บทที่ 481 จับกุมผู้มีอิทธิพลสองคน
บทที่ 481 จับกุมผู้มีอิทธิพลสองคน
ครู่ต่อมา ภายในห้องสอบปากคำ
“ขอชาหน่อยได้ไหมครับ? คุณจับผมมาตั้งแต่ฟ้าสาง คุณต้องเอาอาหารเช้ามาให้ผมด้วยไม่ใช่เหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานมองเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงข้างหน้าด้วยสายตายั่วยุ
“ตึง!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สนใจตัวเอง เฮ่ออิงจึงตบโต๊ะอย่างแรง
“หยุดพล่ามเรื่องไร้สาระได้แล้ว! ตอบมา เมื่อคืนคุณซื้อบริการผู้หญิงขายตัวคนนั้นใช่ไหม…แค่ก ๆ คุณซื้อขายสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า?”
เธอมีท่าทางเขินอายเล็กน้อยเมื่อต้องพูดถึงเรื่องบัดสีบัดเถลิง
“ผมตอบความจริงไปแล้ว แต่คุณไม่เชื่อเอง ผมแค่เปิดห้องให้เธอพักแล้วกลับบ้าน แค่นี้จริง ๆ”
อวี้ฮ่าวหรานตอบตามจริง
“ถุย! คิดว่าฉันโง่เหรอ? เปิดห้องให้เธอพัก แต่คุณกลับนั่งอยู่บนเตียงแถมยังช่วยกันถอดเสื้อผ้าอีกเนี่ยนะ?”
เฮ่ออิงบันดาลโทสะเล็กน้อย เธอเห็นการกระทำของทั้งสองคนด้วยตาตัวเอง
“สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดเสมอไปก็ได้ ถึงจะอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ก็ไม่จำเป็นที่เราจะมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวก็ได้นี่”
“แต่พวกคุณตั้งใจไม่แสดงบัตรประชาชนเนี่ยนะ? กล้าดียังไงมาหลอกฉัน!”
“ช่างเถอะ…ผมพูดไปคุณก็ไม่เชื่ออยู่ดี รอจนกว่าข้อเท็จจริงจะออกมาเถอะ”
อวี้ฮ่าวหรานพูดไม่ออก เพราะเรื่องนี้มันคลุมเครือเกินไป
ไม่นาน เฉิงชิวอวี้ก็ถูกพาตัวไปที่ห้องสอบสวนตามลำพัง เฮ่ออิงอดเหลือบมองหน้าอกอวบอัดของอีกฝ่ายไม่ได้
“อิจฉาเหรอ?”
เฉิงชิวอวี้ถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอนนี้ใบหน้าของเธอยังคงซีดเซียวเล็กน้อย แต่ความสวยและความสง่ายังประจักษ์ชัด
“คุณ! หยุดพูดเรื่องไร้สาระกับฉันได้แล้ว!”
เฮ่ออิงรีบถอนสายตาอย่างรวดเร็วพร้อมพึมพำ แต่ไม่สามารถปกปิดความเขินอายบนใบหน้าได้
“ฮ่า ๆ คุณเรียนจบจากโรงเรียนตำรวจใช่ไหม?”
เฉิงชิวอวี้หัวเราะก่อนถามด้วยท่าทีสบาย ๆ
“รู้ได้ยังไง? ฉันเรียนจบมาสามเดือนแล้ว!”
“โอ้ นานแล้วสินะ”
“เดี๋ยวก่อน!” เฮ่ออิงตอบสนองทันที “ฉันต้องเป็นฝ่ายถามคุณสิ ไม่ใช่ให้คุณมาถามฉัน
เธอตบโต๊ะอย่างเต็มแรง
“ตอบฉันมาตรง ๆ เธอเสนอราคาให้เขาเท่าไหร่?”
“ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ พวกเราก็แค่คู่รักธรรมดา ๆ เท่านั้น”
เฉิงชิวอวี้ไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนก แต่กลับมองอีกฝ่ายพร้อมฉีกยิ้มกว้าง
“ไม่นานคุณก็จะรู้เองว่าเมื่อคืนเขากับฉันกำลังทำอะไร”
คำตอบนั้นทำให้เฮ่ออิงสับสนเล็กน้อย ตอนนั้นเองเจ้าหน้าที่หนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
“พี่เฮ่อ ท่านรองเรียกพวกเราไปพบ”
“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เฮ่ออิงตอบรับทราบทันที ขณะที่ในใจรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดี
ไม่กี่นาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเมื่อคืนก็มารวมตัวกันที่ห้องรองผู้บัญชาการ
“เหลือเชื่อ! หือ? พวกคุณสามคนเหลือเชื่อจริง ๆ!”
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง รองผู้บัญชาการก็อุทานเสียงดัง ไม่ว่าใครได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่านั่นคือคำพูดเสียดสี
“ท่านรอง…มีอะไรเหรอคะ?”
เฮ่ออิงรู้ตัวว่ามีเรื่องบางอย่างผิดพลาดจึงถามเสียงแผ่ว
“ฮ่า ๆ มีอะไร?”
รองผู้บัญชาการโยนเอกสารฉบับหนึ่งลงบนโต๊ะ
“พวกคุณจับประธานบริษัทชั้นนำสองคนในคราวเดียวกัน คิดว่าตัวเองเจ๋งนักเหรอ?”
“หือ?”
“แม่งเอ๊ย! เมืองฮ่วยอันมีผู้คนตั้งเยอะตั้งแยะ แต่พวกคุณกลับแส่หาเรื่อง จับผู้มีอิทธิพลสองคนในคราวเดียวกัน พวกคุณกำลังคิดอะไรอยู่!”
ดูเหมือนว่ารองผู้บัญชาการจะโมโหอย่างมาก
เฮ่ออิงยังคงสับสน เธอรีบหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นอ่านทันที
“อวี้ฮ่าวหราน…ประธานบริษัทเครือฮ่าวหราน? หนึ่งในสิบนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงในเมืองฮ่วยอัน? ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เป็นแบบอย่างให้กับคนหนุ่มสาวเอาเป็นแบบอย่าง? มีธุรกิจมูลค่า…ทำไมเลขศูนย์เยอะขนาดนี้?”
เธออ่านข้อมูลอย่างละเอียด แต่ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น
“ท่านรองคะ ท่านพูดจริง…เหรอคะ? ผู้…ผู้ชายคนนั้นคือ…”
เฮ่ออิงตกตะลึงเล็กน้อย
“อืม! คนที่คุณจับตัวมานั่นแหละ! แล้วอ่านเอกสารฉบับต่อไปดัง ๆ ให้ผมได้ยินด้วย!”
“ผู้จัดการทั่วไปและผู้ถือหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทเภสัชกรรมชิวเฮิง? ลูกสาวของท่านประธานเฉิงกัวอัน…”
เมื่ออ่านถึงตรงนี้ เธอก็อดตกใจไม่ได้
“บริษัทชิวเฮิงที่เป็นบริษัทผลิตยาสามัญประจำบ้านรายใหญ่ที่สุดในเมืองฮ่วยอันใช่ไหมคะ?”
“ถูกต้อง! และบริษัทเครือฮ่าวหรานก็เป็นบริษัทชั้นนำในเมืองฮ่วยอันด้วย”
รองผู้บัญชาการรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย
ตอนนี้เขานึกออกแล้วว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนั้น เขาเพิ่งเคยเห็นอีกฝ่ายบนหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ไงล่ะ!
“ฉัน…ฉันเป็นคนจับพวกเขา?”
เฮ่ออิงกะพริบตาขณะรู้สึกสมเพชชีวิตตัวเอง!
อะไรจะโชคดีขนาดนี้!
“นี่ฉันจับผิดคนอีกแล้วเหรอคะ?”
“คุณไปปล่อยตัวพวกเขาเดี๋ยวนี้! ถ้าพวกคุณทำไม่ได้ก็ลาออกไปไถนาซะ!”
รองผู้บัญชาการตอบอย่างประชดประชัน
“รับทราบค่ะ! ฉัน…ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
เฮ่ออิงก้มทำความเคารพก่อนเดินออกจากห้องทันที ในห้องสอบสวน ขณะที่เฉิงชิวอวี้กำลังจิบชา จู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก
“เป็นไงบ้างคะ? คุณตำรวจหญิงคนเก่ง?”
เธอทักทายด้วยรอยยิ้ม
“ฉัน…”
เฮ่ออิงรู้ตัวดีว่าต้องพูดอย่างนอบน้อม เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงผู้มีอิทธิพลในเมืองฮ่วยอัน
“ฉันจับผิดคน ขอโทษค่ะ”
“คุณไม่สอบสวนฉันต่อเหรอคะ?”
“ไม่ค่ะ! มันเป็นความผิดพลาดของฉันเอง ฉันทำให้คุณต้องเสียเวลา”
เฮ่ออิงก้มศีรษะเพื่อขอโทษอีกครั้ง
ล้อเล่นหรือเปล่า ฉันจับตัวลูกสาวประธานบริษัทยารายใหญ่ในเมืองฮ่วยอันเนี่ยนะ?
บ้าไปแล้ว!
“โอเค ก็แค่นั้นแหละ”
เฉิงชิวอวี้ลุกยืนขึ้น เธอไม่ต้องการต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าหน้าที่หญิงคนนี้อีก
“คุณ…คุณจะกลับเลยเหรอคะ?”
เฮ่ออิงหน้าซีดเมื่อได้ยินอย่างนั้น ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ เธออาจจะต้องกลับบ้านไปทำนาจริง ๆ แน่…
“ค่ะ”
เฉิงชิวอวี้พยักหน้าแล้วเดินไปที่ประตู ตอนนี้เธออ่อนเพลียมากและต้องการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม
ไม่นานอวี้ฮ่าวหรานก็ถูกปล่อยตัวเช่นกัน
ด้านหน้าสถานีตำรวจ
“ขอโทษค่ะ! ขอโทษจริง ๆ! ฉันจับคนผิดตามที่พวกคุณพูดจริง ๆ”
เฮ่ออิงขอโทษอีกฝ่ายไม่หยุด
อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะเบา ๆ ขณะมองเธอด้วยสายตาขี้เล่น
“ฮ่า ๆ ถ้าผมไม่ยกโทษให้ คุณจะต้องถูกลงโทษใช่ไหม?”
“ฉัน…ฉัน…”
“ช่างเถอะ พวกเราขอตัวก่อนนะครับ”
เมื่อเห็นท่าทางประหม่าปนรู้สึกผิดของอีกฝ่าย อวี้ฮ่าวหรานก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนเดินไปขึ้นรถ
จู่ ๆ เขาก็หันกลับมาราวกับนึกอะไรขึ้นได้ “ยังไงก็ตาม ห้ามบอกใครเรื่องนี้เด็ดขาด”
เขาไม่ต้องการให้ใบหน้าตัวเองแปะหราอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ฉันไม่บอกใครแน่นอน!”
เฮ่ออิงตกปากรับคำทันที หลังจากทั้งสองคนจากไป เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เหนื่อยจัง… คิดว่าจะจับขบวนการขายตัวได้แล้วซะอีก ที่ไหนได้ดันเจอแจ็กพอต จับคนใหญ่คนโตมาได้ถึงสองคนพร้อมกัน”
เธอรู้สึกท้อแท้เล็กน้อย
“พี่เฮ่อ คราวหน้าผมไม่ไปกับพี่แล้วนะ! มันเสี่ยงเกินไป…”
“ฉันด้วย! ฉันเพิ่งเรียนจบมาสามเดือน ถ้าถูกไล่ออกตอนนี้ มีหวังแม่ต้องฆ่าฉันแน่นอน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอพูดก่อนเดินกลับเข้าไปในสถานี
…