บทที่ 613 ไม่เกี่ยวกับเธอ
พอเห็นเยี่ยมู่ฝาน เฉินเมิ่งฉีก็รีบเข้าไปคล้องแขนเยี่ยมู่ฝานด้วยความสนิทสนม “พี่มู่ฝาน เรื่องเป็นยังไงบ้างคะ”
“สืบมาได้แล้ว ราคาประมูลของตระกูลเยี่ยคือ 78 ล้าน แค่พวกคุณเสนอราคาที่สูงกว่านี้ก็ได้โครงการนี้แล้ว” เยี่ยมู่ฝานพูด
เฉินเมิ่งฉีได้ยินเยี่ยมู่ฝานพูดอย่างมั่นใจขนาดนี้ เธอไม่กล้าเชื่อในทันที พูดอย่างสงสัย “พี่มู่ฝาน พี่แน่ใจนะ แน่นอนว่าฉันไม่ได้สงสัยพี่ เพียงแต่ โครงการนี้สำคัญต่อฉันมาก พี่ก็รู้…”
เยี่ยมู่ฝานพูดน้ำเสียงมั่นใจ “วางใจได้ ผมเห็นเอกสารการประมูลของตระกูลเยี่ยกรุ๊ปมากับตา ไม่ผิดแน่”
พอเฉินเมิ่งฉีได้ฟัง สายตาก็เป็นประกาย คิดว่าเยี่ยมู่ฝานอาศัยความคุ้นเคยก่อนหน้านี้ย่องเข้าไปในบ้านเยี่ยเพื่อดูเอกสารการประมูล
แบบนี้ ไม่น่าผิดพลาดจริง
เป็นอย่างที่คิด หลอกใช้คนโง่อย่างเยี่ยมู่ฝานเดินหมากนี้ถูกต้องแล้ว!
สีหน้าเฉินเมิ่งฉีเต็มไปด้วยความดีใจกอดเยี่ยมู่ฝาน “พี่มู่ฝาน พี่เก่งมากเลย! ขอบคุณนะคะ ขอบคุณพี่จริงๆ!”
เยี่ยมู่ฝานลูบผมเฉินเมิ่งฉี “เด็กโง่ จะมาพูดขอบคุณอะไรผม ผมควรจะขอบคุณที่ไว้ใจผม”
……..
ในมุมลับสายตาคนนอกห้องทำงาน หลังเยี่ยมู่ฝานไปแล้ว เหอจวินเฉิงค่อยๆ เดินออกมา ถุยน้ำลายใส่เบื้องหลังมู่เยี่ยฝานที่เดินออกไป
เป็นแค่ไอ้งั่งคนหนึ่ง ผยองอะไรกัน!
ผลักประตูเปิดออกเดินเข้าไปในห้องทำงาน เหอจวินเฉิงเข้าไปโอบเอวเฉินเมิ่งฉี “ที่รัก เป็นยังไงบ้าง”
เวลานี้เฉินเมิ่งฉีอารมณ์ดี พูดด้วยความมั่นใจ “78 ล้าน”
เหอจวินเฉิงได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “หึๆ คิดไม่ถึงเลย เยี่ยมู่ฝานลูกหลานรุ่นที่สองกลับแอบเอาราคาประมูลของตระกูลตัวเองมาให้!”
กรอกสายตาเล็กน้อย มองไปทางเฉินเมิ่งฉีพูดให้คำแนะนำ “ในเมื่อรู้ราคาประมูลแล้ว งั้นคุณก็เสนอไป 78.1 ล้าน ได้โครงการนี้มาโดยที่เสียเงินน้อยที่สุด”
เฉินเมิ่งฉีได้ยินก็ตอบด้วยความลังเล “แต่ว่า ถ้าเสนอราคาห่างกันน้อยขนาดนี้ กลัวว่าจะโดนมองออกว่าเรามีเบาะแสไหม ห่างกันแค่หนึ่งแสน นี่มันดูบังเอิญเกินไป จะไม่เป็นการเปิดเผยให้ตระกูลเยี่ยรู้ว่าพวกเรารู้ราคาประมูลของพวกเขาเหรอ”
เหอจวินเฉิงเปิดขวดไวน์ รินลงในแก้ว เขย่าเบาๆ ยิ้มแล้วพูด “เมิ่งฉี คุณรู้ราคาประมูลหมดแล้ว ทำไมไม่คว้าผลประโยชน์ที่มากที่สุดไว้ ถ้าเสนอสูงกว่านี้ ก็ไม่มีพื้นที่ทำกำไรแล้ว อีกอย่าง ถึงแม้ว่าจะสงสัยแล้วยังไง ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเสียหน่อย”
ราคาประมูลนี้เยี่ยมู่ฝานเป็นคนสืบ คนที่ขโมยความลับทางธุรกิจก็คือเยี่ยมู่ฝาน แน่นอนว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ
คิดมาถึงตรงนี้ แววตาเฉินเมิ่งฉีเป็นประกาย “ถูกต้อง คุณพูดมีเหตุผล!”
หัวกวงเป็นโครงการที่เธอรับผิดชอบลงทุนโครงการแรก สำหรับเธอแล้วสำคัญมาก แน่นอนว่ายิ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงามก็ยิ่งดี สามารถใช้ราคาที่คุ้มค่าเอาชนะตระกูลเยี่ยได้ นั่นคือเรื่องที่ดีมาก
เหอจวินเฉิงยกแก้วไวน์ “ถ้าอย่างนั้นก็ เชียร์ส! อวยพรให้คุณคว้าโครงการนี้มาให้ได้!”
เฉินเมิ่งฉียิ้มสวยงาม “เชียร์ส!”
…………
ผลการประมูลประกาศภายในวันนี้
ในห้องโถง ตัวแทนของหกตระกูลมารวมตัวกัน นั่งล้อมรอบโต๊ะยาว
ตัวแทนของตระกูลเยี่ยกรุ๊ปคือเยี่ยเส่าอันและเยี่ยอีอี ฝั่งตระกูลเฉินคือเฉินเมิ่งฉีและรองผู้จัดการใหญ่และทีมงาน
หลังเห็นเยี่ยอีอี เฉินเมิ่งฉีก็รีบทักทายด้วยความกระตือรือร้น “พี่อีอี ไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะ พี่ยังสวยมีเสน่ห์เหมือนเดิมเลย!”
“เมิ่งฉี…” เยี่ยอีอีมองไปทางคนที่เดินเข้ามา แล้วยิ้มตอบ “คนที่สวยจริงคือเธอต่างหาก โตเป็นสาวแล้วเปลี่ยนไปมาก เมื่อกี้ฉันเกือบจะจำไม่ได้!”
………………………………………………………………
บทที่ 614 ต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่นอน
“พี่อีอี พี่ล้อฉันเล่นอีกแล้ว! คุณสมบัติอย่างพี่อีอีฉันจะเทียบได้ยังไง!” เฉินเมิ่งฉีพูดประจบ
หลังทั้งสองคนพูดคุยกันเสร็จแล้ว ต่างกลับไปนั่งที่นั่งตัวเอง งานเปิดการประมูลเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ที่นั่งประธานตรงกลาง คนที่ทำหน้าที่ลุกขึ้นยืนประกาศผล “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผู้ร่วมประมูลทุกคน ตอนนี้ผมจะประกาศอย่างเป็นทางการ จากการพิจารณาของคณะกรรมการราคาประมูลของโครงการหัวกวง ตอนนี้ผู้ที่ชนะการประมูลคือ… ตระกูลเฉินกรุ๊ป! ราคาชนะประมูลอยู่ที่ 78.1 ล้าน!”
“คุณหนูใหญ่ พวกเราทำสำเร็จแล้ว!” รองผู้จัดการใหญ่ตระกูลเฉินกรุ๊ปและทีมงานในบริษัทต่างร้องดีใจ
เฉินเมิ่งฉียิ้มเล็กน้อยสีหน้าสงบนิ่ง
ส่วนหลายคนจากตระกูลเยี่ยกรุ๊ปที่นั่งตรงข้ามสีหน้าเปลี่ยนกันหมด
“อะไรนะ 78.1 ล้าน?”
“ทำไมถึงมากกว่าราคาประมูลของเราแค่หนึ่งแสน”
“บังเอิญเกินไปแล้ว!”
………
“คุณลุงเยี่ย พี่อีอี ขอบคุณที่ยอมให้ค่ะ!”
เฉินเมิ่งฉีไม่กังวลว่าตระกูลเยี่ยจะสงสัยอะไร เดินเข้าไปแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนทักทายพวกเยี่ยอีอี
เยี่ยอีอีปิดบังความสงสัยในแววตา พูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “ที่ไหนกัน เป็นพวกเธอที่ชนะเพราะความสามารถ”
“ถ้าอย่างงั้น พี่อีอี คุณลุงเยี่ย พวกเราไปก่อนนะคะ!” เฉินเมิ่งฉีเดินนำทุกคนในบริษัทออกไปด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
เก็บความโกรธที่มีต่อตระกูลเยี่ยนานขนาดนี้ ในที่สุดก็ได้ระบายออกมาแล้ว
หลังพวกเฉินเมิ่งฉีไป ใบหน้าเยี่ยเส่าอันมีสีหน้าเกรี้ยวกราด “เป็นลูกสาวของคนรับใช้ ยังกล้ามาทำยิ่งยโสต่อหน้าฉันอีก!”
โครงการเล็กๆ แบบนี้ที่จริงไม่อยู่ในสายตาตระกูลเยี่ยเลย แต่กลับโดนหักหน้าขนาดนี้ เขาจะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน
ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้นมา “ท่านประธาน บริษัทพวกเราต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่! ราคานี้ผิดปกติจริงๆ! ไม่มีทางที่จะบังเอิญห่างกันน้อยขนาดนี้”
เยี่ยเส่าอันดูถูก “ตระกูลเฉินอย่างพวกเขาจะมีปัญญาแฝงตัวมาเป็นหนอนบ่อนไส้ในตระกูลเยี่ยของพวกเรา?”
เยี่ยอีอีเงียบไปสักพักแล้วพูด “เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประมูลผ่านมือแค่ฉันกับคุณพ่อตั้งแต่ต้น ไม่มีบุคคลที่สามรู้ อีกอย่างเอกสารก็ล็อคอยู่ในห้องทำงานมาตลอด ไม่มีทางรั่วไหลออกไปได้!”
“งั้นแล้วเกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะมีขโมยแอบเข้ามาในบ้าน” เยี่ยเส่าอันพูดเสียงต่ำ
ไม่รู้ว่าเยี่ยอีอีนึกอะไรขึ้นมาได้ ลองถามขึ้นมา “พ่อคะ ถ้าหนูจำไม่ผิด ตอนนี้มู่ฝานทำงานอยู่ที่จวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ใช่ไหมคะ”
เยี่ยเส่าอันแสดงสีหน้าดูถูก “ใช่อยู่กับตระกูลเฉิน ตอนรับรองแขกเจอคนบอกว่าคุณชายบ้านตระกูลเยี่ยของพวกเราทำงานให้คนรับใช้อยู่หลายครั้ง เขาก็ช่างไม่รู้จักขายหน้าเลย!”
เยี่ยอีอีได้ยินก็เหมือนอยากจะพูดอะไร “ถ้าอย่างนั้น พ่อคะ เป็นไปได้ไหมว่าอาจจะเป็นมู่ฝาน…”
เยี่ยเส่าอันสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ลูกหมายความว่า… เยี่ยมู่ฝานขโมยดูราคาประมูล?”
เยี่ยอีอีพูด “เรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน หนูก็ไม่กล้าพูดมั่วๆ เพียงแต่ราคานี้มีปัญหาจริง แล้วบริษัทอื่นก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะแตะต้องเอกสารการประมูล ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นไปได้แค่คนในตระกูลเยี่ยของเรา!”
เยี่ยเส่าอันหัวเราะเย็นชาติดต่อกัน สีหน้าแสดงความภูมิใจ “หึ ดี ดีมาก! ไอ้เยี่ยมู่ฝาน! ถึงกับขโมยของในบ้านตัวเอง เอาไปบอกคนอื่น! ทำเรื่องเลวๆ ให้ตระกูลสูญเสียผลประโยชน์! เยี่ยเส่าถิง ดูสิ ครั้งนี้นายจะปกป้องลูกชายยังไง!”
พูดจบก็บอกเยี่ยอีอี “อีอี ตอนนี้ลูกสั่งการลงไป ให้ส่งคนไปตรวจสอบทันที! จะต้องหาหลักฐานมาให้ได้!”
………………………………………………………………