะทำยังไง”

เยี่ยมู่ฝานมองเธอด้วยสายตาปลอบโยน “ผมมีวิธีของผมอยู่แล้ว ขอให้เชื่อผม ในเมื่อรับปากคุณแล้ว ผมก็ต้องทำให้ได้”

แววตาเฉินเมิ่งฉีเต็มไปด้วยประกายแห่งความชื่นชม “พี่มู่ฝาน พี่ดีกับฉันจริงๆ แค่มีพี่อยู่ข้างๆ ฉันก็สบายใจมาก ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น! รอบริษัทพวกเราแข็งแกร่งแล้ว แข็งแกร่งจนสามารถต่อสู้กับตระกูลเยี่ยได้ ถึงตอนนั้นพี่จะได้ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ได้รับความไม่ยุติธรรมอีก! ฉันจะทำให้ทุกคนรู้ว่าพี่มู่ฝานเก่งแค่ไหน โดดเด่นไหน!”

เยี่ยมู่ฝานได้ยิน ในใจเต็มไปด้วยความตื้นตัน “เด็กโง่ ผมขอแค่ให้คุณมีความสุขก็พอแล้ว… เพื่อคุณ… ให้ผมทำอะไรก็ยอมหมด!”

“พี่มู่ฝาน…” เฉินเมิ่งฉีทำท่าออดอ้อนเข้าไปใกล้ซบในอ้อมกอดมู่เยี่ยฝาน แต่ในใจเต็มไปด้วยความดูถูกและเย้ยหยัน

เธอรู้อยู่แล้ว แค่เธอลงมือเพียงนิดเดียว เยี่ยมู่ฝานก็จะเชื่อฟังทำตาม ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ยอมทำหมด

เมื่อจัดการเยี่ยมู่ฝานได้แล้ว เฉินเมิ่งฉีสายตาเป็นประกาย ลองหยั่งเชิงถาม “ใช่แล้ว พี่มู่ฝาน ช่วงนี้พี่ได้ข่าวของหวันหวั่นบ้างหรือเปล่า เธอสบายดีไหม”

ตอนนี้สถานะสูงขึ้นแล้ว ย่อมรอเวลาได้ ไม่รีบร้อนหาคนมีเงินมาดูแล กับเหอจวินเฉิงก็แค่เล่นๆ เท่านั้น

หลังได้พบซือเยี่ยหานผู้ชายระดับนั้นหลายครั้ง พอมาเห็นพวกผู้ชายธรรมดาพวกนั้น เธอทนดูไม่ไหวจริงๆ…

พอพูดถึงเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าเยี่ยมู่ฝานไม่ค่อยดี “ไม่รู้ ไม่ได้ติดต่อเลย พูดถึงเธอทำไม ยัยเด็กนั่นหมดทางช่วยแล้วจริงๆ! ได้ยินพ่อแม่บอกว่ากำลังคบอยู่กับแมงดาคนหนึ่ง กลัวว่าถึงตอนนั้นจะโดนเขาหลอกเอาแล้วยังต้องให้เงินเขาอีก!”

“แมงดา…” เฉิ่นเมิ่งฉีแสดงสีหน้าดีใจ

เล่นจนเบื่อแล้วก็ถูกทิ้งอย่างที่คิด?

แต่น่าเสียดาย… ไม่ได้มีโอกาสใช้เส้นสายสัมพันธ์นี้เพื่อเข้าถึงซือเยี่ยหานก่อนเธอจะถูกทิ้ง…

แต่ได้เห็นเยี่ยหวันหวั่นโชคร้าย เธอมีความสุขมาก

แล้วยังมีเจียงเยียนหรานจอมหยิ่งนั่นอีกคน ตอนนี้ก็น่าจะโดนเธอทิ้งแล้วเหมือนกัน…

ในขณะเดียวกัน ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง

“นักข่าวเกา เป็นยังไงบ้าง มีข่าวหรือยัง” เยี่ยหวันหวั่นถาม

คนที่นั่งตรงข้ามเยี่ยหวันหวั่นคือนักข่าวเกาเฟยจากมาร์สวีคเอ็น และเป็นปาปารัซซี่มือหนึ่งของวงการบันเทิงที่ช่วยให้หานเซี่ยนอวี่พ้นมลทินภายใต้การชี้แนะของเธอตอนนั้น

ก่อนหน้านี้มาร์สวีคเอ็นใกล้จะปิดตัวลงแล้ว เพราะเรื่องของหานเซี่ยนอวี่เลยกลับมาผงาดอีกครั้ง ตำแหน่งของเกาเฟยในวงการก็ค่อยๆ กลับมาเป็นดังเดิมอีกครั้ง

หลังเยี่ยหวันหวั่นเข้าร่วมกับกวงเย่าก็ติดต่อไปมาหาสู่เกาเฟยตลอด

………………………………………………………………

บทที่ 612 เห็นแล้วจะทำไม

“ผมว่านะผู้อำนวยการเยี่ย คุณมีความแค้นกับตระกูลเฉินเหรอ ผมเห็นช่วงนี้คุณเอาแต่เล่นงานจวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์เนี่ย” เกาเฟยลองหยั่งเชิงถาม

เยี่ยหวันหวั่นเอนหลังพิงเก้าอี้ นิ้วเรียวยาวลูบคลำถ้วยชากระเบื้องสีขาว พูดอย่างสบายๆ “ก็ถือว่าใช่”

เกาเฟยหัวเราะ ไม่ได้ถามอะไรมาก แค่พูดขึ้นมา “ผู้อำนวยการเยี่ยคุณเดาไม่ผิดเลย เฉินเมิ่งฉีกับเหอจวินเฉิงมีปัญหาจริงๆ แต่เธอระมัดระวังตัวมาก ผมตามเธอมาตั้งนานยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา จนกระทั่งอาทิตย์ก่อนค่อยได้เบาะแสมาเล็กน้อย ทั้งสองคนแอบนัดพบกันเป็นประจำที่โรงแรมแห่งหนึ่ง”

สายตาเยี่ยหวันหวั่นกรอกไปมาเล็กน้อย “ช่วยผมสืบเลขห้องหน่อย”

“ไม่มีปัญหา วางใจได้ ภายในอาทิตย์นี้ให้คำตอบคุณได้แน่นอน” เกาเฟยพูดอย่างสบายอารมณ์

เยี่ยหวันหวั่นยกถ้วยชาขึ้นมา แสดงความขอบคุณ “งั้นก็ขอบคุณมาก”

“เกรงใจไปแล้วผู้อำนวยการเยี่ย ถ้าจะขอบคุณควรเป็นผมที่ขอบคุณคุณ ตอนนั้นถ้าไม่ได้คุณ เกรงว่ามาร์สวีคเอ็นของพวกเราต้องปิดตัวลงแล้ว” เกาเฟยพูดจากใจจริง

หลังพูดคุยกับเกาเฟยเสร็จต่างคนต่างแยกย้าย เยี่ยหวันหวั่นจ้องข่าวเกี่ยวกับ ‘หัวกวง’ ในมือถือ สายตามีความเยือกเย็นแผ่ซ่าน…

ก่อนวันประมูลหนึ่งวัน

กลางดึก เยี่ยมู่ฝานเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานชั้นล่างสุด หยิบกุญแจพวงเก่าพวงหนึ่งออกมา

ตอนนั้นครอบครัวพวกเขาโดนไล่ออกมาเหมือนหมาจรจัด บ้านใหญ่ก็โดนเยี่ยเส่าอันยึดไป แต่ว่ากุญแจทุกอันในบ้านใหญ่ เขามีสำรองไว้หมด

หลายปีก่อนเขาไม่ระวังทำกุญแจที่บ้านหาย เลยให้คนไปทำพวงใหม่มา แต่ตอนหลังเขาหากุญแจพวงที่ทำหายเจอแล้ว

จากนิสัยของเยี่ยเส่าอัน เอกสารสำคัญขนาดนี้ ต้องไว้ในห้องทำงานที่บ้านแน่

เพียงเขาแค่แอบเข้าไปดูแวบเดียว ก็มีใครรู้ว่าแอบมาดูใบเสนอราคา…

หลังจากสูดหายใจลึก เยี่ยมู่ฝานก็ถือกุญแจออกไป

ที่บ้านใหญ่ตระกูลเยี่ยเงียบสงัด

นี่คือที่ที่เขาเติบโตมาตั้งแต่เด็ก เยี่ยมู่ฝานคุ้นเคยเป็นอย่างดี สามารถหลบหลีกยามเฝ้าเข้ามาในสนามได้อย่างง่ายดาย

ท่ามกลางความมืด สีหน้าเยี่ยมู่ฝานเต็มไปด้วยความโอหัง หึ นี่มันบ้านเขาชัดๆ แต่เข้ามาที่นี่ กลับต้องหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนขโมย…

เรื่องนั้นราบรื่นกว่าที่เขาคิดไว้เยอะเลย

เยี่ยมู่ฝานแอบเข้าไปในห้องทำงานอย่างรวดเร็ว แล้วเจอเอกสารการประมูล เห็นราคาประมูลโครงการหัวกวงสำเร็จ

เช้าวันรุ่งขึ้น

ที่จวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์

เหอจวินเฉิงนั่งหนีบขา สีหน้าเย้ยหยัน “จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวเลย คุณแน่ใจว่าเยี่ยมู่ฝานทำสำเร็จจริงนะ”

เฉินเมิ่งฉีนั่งอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ “รีบร้อนอะไร ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอ หรือว่าคุณไม่เชื่อฉัน”

เหอจวินเฉิงยิ้ม “ผมจะไม่เชื่อใจคุณหนูใหญ่เฉินทรงเสน่ห์ได้ยังไงกัน”

“คุณออกไปก่อนเถอะค่ะ อย่าให้เดี๋ยวเขามาแล้วเจออะไรเข้า!” เฉินเมิ่งฉีพูด จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราว เธอเริ่มกังวลใจ

“เห็นแล้วเขาจะทำอะไรผมได้ ไอ้คนไร้ประโยชน์นั่น…”

เหอจวินเฉิงแค่นเสียงเย็นชา กำลังจะโน้มตัวไปทางริมฝีปากเฉินเมิ่งฉี เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา

“น่าจะเป็นเยี่ยมู่ฝาน” เฉินเมิ่งฉีสีหน้าดีใจ รีบผลักเขาออกไป

“จิ๊ น่าเสียดายจริงๆ…” เหอจวินเฉิงลุกขึ้นยืนอย่างไม่พอใจ

เฉินเมิ่งฉีจัดแจงเสื้อผ้า จากนั้นพูด “เข้ามาได้!”

เยี่ยมู่ฝานผลักประตูเข้ามา ตอนที่เห็นเหอจวินเฉิงอยู่ด้วย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ผมมีเรื่องต้องการคุยกับเมิ่งฉีเป็นการส่วนตัวครับ” เยี่ยมู่ฝานพูด

นัยน์ตาเหอจวินเฉิงฉายแววมืดมน แต่ภายนอกลุกขึ้นยืนอย่างใจกว้าง “เหอะๆ เรื่องของฉันคุยจบพอดี คุยกันตามสบายเลย!”

………………………………………………………………