บทที่ 43 ผู้หญิงคนนี้กำลังซื้อบริการเขาเหรอ

รักหวานอมเปรี้ยว

“ผมประกาศต่อหน้านักข่าวขนาดนั้น จะไม่ใช่เรื่องจริงได้ไง?” ลาเต้ยักคิ้ว “พรุ่งนี้ผมจะเอาของชำร่วยมาให้เลขาซินดี้ลองชิมแล้วกันนะ”

“อ่าค่ะ……”

ลาเต้เป็นคนขี้เล่นมาตั้งแต่เด็กจนโต มายมิ้นท์คุ้นชินเสียแล้วล่ะ เธอสะบัดมือเขาออกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง

“ขอชากับกาแฟไม่ใส่น้ำตาลให้ด้วยนะครับ” เมื่อสั่งเสร็จ ลาเต้ก็เดินตามมายมิ้นท์เข้าไปในห้องทำงาน “มินท์ ทำงานเสร็จแล้ว เรามาคุยเรื่องซื้อบริษัทดีย์คูเปอร์กันเถอะ เมื่อเช้าฉันค้นข้อมูลของบริษัทดีย์คูเปอร์มา…..

เลขาซินดี้มองลาเต้เดินเข้าไปในห้องทำงาน ไม่นานประตูก็ปิดลง เสียงพูดของเขาก็ถูกปิดกลั้นเอาไว้ด้วย

เธอบีบเอกสารในมือแน่น สายตาพลันหม่นแสงลง

……

มายมิ้นท์ยังคงว้าวุ่นเพราะเรื่องที่ “เสียตัว” ไปเมื่อคืน

เธอไม่สามารถรวบรวมสมาธิทำงานได้เลย ลาเต้พูดอะไรออกมาเธอก็ไม่ได้ฟังเข้าหู สุดท้ายก็ทนรำคาญอีกฝ่ายไม่ไหว จนต้องถีบออกไปจากห้อง

จนถึงช่วงพักเที่ยง มายมิ้นท์ถึงได้สงบลงมาบ้าง

เธอหย่ากับเปปเปอร์แล้ว และเธอก็โสด ต่อให้นอนกับผู้ชายแปลกหน้า ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร

เรื่องที่ทำให้มายมิ้นท์ตะขิดตะขวงใจก็คือเธอดื่มเก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เมื่อคืนยังไปอวกที่ห้องน้ำมาแล้วด้วย สติของเธอยังอยู่ครบ แต่ทำไมหลังจากนั้นถึงเมาได้ล่ะ?

ส่วนเรื่องที่เธอไปรู้จักกับผู้ชายคนนั้น จนพากันเข้าห้องได้ยังไง เธอเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน

มายมิ้นท์นึกไปถึงตอนที่ออกมาจากห้องนั้นเมื่อช่วงเช้า เธอจึงคลำหากระดาษที่พับไว้ในกระเป๋าออกมา พร้อมกับกดค้นหาเบอร์ที่เขียนเอาไว้ลงในวีแชท พร้อมกับกดเพิ่มเป็นเพื่อน

ไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับเธอเป็นเพื่อน

ไม่รอให้อีกฝ่ายพิมพ์อะไร มายมิ้นท์ก็ชิงส่งข้อความไปก่อน

มายมิ้นท์: เราสองคนต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เรื่องเมื่อวานก็ถือซะว่าเป็นความสนุกระหว่างผู้ใหญ่แล้วกัน ลืมๆมันไปซะ มันดีต่อทั้งตัวคุณและตัวฉัน

มายมิ้นท์:เลขบัญชีที่โอนไปคือ 88888 นะ

ขณะเดียวกัน เปปเปอร์ยังคงดูแลส้มเปรี้ยวอยู่ที่โรงพยาบาล

เมื่อวานหลังจากที่รู้ว่าส้มเปรี้ยวถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน เขาเป็นกังวลมาก พอมาถึงโรงพยาบาลถึงได้รู้ว่าส้มเปรี้ยวไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่หัวแตกเท่านั้น บวกกับกระดูกขาทั้งสองข้างแตกหักนิดหน่อย จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลไปสักพัก

ไม่นานส้มเปรี้ยวก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอจับมือเขาเอาไว้ด้วยดวงตาแดงก่ำ เอ่ยพูดด้วยเสียงที่เหมือนจะร้องไห้ว่า “เปปเปอร์ฉันกลัวจังเลย คุณอยู่กับฉันได้ไหม?”

เปปเปอร์ทำใจแข็งปฏิเสธไม่ลง จึงให้ผู้ช่วยเหมันตร์พาคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ไปส่งที่บ้าน ส่วนเขาอยู่เฝ้าที่โรงพยาบาลต่อ

เช้าต่อมาเมื่อเห็นใบหน้าของส้มเปรี้ยวยังซีดเซียว เขาจึงทำได้เพียงให้ผู้ช่วยเหมันตร์เอาโน้ตบุ้คมาให้เพื่อสะสางงาน พร้อมอยู่เฝ้าส้มเปรี้ยวไปด้วย

ช่วงเที่ยง โทรศัพท์ของเปปเปอร์ก็สั่นเพราะมีข้อความจากวีแชทถูกส่งเข้ามา

เขากดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นวีแชทส่วนตัว เดาว่าคงเป็นมายมิ้นท์ที่แอดมา

เปปเปอร์กดรับมายมิ้นท์ได้ไม่ทันไร ขณะที่กำลังคิดว่าควรพูดถึงเรื่องเมื่อคืนยังไงดี มายมิ้นท์ก็ส่งข้อความ พร้อมกับเลขบัญชีที่โอนเงินมาให้เขา

เมื่อได้อ่านข้อความของมายมิ้นท์ หัวคิ้วของชายหนุ่มก็ค่อยๆมุ่นเข้าหากัน ใบหน้าก็เริ่มขุ่นมัว

ผู้หญิงคนนี้…….

เขาสะดุ้ง เมื่อมีข่าวบางอย่างอย่างเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ

เมื่อเห็นว่าเนื้อข่าวพูดถึงมายมิ้นท์ เขาก็เผลอใจลอยกดเข้าไปอ่าน จนได้เห็นคลิปวิดีโอหนึ่ง ในคลิปลาเต้โอบมายมิ้นท์เอาไว้ พร้อมกับยืนยันข่าวลือระหว่างมายมิ้นท์กับราเม็ง ทั้งยังประกาศอย่างมาดมั่นว่ากำลังคบหากับมายมิ้นท์ แถมยังไม่ลืมประชดประชันเขาด้วย

ข่าวนี้ รวมไปถึงคำพูดเหลวไหลที่มายมิ้นท์พูดออกมาตอนเมามาย ยิ่งทำให้ในใจของเปปเปอร์เกิดความรู้สึกหงุดหงิดใจแปลกๆ

ส้มเปรี้ยวเพิ่งวิดีโอคอลกับคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เสร็จ จึงอารมณ์ดี ในตอนที่กำลังเอ่ยถามเปปเปอร์ว่าข้าวกลางวันกินอะไรดี กลับพบว่าอุณหภูมิรอบตัวของเปปเปอร์ต่ำลงถนัดตา รวมไปถึงสีหน้าแสนอึมครึมของเขา เธอกำผ้าห่มแน่น

หรือว่า จะเป็นเพราะมายมิ้นท์อีกแล้ว?

“เปปเปอร์” ส้มเปรี้ยวเอ่ยพูดขึ้นมาเสียงนุ่ม “ฉันเห็นคุณเอาแต่จ้องโทรศัพท์ กำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า? ไม่อย่างนั้นคุณกลับไปทำงานที่บริษัทก่อนก็ได้นะ ฉันอยู่คนเดียวได้”

เปปเปอร์ละสายตาจากโทรศัพท์ “เปล่าหรอก วันนี้ผมจะอยู่เฝ้าคุณทั้งวัน”

“ค่ะ” ส้มเปรี้ยวยิ้มออกมา “งั้นเที่ยงนี้คุณอยากกินอะไร?”

เธอทำทีเป็นสั่งเดลิเวอรี่ เมื่อเปิดโทรศัพท์อีกครั้ง ก็”เผลอ” กดเข้าไปในแอพข่าว เมื่อเห็นข่าวนั้น ก็อุทานออกมาอย่างตกใจว่า “เปปเปอร์คุณเห็นข่าวหรือยัง คุณมายมิ้นท์กับลาเต้คบหากันล่ะ”

“อืม ผมเพิ่งเห็นข่าวเด้งขึ้นมาเมื่อกี้”

“ก่อนหน้านี้คุณมายมิ้นท์ดึงดันจะหย่ากับคุณ ฉันยังรู้สึกผิดต่อเธออยู่เลย แต่ว่าตอนนี้ฉันสบายใจแล้วล่ะ”

ส้มเปรี้ยวเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณมายมิ้นท์หาความสุขของตัวเองเจอแล้ว ไม่แน่งานแต่งอาจจะจัดก่อนเราก็ได้นะ”

ดวงตาของเปปเปอร์ทอแววลุ่มลึก ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกมาว่า “ลาเต้ไม่เหมาะสมกับเธอ”

ส้มเปรี้ยวชะงักนิ่งไป ไม่นานก็พูดยิ้มๆว่า “ทำไมล่ะ? พวกเขาโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อีกอย่างคุณแม่ของลาเต้ก็ปฏิบัติกับมายมิ้นท์เหมือนลูกสะใภ้มาตลอด ลาเต้เองก็เคยพูดกับเพื่อนว่า ขอแค่มายมิ้นท์พูดออกมา ต่อให้มายมิ้นท์อยากแต่งงานวันนี้ เขาก็พร้อมจะแต่ง”

“เปปเปอร์ คุณรู้สึกไม่ดีที่คุณมายมิ้นท์มีแฟนเหรอ?” ส้มเปรี้ยวเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง ใบหน้าขาวซีด ดูอ่อนแอจนน่าสงสาร

“ไม่ใช่” เปปเปอร์เอ่ยขึ้นมา

ลาเต้เหมาะสมกับมายมิ้นท์หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรใส่ใจ

ในเมื่อมายมิ้นท์ส่งข้อความมาบอกว่า ให้ลืมเรื่องเมื่อวานไป ไม่ต้องการให้เขารับผิดชอบ งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ

เปปเปอร์เดินมาหยุดข้างเตียง ใช้ฝ่ามือลูบผมส้มเปรี้ยว เอ่ยพูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “ลาเต้เป็นคนแพรวพราว ผมก็พูดไปตามประสา ที่ผมแต่งงานกับมายมิ้นท์ก็เพราะว่าคุณ ผมไม่มีทางรู้สึกอะไรกับเธอแน่นอน คุณต่างหากคือผู้หญิงที่ผมรักและอยากทะนุถนอม”

ชายหนุ่มจูบหน้าผากของเธอ “คนดี พักผ่อนเยอะๆนะ ผมว่าพอถึงตอนนั้นคุณคงไม่อยากนั่งรถเข็นหมั้นกับผมหรอกใช่ไหม?”

ส้มเปรี้ยวรีบส่ายหน้าทันที พูดพึมพำว่า “แน่นอนว่าไม่ แบบนั้นคงขายหน้าแย่! งั้นฉันไม่กินข้าวเที่ยงแล้วดีกว่า ฉันกลัวว่าถ้านอนเฉยๆไม่ออกกำลังกาย ถึงตอนนั้นอาจจะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวย คุณอยากกินอะไร ให้ฉันสั่งให้ไหม”

เปปเปอร์เปิดโทรศัพท์ ไม่นานก็สั่งข้าวเที่ยงอย่างรวดเร็ว “ไม่กินไม่ได้ ผมสั่งของโปรดคุณมาทั้งนั้นเลยนะ”

“เปปเปอร์คุณจงใจนี่นา คิดจะขุนฉันให้อ้วน ให้ฉันดูขี้เหร่ใช่ไหมล่ะ” ส้มเปรี้ยวทุบชายหนุ่มไปที น้ำเสียงเต็มไปด้วยแววออดอ้อน

เธออิงแอบอยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่ม รับรู้ได้ถึงความสุขเต็มเปี่ยม

ความจริงแล้วเมื่อเช้าตอนที่เปปเปอร์ยังหลับอยู่ เธอตื่นขึ้นมารอรับรูปภาพจากอีกฝ่าย เพื่อที่จะให้สำนักข่าวเอาไปเผยแพร่ คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่เพียงแค่ไม่ส่งรูปมา กลับกันยังคืนเงินให้เธอด้วย

ยังดีที่คลิปเสียงท่อนนี้สามารถสร้างแรงโหมกระพือให้มายมิ้นท์ได้ไม่น้อยเลย

“ฉันขอดูหน่อยคุณสั่งอะไรไปบ้าง” ส้มเปรี้ยวอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ของเปปเปอร์มาดูเมนูที่เขาสั่ง ทว่ารอยยิ้มของเธอพลันแข็งค้าง

อาหารพวกนี้ ไม่ใช่ของโปรดของเธอ……..

“ประหลาดใจล่ะสิ?” เปปเปอร์หัวเราะเสียงเบา “คุณสลบไปตั้งหลายปี แต่ของที่คุณชอบ อาหารที่คุณชอบ คุณเคยบอกผมเอาไว้ตอนที่เขียนจดหมายหากัน และผมก็จำได้ทุกอย่าง ผมรู้ว่าคุณชอบกินมะม่วง ผมเลยสั่งพุดดิ้งมะม่วงมาให้”

ทั้งๆที่เธอเผาจดหมายพวกนั้นทิ้งไปแล้ว ทำไมเขายังจำเนื้อหาและเพื่อนในจดหมายคนนั้นได้อีก!

ส้มเปรี้ยวฝืนข่มกลั้นความรู้สึกจี๊ดๆในใจเอาไว้ กอดชายหนุ่มพร้อมกับพูดเสียงนุ่มว่า “เปปเปอร์ ความชอบของคนเราน่ะ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานั่นแหละ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจดจำแค่สิ่งที่ฉันชอบในปัจจุบันก็พอแล้ว โอเคไหม?”

เปปเปอร์ไม่ได้คิดอะไรมากจึงตอบอืมไป

ส้มเปรี้ยวพอใจแล้ว

เธอเงยหน้ามองริมฝีปากบางของชายหนุ่ม ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไปโอบรอบคอของเขา แล้วดึงเขาลงมาเพื่อที่จะจูบ