บทที่ 48 เธอเคยรักนาย

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

ควีนจงใจพูดว่าตัวเองเอาบทไปให้เทาเท่ดูที่โรงพยาบาล อยากดูว่าหลินจือได้ยินว่าเทาเท่อยู่โรงพยาบาลจะเป็นห่วงเทาเท่หรือไม่

อย่างไรก็ตามความสนใจของหลินจืออยู่ที่บทเท่านั้น:“เวอร์ชันนี้ก็ได้เหรอ?ดีจัง!งั้นคุณจัดการเวลาประชุมละกัน ทุกคนร่วมกันถกเถียงดีที่สุด”

ควีนได้แต่บอกว่า:“ค่ะ ฉันจัดเวลากับสถานที่เรียบร้อยค่อยติดต่อคุณอีกที”

เห็นว่าหลินจือจะวางสายแล้ว ควีนจึงพูดไปอีกว่า:“หลินจือ ประธานเทาเท่เข้าโรงพยาบาล เพราะว่าท้องมีปัญหา”

“อ้อ?เหรอคะ?”หลินจือกลับตอบแบบนี้มา แต่น้ำเสียงของเธอเกรงใจมาก“งั้นคุณบอกให้เขาฟื้นตัวไวๆแทนฉันด้วยนะคะ”

ควีนถอนหายใจเงียบๆ ได้แต่วางสาย

ควีนเดินไปด้านข้างลิฟต์กำลังจะยกมือขึ้นกดปุ่ม ประตูลิฟต์เปิดเวลานี้พอดีโซเมนล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาจากข้างในด้วยสายตาที่มองมา

หลังจากเห็นเธอโซเมนก็ยิ้มทักทายเธอ:“ไง น้องควีน”

โซเมนก็ไม่รู้เป็นอะไร ชอบเรียกเธอว่าน้องควีน ทำดูเหมือนว่าทั้งสองคนสนิทกันมาก

แต่ควีนก็รู้ โซเมนเป็นผู้ชายชู้ จีบสาวสำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องปกติ

ดังนั้นเธอจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วทักทายเขา:“สวัสดีค่ะ ประธานโซเมน ”

อย่างไรก็ตามถึงรู้ว่าเขาแค่ทักทายเฉยๆ แต่หน้าของควีนก็อดไม่ได้ที่จะแดงเล็กน้อย ใจก็เต้นแรงอย่างทนไม่ไหว

โซเมนเดินหน้าเข้ามาจีบเธอต่อ:“ย้ายมาทำงานที่ผมไหมล่ะ?ประธานเทาเท่พวกเธอเป็นไงบ้าง นี่พาตัวเองเข้าโรงพยาบาลอีกแล้วเหรอ”

ควีนพูดอย่างกล้าหาญว่า:“ขอบคุณที่เห็นค่าค่ะ ฉันยังมีงานต้องทำ ไปก่อนค่ะ”

เธอพูดจบก็รีบเดินไปในลิฟต์ ยกมือขึ้นกดปิดประตู

ประตูลิฟต์หนาสองบานปิดลง หลังจากที่ถูกกั้นกับคิ้วสวยงามของหนุ่มหล่อควีนจึงถอนหายใจยาวๆ

เธอเงยมองไปที่ตัวเองในกระจกลิฟต์ แว่นตากรอบดำขนาดใหญ่ คิ้วบางนั้น ชุดสูททำงานดำขาวเทาที่ไม่เคยเปลี่ยน ห่างกันราวฟ้ากับดินกับคนที่มีความสามารถมากอย่างนั้น

รักคนที่เป็นไปไม่ได้ ทั้งหวาน และขมขื่น

หลินจือฟังคำบอกนัยของควีนออก แต่เธอเลือกที่จะไม่สนใจ

เธอไม่สนใจแล้วยังไง?

ในฐานะที่เป็นภรรยาเก่าที่หย่าไปกับเทาเท่ เธอยังต้องสนใจเทาเท่อีกด้วยเหรอ?

และเทาเท่ก็ไม่ได้ขาดความสนใจจากเธอ สิบนาทีก่อนซูซีอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมเทาเท่ก็ขึ้นฮอตเสิร์ช

หลินจือไม่สนใจเรื่องซุบซิบพวกนี้เท่าไหร่นัก ข่าวของเธอก็เป็นนานิที่ส่งมาให้เธอ

นานิเป็นคนในวงการบันเทิง แน่นอนว่าสนใจเรื่องพวกนี้มาก

หลินจือดูฮอตเสิร์ชถึงได้รู้ว่าที่เทาเท่เข้าโรงพยาบาลเมื่อคืนเพราะว่าปวดท้อง เธอคิดในใจ คงไม่ได้โกรธเธอจนเข้าโรงพยาบาลหรอกนะ?

เสียงที่นานิส่งมาให้เธอนั้นดูถูกซูซีมาก:“ซูซีนี่ใช้ได้จริงๆ กลัวว่าเธอจะไม่ได้แต่งงานเหรอ?คนรักไม่สบาย ใครมันจะไปสนใจแต่งตัวซะสวยงามประณีตขนาดนี้อีก?ใครมันจะไปสวมชุดเหมือนจะถูกถ่ายรูปกลางถนนได้อีก?แค่มองก็รู้ว่าตั้งใจจัดฉากจากนั้นให้ตัวเองขึ้นฮอตเสิร์ช”

หลินจือไม่พูด เธอนึกถึงภาพครั้งนั้นที่เทาเท่ปวดท้องกลางดึกแล้วเข้าโรงพยาบาล

เธอผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่ยังจะห่วงภาพลักษณ์อะไรกัน ทั้งหัวเธอมีแต่ความตื่นตระหนกและเป็นห่วงเทาเท่ แค่สวมเสื้อคลุมแล้วไปโรงพยาบาลพร้อมกับรถพยาบาล

หลังจากได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลเทาเท่แล้วว่าไม่เป็นอะไรหนักเธอจึงพบว่า ที่ขาตัวเองก็ยังสวมรองเท้าในบ้าน

แต่ไม่ว่าซูซีจริงใจกับเทาเท่แค่ไหน แค่เทาเท่รักเธอก็พอแล้ว

ก็แค่รัก อะไรก็ยอมทุกอย่าง

ตอนที่โซเมนเคาะประตูเข้ามาห้องคนไข้ของเทาเท่ ซูซีกำลังหยิบโจ๊กที่ตัวเองต้มออกมาจากกล่องอาหารอย่างจิตใจงาม

โซเมนเข้าไปแล้วก็พิงปลายเตียงของเทาเท่อย่างขี้เกียจ หรี่ตาเยาะเย้ยซูซี:“นี่ ซุปตาร์ซูซี คุณจิตใจงามจริงๆนะ โจ๊กนี้แค่ดมกลิ่นก็หอมติดจมูกแล้ว”

“ผมยังไม่กินข้าวเช้าเลย เอาข้าวเช้าให้ผมด้วยสิ”

ซูซีเหลือบมองเขาอย่างเซ็งๆ กัดฟันแล้วฉีกยิ้มออกไปให้โซเมน:“ประธานโซเมนขาดคนหุงข้าวด้วยเหรอ”

โซเมนมาตอนไหนไม่มา ทั้งๆที่เธอเพิ่งมาถึงด้วยซ้ำ แล้วเธอจะอยู่กับเทาเท่สองต่อสองได้ไง

ยากมากที่จะมีโอกาสแบบนี้ที่เทาเท่ไม่ยุ่งจากงาน เธออยากอยู่กับเทาเท่สองคน

ซูซีก็คิดว่า ปีที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเทาเท่ก็ธรรมดามาก สาเหตุส่วนใหญ่คือเทาเท่ยุ่งมากไป ไม่ประชุม ก็ทำงานต่างจังหวัด

บวกกับครึ่งปีก่อนตัวเธอเองก็มีงานละครกับงานบางอย่างอยู่ด้วย พวกเธอสองคนจึงใช้เวลาร่วมกันน้อยมาก

และตอนที่ในใจเธอไม่พอใจที่โซเมนมา เทาเท่ก็รับโจ๊กที่เธอยื่นให้แล้วพูดกับเธอว่า:“ผมมีเรื่องงานต้องคุยกับโซเมน คุณกลับไปพักก่อนเถอะ ขอบใจนะ”

ซูซีกัดฟันในใจ แต่ใบหน้าได้แต่ทำท่าทางระมัดระวังตัวอย่างใจกว้าง

เธอลุกขึ้นหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วบอก:“งั้นคุณต้องกินโจ๊กน อย่าได้เหนื่อยเกินไปล่ะ”

เทาเท่พยักหน้า:“โอเค”

โซเมนที่อยู่ข้างๆโบกมือให้ซูซี:“ขอโทษนะซุปตาร์ซูซี เดี๋ยววันไหนเลี้ยงข้าวเป็นการขอโทษคุณ”

ซูซีหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้วหันกลับออกไป

ใครอยากให้โซเมนเลี้ยงข้าวเธอกันล่ะ คนเจ้าชู้อย่างโซเมนนี้เธอไม่เคยแล

เทาเท่ดีมาก เป็นคนขาวสะอาดมากในปัญหาด้านผู้หญิง ไม่เคยมีผู้หญิงเละเทะมาเลยในหลายปีนี้

ยกเว้น ยกเว้นยัยแพศยาหลินจือนั่นที่ปีนขึ้นเตียงเขาอย่างหน้าด้าน!

ซูซีกัดฟันด้วยความเกลียดชังเมื่อเธอนึกถึงหลินจือ การมีอยู่ของหลินจือเหมือนกับหนามเส้นหนึ่ง แทงไปในใจเธอแรงๆ

ถึงแม้เธอหย่ากับเทาเท่แล้ว หนามนั้นก็ยังดึงออกไม่ได้

และยิ่งตอนนี้หลินจือกลับประเทศแล้วและยังมาเป็นคนเขียนบทเข้าร่วมโครงการถ่ายทำที่เกี่ยวข้องกับเทาเท่อีก ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหลินจือเก่งแค่ไหน

หลังจากซูซีตามสืบประวัติของหลินจือถึงรู้ว่าหลินจือเป็นเด็กเรียน และยังเป็นศิษย์ก้นกุฏิของครูสที่เลือกเอง

เมื่อก่อนเธอไม่เคยแลหลินจือเลย คิดว่าหลินจือไม่มีอะไร

แต่ตอนนี้……

ซูซีสูดหายใจลึกๆ ระงับความโกรธในใจแล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้านิ่งๆอีกครั้งแล้วเข้าไปในลิฟต์ เดี๋ยวเธอยังต้องเผชิญหน้ากับนักข่าวหน้าโรงพยาบาลอีก

ซูซีไปแล้วโซเมนจึงลากเก้าอี้มานั่งตรงนั้น ขายาวเหยียดไปที่ราวตรงปลายเตียงอย่างตามอำเภอใจ

เขาเหลือบมองเทาเท่แล้วพูด:“ได้ยินไวท์บอกว่า เมื่อคืนนายโมโหหลินจือจนปวดท้อง?”

เทาเท่เอาโจ๊กในมือที่ยังไม่กินสักคำวางกลับไปที่โต๊ะ จากนั้นพูดกับโซเมนอย่างเซ็งๆ:“อย่าเอาแต่พูดแดกดันทั้งวันสิ”

หายากที่โซเมนจะปลอบเขา:“หลินจือบอกว่าไม่เคยรักนาย แค่ฟังก็รู้ว่าโกหก ความเสน่หาที่เธอมีต่อนายเมื่อสามปีนั้น พวกเราทุกคนเห็นหมด”

รวมทั้งเทาเท่ตัวเขาเองด้วย จะต้องรู้สึกถึงแน่นอน